รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 318 เจ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวัง ศพต้องยังอยู่!

บทที่ 318 เจ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวัง ศพต้องยังอยู่!

บทที่ 318 เจ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวัง ศพต้องยังอยู่!

ตู้ม!

กระบี่ยาวแทงลงมา เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทั้งหุบเขา ทว่าไม่มีพลังใดเล็ดลอดออกไป กระบี่นี้ทำลายค่ายกลมหาจักรพรรดิโบราณลงอย่างสิ้นเชิง!

หลิงอินขุ่นเคืองส่วนขุ่นเคือง กระนั้นยังมีสติอยู่ มิได้หน้ามืดตามัวเพราะความโมโห

นางมิได้เข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตอื่นเสียยกใหญ่ในที่นี้

แม้ว่านางทำได้ก็ตาม แต่นี่มิใช่วิสัยของนาง

หุบเขาคงหลิงเต็มไปด้วยคนบริสุทธิ์ที่ไม่มีส่วนรู้เห็น นางไม่มีทางเข่นฆ่าผู้ไม่เกี่ยวข้อง

นางควบคุมพลังให้ทำลายแต่เพียงค่ายกลมหาจักรพรรดิโบราณเท่านั้น เพื่อระบายความเดือดดาลในใจ ทว่ามิได้ทำลายสิ่งอื่น

ความตายที่คาดการณ์ไว้มิได้เกิดกับพวกนาง จ้าวหุบเขารวมถึงผู้อาวุโสทั้งหลาย และผู้ฝึกตนทั้งปวงในหุบเขาคงหลิงต่างยินดีปรีดาเป็นอย่างมาก

ไม่มีผู้ใดอยากตาย ทุกคนล้วนอยากมีชีวิต!

สีหน้าหลิงอินเย็นชาขณะเข้ามาอยู่ตรงหน้าจ้าวหุบเขา “เอากระดูกในกายเจ้าออกมา!”

ยามนี้จ้าวหุบเขากล้าขัดขืนที่ไหน นางรีบเปิดเผยกระดูกในกายออกมาทั้งหมด แสดงอยู่เบื้องหน้าหลิงอิน

สมเป็นกระดูกจักรพรรดิแต่กำเนิด มีลวดลายจักรพรรดิเนรมิตสลักอยู่บนกระดูก จังหวะจักรพรรดิสูงส่งพิเศษไหลเวียน น่าทึ่งเหลือคณา

โครงกระดูกทั้งหมดปรากฏอยู่เบื้องหน้าหลิงอิน นางลังเลขึ้นมานิดหน่อย คล้ายไม่อยากใช้ประสาทสัมผัสจ้าวสูงสุดของนางตรวจจับ…

นางไม่อยากให้เสี่ยวหยาต้องพบความตายอย่างน่าอนาถ…

ทว่าท้ายที่สุด นางก็ยังใช้ประสาทสัมผัสจ้าวสูงสุดของตน

เรื่องราวทั้งหมดต้องมีข้อพิสูจน์!

นางเคร่งเครียดเหลือแสน หัวใจจุกขึ้นมาอยู่ที่ลำคอ กลัวเหลือเกินว่ากระดูกนี้เป็นของเสี่ยวหยา

ประสาทสัมผัสจ้าวสูงสุดสถิตเข้าไปในโครงกระดูกนี้ สืบเสาะทีละชั้น ไล่ไปถึงแก่นกำเนิด ไม่ยอมปล่อยผ่านพลังปราณใด

พลังปราณอันรุนแรงที่สุดเห็นทีจะเป็นพลังปราณของจ้าวหุบเขา โครงกระดูกนี้อยู่ในกายของจ้าวหุบเขามาโดยตลอด

พลังปราณหลังจากนี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก ทว่าส่วนใหญ่ล้วนเบาบาง

ยิ่งถัดเข้าไปยิ่งเบาบาง มีเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น

หลิงอินรู้ดีว่าพลังปราณเหล่านี้เป็นของผู้ครอบครองกระดูกจักรพรรดินี้ในอดีต แข็งแกร่งขึ้นโดยยืมพลังจากกระดูกจักรพรรดิ จนหลงเหลือพลังปราณทิ้งไว้บนกระดูกจักรพรรดิ

“ได้เวลาพิสูจน์แล้วว่าใช่หรือไม่…!”

นางสูดหายใจเข้าลึก สีหน้าตึงเครียดขึ้นไปอีกระดับ

ประสาทสัมผัสจ้าวสูงสุดของนางมาถึงส่วนลึกสุดของกระดูกจักรพรรดิแล้ว นางรับรู้ได้ถึงพลังปราณอันเป็นแก่นกำเนิดดั้งเดิมที่สุดจากที่นั่น!

“เสี่ยวหยา…”

นางตะลึงงันอยู่ตรงนั้น น้ำตารินไหลโดยไม่รู้ตัว

ไม่ผิดแน่ นี่คือ…กระดูกจักรพรรดิของเสี่ยวหยา!

นางสัมผัสได้ถึงพลังปราณของเสี่ยวหยาจากส่วนลึกที่สุดในกระดูกจักรพรรดิ!

ชั่วขณะนั้น หัวใจของนางเจ็บปวดราวกับถูกบดขยี้จนนางหายใจไม่ออก

เสี่ยวหยาผู้มีจิตใจบริสุทธิ์เปี่ยมเมตตาถึงเพียงนั้น แม้ชีวิตลำเค็ญปานใดก็ไม่เคยหมดหวัง แววตาทอประกายแสงสว่างอยู่เสมอ นางถูกขุดกระดูกจักรพรรดิออกไปจริง ๆ…

นางไม่อาจจินตนาการออกเลยว่า เสี่ยวหยาในตอนนั้นจะทรมานและสิ้นหวังเพียงใด!

ไฉนถึงได้มีคนใจคอโหดเหี้ยมขนาดที่ลงมือกับเสี่ยวหยาได้ลง!

ชั่วพริบตานั้น จิตสังหารของนางท่วมท้นซัดสาดดุจมหาสมุทร ดวงตาแดงก่ำไร้ใดเปรียบ ท่าทางราวกับกลายร่างเป็นมาร!

จ้าวหุบเขาด้านข้างกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง หัวใจราวกับขึ้นมาอยู่ที่คอ

จิตสังหารจากตัวหลิงอินรุนแรงเกินไป นางหวั่นใจเหลือเกินว่าหลิงอินจะบรรเลงเพลงฉินอีกครั้ง แล้วล้างบางทั้งหุบเขาคงหลิงจนสิ้นซาก!

ภายในใจของนางขมขื่นเหลือคณา ที่แท้สิ่งที่หลิงอินกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นความจริง

กระดูกจักรพรรดินี้เป็นกระดูกของสหายหลิงอินจริง ๆ!

มิฉะนั้นหลิงอินคงไม่มีจิตสังหารรุนแรงเยี่ยงนี้!

“เสี่ยวหยา แค้นนี้ข้าจะชำระให้เจ้าแน่ ถึงแม้ไม่อาจสังหารผู้ที่ฆ่าเจ้า แต่ข้าสลายร่างนางให้เป็นจุณได้!”

หลิงอินเอ่ยเสียงอาดูร

จักรพรรดิบุปผาสิ้นชีพไปนานแล้ว นางไม่อาจฆ่าจักรพรรดิบุปผาได้

ทว่าศพของจักรพรรดิบุปผายังอยู่!

จักรพรรดิบุปผามีพลังในระดับสูงส่ง แข็งแกร่งกว่ามหาจักรพรรดิทั่วไปมาก บวกกับหุบเขาคงหลิงให้ความสำคัญกับศพของจักรพรรดิบุปผาเป็นนักหนา ผนึกรักษาศพของจักรพรรดิบุปผาด้วยสิ่งล้ำค่านานาชนิดในใต้หล้านี้

นางคิดว่าศพของจักรพรรดิบุปผายังมิสลายอย่างสมบูรณ์!

จากนั้น นางดีดสายฉินเบา ๆ ดาบเหมันต์เล่มหนึ่งพวยพุ่งขึ้นจากฉินเฟิ่งหมิง ตัดการเชื่อมต่อระหว่างกายเนื้อจ้าวหุบเขาและกระดูกจักรพรรดิ!

พรวด พรวด พรวด!

จ้าวหุบเขากระอักเลือดไม่หยุด ร่างทั้งร่างร่วงกองกับพื้น ประหนึ่งโคลนเหลวกองหนึ่ง

เมื่อการเชื่อมต่อกับกระดูกจักรพรรดิถูกตัดขาด นางก็ไม่เหลือพลังค้ำจุนในกาย ถึงแม้นางไม่ตาย กระนั้นก็บาดเจ็บสาหัสอย่างไม่ต้องสงสัย ชีวิตที่มีคงเหลือเพียงครึ่งเดียว!

“เสี่ยวหยา ข้าจะนำเจ้าไปฝังให้ดี ทว่าก่อนหน้านั้น ข้าจะชะล้างกระดูกจักรพรรดิให้สะอาด มิให้มีพลังปราณของผู้อื่นหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย!”

หลิงอิงเอ่ยเสียงจริงจัง

นางเคยคิดขอความช่วยเหลือจากท่านเซียน

ทว่า…สำเร็จได้หรือ?

ท่านเซียนลึกล้ำเกินหยั่ง ไม่มีสิ่งใดที่ทำไม่ได้ก็จริง ทว่าเสี่ยวหยาตายไปตั้งแต่ยุคโบราณ วิญญาณสลายไปนานนม กระดูกกลายเป็นสิ่งไร้ชีวิต ไฉนเลยจะคืนชีพได้

หมดหนทางแล้ว…

กาลเวลาที่ผ่านพ้นไปยาวนานเกินไป!

นางเชื่อใจท่านเซียนมาก เชื่อในฝีมือและความสามารถของท่านเซียน แต่การขอให้ท่านเซียนคืนชีพเสี่ยวหยาที่ตายไปตั้งแต่ยุคโบราณนับว่าฝืนฟ้าเกินไป…

นางเก็บกระดูกจักรพรรดิของเสี่ยวหยา เป็นดั่งที่นางว่า นางจะให้กระดูกของเสี่ยวหยาถูกฝังด้วยสภาพสะอาด ลบล้างพลังปราณของผู้อื่นออกจากกระดูก

“พาข้าไปที่สุสานของจักรพรรดิบุปผา!”

นางหันมองจ้าวหุบเขา หมายจะสลายร่างของจักรพรรดิบุปผาให้แหลกเป็นจุณ!

จ้าวหุบเขาบาดเจ็บสาหัส กระนั้นยังพอฝืนรีดเร้นพลังค้ำจุนร่างกายขึ้นมาได้บ้าง นางพาหลิงอินไปยังสุสานของจักรพรรดิบุปผา

ถึงอย่างไรนางก็ก้าวสู่ขอบเขตนักบุญแล้ว ซ้ำยังเป็นนักบุญได้ในยุคนี้ ไม่มีทางตายตกง่าย ๆ

สุสานของจักรพรรดิบุปผาตั้งอยู่ในส่วนลึกสุดของหุบเขาคงหลิง

ที่นั่นคือสุสานที่ใช้ฝังบรรพชนของหุบเขาคงหลิงผู้สร้างคุณูปการไว้

ทว่าภายในนั้นมีหลุมฝังศพอยู่ไม่มาก ต่อให้มีหลุม ส่วนใหญ่ก็เป็นหลุมว่างเปล่า ภายในนั้นปราศจากร่าง เป็นเพียงหลุมศพอาภรณ์

บรรพชนมากมายไม่ยอมนอนรอความตาย เลือกเข้าไปเสี่ยงดวงในแดนอันตรายบางแห่งก่อนตาย หรือไปค้นหาทางรอดอื่นเพื่อมีชีวิตต่อ น้อยนักจักมีบรรพชนที่ยังอยู่ในหุบเขายามจากโลกนี้ไป

เพราะเหตุนี้ หลุมศพส่วนใหญ่ในนี้จึงเป็นเพียงหลุมศพอาภรณ์

ทว่าจักรพรรดิบุปผานั้นต่างออกไป

จักรพรรดิบุปผาไม่เหมือนกับบรรพชนอื่น ๆ ก่อนอายุขัยของนางสิ้นสุด นางกลับมาอยู่ในหุบเขา มิได้ออกไปเสี่ยงหาทางรอดข้างนอกเหมือนอย่างบรรพชนท่านอื่น

พวกนางฝังศพอันสมบูรณ์ของจักรพรรดิบุปผาไว้ในหลุม

“หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง ศพจะยังอยู่!”

หลิงอินมาถึง สายตาเย็นเยียบเป็นพิเศษ

เป็นดั่งที่นางว่า ยามนี้ สิ่งที่นางหวังเป็นที่สุดคือศพของจักรพรรดิบุปผายังอยู่ ยิ่งถูกเก็บรักษาไว้สมบูรณ์เท่าไรยิ่งดี!

นี่คือหลุมฝังศพขนาดใหญ่ หลุมศพมีการบูรณะก่อสร้างเทียบเทียมตำหนักหลังหนึ่ง กลิ่นอายโบราณท่วมท้น ร่องรอยกาลเวลาล้นหลาม

หน้าหลุมศพใหญ่มีศิลาก้อนหนึ่ง จารึกประวัติของจักรพรรดิบุปผา

หลิงอินทอดสายตา

ทว่าหลังนางอ่านจบ สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นกราดเกรี้ยว

“‘คิดคำนึง’ คือเพลงฉินที่เจ้าประพันธ์งั้นหรือ!?”

นางชี้นิ้วออกไป พลังแกร่งกล้าพวยพุ่ง ทลายศิลาก้อนนี้ลงในบัดดล!

จักรพรรดิบุปผาผู้นี้หน้าไม่อายถึงขีดสุด!

‘คิดคำนึง’ เป็นเพลงฉินที่เสี่ยวหยาประพันธ์ด้วยตนเอง แต่งด้วยความคิดถึงพี่ชายของนาง!

เมื่อครั้งนางได้ยินยังตกตะลึงงัน

พรสวรรค์ในวิถีแห่งฉินของเสี่ยวหยาเหนือจินตนาการ ‘คิดคำนึง’ ที่นางประพันธ์นี้แม้แต่หลิงอินยังต้องอุทานว่าสู้ไม่ได้ ไม่อาจเทียบได้เลย!

หารู้ไม่ จักรพรรดิบุปผาผู้นี้ยึดครองลำนำ ‘คิดคำนึง’ นี้ไปเป็นของตน อ้างว่าประพันธ์ด้วยตนเอง ซ้ำยังบันทึกไว้ในข้อแรก!

“อย่าทำให้ข้าผิดหวังเชียว!”

สายตาของนางเย็นยะเยือกเป็นพิเศษ กัดฟันดังกรอด ไฟโทสะในใจลุกช่วงถึงขีดสุด!

นางหวังว่าเมื่อหลุมศพนี้เปิดออกจักได้เห็นศพของจักรพรรดิบุปผา!!!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท