แสงอาทิตย์ทอประกายสีทองอยู่บนภูเขาดอกท้อ แสงสีทองส่องประกายอยู่บนกิ่งไม้ ท่ามกลางบ่อน้ำแห่งธรรมชาติ บนชุดเกราะสีดำของทหารที่ยืนนิ่งอยู่ด้านนอกอารามดอกท้อ รวมถึงบนใบหน้าของเฟิงหลินและจู๋หลิน
“เหตุใดท่านแม่ทัพจึงมาที่นี่” จู๋หลินถาม
เฟิงหลินมองท่านแม่ทัพที่สวมเกราะนั่งอยู่บนก้อนหินริมบ่อน้ำ อันที่จริงเขาก็ไม่เข้าใจ ท่านแม่ทัพบอกว่าจะเดินเล่น แต่เดินมาถึงภูเขาดอกท้อ เขาก็เข้าใจเล็กน้อย…
“วันนี้ เกิดเรื่องใหญ่มากขึ้น” เขาพูดเสียงเบา “ท่านแม่ทัพ ต้องการความสงบ”
ความสงบ? จู๋หลินมองริมลำธาร นอกจากเสียงน้ำไหลของลำธารแล้ว ยังมีหญิงสาวอีกคนที่กำลังจัดวางถ้วยชาและเตาเสียงดัง
มาที่นี่สามารถหาความสงบได้หรือ?
“ท่านแม่ทัพ ท่านมาถูกแล้ว” เฉินตันจูพูด “ชาที่ต้มจากน้ำบนภูเขาดอกท้อเป็นชาที่อร่อยที่สุดในเมืองหลวง”
พัดเล็กสะบัดไปมา น้ำบนเตาขนาดเล็กเดือดปุดๆ เฉินตันจูรินชาออกมา ยกให้แม่ทัพหน้ากากเหล็ก
“ท่านแม่ทัพลองชิมดู”
แม่ทัพหน้ากากเหล็กราวกับเพิ่งได้สติ เขาหันมาเหลือบมอง ส่ายหัว “ข้าไม่ดื่ม”
เฉินตันจูมองหน้ากากเหล็กของเขา พยักหน้าอย่างเข้าใจ “ข้ารู้ ท่านแม่ทัพไม่ยอมถอดหน้ากากออก บริเวณนี้ไม่มีผู้อื่น ท่านถอดออกเถิด” นางพูดพลางหันไปมองทิศทางอื่น “ข้าหันจะหน้าไป รับรองว่าไม่ดู”
เสียงของแม่ทัพหน้ากากเหล็กหัวเราะ “ไม่ต้อง ข้าไม่ดื่ม”
เฉินตันจูตอบรับ วางถ้วยชาลงบริเวณข้างตัวเขา “ท่านลองดมกลิ่นชาดูก็ดีเช่นกัน”
แม่ทัพหน้ากากเหล็กก้มหน้ามอง ภายในถ้วยชาสีขาวใส น้ำชาสีเขียวส่งกลิ่นหอมกรุ่นขึ้นมา
“หอมใช่หรือไม่” เฉินตันจูพูด จากนั้นรินชาแก้วแล้วแก้วเล่าไว้ที่ข้างตัวเขา
แม่ทัพหน้ากากเหล็กหัวเราะ พยักหน้า “หอมมาก”
เฉินตันจูเผยยิ้มให้เขา
แม่ทัพหน้ากากเหล็กเบนสายตามองไปยังท่ามกลางป่าไม้ต่อ เคียงคู่ไปกับเสียงลำธาร กลิ่นหอมของชา นอกจากนี้ยังมีเสียงของเฉินตันจู…
“ท่านแม่ทัพ มีเรื่องอันใดใช่หรือไม่” นางถาม “ฝ่าบาทต้องการให้ท่านสืบเรื่องที่องค์ชายสามถูกลอบโจมตีหรือ สืบได้ยากมากหรือ”
แม่ทัพหน้ากากเหล็กพูด “สืบไม่ยาก สืบเรียบร้อยแล้ว”
สืบเรียบร้อยแล้ว? เฉินตันจูขยับเบาะรองนั่งเคลื่อนตัวเข้าใกล้ ถามเสียงเบา “ฝีมือของผู้ใดกัน”
จู๋หลินที่เงี่ยหูฟังอยู่ด้านข้างก็ตกตะลึงอย่างมาก คดีลอบโจมตีองค์ชายสามจบสิ้นแล้ว? เขามองไปยังเฟิงหลิน เรื่องใหญ่เพียงนี้ไม่มีแม้แต่ความเคลื่อนไหว เห็นได้ชัดว่าเรื่องใหญ่มาก…
เมื่อความคิดนี้แล่นผ่าน เสียงของแม่ทัพหน้ากากเหล็กก็ดังขึ้น “องค์ชายห้าและฮองเฮา”
จู๋หลินเกือบสำลักอากาศ เขาอ้าปากกว้าง
ฝีมือขององค์ชายห้าและฮองเฮา เรื่องใหญ่เช่นนี้ ท่านแม่ทัพพูดออกมาเช่นนี้หรือ
เฟิงหลินเห็นท่าทางของจู๋หลิน เขาหัวเราะออกมา อดที่จะยื่นมือบีบปากของจู๋หลินเอาไว้ไม่ได้
สีหน้าของเฉินตันจูตกตะลึงอย่างมาก ก่อนจะกลับคืนสู่ความสงบ พึมพำ “ที่แท้ก็เป็นพวกเขาหรือ”
“พวกเจ้าเข้าร่วมงานเลี้ยงของจวนท่านโหว องค์ชายสามครานั้นก็…” แม่ทัพหน้ากากเหล็กพูด ก่อนจะหยุดลง “มีการวางกลอุบาย”
มีการวางกลอุบายกับแผนการสำเร็จหรือไม่ มีความแตกต่างกัน แต่เฉินตันจูไม่ได้สนใจความแตกต่างของคำที่แม่ทัพหน้ากากเหล็กใช้ นางถอนหายใจ “ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ยอมล้มเลิก นับวันยิ่งใจกล้า”
แม่ทัพหน้ากากเหล็กมองหญิงสาวที่ไม่ตกตะลึงแม้แต่น้อย หากแต่แสดงท่าทีเหมือนรู้อยู่ก่อนหน้านี้ จึงอดถามไม่ได้ “เจ้ารู้อยู่ก่อนแล้ว?”
นางไม่ได้รู้อยู่ก่อนแล้ว ถึงแม้นางจะมีชีวิตมากกว่าพวกเขาครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นองค์ชายสามไม่ได้ถูกลอบโจมตี
แต่สาเหตุที่นางไม่ตกตะลึง เพราะว่าตอนนั้นองค์ชายสามเคยพูดไว้ เขารู้ว่าคนที่ทำร้ายเขาคือผู้ใด
องค์ชายสามเติบโตในพระราชวัง คนที่ทำร้ายเขาจะเป็นผู้ใดไปได้ มีเพียงคนในพระราชวัง แต่คนผู้นั้นไม่ได้รับโทษเสียที ฐานะย่อมไม่ธรรมดา
ตอนนั้นนางได้แสดงออกถึงความกังวล บอกว่าหากคนผู้นั้นทำร้ายเขาครั้งหนึ่งได้ ย่อมทำร้ายเขาต่อไปได้ ดู เป็นจริงเหมือนที่คาดการณ์เอาไว้
“ข้ารู้ที่ใดกัน” เฉินตันจูโบกมือ “เพียงแค่คาดเดาเท่านั้น เฟิงหลินบอกข้าแล้ว การโจมตีเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ไม่ว่าจะเป็นท่านอ๋องฉีหรือว่าขุนนางของแคว้นฉี ล้วนไม่อาจเข้าถึงค่ายทหารได้ แสดงว่าย่อมต้องมีปัญหา ย่อมต้องมีหนอนบ่อนไส้”
พูดถึงตรงนี้นางก็หัวเราะเยาะตนเอง
“ท่านแม่ทัพ เรื่องเช่นนี้ข้าคุ้นเคยยิ่งนัก”
พี่ชายของนางถูกหนอนบ่อนไส้ของหลี่เหลียงฆ่าตาย เดิมทีตระกูลของนางเกือบจะตายในมือของหลี่เหลียง แม่ทัพหน้ากากเหล็กเงียบไปชั่วครู่ สำหรับหญิงสาวแล้ว หัวข้อนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้ายิ่งนัก เขาไม่ได้ถามอีก
แม่ทัพหน้ากากเหล็กไม่ได้ถามต่อ เฉินตันจูโล่งใจเล็กน้อย เรื่องนี้สำหรับนางแล้วไม่แปลก ถึงแม้นางไม่รู้ว่าองค์ชายห้าและฮองเฮาต้องการสังหารองค์ชายสาม แต่รู้ว่าองค์รัชทายาทต้องการสังหารองค์ชายหก บุตรสองคนที่กำเนิดมาจากมารดาคนเดียวกัน ไม่มีทางคนนี้เป็นผู้ชั่วร้ายอีกคนจะเป็นคนบริสุทธิ์
ทั้งสองคนไม่พูดสิ่งใดอีก เสียงลำธารด้านหลังดังอย่างต่อเนื่อง กลิ่นหอมอ่อนๆ ของชาที่วางอยู่ข้างกาย มีความสงบอีกรูปแบบ
“ท่านแม่ทัพ” เฉินตันจูพูด “ท่านอย่าเสียใจ”
แม่ทัพหน้ากากเหล็กมองไปยังนาง เสียงชราหัวเราะ “ข้าเสียใจเรื่องใด”
คนชราก็หลอกคนเป็น ความโศกเศร้าหลั่งไหลออกมาจากหน้ากากเหล็กแล้ว เฉินตันจูพูดเสียงเบา “ท่านแม่ทัพมุ่งมั่นในการทำเพื่อความสงบของแผ่นดิน ออกรบเป็นเวลานานหลายปี ทหารและราษฎรทั้งตายทั้งบาดเจ็บนับไม่ถ้วน กว่าจะแลกเปลี่ยนมาได้ซึ่งความสงบ แต่กลับต้องเห็นเหล่าองค์ชายทำร้ายกันเอง ภายในใจของฮ่องเต้เศร้าโศก ภายในใจของท่านก็เศร้าโศกอย่างมาก”
แม่ทัพหน้ากากเหล็กพูด “เรื่องแบบนี้ ข้าเคยเห็นตั้งแต่จักรพรรดิองค์ก่อนจนถึงบัดนี้ เคยเห็นเหล่าท่านอ๋องต่อต้านจักรพรรดิองค์ก่อนอย่างไร อีกทั้งเคยเห็นเหล่าบุตรหลานของเหล่าท่านอ๋องแย่งชิงกันอย่างไร ไม่มีเรื่องน่าเสียใจมากมายเพียงนั้น เจ้าเป็นเด็กอาจไม่รู้ พวกข้าที่เป็นคนชราไม่มีอารมณ์เศร้าโศกมากมายเพียงนั้น”
เฉินตันจูหัวเราะ “ท่านแม่ทัพ ท่านตั้งใจที่จะขัดข้าใช่หรือไม่ เพราะว่าข้าเคยพูดประโยคนั้นกับท่าน เรื่องของเด็กท่านไม่เข้าใจ?”
เรื่องนี้ นางยังจำได้หรือ ตอนนั้นนางทุ่มเททั้งใจไว้บนตัวขององค์ชายสาม สิ่งที่พูดเรื่องที่ทำล้วนคลุมเครือ แม่ทัพหน้ากากเหล็กยิ้ม “ข้าไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนเจ้า”
เฉินตันจูหัวเราะ “ข้าไม่เชื่อ ท่านแม่ทัพจำได้อย่างเห็นได้ชัด”
แม่ทัพหน้ากากเหล็กหัวเราะ เพียงแต่ตอนที่เขาไม่เปล่งเสียงออกมา หน้ากากเหล็กปิดบังทุกสีหน้า ไม่ว่าเสียใจหรือว่าหัวเราะ
“ถึงแม้ ท่านแม่ทัพเคยเห็นความชั่วร้ายบนโลกมากมาย” เฉินตันจูพูดเสียงเบา “แต่ความชั่วร้ายในแต่ละครั้งยังคงทำให้คนรู้สึกเสียใจ”
แม่ทัพหน้ากากเหล็กเงียบ ก่อนจะยื่นมือยกชาแก้วหนึ่งขึ้นมา เขาไม่ได้เปิดหน้ากากขึ้น หากแต่วางไว้บริเวณจมูก ดมกลิ่นเบาๆ
เนื่องจากก้มหน้า ทำให้ผมสีขาวบางส่วนของเขาสยายลงมาปกคลุมที่นิ้วที่แห้งเหี่ยวของเขา
เฉินตันจูรู้สึกเศร้าโศกอย่างประหลาดกับภาพตรงหน้า นางเบนหน้าหนี เห็นแสงสีทองที่สาดส่องท่ามกลางป่าไม้หายไป ดวงอาทิตย์ลับลงเขาไป ความมืดค่อยๆ ปกคลุมเข้ามา
แม่ทัพหน้ากากเหล็กลุกขึ้น “ข้าควรไปแล้ว”
เฉินตันจูลุกขึ้นคำนับ “ขอบคุณท่านแม่ทัพที่มาบอกเรื่องลับนี้แก่ตันจู”
แม่ทัพหน้ากากเหล็กพูด “เรื่องนี้ฝ่าบาทไม่ประกาศต่อแผ่นดิน ลงโทษองค์ชายห้าด้วยความผิดอื่น แต่เจ้ารู้ในใจก็เพียงพอ”
เฉินตันจูตอบรับ
รถคันใหญ่เคลื่อนตัวจากไปท่ามกลางเหล่าทหารภายใต้ความมืด ไม่นานนักก็ไม่อาจมองเห็นเมื่อยืนอยู่บนทางเดินบนเขา
อาเถียนโล่งใจ “เอาเถิด คุณหนู พวกเรากลับกันเถิด ท่านแม่ทัพพูดเรื่องใดบ้างเจ้าคะ”
เฉินตันจูพูด “บอกว่าพบตัวผู้ร้ายที่ลอบโจมตีองค์ชายสามแล้ว”
อาเถียนปรบมืออย่างดีใจ “ดีเสียจริง!”
ใช่ ดีเสียจริง เฉินตันจูคิดในใจ เวลานี้องค์ชายสามกำลังดีใจหรือเสียใจกัน ผู้ร้ายนี้ถูกจับและลงโทษในที่สุด หลังจากที่เขาเกือบต้องแลกด้วยชีวิตสามสี่ครั้ง