ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 270 มรดกราชาเซียน จ้าวเซียนขั้นสุด

ตอนที่ 270 มรดกราชาเซียน จ้าวเซียนขั้นสุด

“ยอดเยี่ยม!”

“ฮ่าฮ่า!”

“สำเร็จ!”

เมื่อเห็นฉากตรงหน้าที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ผู้คนทั้งหมดจากกลุ่มเขตเซียนยินดีอย่างยิ่ง พวกเขาทั้งหมดมองไปยังหนิงฝานโดยไม่รู้ตัว

จ้าวเซียนขั้นสูง?

ทุกคนตกตะลึง แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครคิดสนใจ

เพราะอย่างไรแล้ว ค่ายกลต้องห้ามนั้นจำเป็นต้องใช้พลังอีกเล็กน้อยเท่านั้น ดูเหมือนว่ามันจะเทียบเท่ากับพลังของจ้าวเซียนขั้นสูง

“ขอบคุณสหายที่ช่วยเหลือ!”

เวลานี้ผู้นำเขตเซียนเก้าตะวันยกยิ้มให้กับหนิงฝาน

ชายหนุ่มส่ายศีรษะก่อนจะกล่าวตอบ “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า เพราะมรดกในสถานที่นี้… ข้าต้องการมัน!”

พรึ่บ!

สิ้นเสียง เขาก็เข้าสู่ปราการราชาเซียนเป็นคนแรกทันที

“หา! หยุดนะ!”

“ไอ้ตัวบัดซบ!”

“เจ้าเป็นเพียงจ้าวเซียนขั้นสูงย่อมไม่อาจรับมรดกราชาเซียนได้แน่!”

เมื่อเห็นการกระทำของหนิงฝาน สีหน้าที่ยิ้มยินดีของผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมดจากเขตเซียนแปรเปลี่ยนเป็นมืดมน ทุกคนปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมา

ท้ายที่สุดแล้ว มรดกราชาเซียนก็มิใช่สิ่งที่พวกเขาจะยอมยกให้กับหนิงฝานเพียงเพราะอีกฝ่ายยื่นมือช่วยเหลือ

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

จากนั้นกลุ่มคนจากเขตเซียนทั้งหมดพุ่งทะยานเข้าสู่ปราการราชาเซียนตามหลังหนิงฝานไปทันที

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เวลานี้กลิ่นอายอันน่าสยดสยองพลันปรากฏขึ้นจากปราการราชาเซียน กองทัพนับหมื่นพุ่งทะยานออกจากปราการราชาเซียนด้วยเสียงอันน่าสะพรึงของม้าศึกและอาวุธ

อีกทั้งนี่ไม่ใช่กองทัพของสิ่งมีชีวิตทั่วไป ร่างกายของทุกคนล้วนไม่สมประกอบ บ้างก็แขนขาด ขาขาด หรือแม้แต่หัวขาด!

แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ แม้ว่ากองทัพจะคล้ายไม่สมประกอบ ทว่ากลิ่นอายของพลังนั้นกลับน่าสะพรึงกลัวยิ่ง โดยเฉพาะเหล่าแม่ทัพที่นั่งอยู่บนหลังม้า ร่างกายของแต่ละคนปลดปล่อยกลิ่นอายกึ่งราชาเซียน!

“บุกรุกปราการราชาเซียน… ตาย!”

ในเวลานี้แม่ทัพเปิดปากคำรามอย่างน่าสะพรึง

“แย่แล้ว!”

“พวกมันคือซากบรรพกาล!”

เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้นำเขตเซียนเก้าตะวันพลันส่งเสียงเตือน

ซากบรรพกาลคือซากศพที่มีจิตหลงเหลือจากสมัยโบราณ มันไม่เพียงแต่มีพลังชีวิตเท่านั้น แต่ยังมีกลิ่นอายแห่งเซียนที่ยากจะรับมือไหว

“พลเกาทัณฑ์!”

ชั่วอึดใจถัดมา แม่ทัพผู้นั้นคำรามเสียงดัง ทันใดนั้น กลุ่มพลเกาทัณฑ์ก็ปรากฏตัวขึ้นภายในกองทัพ พวกมันชักคันศรออกพร้อมตั้งลูกศรประจำตำแหน่ง ก่อนจะเริ่มระดมยิงออกไปอย่างพร้อมเพรียง

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

ห่าฝนลูกศรร่วงหล่นจากท้องฟ้าปกคลุมเหล่าคนจากเขตเซียนที่ทะยานเข้าหา และลูกศรทุกดอกล้วนแฝงด้วยพลังอันน่าสะพรึง พร้อมจะทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางกั้น

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ทุกคนภายในเขตเซียนก็รีบป้องกันในทันที

อ๊าก!

เมื่อห่าฝนลูกศรร่วงหล่นลงมา ผู้คนมากมายตายตกอย่างน่าอนาถ ทั้งแขน ขา โลหิต และเนื้อหนังกระจัดกระจายไปทั่วสารทิศ

“ทำลาย!”

หนิงฝานที่อยู่แนวหน้าไม่สนใจลูกศรเหล่านั้น ปราณกระบี่พลุ่งพล่านในกายทำลายลูกศรหมดสิ้น และร่างกายของเขายังคงพุ่งเข้าหาปราการราชาเซียน

“เร็วเข้า!”

ส่วนผู้นำเขตเซียนเก้าตะวันและคนอื่น ๆ ด้านหลังหนิงฝาน อาศัยขอบเขตอันแข็งแกร่งของตนเพื่อนำพากลุ่มคนจากเขตเซียนของตนพุ่งไปด้านหน้าฝ่าฟันผ่านห่าฝนลูกศรเหล่านี้

“ตาย!”

เมื่อเห็นหนิงฝานและคนอื่น ๆ บุกรุกเข้ามา แม่ทัพผีส่งเสียงคำรามลั่นพร้อมโบกสะบัดกระบี่ในมือ ทันใดนั้น กองทัพผีทั้งหมดพุ่งเข้าหาผู้ฝึกยุทธ์จากเขตเซียนทันที

ฟุ่บ!

แม่ทัพคนหนึ่งถือกริชทองแดงในมือ มันควบม้าอย่างรวดเร็วเพื่อติดตามหนิงฝาน

ตู้ม!

พลังแห่งการทำลายล้างถูกปลดปล่อยออกไปด้วยคลื่นพลังจากกริชในมือ ทำลายทุกสิ่งที่ขวางกั้น ฉีกกระชากความว่างเปล่าพร้อมพุ่งเข้าหาหนิงฝานโดยตรง

หึ!

หนิงฝานลอบเย้ยหยันเมื่อเห็นเช่นนี้ ก่อนจะเหวี่ยงกระบี่ต้าหลัวในมือออกไป แล้วยังพุ่งทะยานต่อไปด้านหน้า

ตู้ม!

ในพริบตา ปราณกระบี่ปะทะกับแม่ทัพผีดิบ เกิดเสียงระเบิดดังลั่น จากนั้นกองกำลังผีดิบขนาดใหญ่ที่ติดตามมาทั้งหมดปลิวว่อนออกไปพร้อมกับแม่ทัพของตน

“ตาย!”

หนิงฝานยังคงทะยานร่างต่อไป และเหวี่ยงกระบี่ในมืออีกครั้ง

ตู้ม!

เสียงระเบิดดังสนั่น ร่างของแม่ทัพผู้ไม่ยอมหยุดฝีเท้ากระเด็นลอยออกไป และถูกกระบี่ของหนิงฝานฟันจนไม่เหลือเศษซาก

พรึ่บ!

เมื่อเขาจัดการแม่ทัพผีดิบที่กีดขวางเส้นทางทั้งหมดสิ้นแล้ว หนิงฝานก็พุ่งเข้าสู่ปราการราชาเซียนโดยไร้อุปสรรค์ใด ๆ

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ในเวลานี้ ด้านนอกของป้อมปราการเซียน แม่ทัพผีดิบหลายตนกำลังนำกองทัพเพื่อต่อสู้กับกลุ่มผู้ฝึกยุทธ์จากเขตเซียนอย่างดุเดือดเลือดพล่าน

…

ณ ปราการราชาเซียน

หนิงฝานก้าวเข้ามา สิ่งแรกที่พบเจอคือซากปรักหักพังพร้อมกับเศษซากกระดูกทั่วพื้น ทั้งอาวุธและชุดเกราะยังอยู่ครบ ซากศพเหล่านี้เหมือนกับเหล่าผีดิบด้านนอกทุกประการ เพียงแต่มันไม่มีชีวิต

เขากวาดสายตาไปโดยรอบ สิ่งก่อสร้างเพียงแห่งเดียวที่นับว่าสมบูรณ์คือ ห้องโถงใหญ่ใจกลางปราการด้านบนมีลำแสงเซียนส่องระยับระยับ!

“อืม! เหมือนมรดกจะอยู่ในห้องโถงนั้น!”

หนิงฝานพยักหน้าก่อนจะพุ่งเข้าสู่ห้องโถงทันที

พรึ่บ!

ไม่มีค่ายกลป้องกันบริเวณห้องโถง ชายหนุ่มจึงผลักประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย

ห้องโถงทั้งหมดว่างเปล่า มีเพียงใจกลางห้องโถงเท่านั้นที่มีบัลลังก์ตั้งเด่นเป็นสง่า และบนบัลลังก์มีชายวัยกลางคนในชุดเกราะนั่งอยู่ ใบหน้าสง่าผ่าเผยและโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง ซ้ำยังมีจิตสังหารรุนแรงอย่างหาที่เปรียบมิได้ของราชาเซียนที่กดขี่บริเวณโดยรอบ!

“ราชาเซียนยังมีชีวิตหรือ”

เมื่อเห็นเช่นนั้น หนิงฝานพลันตื่นตระหนกทันที แต่ในไม่ช้าก็ตระหนักได้ว่า แม้ร่างกายของชายวัยกลางคนจะเป็นเซียน ทว่าแววตาของเขาว่างเปล่าและหม่นหมอง ราวกับว่าไร้ซึ่งวิญญาณใด

พรึ่บ!

เมื่อหนิงฝานก้าวเข้าใกล้ ชายวัยกลางคนก็แบมือออก ก่อนจะปลดปล่อยลำแสง…แห่งมรดก!

ฟึ่บ!

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว หนิงฝานก็ไม่สุภาพอีกต่อ เขาเอื้อมมือไปหยิบลำแสงแห่งมรดกทันที

ตู้ม!

เมื่อเขาได้รับแสงแห่งมรดกแล้ว ทันใดนั้นก็บังเกิดเสียงดังก้องจากห้องโถง

“ข้าคือราชาเซียนพินิจสวรรค์ เวลานี้ข้าตายตกไปแล้ว จึงขอทิ้งมรดกไว้ให้ผู้ที่ชะตาลิขิต!”

“มีสามสิ่งอยู่ในสายเลือดของข้า ประการแรกคือทักษะการฝึกฝนราชาเซียนของข้า… คัมภีร์เบิกเซียนพินิจสวรรค์ หากเจ้าฝึกฝนคัมภีร์เบิกเซียนพินิจสวรรค์แล้ว มีโอกาสถึงเก้าในสิบที่เจ้าจะทะลวงสู่ขอบเขตราชาเซียนได้ ประการที่สองคือ ชุดเกราะราชาเซียนของข้า… หมวกเกราะราชาเซียน รุกรับแกร่งกล้า ไร้พ่ายในระดับเดียวกัน ประการที่สามคือ ต้นกำเนิดราชาเซียนซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของผู้คนได้มหาศาล!”

“ผู้ถูกเลือกเอ๋ย ข้าหวังว่าเจ้าจะสืบทอดมรดกของข้า และอย่าได้ทำให้ชื่อเสียงของข้าในฐานะราชาเซียนพินิจสวรรค์ต้องมัวหมองเด็ดขาด!”

สุรเสียงนั้นดังกึกก้อง

ห้องโถงคล้ายกับถูกเขย่าอย่างรุนแรง ก่อนจะเงียบลงในไม่ช้า

คัมภีร์เบิกเซียนพินิจสวรรค์ หมวกเกราะราชาเซียน ต้นกำเนิดราชาเซียน!

หนิงฝานมองแสงแห่งมรดกและพบว่าสิ่งที่อยู่ภายในสอดคล้องกับคำพูดก่อนหน้านี้

แต่แล้วเขาก็เม้มริมฝีปากอย่างไตร่ตรอง

มรดกทั้งสามนี้ นอกจากต้นกำเนิดราชาเซียนที่มีความช่วยในการเพิ่มความแข็งแกร่งของตน อีกสองอย่างไม่สำคัญมากนัก โดยเฉพาะคัมภีร์เบิกเซียนพินิจสวรรค์ซึ่งเป็นวิธีฝึกฝนของราชาเซียนจะเทียบกับคัมภีร์โบราณราชันจักรพรรดิเซียนที่เขาฝึกฝนอยู่ได้อย่างไร?

“ไม่เป็นไร ขั้นแรกลองหลอมรวมต้นกำเนิดราชาเซียนก่อนแล้วกัน!”

เวลานี้ หนิงฝานนั่งลงบนพื้นพร้อมเริ่มดูดซับต้นกำเนิดราชาเซียนด้วยการโคจรคัมภีร์โบราณราชันจักรพรรดิเซียน!

พรึ่บ!

ต้นกำเนิดของราชาเซียนนี้มีพลังงานมหาศาลบรรจุอยู่ภายใน เพียงแค่หลอมรวมมันขอบเขตของหนิงฝานทะยานสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

หนึ่งชั่วยาม!

สองชั่วยาม!

สี่ชั่วยาม!

ไม่นานก็ผ่านไปหนึ่งวัน!

ตู้ม!

ในที่สุด เมื่อต้นกำเนิดราชาเซียนได้รับการหลอมรวมโดยสมบูรณ์ หนิงฝานก็ตกตะลึงกับผลลัพธ์ที่ปรากฏ เวลานี้ฐานการฝึกฝนของเขาทะลวงเข้าสู่…จ้าวเซียนขั้นสุดแล้ว!