ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 326 เทศกาลวันไหว้บ๊ะจ่าง (ปลาย)

ตอนที่ 326 เทศกาลวันไหว้บ๊ะจ่าง (ปลาย)

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​เห็น​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ทั้งคู่​สนิทสนม​กัน​เหมือน​พี่น้อง​ไม่มี​ผิด​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรือน​ของ​เรา​สอง​คน​อยู่​ติดกัน​ ​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​สอง​คน​นี้​จะ​มีโชค​ชะตา​ต่อกัน​”

“​เรื่อง​นี้​ใคร​จะ​ไป​ทำนาย​ได้​!​”​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ตอบกลับ​พลาง​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ยัง​เรือน​ของ​หลินฮู​หยิน​พร้อมกับ​สือ​อี​เหนียง​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

หลินฮู​หยิน​สวม​ชุด​เป้ย​จื่อ​สีส้ม​อำพัน​ผ้าแพร​หังโฉว​ ​กำลัง​นั่ง​รอ​อยู่​ที่​ห้องโถง​ ​เมื่อ​เห็น​ทั้งสอง​เดิน​เข้ามา​ ​ก็​รีบ​ออกมา​ต้อนรับ​พร้อมกับ​เชิญ​เข้า​ด้านใน​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม

สือ​อี​เหนียง​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รีบ​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ต่อ​หลินฮู​หยิน

หลินฮู​หยิน​รีบ​จูงมือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​เป็น​แขก​หายาก​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​หันไป​มอง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​ไม่​เจอกัน​ยัง​ไม่ทัน​จะ​ครบ​สอง​เดือน​ ​รู้สึก​ว่า​สูง​ขึ้น​กว่า​เดิม​มา​หน่อย​!​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ใบหน้า​แดง​ระเรื่อ

หลินฮู​หยิน​และ​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​อยู่​ใน​สุด​ของ​ห้อง​ชั้นใน

ทุกคน​แบ่งแยก​ซ้าย​ขวานั​่ง​ลง​ตามลำดับ​ ​จากนั้น​สาวใช้​น้อย​ก็​ยก​น้ำชา​เข้ามา​ให้​ ​สือ​อี​เหนียง​นำ​ผ้าเช็ดหน้า​ปัก​ลาย​ออกมา​มอบให้​ ​หลินฮู​หยิน​จึง​ได้​ถามถึง​ไท่ฮู​หยิน​ขึ้น​มา​ ​จากนั้น​ก็​ยก​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​ ​“​ประเดี๋ยว​อยู่​ทานอาหาร​เที่ยง​ด้วยกัน​ก่อน​”

สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​แล้ว​พา​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​ยัง​เรือน​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ใช้​ชา​หลง​จิ​่ง​ของ​หมิง​เฉียน​ต้อนรับ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มาดื​่ม​ ​พูดถึง​เรื่อง​ของขวัญ​ที่​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​นำมา​ฝาก​ ​“​…​ก่อนหน้านี้​เคย​ได้ยิน​มา​ว่า​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เก่ง​ทั้ง​ด้าน​ตำรา​และ​วาดภาพ​ ​นึกไม่ถึง​เลย​ว่านาง​จะ​ทำ​พัด​ได้​ด้วย​ ​พัด​ที่​มอบให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​เกรง​ว่า​แม้แต่​เครื่องบรรณาการ​ก็​สู้​ไม่ได้​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​โดยเฉพาะ​ภาพวาด​ดอก​ปิ่น​หยก​ใต้​เงา​แสงจันทร์​ภาพ​นั้น​ ​เรื่อง​ความคิด​แปลกใหม่​ก็​ไม่พูดถึง​แล้ว​ ​แต่​ภาพ​ที่​วาด​คือ​ดอก​ปิ่น​หยก​ที่​กำลัง​เบ่งบาน​ใน​ยามค่ำคืน​ ​หาก​ไม่ได้​สำรวจ​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​ ​และ​อาศัย​เพียง​จินตนาการ​เท่านั้น​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​วาด​ออกมา​เช่นนี้​ไม่ได้​อย่างแน่นอน​”​ ​พูด​จบ​สือ​อี​เหนียง​ก็​หันไป​มอง​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​ช่าง​มี​ความตั้งใจ​จริงๆ​”

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​บุตรสาว​ที่​ตระกูล​เอ็นดู​เป็นอย่างมาก​ ​เวลา​จะ​ทำ​อะไร​ก็​มี​ความมั่นใจ​ไร้​ซึ่ง​ความกังวลใจ​ใดๆ​ ​ไม่​เหมือน​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​มี​อะไร​นิดๆ​ ​หน่อย​ๆ​ ​ก็​หวาดกลัว​ปาน​ว่า​ฟ้า​ดิน​จะ​ถล่มทลาย​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​สนับสนุน​ที่จะ​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไปมาหาสู่​กับ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​เพื่อที่จะ​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​มีส​หาย​รุ่นราวคราวเดียวกัน​เป็นเพื่อน

แต่​สิ่ง​ที่นา​งก​ลัว​ที่สุด​ก็​คือ​ความไร้เดียงสา​ของ​ทั้งคู่​ ​พากัน​ไป​ทำ​เรื่อง​ที่​ไม่​ถูก​ไม่​ควร​ ​ถูก​ผู้อื่น​ที่​คิด​ไม่ดี​ฉวยโอกาส​เข้า​ ​จะ​พลอย​ทำให้​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​…

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​หันไป​สังเกต​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​อย่างละเอียดถี่ถ้วน

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ได้ยิน​สือ​อี​เหนียง​ชื่นชม​บุตรสาว​ของ​ตน​ ​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ถ่อมตน​ว่า​ ​“​นาง​มักจะ​ชอบ​ก่อความวุ่นวาย​ทำ​อะไร​ซี้ซั้ว​ตามอำเภอใจ​อยู่​เสมอ​”

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​ทำตัว​ไม่​ถูก​ขึ้น​มา

ภายใต้​สายตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​เริ่ม​แดงก่ำ

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​นึก​ว่า​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เขินอาย​ ​จึง​หันไป​ยิ้ม​ให้​นาง​ ​แววตา​ท่วมท้น​ไป​ด้วย​ความรู้สึก​ที่​ภาคภูมิใจ​ไป​ด้วย

สือ​อี​เหนียง​มองเห็น​ทุกอย่าง​ชัดเจน​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​พูด​กับ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ด้วย​สีหน้า​ที่​เรียบ​เฉย​ว่า​ ​“​จริงๆ​ ​แล้ว​ที่มา​วันนี้​ก็​เพราะ​มีเรื่อง​อยาก​จะ​ขอร้อง​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ค่อนข้าง​รู้สึก​แปลกใจ​ ​จึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ไม่ทราบ​ว่า​สวีฮู​หยิน​มี​อะไร​จะ​ใช้​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​ข้า​เห็น​ว่านาง​วาด​ดอก​ปิ่น​หยก​งดงาม​ยิ่งนัก​ ​ก็​เลย​อยาก​ให้​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ช่วย​วาด​อีก​สัก​ภาพ​ ​ข้า​จะ​นำ​ไป​เป็น​แบบ​ลาย​ปัก​ผ้า​ ​อยาก​จะ​ปัก​ลาย​ดอก​ปิ่น​หยก​สัก​ผืน​ไว้​ขึง​ฉากตั้ง​โต๊ะ​”​ ​พูด​จบ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​หันไป​ยิ้ม​ให้​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​ไม่รู้​ว่า​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะ​มี​เวลาว่าง​หรือไม่​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ได้ยิน​แล้วก็​ดีใจ​เป็นอย่างมาก

นาง​รู้​เป็น​อย่างดี​ว่า​บุตรสาว​ของ​ตน​มีทั​กษะ​ฝีมือ​ใน​การ​วาดภาพ​ ​หากว่า​สือ​อี​เหนียง​สามารถ​นำ​ไป​ปัก​เป็น​ฉากตั้ง​บน​โต๊ะ​ได้​…​ไม่แน่​ว่า​อาจจะ​มีชื่อเสียง​เรียง​นาม​ขึ้น​มา

ไม่​รอ​ให้​บุตรสาว​ได้​ทัน​เอ่ยปาก​ ​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​วัน​ๆ​ ​นาง​ก็​เอาแต่​ทำ​อะไร​ไม่รู้​ ​ยุ่งเหยิง​วุ่นวาย​ไป​หมด​ ​จะ​ไม่มีเวลา​ว่าง​ได้​อย่างไร​กัน​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​หันไป​สั่ง​กับ​บุตรสาว​ของ​ตน​ว่า​ ​“​เจ้า​ก็​วาดภาพ​ตาม​พัด​เล่ม​นั้น​มาสั​กห​นึ่ง​ภาพ​!​”

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​แสดง​สีหน้า​ที่​อึดอัด​ใจ​ออกมา​ ​ใบหน้า​แดงก่ำ​ ​ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​จึง​ค่อย​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ภาพ​…​ภาพวาด​นั่น​ข้า​ไม่ได้​เป็น​คน​วาด​เอง​เจ้าค่ะ​…​”

คนใน​ห้อง​ต่าง​พากั​นอึ​้ง​ไป​หมด

สีหน้า​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เต็มไปด้วย​ความลำบาก​ใจ

“​ข้า​…​ตอนแรก​ข้า​ตั้งใจ​จะ​ตื่น​มาก​ลาง​ดึก​ ​แต่ทว่า​ข้า​กลับ​นอน​จน​เลยเวลา​ไป​”​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ติดๆ​ ​ขัด​ๆ​ ​“​ต่อมา​ก็​มี​ฝนตก​อยู่​หลาย​ระลอก​…​พี่จ​้ง​หรา​นรู​้​เรื่อง​เข้า​ก็​เลย​ช่วย​ข้าวาด​ไป​หนึ่ง​ภาพ​…​ตอนแรก​ข้า​ตั้งใจ​จะ​เลียนแบบ​แค่​ภาพ​เดียว​ ​แต่​โครง​ของ​พัด​เหล่านั้น​ขันที​คน​หนึ่ง​ของ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​คน​ทำให้​ ​ต้อง​ขึ้น​สี​อยู่​หลาย​รอบ​ ​หลาย​วันก่อน​แดด​ค่อนข้าง​ดี​ ​หาก​ไม่​รีบ​ติด​ผ้า​ของ​พัด​ลง​ไป​ก็​จะ​ไม่ทัน​กาล​ ​ดังนั้น​ข้า​เลย​…​”​ ​ตอนนี้​สีหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความอับ​อาย​ ​“​ข้า​…​ข้า​ไม่ได้ตั้งใจ​…​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​อึ้ง​จน​ตาค้าง​ไป​หมด

ตอนนี้​สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อย​ถอนหายใจ​ออกมา​อย่าง​โล่งอก​ ​หัวใจ​ที่​เป็นกังวล​ก็​คลาย​ลง​ในที่สุด

ใน​ตอนแรก​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เอง​ก็​อึ้ง​ไป​ตาม​ๆ​ ​กัน​ ​แต่​นาง​ก็​ตั้งสติ​ได้​อย่างรวดเร็ว​ ​หันไป​ปลอบใจ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​แทน​ ​“​นั่น​เพราะ​เจ้า​นอน​จน​ลืม​เวลา​ต่างหาก​!​ ​มิเช่นนั้น​เจ้า​คงจะ​วาดภาพ​ดอก​ปิ่น​หยก​ให้​ข้า​ด้วย​ตนเอง​ตั้ง​นาน​แล้ว​!​”

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ่ง​รู้สึก​กระวนกระวายใจ​ไป​กัน​ใหญ่​ ​นาง​ก้มหน้า​อธิบาย​ว่า​ ​“​ภาพ​ที่​พี่จ​้ง​หรา​นวา​ดนั​้น​ดี​เกินไป​ ​แม้แต่​จะ​ลอกเลียนแบบ​ข้า​ก็​ยัง​ทำไม​่​ได้เสีย​ด้วยซ้ำ​ ​ดังนั้น​ข้า​ก็​เลย​คิด​วิธี​นี้​ขึ้น​มา​…​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ไม่เป็นไร​ ​ไม่เป็นไร​ ​รูปวาด​บน​พัด​เหล่านั้น​งดงาม​มาก​ ​อย่า​ว่า​เจ้า​เลย​ ​หาก​เปลี่ยนเป็น​ข้า​ ​ข้า​เอง​ก็​ชอบ​มาก​เช่นกัน​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​เริ่ม​เป็นกังวล​ขึ้น​มา​ ​กลัว​สือ​อี​เหนียง​จะ​รู้สึก​ว่า​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​มี​จิตใจ​ที่​ไม่​ซื่อสัตย์​แล้ว​จะ​ถือโทษ​โกรธเคือง​ ​จึง​รีบ​หันไป​หา​สือ​อี​เหนียง​ทันควัน​ ​จ้องมอง​นาง​ด้วย​แววตา​ที่​อ้อนวอน​ ​“​ท่าน​แม่​เอง​ก็​ชอบ​มาก​เช่นกัน​!​”​ ​ราวกับว่า​กำลัง​ร้องขอ​วิงวอน​แทน​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​อย่างไร​อย่างนั้น

อย่า​ว่าแต่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะ​ช่วย​กู้​สถานการณ์​ให้​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เลย​ ​ถึงแม้ว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะ​ไม่​ช่วย​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ช่วย​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​กู้​สถานการณ์​อยู่ดี

“​ข้า​เอง​ก็​รู้สึก​ว่า​พัด​เล่ม​นั้น​วาด​ได้​งดงาม​เป็นอย่างมาก​ ​ตั้งใจ​จะ​ขอ​พัด​เล่ม​นั้น​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เสียด​้วย​ซ้ำ​!​”

เมื่อ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่มี​ท่าที​จะ​ตำหนิ​ติติง​ ​จึง​ถอน​ลมหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​ยิ้ม​ขึ้น

ส่วน​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เมื่อ​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​สืบสาวราวเรื่อง​ ​อีกทั้ง​ยัง​ปลอบโยน​นาง​ ​ความตื้นตัน​ใจ​จึง​ค่อยๆ​ ​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ดวงตา​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ติดๆ​ ​ขัด​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ท่าน​อาสะใภ้​สวี​รอ​ข้า​สัก​สอง​สาม​วัน​ ​ข้า​จะ​วาดภาพ​ดอก​ปิ่น​หยก​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​วาด​ได้​ไม่ดี​เท่า​พี่จ​้ง​หราน​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​แย่​เท่าไร​นัก​”

เพราะ​นาง​เอง​ไม่​ค่อย​ถนัด​วาด​ดอก​ปิ่น​หยก​ ​แต่​พอนึก​ถึง​ความดี​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​จึง​คิด​อยาก​จะ​ทดแทน​กระมัง​!

สือ​อี​เหนียง​จะ​ให้​นาง​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ยากลำบาก​ได้​อย่างไร​กัน

นึกถึง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เคย​เล่า​ว่าที่​ลาน​สวน​ของ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้​ปลูก​ดอก​ไห่​ถัง​ไว้​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ภาพวาด​ดอก​ปิ่น​หยก​บน​พัด​งดงาม​น่าหลงใหล​ ​เป็นเพราะว่า​มัน​แปลกใหม่​ ​แต่​หาก​จะ​พูดถึง​ทักษะ​การ​วาดภาพ​ ​พัด​เล่ม​อื่น​ก็​ไม่ได้​ด้อย​กว่า​เลย​ ​เช่นนั้น​ ​เจ้า​วาด​ดอก​ไห่​ถัง​ให้​ข้า​ดี​หรือไม่​ ​ตัว​ข้า​เอง​ชอบ​ดอก​ไห่​ถัง​ที่สุด​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​พยักหน้า​ทันควัน

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ่ง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ไป​กัน​ใหญ่​ ​นาง​จึง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​ตอนแรก​ข้า​ได้​มอบ​ภาพวาด​ดอก​ปิ่น​หยก​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ข้า​ก็​ควรจะ​วาด​ดอก​ปิ่น​หยก​ดีกว่า​กระมัง​เจ้า​คะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​โน้มน้าว​นาง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ที่นั่ง​เงียบ​อยู่​ข้างๆ​ ​จู่ๆ​ ​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ให้​นาง​วาด​ดอก​ปิ่น​หยก​เถิด​!​ ​ใคร​ใช้​ให้​นาง​เกียจคร้าน​กัน​เล่า​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​พัด​นั่น​ก็​ต้อง​ทำ​ใหม่​ชดเชย​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​”

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ขานรับ​เสียง​เบา

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​จึง​หันไป​ยิ้ม​พร้อมกับ​เชื้อเชิญ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ดื่ม​ชา​ ​ดื่ม​ชา​ ​ข้า​เตรียม​ชา​หลง​จิ​่ง​ของ​หมิง​เฉียน​ไว้​”​ ​ตัดบท​สนทนา​นี้​ไป

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ยก​ฝา​ถ้วย​ชา​ขึ้น​ ​แต่กลับ​เห็น​ว่า​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​กำลัง​จ้องมอง​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ราวกับว่า​กำลัง​คิด​อะไร​บางอย่าง​อยู่​อย่างไร​อย่างนั้น

สือ​อี​เหนียง​จึง​แอบ​พยักหน้า​เบา​ๆ

ไม่​แปลกใจ​เลย​ที่​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​เป็น​ถึง​สะใภ้​ที่​ดูแล​ควบคุม​จวน​เวย​เป่ย​โหว​ที่สูง​ศักดิ์

นาง​คงจะ​รู้​และ​เข้าใจ​ทุกอย่าง​เป็น​อย่างดี​!

ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​คำพูด​บาง​คำพูด​ก็​ควร​พูด​ออกมา​แต่​เนิ่นๆ​ ​เสีย​ยังดี​กว่า​ ​มิเช่นนั้น​ ​เกรง​ว่า​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​อาจจะ​นึก​ว่า​ตน​มี​ความแค้น​เคือง

สือ​อี​เหนียง​จิบ​ชา​ไป​หนึ่ง​คำ​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​ยิ้ม​พร้อม​พูด​กับ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ว่า​ ​“​ผู้ใหญ่​อย่าง​เรา​พูดคุย​กัน​ ​พวก​นาง​จะ​พากั​นระ​มัด​ระวังตัว​จน​อึดอัด​เกินไป​ ​ปล่อย​ให้​พวก​นาง​ไป​คุย​กันเอง​ดีกว่า​!​”

ใน​ตอนแรก​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เอง​ก็​ลำบากใจ​ที่จะ​พูด​ ​แต่​พอได้​ยิน​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ลุกขึ้น​ทันควัน​ ​พลาง​จูงมือ​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กำลังจะ​พากัน​ถอย​ออก​ไป

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​กลับ​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​อาสะใภ้​สวี​ของ​เจ้า​ไม่ได้​มาบ​่อย​ๆ​ ​เจ้า​จะ​ไม่อยู่​ปรนนิบัติ​รับใช้​หรือ​ ​แล้ว​นี่​จะ​หนี​ไป​ไหน​อีก​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​สั่ง​กับ​นาง​ว่า​ ​“​เจ้า​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​ห้อง​ชั้นใน​ของ​ข้า​ก็แล้วกัน​!​”​ ​ต้องการ​ให้​พวก​นาง​อยู่​ใน​สายตา​ ​และ​ไม่ยอม​ปล่อย​พวก​นาง​ไป

เมื่อ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​ก็​ยู่​ปาก​ทันที

สีหน้า​และ​แววตา​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​พลัน​เคร่งขรึม​ขึ้น​มา

สือ​อี​เหนียง​จึง​รู้สึก​แน่ใจ​มากกว่า​เดิม

ในที่สุด​ ​ความกังวลใจ​ที่​มี​ก็​สลาย​หาย​ไป​จน​หมด

มีคุณ​นายใหญ่​สกุล​หลิน​คอย​ดูแลเอาใจใส่​เช่นนี้​ ​ก็​คงจะ​ไม่กล้า​เกเร​อย่างแน่นอน

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่กล้า​ที่จะ​ฝ่าฝืน​คำสั่ง​ของ​มารดา​ ​นาง​จึง​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ยัง​ห้อง​ชั้นใน​พร้อม​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​พูด​กับ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ฉากตั้ง​โต๊ะ​ที่​ข้า​พูดถึง​เมื่อครู่นี้​ ​ข้า​ตั้งใจ​จะ​ปัก​ไว้​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​นาง​จะ​แต่งงาน​ออกเรือน​เป็นฝั่งเป็นฝา​ใน​อีก​สอง​สาม​ปี​ที่จะ​ถึง​นี้​แล้ว​ ​ข้า​เลย​คิด​ว่า​ควรจะ​มอบ​สิ่งของ​เพื่อให้​นาง​เก็บ​ไว้​เป็น​ที่ระลึก​เสียหน่อย​ ​พอดี​กับ​ที่​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​วาดภาพ​ดอก​ปิ่น​หยก​บน​พัด​เล่น​นั้น​ ​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เอง​ก็​ชอบ​ดอก​ปิ่น​หยก​มาก​ ​ก็​เลย​มี​ความตั้งใจ​นี้​ขึ้น​มา​ ​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​จะ​ทำ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ลำบากใจ​แล้ว​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​ยิ้ม​ขึ้น​มาบาง​ๆ

รอยยิ้ม​ของ​นาง​งดงาม​ ​ไร้​ซึ่ง​สิ่งเจือปน​ใดๆ​ ​ทั้งสิ้น

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​สูด​ลมหายใจ​เข้า​ลึก

ใน​ตอนแรก​ตน​เป็น​คน​ไป​เจรจา​สู่ขอ​ ​ต่อมา​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็ได้​มอบ​พัด​ไป​ให้​ ​ถึงแม้​จะ​ไม่ได้ตั้งใจ​ ​แต่​ก็​เท่ากับ​ว่า​มี​เจตนา​นี้

นึกถึง​นิสัย​ที่​บุ่มบ่าม​ของ​หลานชาย​ตน​ขึ้น​มา​ ​รู้สึก​ตื้นตันใจ​ที่​สือ​อี​เหนียง​ไว้หน้า​และ​ช่วย​คลี่คลาย​สถานการณ์​นี้

“​นี่​ก็​เป็น​อีก​สาเหตุ​หนึ่ง​ที่​ทำให้​ข้า​คิด​อยาก​จะ​ให้​นาง​แต่งงาน​ไป​ที่​ซัง​โจว​”​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ทอดถอนใจ​ ​“​เด็ก​คน​นี้​ ​จะ​บอกว่า​โง่เขลา​ ​นาง​กลับเป็น​คน​หัวไว​ฝึกฝน​นิดเดียว​ก็​เป็นไป​เสีย​ทุกอย่าง​ ​ครั้น​จะ​บอกว่า​นาง​ฉลาด​หลักแหลม​ ​เวลา​ทำ​อะไร​กลับ​ไม่รู้​จัก​คิดหน้าคิดหลัง​ ​ข้า​จึง​ทำได้​แค่​ให้​คน​จาก​สกุล​เดิม​ดูแล​แทน​ ​เพราะ​มี​แค่​คน​ของ​เรา​เอง​เท่านั้น​ที่จะ​สามารถ​ดูแล​และ​ไม่ถือสา​ความ​แก่นแก้ว​ของ​นาง​”

ถือเป็น​การก​ล่าว​ขอโทษ​ต่อ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​จึง​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​นางอายุ​ยังน้อย​ ​ก็​เหมือน​ตอน​เรา​ยัง​เด็ก​ ​ที่​มักจะ​ใจร้อน​สะเพร่า​ ​แต่​พอ​เวลา​ผ่าน​ไป​สักหน่อย​ก็​จะ​ดีขึ้น​เอง​!​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​หันไป​มอง​ใบหน้า​ที่​สะอาดหมดจด​ราวกับ​ดอก​กล้วยไม้​หยก​ก็​ไม่​ปาน​ ​จึง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​เอง​ก็​โตก​ว่า​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เพียงแค่​ไม่​กี่​ปี​เท่านั้นเอง​!​”

สือ​อี​เหนียง​เอง​ลืม​เรื่อง​นี้​ไป​เสีย​สนิท​!

ใบหน้า​ของ​นาง​ค่อยๆ​ ​แดง​ระเรื่อ​ ​เผย​รอยยิ้ม​ออกมา​อย่าง​ช้าๆ

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​จึง​ยก​แขน​เสื้อ​ขึ้น​มาบัง​พร้อมกับ​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ

บรรยากาศ​ใน​ห้อง​จึง​ผ่อนคลาย​ไปมาก

จากนั้น​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​เรียน​ผ่าน​ม่าน​เข้ามา​ว่า​ ​“​คุณนาย​ใหญ่​ ​คุณชาย​น้อย​มา​เจ้าค่ะ​!​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ชะงัก​ไป​ชั่วครู่

หรือว่า​คุณชาย​น้อย​ผู้​นี้​จะ​เป็น​คนเดียว​กัน​กับ​ ​‘​พี่จ​้ง​หราน​’​ ​ที่​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​พูดถึง

สือ​อี​เหนียง​แอบ​รู้สึก​แปลกใจ​เงียบๆ

นี่​เป็นเรื่อง​บังเอิญ​หรือว่า​รู้​แต่แรก​แล้ว​ว่า​ตน​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​แขก​อยู่​ที่นี่​ก็​เลย​ตั้งใจ​มา​พบ

สือ​อี​เหนียง​จึง​ลุกขึ้น​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​มี​แขก​มา​ ​เช่นนั้น​ข้า​ก็​ขอตัว​ก่อน​ก็แล้วกัน​!​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​เอง​ก็​ลุกขึ้น​ตาม

“​ครั้งนี้​น้องชาย​คนเล​็ก​ของ​ข้า​ได้​พาลู​กห​ลาน​หลาย​คน​ของ​ตระกูล​มาที​่​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ด้วย​ ​หนึ่ง​คือ​ตั้งใจ​จะ​มา​เจรจา​เรื่อง​งานแต่งงาน​ของ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​สอง​คือ​อยาก​จะ​มาดู​ลาดเลา​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​เสียหน่อย​ ​เพื่อ​ตระเตรียม​ตัว​สำหรับ​การ​สอบ​ศิลปะ​การต่อสู้​อู่จ​วี่​ใน​ปีหน้า​ ​และ​สาม​ก็​คือ​ตั้งใจ​ที่จะ​พา​เด็ก​ๆ​ ​ออกมา​เปิดหูเปิดตา​ ​ตอนที่​พวกเขา​มาส​อบ​จะ​ได้​พอ​รู้ที​่​รู้​ทาง​บ้าง​ จ​้ง​หราน​เป็น​คนที​่​ฉลาด​ปราดเปรียว​ ​การกระทำ​สุขุม​และ​หนักแน่น​ ​และ​ยัง​ไม่ต้อง​เข้าร่วม​การ​สอบ​ศิลปะ​การต่อสู้​อู่จ​วี่​ใน​ปีหน้า​อีกด้วย​ ​ด้วยเหตุนี้​บิดา​มารดา​ของ​เขา​เลย​สั่ง​ให้​เขา​ช่วยเหลือ​น้องชาย​คนเล​็ก​ของ​เขา​โดยเฉพาะ​ ​ครั้งนี้​ก็​ไม่รู้​ว่า​มาหา​ข้า​เรื่อง​อะไร​”

เมื่อ​พูด​เช่นนี้​ ​ก็​เท่ากับ​ว่า​เซ่าจ​้ง​หราน​ผู้​นั้น​ถึงแม้ว่า​จะ​มี​เจตนา​ก็​จะ​กลายเป็น​ไม่มี​เจตนา​ไป​โดยปริยาย

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​แสดงให้เห็น​ว่า​กลัว​นาง​จะเข้า​ใจ​ผิด​อย่างชัดเจน

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​คงจะ​มีเรื่อง​เร่งด่วน​กระมัง​”​ ​ยอมรับ​คำอธิบาย​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​จึง​พยักหน้า​ตอบ​เบา​ๆ

สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​ถอย​ไป​ที่​ห้อง​ชั้นใน

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​นั่ง​เคียง​ไหล่​อยู่​บน​เตียง​เตา​ใหญ่​ริม​หน้าต่าง​ ​กำลัง​พูด​ซุบซิบ​เสียง​เบา​กัน​อยู่​สอง​คน

เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​หน้าแดง​ก่ำ​ ​จากนั้น​ก็​ทักทาย​ว่า​ ​“​ท่าน​อาสะใภ้​สวี​”

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​หน้าต่าง​ของ​ห้อง​ชั้นใน​นั้น​ใช้​เป็น​กระจก​ล้วน​ ​นาง​จึง​หย่อน​ตัว​นั่งลง​บน​เตียง​เตา​พลาง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ว่า​ ​“​พี่ชาย​ลูกพี่ลูกน้อง​ของ​เจ้า​มา​ ​ข้า​ก็​เลย​หลบ​มา​ใน​ห้อง​ชั้นใน​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท