หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting – บทที่ 988 ไอ้แก่หนังเหนียว พูดถึงใคร!

บทที่ 988 ไอ้แก่หนังเหนียว พูดถึงใคร!

ทั้งสหพันธรัฐต่างตื่นเต้น ผู้ฝึกตนไม่น้อยเหาะขึ้นมาดูรุ้งบนท้องฟ้าด้วยใจเต้นแรง และในขณะที่ผู้คนผ่านวงแหวนปราณระบบสุริยะและมองดูราวกับชมการถ่ายทอดสด หวังเป่าเล่อเร็วมาก เพียงพริบตาเดียวก็พุ่งออกมาจากโลกและก้าวขึ้นไปบนจักรวาล ไล่ตามเต๋อหยุนจื่อที่ควบหนีไปไกล!

เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะตามทัน เต๋อหยุนจื่อในลำแสงก็ใจสั่น ดวงตาเผยความหวาดกลัวและสยองขวัญอย่างแรงกล้า เขาส่งเสียงคำรามรุนแรง

“ศิษย์พี่ ช่วยข้าด้วย!!”

แทบจะในทันทีที่เอ่ยออกไป หวังเป่าเล่อเข้าใกล้ลำแสงมาอย่างรวดเร็ว และจู่ๆ ก็มีรอยแยกปรากฏขึ้นในความว่างด้านข้าง ในรอยแยกนั้นมีมือใหญ่ยื่นออกมา แม้ว่ามือนี้จะเป็นภาพมายา แต่มันก็เร็วมากและยังแฝงไปด้วยพลังแห่งดาวพระเคราะห์เช่นกัน และยังเหนือกว่าเต๋อหยุนจื่อที่เป็นดาวพระเคราะห์ชั้นกลาง แต่เป็นดาวพระเคราะห์ชั้นมหาวัฏจักร!

ทันทีที่ปรากฏตัว มือใหญ่นี้พุ่งตรงไปทางหวังเป่าเล่อและจับตัวเขาไว้!

“ข้ากำลังคิดอยู่เชียวว่าบางทีอาจไม่ได้ตื่นมาแค่คนเดียว!” วินาทีที่มือใหญ่คว้าตัวเขา หวังเป่าเล่อก็ยิ้มเยาะ ก่อนจะยกมือขวาชี้เข้าใส่ หมอกมหาศาลปรากฏขึ้นมาจากชั้นอากาศบางๆ และกลายเป็นนิ้วมือยักษ์อยู่ตรงหน้า มันคือนิ้วหมอกเมฆากระแทกเข้ากับมือใหญ่

เสียงดังก้องไปทั่วบริเวณในทันที ท่ามกลางเสียงคำราม นิ้วหมอกเมฆาของหวังเป่าเล่อกับมือยักษ์ปะทะกันเกิดเป็นความผันผวนรุนแรงระเบิดกระจายไปรอบๆ ในพริบตา ก่อนที่จะมีร่างหนึ่งเดินออกมาจากรอยแยกในความว่างเปล่านั่น

คนผู้นี้ไม่ได้ดูแก่ชรา แต่ดูราวกับอยู่ในวัยกลางคน ใบหน้าเต็มไปด้วยความมืดหม่น ทันทีที่เดินออกมา มือสองข้างของเขาก็โบกสะบัดอย่างแรงหนึ่งที ทันใดนั้นด้านหลังก็มีภาพมายาดวงดาว สองมือทำผนึกมุทรา ก่อนจะมียันต์กระดาษปรากฏขึ้นตรงหน้า มันขยายใหญ่อย่างรวดเร็วและพุ่งตรงไปยังหวังเป่าเล่อ!

ขณะเดียวกันเต๋อหยุนจื่อในลำแสงก็กัดฟันอย่างรุนแรงและไม่ได้หลบหนีต่อ แต่กลับพุ่งออกมาจากลำแสง สองมือผนึกมุทราจนเกิดเสียงวิญญาณเทพกรีดร้อง

“ผนึก!”

หลังจากผนึกมุทราก็มีกระดาษยันต์มายาผสานกับกระดาษยันต์ของศิษย์พี่พุ่งตรงไปประทับตราหวังเป่าเล่อ

เมื่อเผชิญกับการร่วมมือของทั้งสองคน สีหน้าหวังเป่าเล่อก็ยังคงเหมือนเดิม แต่ดวงตากลับหรี่ลง แทนที่จะให้ความสนใจกับกระดาษยันต์ทั้งสอง เขากลับหันกลับมาและกวาดตาไปทางความว่างเปล่าที่อยู่ข้างหลังพร้อมกับยกมือขวาขึ้นและกดลงอย่างแรง

ทันใดนั้นดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้าด้านหลังก็ส่งเสียงคำราม กฎทั้งเก้าส่องประกายกลายเป็นแสงเก้าดวงพุ่งตรงไปยังความว่างเปล่านั้น!

ขณะเดียวกันร่างของหวังเป่าเล่อก็ไม่รอช้า เขาระเบิดกลายเป็นหมอกมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณ พยายามเลี่ยงกระดาษยันต์จากเต๋อหยุนจื่อกับศิษย์พี่ ขณะเดียวกันก็หนีออกจากพื้นที่นั้น

เพราะจุดที่กฎทั้งเก้าของเขาระเบิดนั้นมีร่องรอยพลังงานที่ทำให้สัมผัสสวรรค์สั่นคลอน ร่องรอยพลังงานนี้…ในประสาทรับรู้ของหวังเป่าเล่อ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดาวพระเคราะห์จะครอบครองได้แล้ว นั่นคือ…ความผันผวนดารานิรันดร์!

การกระทำต่อเนื่องเป็นชุดเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ วินาทีที่ร่างหวังเป่าเล่อกลายเป็นหมอกกระจายไปทั่ว บริเวณพื้นที่ที่ถูกแสงเก้าดวงพุ่งเข้าไปนั้น จู่ๆ ก็เกิดรอยแยกขึ้นในจักรวาล ในรอยแยกนั้นมีน้ำเต้าดำลูกหนึ่งบินออกมา!

ทันทีที่น้ำเต้าออกมา ตรงตำแหน่งปากก็เปิดออกเอง และแรงสูบมหาศาลก็ปะทุออกมาในทันที และยังมีเสียงแก่ชราเสียงหนึ่งดังออกมาจากความว่างเปล่าของจักรวาล

“ดูด!”

ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น แสงจากกฎทั้งเก้าก็ถูกน้ำเต้าดูดเข้าไปอย่างไม่มีทางเลี่ยงได้ ขณะเดียวกันแรงสูบที่แผ่ออกมาจากน้ำเต้าก็ขยายไปทั่วจักรวาลจนเกิดระลอกคลื่นจำนวนมาก ราวกับถูกทำให้แข็งค้าง ยิ่งกว่านั้นยังทำให้หมอกจากร่างแยกของหวังเป่าเล่อเหมือนกับถูกบีบอัดจนไม่อาจแผ่กระจายไปได้อีก มันม้วนกลับไปทางน้ำเต้าราวกับถูกกลืนกิน!

แม้ร่างแยกของหวังเป่าเล่อที่กลายเป็นหมอกจะดิ้นรน แต่เห็นได้ชัดว่าน้ำเต้าลูกนี้ก็ไม่ธรรมดา พลังของมันระเบิดออกมาอีกครั้งทำให้หมอกที่กลายมาจากหวังเป่าเล่อ…ถูกตวัดม้วนกลับและดูดเข้าไปในน้ำเต้าจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!

ขณะเดียวกันกับที่หมอกจากร่างแยกหวังเป่าเล่อถูกดูดเข้าไปในน้ำเต้า ในอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์อันไกลโพ้น ร่างต้นของหวังเป่าเล่อที่นั่งหลับตาทำสมาธิอยู่ในดารานิรันดร์ดวงเนตรสวรรค์ก็ลืมตาขึ้นทันที!

เมื่อลืมตาขึ้น เปลวเพลิงดารานิรันดร์ดวงเนตรสวรรค์ก็ปะทุออกมา ในจักรวาลอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ก็มีสายฟ้าพาดผ่าน ท่ามกลางพลังสะเทือนฟ้า หวังเป่าเล่อที่ลืมตาขึ้นมีแสงเย็นวาบในดวงตา คลื่นความผันผวนอันน่าสะพรึงกลัวพลันปะทุออกมาจากร่าง ดาวเคราะห์เต๋าก็ปรากฏตัวขึ้นมาเช่นกัน อีกทั้งรูปร่างดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้าเองก็ส่องแสงจางๆ หวังเป่าเล่อแค่นเสียงเย็นชา

“ดารานิรันดร์บาดเจ็บสาหัส…” ขณะที่พูด ร่างต้นของหวังเป่าเล่อก็ยกมือขวาขึ้นทำผนึกมุทรา ทันใดนั้นเปลวเพลิงดารานิรันดร์ก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง มันพลิกกลับและห่อหุ้มร่างเขาไว้พร้อมกับพลังเคลื่อนย้ายที่พุ่งสูงขึ้น วินาทีต่อมา…ท่ามกลางเปลวเพลิงนั้น ร่างต้นของหวังเป่าเล่อก็หายวับไป!

ในเวลาเดียวกัน หลังจากที่ร่างแยกของหวังเป่าเล่อถูกน้ำเต้าดูดเข้าไป ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินออกมาจากรอยแยกข้างน้ำเต้า!

ชายหนุ่มผู้นี้สวมผ้าทอ อายุราว 13-14 ปี แต่เส้นผมและขนคิ้วล้วนเป็นสีขาว บนร่างกายมีร่องรอยแห่งกาลเวลาไหลผ่าน เมื่อเดินออกมาก็ยกมือขวาคว้าน้ำเต้า ดวงตาราวกับดวงดาราส่องประกายกวาดมองไปยังดวงวิญญาณเทพของเต๋อหยุนจื่อและผู้ฝึกตนวัยกลางคนคนนั้น

ทั้งสองคนตัวสั่นและคุกเข่าคำนับชายหนุ่มทันที

“คารวะท่านอาจารย์!”

ชายหนุ่มคนนี้คืออาจารย์ของทั้งสองอย่างน่าประหลาดใจ และเป็นปรมาจารย์ดารานิรันดร์เพียงหนึ่งเดียวในกระบี่สำริดโบราณ ที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักวังเต๋าไพศาล!!

ย้อนกลับไปตอนที่ตื่นขึ้นมา…ไม่ได้มีแค่เต๋อหยุนจื่อเท่านั้น แต่ยังมีศิษย์พี่ผู้ซึ่งเป็นปรมาจารย์ดารานิรันดร์แห่งสำนักวังเต๋าไพศาลด้วย เพียงแต่ตอนนั้นเขาบาดเจ็บสาหัสเกินไป ฐานการฝึกฝนหายไปกว่าครึ่ง หลายปีที่ผ่านมานี้สองนักพรตฟื้นฟูฐานการฝึกฝนกลับมาได้เพียงส่วนเล็กๆ เท่านั้น

แต่ก็สามารถหนีจากการขุดรากถอนโคนสำนักวังเต๋าไพศาลในตอนนั้นได้ อีกทั้งยังมีชีวิตรอดมาได้ นี่ก็แสดงให้เห็นแล้ว ว่าในตอนนั้นดารานิรันดร์ผู้นี้ต้องแข็งแกร่งมาก และมีบางอย่างที่ไม่เหมือนคนอื่น

เรื่องนี้ทันทีที่เขาปรากฏตัว เต๋อหยุนจื่อกับศิษย์พี่ของเขาก็ทรุดเข่าตัวสั่นเทา และยังมองออกว่าสองศิษย์พี่น้องนี้กำลังคุกเข่ายอมรับความผิด…

“แค่หนอนเนื้อที่เพิ่งเลื่อนระดับตัวเดียวสร้างปัญหาเล็กน้อย แต่กลับต้องรบกวนการฝึกตนของอาจารย์ ท่านอาจารย์โปรดลงโทษ!”

“ท่านอาจารย์ โปรดลงโทษข้าด้วย!” สองศิษย์พี่น้องในยามนี้กำลังกังวลอย่างหาใดเปรียบ ในความเป็นจริงพวกเขารู้จักอาจารย์ของตนเป็นอย่างดี อีกฝ่ายเป็นคนขี้หงุดหงิดเอาแน่เอานอนไม่ได้ อีกทั้งยังเข่นฆ่าคนได้อย่างเด็ดขาด สงครามในตอนนั้นเพราะศิษย์เสียเปรียบ เขาจึงได้เข่นฆ่าคนในสำนักเดียวกันไปมากกว่าพันคน เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา พวกเขาทั้งสองคนไม่กล้าหายใจแรงด้วยซ้ำ

ชายหนุ่มหรี่ตาลง ก่อนจะมองน้ำเต้าในมือ ดวงตาล้ำลึกมีแววสงสัยวาบผ่าน เขาสัมผัสได้ลางๆ ว่าคนคนนั้นมีบางอย่างผิดปกติ แต่เพราะในตอนนี้ฐานการฝึกฝนของตนยังฟื้นฟูกลับมาได้ไม่ถึงหนึ่งส่วน ยังไม่สามารถใช้พลังเทพได้จึงมองไม่ออก มีเพียงสัญชาตญาณเท่านั้นที่รู้สึกแปลกๆ

ตอนนี้เขาจึงตั้งใจจะพาเขากลับสำนักวังเต๋าไพศาลเพื่อใช้พลังภายนอกมาพิสูจน์และดูว่าเขาจะหาที่มาของความรู้สึกแปลกๆ นี้ได้หรือไม่ และเพราะเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ลงโทษศิษย์ทั้งสองของตน หลังจากกวาดตามอง เขาก็เอ่ยขึ้นเบาๆ

“นี่ไม่ใช่หนอนเนื้อธรรมดา หนอนเนื้อตัวนี้…”

ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดจบ จู่ๆ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป ฉับพลันเขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังจักรวาลและในทิศทางจักรวาลที่เขามองไปมีทะเลแห่งแสงที่มีรัศมีที่อธิบายไม่ได้ระเบิดพุ่งเข้ามาหาเขา!

ทะเลแห่งแสงนี้มีเก้าสี!

ภายในบรรจุกฎเก้าข้อซึ่งในขณะนี้ไม่ได้ปะทุออกมาแม้แต่น้อย ทำให้จักรวาลระบบสุริยะสั่นไหว และสิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มผู้นั้นตกตะลึงคือทะเลแห่งแสงที่เกิดจากการผสานกฎทั้งเก้าเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังมีพลังแห่งกฎระดับสูงสุดที่กดดันไปทั่วทุกทิศ สั่นคลอนทุกชีวิตอย่างบ้าคลั่งตั้งแต่ภูเขาไปถึงทะเล ก่อนจะเข้าปกคลุมพวกเขาทั้งสามไว้ภายใน!

“กฎนี้…นี่คือ…”

“ดาวเคราะห์เต๋า?!!” ชายหนุ่มหน้าเปลี่ยนสี ในดวงตาเผยความเหลือเชื่อ ขณะเดียวกันน้ำเต้าในมือของเขา…ก็สั่นอย่างรุนแรง กระบวนการทั้งหมดกินเวลาเพียงสองอึดใจเท่านั้น ในพริบตาที่ทะเลแห่งแสงแผ่ปกคลุมไปทั่วทุกทิศ น้ำเต้าก็ส่งเสียงคำรามและแตกออกเอง หมอกที่กลายร่างมาจากร่างแยกของหวังเป่าเล่อข้างในผสานเข้ากับทะเลแห่งแสงทันที ขณะเดียวกันก็มีเสียงเย็นเยียบดังขึ้นข้างหูศิษย์อาจารย์ทั้งสาม!

“ไอ้แก่หนังเหนียว เจ้าว่าใครเป็นหนอนเนื้อ”

………………………………………………………………….

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

Status: Ongoing

เรื่อง : หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา (三寸人间)ผู้เขียน : เอ่อร์เกิน (耳根) ผู้แปล : Thunderbird Translators ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศ ปักเข้าใจกลาง ดวงอาทิตย์ ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนจำนวนมาก กระจัดกระจายไปทั่ว ทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก และก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัด พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ปราณวิญญาณ ‘หวังเป่าเล่อ’ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาใน สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความหน้าหนาหน้าทน ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตาย หากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท