ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 325 เทศกาลวันไหว้บ๊ะจ่าง (กลาง)

ตอนที่ 325 เทศกาลวันไหว้บ๊ะจ่าง (กลาง)

“​เป็น​แม่สื่อ​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ

“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​เป็น​หลานชาย​คน​หนึ่ง​ที่​สกุล​เดิม​ของ​ข้า​ ​ปีนี​้​อายุ​สิบ​หก​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่ใช่​ครอบครัว​สายตรง​เดียว​กับ​ข้า​ ​แต่​ปู่​ของ​เขา​เคย​ดำรงตำแหน่ง​รอง​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​ของ​กว่าง​ซี​ ​รูปลักษณ์​ใช่​ไม่​แค่​สง่างาม​เท่านั้น​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​วิชา​ความรู้​หรือ​ศิลปะ​การต่อสู้​ก็​มี​ครบครัน​ ​สอบ​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​ได้​ตั้งแต่​อายุ​ยังน้อย​ ​พี่ใหญ่​ข้า​คอย​พูด​เป็นประจำ​ ​ว่า​ตระกูล​เซ่า​ทั้ง​ตระกูล​ต้อง​คอย​รอดู​เขา​และ​น้องชาย​คนเล​็ก​ของ​เขา​แล้ว​”

สกุล​เดิม​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​อยู่​ไกล​ถึง​ซัง​โจว

อย่า​ว่าแต่​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เลย​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​ตน​ ​แค่นึ​กว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ต้อง​แต่ง​ไป​ไกล​ขนาด​นี้​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​มี​คน​ไม่เห็นด้วย​อย่างแน่นอน

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​สถานการณ์​ของ​ข้า​ท่าน​ก็​รู้ดี​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ถูก​เลี้ยงดู​ให้​เติบใหญ่​โดย​ไท่ฮู​หยิน​ ​ท่าน​โหว​เอง​ก็​มีนาง​เป็น​บุตรสาว​เพียงแค่​คนเดียว​ ​เรื่อง​นี้​เกรง​ว่า​ต้อง​ปรึกษาหารือ​กับ​ท่าน​โหว​และ​ไท่ฮู​หยิน​เสียก่อน​”

ทำไม​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​จะ​ไม่รู้​เล่า

หลานชาย​ของ​ตน​จะ​ดี​แค่ไหน​ ​แต่​ก็​อยู่​ไกล​ถึง​ซัง​โจว​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​น้องชาย​ของ​ตน​ขอร้อง​ตั้ง​หลายครั้ง​หลาย​หน​ ​อีกทั้ง​ยัง​เห็น​ว่า​คน​เช่น​จวน​สกุลจั​วก​็​ยัง​มาสู่​ขอด​้วย​ ​มิเช่นนั้น​นาง​ก็​คงจะ​ไม่กล้า​พูด​คำพูด​เช่นนี้​ออกมา​อย่างแน่นอน​ ​เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​ความตั้งใจ​ที่จะ​เป็น​แม่สื่อ​ของ​นาง​ก็​ลดลง​ไปมาก

“​ข้า​รู้สึก​ว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​เจ้า​เหมาะสม​กับจ​้ง​หรา​นข​อง​ข้า​ราวกับ​กิ่งทองใบหยก​ก็​ไม่​ปาน​”​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​พูดถึง​เรื่อง​นี้​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยนไป​คุย​เรื่อง​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​…​ไท่ฮู​หยิน​มาส​่ง​เทียบ​เชิญ​ให้​แม่​สามี​ของ​ข้า​ด้วยตัวเอง​ ​บอกว่า​วันนั้น​เป็น​วัน​เข้า​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ของ​เจ้า​ ​ให้​มาร​่ว​มงา​นครึ​กค​รื้น​แต่เช้า​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้​เตรียมตัว​ที่จะ​จัดงาน​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ที่​ใหญ่โต​ตั้งแต่​เนิ่นๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ให้ความสำคัญ​กับ​เรื่อง​เหล่านี้​มากมาย​เท่าไร​นัก​ ​แต่​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​มี​ความตั้งใจ​ที่จะ​ทำ​สิ่ง​เหล่านี้​ ​จู่ๆ​ ​ก็​เกิด​รู้สึก​อบอุ่น​หัวใจ​ขึ้น​มา​ ​เพียงแต่ว่า​ไท่ฮู​หยิน​ไม่เคย​พูดถึง​เรื่อง​นี้​เลย​ ​หลาย​วัน​มานี​้​ก็​เอาแต่​สั่ง​ป้า​ตู้​ให้​ไป​ทำ​ธุระ​ไม่​เว้นแต่​ละ​วัน​ ​ส่วนตัว​ไท่ฮู​หยิน​เอง​ก็ได้​ออก​นอก​จวน​ไป​หลาย​ต่อ​หลายครั้ง​ ​ราวกับว่า​กำลัง​เชื้อเชิญ​แขก​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​สีหน้า​แววตา​ดู​มี​ลับลมคมใน​อย่างชัดเจน​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้ไม่เห็น

“​วันเกิด​ก็​ดัน​มาตร​งกับ​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​เสียนี​่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ ​“​พลอย​ทำให้​ทุกคน​วุ่นวาย​กัน​ไป​หมด​!​”

“​ยังดี​ที่​เป็น​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​”​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​หาก​เป็น​เทศกาล​วัน​ไหว้พระ​จันทร์​ ​คงจะ​ปวดหัว​น่าดู​”

ประเพณี​ของ​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ก็​คือ​การท่องเที่ยว​พักผ่อนหย่อนใจ​ ​ส่วน​ประเพณี​ของ​เทศกาล​วัน​ไหว้พระ​จันทร์​ก็​คือ​การ​รวมตัว​อย่าง​พร้อมหน้าพร้อมตา​ของ​คนใน​ครอบครัว​ ​ใน​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ ​ทุกคน​พากั​นอ​อก​ไป​ท่องเที่ยว​ชม​นกชม​ไม้​จึง​ไม่​ค่อย​เป็น​อะไร​มาก​ ​แต่​ถ้าหาก​เป็น​เทศกาล​วัน​ไหว้พระ​จันทร์​ ​คือ​วันที่​รวมตัว​อย่าง​พร้อมหน้าพร้อมตา​ของ​สมาชิก​ใน​ตระกูล​ ​หาก​จะ​จัดงาน​อะไร​ขึ้น​มา​ใน​ช่วงเวลา​นี้​ ​ก็​จะ​กลายเป็น​การ​ลำบาก​คนอื่น​ไป​ด้วย

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​หาก​คิด​เช่นนี้​ ​ก็​ดู​มีประโยชน์​ขึ้น​มา​เล็กน้อย​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ยก​แขน​เสื้อ​ขึ้น​มาบัง​พร้อมกับ​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ

จัวฮู​หยิน​ก็​เข้ามา​พอดี

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ก็​ถือโอกาส​นี้​ขอตัว​ลาก​ลับ

ครั้งนี้จัวฮู​หยิน​ได้​นำ​แตง​หวาน​มา​เป็น​ของฝาก​ ​“​…​ผู้ใต้บังคับบัญชา​เก่าแก่​ของ​นายท่า​นข​้า​นำมา​ฝาก​ ​เนื้อ​ไม่​เหมือนกับ​พันธุ์​ของ​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ ​ข้า​เลย​ตั้งใจ​นำมา​ให้ฮู​หยิน​และ​ไท่ฮู​หยิน​ลอง​ชิม​ดู​”

สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​กล่าว​ขอบคุณ​นาง​ ​ทั้งคู่​พูดคุย​กัน​อยู่​ครู่ใหญ่​ ​จากนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็​พานาง​ไป​คารวะ​ทักทาย​ไท่ฮู​หยิน​ ​แล้วจึง​ไป​ส่ง​นาง​ที่​ประตู​ฉุยฮ​วา

พอก​ลับ​มาถึง​เรือน​ก็​เห็น​หู่​พั่ว​กำลัง​เก็บ​กล่อง​ไม้​สีแดง​ลายเส้น​สีทอง​ที่​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​นำมา

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เห็น​ว่า​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ทำ​พัด​ลายทอง​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​เจ้า​ช่วย​นำ​ไป​ส่ง​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที​!​”​ ​คำพูด​เพิ่ง​ถูก​พูด​ออก​ไป​ ​หู่​พั่ว​ก็​มือ​ลื่น​ ​ทำ​กล่อง​ไม้​ใบ​นั้น​ร่วง​ลง​สู่​พื้น​ ​พัด​ทั้ง​ห้า​เล่ม​กระจัดกระจาย​เต็ม​พื้น​ไป​หมด

“ฮู​หยิน​!​”​ ​หู่​พั่ว​ตกใจ​จน​หน้าขาว​ซีด​ไป​หมด

“​ไม่เป็นไร​ ​ไม่เป็นไร​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ปลอบใจ​นาง​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ไป​ช่วย​เก็บ​พัด​เหล่านั้น​ขึ้น​มา

โครง​พัด​เคลือบ​สีทอง​ ​ผ้าไหม​สีดำ​ ​วาด​ลาย​ไก่ฟ้า​คลอเคลีย​ดอก​โบตั๋น​ ​งดงาม​ยิ่งนัก

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กาง​มัน​ออกมา​ดู

สีสัน​สดใส​ ​ต้องตา​น่าหลงใหล​ ​พลอย​ทำให้​นาง​รู้สึก​แปลกใจ​และ​นึกไม่ถึง​เป็นอย่างมาก

“​นึกไม่ถึง​ว่า​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะ​มีทั​กษะ​ฝีมือ​การ​วาด​ดี​ขนาด​นี้​”

หู่​พั่ว​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ก็ได้​ชม​ว่า​ ​“​งดงาม​ยิ่งนัก​!​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็ได้​เก็บ​พัด​เหล่านั้น​กับ​หู่​พั่ว​พลาง​เชยชม​ไป​ด้วย

ภาพวาด​ดอก​ปิ่น​หยก​ใต้​เงา​แสงจันทร์​ ​ภาพวาด​ดอก​ไห่​ถัง​หลับใหล​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​ภาพวาด​ดอกบัว​บาน​ใต้​แสง​สุริยัน​ ​และ​ภาพวาด​ดอก​กล้วยไม้​บน​ยอด​ขุนเขา

ฝีไม้ลายมือ​และ​ทักษะ​การ​วาด​ไม่ต้อง​พูดถึง​แล้ว​ ​แต่​ภาพวาด​ดอก​ปิ่น​หยก​ใต้​เงา​แสงจันทร์​ดู​แปลกใหม่​เป็นอย่างมาก

ดอก​ปิ่น​หยก​ที่​ขาวสะอาด​และ​หมดจด​กำลัง​เบ่งบาน​อย่างเต็มที่​ ​ใบไม้​เขียว​เข้ม​สลับ​ขาว​ ​ราวกับ​รัศมี​แห่ง​แสงจันทร์​ไม่​ปาน​ ​แม้ว่า​จะ​ไร้​ซึ่ง​แสงจันทร์​ ​แต่กลับ​เป็น​ภาพ​ดอก​ปิ่น​หยก​ที่​กำลัง​เบ่งบาน​ท่ามกลาง​เงา​จันทร์ที​่​ตระการตา​ยิ่งนัก

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ชื่นชม​เป็นอย่างมาก

ดอก​ปิ่น​หยก​ขาวสะอาด​ไร้​ซึ่ง​ที่​ติ​ ​กลิ่นหอม​ตลบอบอวล​ไป​ทั่วทุกทิศ​ ​เป็น​ภาพวาด​ดอกไม้​ที่​ผู้คน​ต่าง​ชื่นชอบ​และ​พบ​เจอ​ได้​ทั่วๆ​ ​ไป​ ​ปกติ​แล้ว​ผู้คน​มักจะ​วาดภาพ​ดอก​ที่​สวยงาม​และ​น่ารักน่าชัง​ ​แต่​ภาพวาด​ดอก​ปิ่น​หยก​ที่​กำลัง​เบ่งบาน​ยามค่ำคืน​นั้น​ดู​สง่างาม​ราวกับ​ดอก​ดารารัตน์​ก็​ไม่​ปาน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ความสง่างาม​กลับ​ไม่ใช่​ความหยิ่ง​ผยอง​หรือ​ความทะนง​ตน​ ​หากแต่​เป็นหนึ่ง​ดอก​หนึ่ง​เกสร​ที่​ค่อยๆ​ ​เผย​ให้​เห็น​ ​ดังเช่น​มนุษย์​ ​อารมณ์​ที่สูง​ส่ง​ถูก​เก็บ​ซ่อน​ไว้​อยู่​ใน​กระดูก​ ​ยิ่ง​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​นับถือ​และ​เกรงขาม​ ​แตกต่าง​กับ​ภาพวาด​ ​ไก่ฟ้า​คลอเคลีย​ดอก​โบตั๋น​ที่​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความหวาน​ซึ้ง​และ​ละเอียดอ่อน​อย่าง​สิ้นเชิง

เมื่อ​ความคิด​เช่นนี้​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ ​จู่ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ​ ​จากนั้น​ก็ได้​รวบ​เอา​พัด​จำนวน​หนึ่ง​รีบ​เดิน​ตรง​ไป​ยัง​ห้อง​ทิศตะวันออก​ทันที

หู่​พั่ว​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​นั้น​รีบร้อน​เป็นอย่างมาก​ ​ใน​ใจ​ก็​รู้สึก​สับสนวุ่นวาย​ไป​หมด​ ​จึง​รีบ​วิ่ง​ตาม​สือ​อี​เหนียง​ไป​ทันที​ก็​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ได้​นำ​พัด​ทั้ง​ห้า​เล่ม​กาง​ออกมา​จน​หมด​ ​จากนั้น​ก็​วาง​เรียงราย​อยู่​บน​โต๊ะ​หนังสือ​ ​เพ่งพินิจ​อย่างละเอียด​ด้วย​สีหน้า​ที่จริง​จัง​เป็นอย่างมาก

“ฮู​หยิน​!​”​ ​หู่​พั่ว​เรียก​นาง​เสียง​เบา​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​เจ้า​คะ​!​”

“​ไม่มี​อะไร​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เงยหน้า​ขึ้น​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​เรียบ​เฉย​ว่า​ ​“​ข้า​เพียงแค่​รู้สึก​ว่า​พัด​เหล่านี้​งดงาม​เป็นอย่างมาก​ ​ก็​เลย​อยาก​จะ​ดู​ให้​ละเอียดถี่ถ้วน​เสียหน่อย​”

สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ยังคง​เป็นกันเอง​เหมือนเช่น​เดิม​ ​และ​แววตา​ก็​ยังคง​อบอุ่น​และ​อ่อนโยน​ไม่เคย​เปลี่ยน​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะอะไร​ ​หู่​พั่ว​ที่​สนิท​และ​คุ้นเคย​กับ​สือ​อี​เหนียง​กลับ​แอบ​รู้สึก​ไม่ชอบมาพากล​แปลก​ๆ​ ​ราวกับว่า​พายุฝน​กำลังจะ​มา​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ดู​สงบ​ ​แต่กลับ​ทำให้​รู้สึก​กดดัน​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

สือ​อี​เหนียง​รวบ​พัด​เก็บ​อย่างเบามือ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​คุณหนู​ใหญ่​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​หรือ​”​ ​นาง​ถาม​อย่าง​ชัดถ้อยชัดคำ

หู่​พั่ว​รีบ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​กำลัง​ปัก​ผ้า​ปัก​กับ​พี่​ปินจ​วี​๋​อยู่​เจ้าค่ะ​!​”

“​เจ้า​ไป​เชิญ​คุณหนู​ใหญ่​มาที​่​นี่​หน่อย​”​ ​จากนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​นำ​พัด​เหล่านี้​เก็บ​ลง​ไป​ใน​กล่อง​ไม้​ ​“​บอก​แค่​ว่า​ข้ามี​เรื่อง​จะ​คุย​กับ​นาง​ก็​พอ​ ​อย่าง​อื่น​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​”

หู่​พั่ว​แสดง​สีหน้า​แปลกใจ​ออกมา​ ​จากนั้น​ก็​ถอย​ออก​ไป​อย่างนอบน้อม​และ​รีบ​ไป​ทำตาม​คำสั่ง​ทันที

สือ​อี​เหนียง​หันไป​จ้องมอง​กล่อง​ไม้​สีแดง​ลวดลาย​สีทอง​ ​แววตา​เต็มไปด้วย​ความ​เย็นยะเยือก

“​ท่าน​แม่​ ​เรียก​ข้า​หรือ​เจ้า​คะ​!​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ร่าเริง​และ​ไพเราะ​ราวกับ​เสียง​นก​จาบ​ฝน​ก็​ไม่​ปาน

สือ​อี​เหนียง​เงยหน้า​ขึ้น​มา​ ​แววตา​ไร้​ซึ่ง​ความเยือกเย็น​ของ​เมื่อครู่นี้​แล้ว​ ​เหลือ​ไว้​เพียง​แววตา​ที่​อบอุ่น​และ​อ่อนโยน​ราวกับ​แสงแดด​แห่ง​ฤดูใบไม้ผลิ​ใน​เดือน​สาม

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ช่วง​วัย​อายุ​สิบสอง​ปี​ ​สวม​เสื้อผ้า​เก๋​อปู​้​สีแดง​ ​ตอนนี้​นาง​สูง​กว่า​สือ​อี​เหนียง​มา​หน่อย​เห็นจะ​ได้

สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ยัง​ต่างหู​ดอก​ปิ่น​หยก​สีทอง​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​ขึ้น​บาง​ๆ​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ส่ง​ของ​มา​ให้​เจ้า​”

“​จริง​หรือ​เจ้า​คะ​!​”​ ​นัยน์ตา​ดำขลับ​เป็นประกาย​แวววาว​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ราวกับ​อัญมณี​ที่​แพรวพราว

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ชี้​ไป​ยัง​กล่อง​ไม้​สีแดง​สด​ลายทอง​ที่​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​หนังสือ

“​สวย​จัง​เลย​เจ้าค่ะ​!​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จ้องมอง​ไป​ยัง​พัด​ลายทอง​ ​ลักยิ้ม​นาง​ราวกับ​ดอกไม้​ ​“​ท่าน​แม่​”​ ​นาง​กาง​พัด​เล่ม​หนึ่ง​จาก​หนึ่ง​ใน​นั้น​ ​จากนั้น​ก็​นำมา​ตรงหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​ดู​สิ​ ​ขั้นบันได​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ดอก​ไห่​ถัง​ ​มัน​เป็น​ขั้นบันได​ที่​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เดิน​ถอยหลัง​อยู่​เป็นประจำ​ ​ที่​หัวบันได​เป็น​รูปปั้น​หัว​เสือ​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​เหลือบ​ไป​มอง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​หยิบ​พัด​รูป​ดอก​ปิ่น​หยก​อีก​เล่ม​มากาง​ ​“​ข้า​รู้สึก​ว่า​รูป​นี้​วาด​ได้ดี​ที่สุด​!​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หันไป​มอง​ ​ดวงตา​ก็​เบิก​กว้าง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​ดอก​ปิ่น​หยก​!​”

“​เจ้า​ชอบ​ดอก​ปิ่น​หยก​มาก​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หรี่​ตาลง

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ้ม​กว้าง​ ​“​ข้า​ชอบ​ดอก​ปิ่น​หยก​ที่สุด​”​ ​นาง​หันมา​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​แววตา​เป็นประกาย​ ​“​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่​ชอบ​ดอก​ปิ่น​หยก​ ​นาง​คง​ตั้งใจ​วาด​ให้​ข้า​อย่างแน่นอน​”​ ​หลังจากนั้น​ก็​รับ​พัดมา​เชยชม​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​ ​“​คือ​ดอก​ปิ่น​หยก​ใต้​เงา​แสงจันทร์​…​”​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​ฟัง​ดู​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​หรือว่า​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะ​ตื่น​มาก​ลาง​ดึก​เพื่อ​วาดภาพ​นี้​”​ ​จากนั้น​ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​ปรากฏ​รอยยิ้ม​ดีใจ​ขึ้น​มา​ ​“​นาง​เกียจคร้าน​ที่สุด​แล้ว​ ​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ยัง​ต้อง​เรียก​สาวใช้​เลย​ ​แต่​จู่ๆ​ ​กลับ​ตื่นขึ้น​มาก​ลาง​ดึก​เพื่อ​วาดภาพ​ได้​…​”​ ​ความประทับใจ​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ดวงตา​ของ​นาง​ ​“​ข้า​จะ​ต้อง​เขียนจดหมาย​ไป​ขอบคุณ​นาง​ดี​ๆ​ ​ถึง​จะ​ถูก​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​เก็บ​พัด​ลง​บน​กล่อง​ไม้

จู่ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​หยิบ​พัด​รูป​ดอก​ปิ่น​หยก​ใต้​เงา​แสงจันทร์​ออกมา​ ​“​ข้า​เอง​ก็​ชอบ​พัด​เล่ม​นี้​ที่สุด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​หันมา​มอง​นาง

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ค่อนข้าง​รู้สึก​แปลกใจ​ ​จากนั้น​ก็ได้​เผย​รอยยิ้ม​ที่​ดีใจ​ออกมา​ ​“​ท่าน​แม่​เอง​ก็​ชอบ​เหมือนกัน​หรือ​เจ้า​คะ​ ​เช่นนั้น​ท่าน​แม่​ก็​นำไปใช้​เถิด​!​”

“​สุภาพบุรุษ​จะ​ไม่​แย่งชิง​สิ่ง​ที่​ผู้อื่น​ชอบ​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หันไป​จ้องมอง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ชี้​ไป​ยัง​พัด​ที่​เหลือ​ ​“​ข้า​ยัง​มี​อีก​ตั้ง​เยอะ​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​กาง​พัด​ออก​ ​จากนั้น​ก็​โบก​พัด​เบา​ๆ

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ้ม​พร้อมกับ​เก็บ​กล่อง​ไม้​และ​กำลังจะ​ถอย​ออกจาก​ห้อง

สือ​อี​เหนียง​จึง​รวบ​พัด​เก็บ​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เขียนจดหมาย​ที่นี่​ก็แล้วกัน​ ​ข้างนอก​แดดออก​จะ​แรง​ ​จะ​ได้​ไม่ต้อง​ย้อนกลับ​ไป​ที่​เรือน​เสา​หวา​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ขานรับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​หย่อน​ตัว​นั่งลง​และ​เริ่ม​ฝน​หมึก

สือ​อี​เหนียง​เรียก​สาวใช้​น้อย​ให้​เข้ามา​ปรนนิบัติ​ดูแล​นาง​ ​ส่วน​สือ​อี​เหนียง​ก็​นั่ง​เก้าอี้​ดินเผา​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​เชยชม​พัด​ที่อยู่​ใน​มือ

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​นั่ง​อยู่​ที่​หน้า​โต๊ะ​หนังสือ​ ​สีหน้า​สุขุม​เงียบสงบ​ ​ลงมือ​บรรจง​เขียน​ตัวอักษร​อย่าง​ไม่​ลังเล​ ​ไม่นาน​ก็​เขียน​เสร็จ​เป็น​ที่​เรียบร้อย​ ​จากนั้น​ก็ได้​หันไป​สั่ง​กับ​สาวใช้​น้อย​ว่า​ ​“​ให้​คน​ส่ง​ไป​ที่​จวน​คุณหนู​ใหญ่​จวน​เวย​เป่ย​โหว​”

สาวใช้​น้อย​ขานรับ​ ​จากนั้น​ก็ได้​วาง​ผ้า​ขาวบาง​ไว้​บน​หน้า​จดหมาย​เพื่อ​ซับ​หมึก​ ​และ​เพื่อให้​หมึก​แห้ง​ได้​ไว​ขึ้น​ ​ไม่ได้​หลบหลีก​หรือ​ซ่อนเร้น​อะไร

สือ​อี​เหนียง​แอบ​พยักหน้า​เงียบๆ

แต่​ขณะที่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กำลัง​ลุกขึ้น​นั้น​ ​ก็​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ถือ​พัด​ไว้​เล่ม​หนึ่ง​อยู่​ตลอดเวลา​ ​นาง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​แล้วจึง​ตัดสินใจ​ยก​หีบ​ไม้​สีแดง​ลายทอง​เดิน​ไป​ตรงหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​หากว่า​ท่าน​แม่​ชอบ​ ​จะ​เลือก​อีก​สัก​เล่ม​สอง​เล่ม​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

สือ​อี​เหนียง​เงยหน้า​ขึ้น​มา​จ้องมอง​สีหน้า​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จ้องมอง​นาง​แล้ว​ยิ้ม​บาง​ๆ​ ​แววตา​สดใส​กระจ่าง​ชัดเจน

จู่ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​หัวเราะ​ขึ้น​มา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ปิด​ฝาก​ล่อง​ไม้​ ​“​ไม่ต้อง​แล้ว​ ​เล่ม​นี้​ก็​พอแล้ว​!​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จู่ๆ​ ​ก็​ดู​ผ่อนคลาย​ลง​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​สีหน้า​ไม่เข้าใจ​พลัน​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​แววตา​ของ​นาง​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​โน้มน้าว​ต่อไป​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่นำ​ไป​ใช้ได้​เลย​นะ​เจ้า​คะ​ ​อย่างมาก​ข้า​ก็​แค่​ขอ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ช่วย​ทำให้​ใหม่​ก็​เรียบร้อย​แล้ว​”

แววตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​สั่น​ไหว​เล็กน้อย​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เอาอย่าง​นี้​ดี​ไหม​ ​พรุ่งนี้​เรา​ไป​ที่​จวน​เวย​เป่ย​โหว​เสียหน่อย​!​ ​วันนี้​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​นำผล​ท้อ​พันธุ์​น้ำผึ้ง​มา​ฝาก​ ​เรา​เลือก​ผ้า​ปัก​จำนวน​หนึ่ง​ไป​ฝาก​ทาง​นั้น​เพื่อ​เป็นการ​ตอบแทน​น้ำใจ​ ​เจ้า​เอง​ก็​จะ​ได้​ไป​เยี่ยม​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ด้วย​”

“​ดี​เลย​เจ้าค่ะ​!​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กระโดดโลดเต้น​ด้วย​ความดีใจ​ ​“​ข้า​ไม่ได้​เจอ​หน้า​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​มา​พักใหญ่​แล้ว​!​”

“​เพิ่งจะ​พาย​เรือ​เล่น​ด้วยกัน​ตอน​เทศกาล​ซาน​เย​่ว​์​ซาน​ไม่ใช่​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​นี่​ยัง​ไม่​พ้น​สอง​เดือน​เลย​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แสดงท่าที​เก้อเขิน​ออกมา

สือ​อี​เหนียง​จึง​ถาม​นาง​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​เจ้า​ชอบ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​มาก​หรือ​”

“​ท่าน​แม่​ไม่​ชอบ​นาง​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หันไป​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความกังวลใจ

“​เปล่า​หรอก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​เพราะ​ข้า​เห็น​ว่า​เจ้า​ดีใจ​มาก​ขนาด​นี้​ต่างหาก​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จึง​ทำตัว​ไม่​ถูก​ขึ้น​มา​ ​“​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​มากความ​สามารถ​ ​เก่ง​รอบด้าน​…​ไม่​เหมือนกับ​ข้า​ ​ที่​ดีด​เป็น​แต่​พิณ​”

เป็น​เพราะ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​คน​สดใส​ร่าเริง​ ​เวลา​อยู่​ด้วย​แล้ว​สนุกสนาน​มากกว่า​กระมัง​ ​กับ​เด็กสาว​ที่เก็บ​ความรู้สึก​และ​มีนิ​สัย​เขินอาย​เช่น​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จึง​ค่อนข้าง​มี​แรงดึงดูด​เป็นพิเศษ

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​กุมมือ​ของ​นาง​ ​กลางคืน​ก็ได้​เรียน​เรื่อง​นี้​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​บอก​เพียงแค่​ว่า​จะ​ไป​ส่งมอบ​ของฝาก​เพื่อ​ตอบแทน​น้ำใจ​ ​จากนั้น​ก็ได้​เลือก​ผ้า​ปัก​จำนวน​หนึ่ง​ ​และ​ออกเดินทาง​ไป​ยัง​จวน​เวย​เป่ย​โหว​ใน​เช้า​วันรุ่งขึ้น​พร้อมกับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

*****

จวน​เวย​เป่ย​โหว​เล็ก​กว่า​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ราว​หนึ่ง​เท่าตัว​เห็นจะ​ได้

ถึงแม้ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​มาที​่​นี่​เป็นครั้งแรก​ ​แต่กลับ​รู้สึก​ค่อนข้าง​สนิทสนม​และ​เป็นกันเอง

เมื่อ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ได้รับ​แจ้ง​แล้ว​ ​ก็ได้​พา​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ออกมา​รอต​้อ​นรั​บที​่​หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา

ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​ทำความเคารพ​ซึ่งกันและกัน​ ​ผู้ใหญ่​ทั้งสอง​ก็ได้​พูดคุย​ถามไถ่​สารทุกข์สุกดิบ​กัน​ ​ส่วน​เด็ก​ทั้งสอง​คน​ก็​ควงแขน​พากั​นพู​ดก​ระ​ซิบ​ข้าง​หู​ตามประสา

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท