รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 319 โลงศพเต็มไปด้วยน้ำสีดำน่าขนลุก ไม่น่าใช่ศพกระมัง??

บทที่ 319 โลงศพเต็มไปด้วยน้ำสีดำน่าขนลุก ไม่น่าใช่ศพกระมัง??

บทที่ 319 โลงศพเต็มไปด้วยน้ำสีดำน่าขนลุก ไม่น่าใช่ศพกระมัง??

ภาพตรงหน้าคือสุสานโบราณอันหรูหรางดงาม และกลางสุสานแห่งนี้กว้างใหญ่กว่าสุสานตรงอื่น

เห็นได้ชัดสุสานโบราณแห่งนี้เก่ามาก ทั้งยังมีร่องรอยตามกาลเวลา

หากมองดี ๆ ย่อมรู้ว่า สุสานโบราณแห่งนี้มิใช่สุสานโบราณธรรมดา

อีกอย่าง สุสานโบราณแห่งนี้ยังมีจังหวะแห่งเต๋าที่อธิบายไม่ได้ วัสดุที่ใช้สร้างสุสานโบราณแห่งนี้ก็ผิดปกติอย่างยิ่ง

ไม่เช่นนั้น คงเป็นไปไม่ได้ที่จะยังคงเหลือจังหวะแห่งเต๋าเช่นนี้อยู่

แม้จักรพรรดิบุปผาจะไร้ยางอาย แต่ที่ต้องยอมรับก็คือจักรพรรดิบุปผานั้นน่าทึ่ง ไม่ธรรมดาจริง ๆ ประสบความสำเร็จมากมายเหนือกว่ามหาจักรพรรดิคนอื่นในสมัยโบราณยิ่ง

นับว่าเก่งฉกาจมิน้อย!

เฉกเช่นที่สตรีในชุดพระราชวังว่าไว้ในตอนนั้น จักรพรรดิบุปผาอยากทะลวงขอบเขตเหนือมหาจักรพรรดิไปอีก แต่ทว่าถูกกระดูกจักรพรรดิของเสี่ยวหยาพันธนาการเอาไว้ สุดท้ายก็ไม่สามารถหลีกหนีมันได้

ท้ายที่สุด จักรพรรดิบุปผาขุดกระดูกจักรพรรดิของเสี่ยวหยาออกจากร่างกายตนเองทั้งเป็นและทิ้งไว้ในหุบเขาคงหลิง

หลังจากจักรพรรดิบุปผาขุดกระดูกจักรพรรดิเสี่ยวหยาออกแล้วก็ออกเดินทาง เป็นไปได้ว่าน่าจะก้าวผ่านขอบเขตมหาจักรพรรดิไปแล้ว!

ช่วงเวลานั้นเป็นยุครุ่งโรจน์ครั้งที่สองของจักรพรรดิบุปผารุ่งโรจน์เสียยิ่งกว่าตอนที่เขามีกระดูกจักรพรรดิเสียอีก!

จักรพรรดิบุปผาเคยกล่าวไว้ว่าแม้นางไม่มีกระดูกจักรพรรดิ แต่นางก็ยังคงเป็นคนสำคัญของโลกใบนี้ นางสามารถอยู่เหนือผู้คน แสวงหาความเป็นเซียนชั่วนิรันดร์!

ในเวลานั้น จักรพรรดิบุปผาไม่มีใครเทียบได้และเหนือกว่าปราชญ์คนก่อน ๆ ในหุบเขาคงหลิง ผู้ฝึกตนทุกคนต่างเชื่อว่าจักรพรรดิบุปผาจะสามารถบรรลุเป็นเซียนได้!

เพียงแต่จักรพรรดิบุปผาในตอนนั้นยัง ‘อ่อนเยาว์’ มาก มีอายุขัยยืนยาว

ต่อมา จักรพรรดิบุปผาก็ทำให้ผู้คนตกตะลึง ทะลวงขอบเขตสูงเหนือกว่ามหาจักรพรรดิในระดับเดียวกันนั้นไร้คู่ต่อกรยากจะหยุดพลังนาง

จักรพรรดิบุปผายิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้นว่า จะกลายเป็นเซียนในภายภาคหน้า

ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปจักรพรรดิบุปผาค่อย ๆ สูญเสียความสามารถและความเปล่งประกาย ไม่สามารถกลายเป็นเซียน พอใกล้สิ้นอายุขัยก็กลับมาที่หุบเขาคงหลิง

ในปีต่อมาจักรพรรดิบุปผาสูญเสียความเชื่อและความทะเยอทะยานทั้งหมด ไม่ทำอะไรเลย อยู่แต่ในหุบเขาคงหลิงเพื่อรอวันตาย

ปราชญ์แห่งหุบเขาคงหลิงเคยชวนให้จักรพรรดิบุปผาลองวางวงจรของสังสารวัฏ แต่จักรพรรดิบุปผาปฏิเสธ นางบอกว่าตนไม่ต้องการทำสิ่งใด เพียงต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในหุบเขาคงหลิงเท่านั้น

ในท้ายที่สุด จักรพรรดิบุปผามอดม้วย ปราชญ์แห่งหุบเขาคงหลิงได้ฝังศพจักรพรรดิบุปผาอย่างทรงเกียรติ และสร้างสุสานอันงดงามหรูหราให้กับจักรพรรดิบุปผาที่พวกนางชื่นชม ทั้งยังเคารพจักรพรรดิบุปผาเป็นอย่างยิ่ง

“นางสมควรได้รับคำชื่นชม ได้รับความเคารพอย่างนั้นหรือ? นางเป็นแค่หัวขโมย ไม่ว่าในภายหลังนางจะเก่งกาจเพียงใด มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่านางเป็นหัวขโมยได้ ทุกอย่างที่นางได้มาล้วนแต่ขโมยมาจากคนอื่นทั้งสิ้น!”

ดวงตาของหลิงอินแฝงความเย็นชา คลื่นพลังทั่วสารทิศโหมกระหน่ำ นางอยากจะทำลายสุสานโบราณแห่งนี้!

อย่างที่นางกล่าวไป จักรพรรดิบุปผาเป็นหัวขโมย ทุกอย่างที่ได้มา ล้วนมาจากการทำร้ายเสี่ยวหยา!

หากเสี่ยวหยาไม่ถูกจักรพรรดิบุปผาทรมานบีบคั้น เสี่ยวหยาจะไม่แข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิบุปผาหรือ?

ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดใจ!

ด้านหลัง จ้าวหุบเขากับผู้อาวุโสทุกคนไม่กล้าพูด ไม่มีใครกล้าก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุด

ผู้ใดจะกล้าหยุด?

หากไปหยุด นั่นแสดงว่าจะต้องเผชิญกับความตายอย่างมิต้องสงสัย!

ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

สุสานโบราณเปิดออกเผยให้เห็นโลงศพที่อยู่ภายใน

มันเป็นโลงศพขนาดใหญ่ สีน้ำเงินจนเกือบดำ ทำจากวัสดุล้ำค่า ซ้ำยังดูโบราณเก่าแก่ สัมผัสวิญญาณสูงสุดของหลิงอินถูกปิดกั้น ไม่สามารถตรวจสอบข้างในได้

ตามที่สตรีชุดพระราชวังกล่าวไว้ นี่เป็นโลงศพที่จักรพรรดิบุปผานำกลับมาเอง ไม่ใช่โลงศพที่หุบเขาคงหลิงเตรียมให้จักรพรรดิบุปผา

หลิงอินขมวดคิ้วเล็กน้อย นางรู้สึกถึงความผันผวนของพลังอันน่าสะพรึงกลัวบนโลงศพ คนนอกยากจะเปิดโลงศพได้

แต่ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับนาง

นางเรียกฉินเฟิ่งหมิงออกมา ดีดสายฉินหยิบยืมพลังฉินเฟิ่งหมิงมาเปิดโลงศพ

พลังในโลงศพนั้นน่าตกใจอย่างยิ่ง หากนางไม่มีฉินเฟิ่งหมิงอยู่ในมือ นางคงไม่สามารถเปิดโลงศพได้

จากการคาดเดาของนาง อย่างน้อยต้องใช้มหาจักรพรรดิสักคนถึงจะสามารถเปิดโลงศพได้

ฝาโลงศพถูกเปิดออก หลิงอินมองเข้าไปข้างใน

จ้าวหุบเขากับผู้อาวุโสกลุ่มหนึ่งก็ชะเง้อศีรษะเข้าไปมองข้างในเช่นกัน

“นี่มันอะไร!”

“นี่มัน…!”

จ้าวหุบเขากับผู้อาวุโสที่ชะเง้อเข้าไปมองด้านใน จู่ ๆ หนังศีรษะของพวกนางก็ชาหนึบในบัดดล ใบหน้าเต็มไปด้วยความขยะแขยง ก่อนจะรีบปิดจมูกทันที

กลิ่นเหม็นและน่าขยะแขยงลอยออกมาจากโลงศพ เหม็นจนทำให้ผู้คนรีบปิดปากรีบปิดจมูกแทบไม่ทัน!

แม้จะปิดจมูกก็ไม่ได้ผล กลิ่นเหม็นอันน่าขยะแขยงนี้กระทบกับวิญญาณ จ้าวหุบเขากับผู้อาวุโสทุกคนทนไม่ไหว อาเจียนกันออกมาอย่างหนัก

หลิงอินขมวดคิ้วมุ่น แม้นางจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบเหมือนจ้าวหุบเขากับผู้อาวุโส

วิญญาณกับหัวใจเต๋าของนางแข็งแกร่งมาก กลิ่นเหม็นอันน่าขยะแขยงนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนางมากนัก

ภายในโลงศพเต็มไปด้วยน้ำสีดำสกปรกแปลกประหลาด ซ้ำยังส่งกลิ่นเหม็นอันน่าขยะแขยง!

“นี่มันเป็นน้ำสีดำประหลาดอันใดกัน น่ารังเกียจยิ่งนัก!”

รูม่านตาของหลิงอินหดตัว บนใบหน้าแสดงอาการตกใจ

น้ำสีดำนั้นมีสีดำราวกับหมึก ทำให้ไม่สามารถมองทะลุถึงสิ่งที่อยู่ภายในได้ แม้หลิงอินจะใช้ดวงตาทิพย์ แต่นางก็ไม่สามารถมองผ่านน้ำสีดำได้

นางเปิดสัมผัสสัมผัสวิญญาณสูงสุด หยิบยืมสัมผัสวิญญาณสูงสุดมาสำรวจสิ่งที่อยู่ในน้ำสีดำ

เพียงแต่เมื่อเปิดสัมผัสสัมผัสวิญญาณสูงสุด นางกลับรู้สึกได้ถึงพลังอันแปลกประหลาดซึ่งน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง หากนางตอบสนองช้าเล็กน้อย ถอนสัมผัสสัมผัสวิญญาณสูงสุดไม่ทัน สัมผัสวิญญาณสูงสุดของนางจะต้องถูกพลังอันแปลกประหลาดน่าสะพรึงกลัวนี้ครอบงำและดูดกลืนพลังอย่างแน่นอน!

จนถึงตอนนี้นางยังตื่นตระหนก นางไม่เคยเจอพลังประหลาดน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อน!

โครม! โครม!

ตอนนี้เอง โลงศพพลันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง น้ำสีดำภายในเดือดราวกับน้ำต้มก่อนจะทะลักออกมาทั่วสารทิศ!

“เอ๊ะ!?”

“ไม่น่าจะใช่ศพแล้ว!”

จ้าวหุบเขากับผู้อาวุโสตกตะลึงกับฉากตรงหน้า แผ่นหลังของพวกนางเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเยียบเย็นตั้งแต่เท้าจรดศีรษะ!

ร่างกายของพวกนางสั่นสะท้าน อดไม่ได้ที่จะถอยหลังกลับไป

หากศพเกิดเปลี่ยนแปลงขึ้นมาจริง นี่จะต้องเป็นหายนะครั้งใหญ่อย่างแน่นอน!

จักรพรรดิบุปผามีพลังเหนือกว่ามหาจักรพรรดิทั่วไปอยู่มาก หากนางกลายเป็นผีดิบจริง ๆ ผู้ใดจะสามารถหยุดยั้งจักรพรรดิบุปผาได้กัน!?

พวกนางหวาดกลัว ภาวนาขออย่าให้ศพของจักรพรรดิบุปผากลายเป็นผีดิบเลย!

ไม่เช่นนั้น ไม่เพียงแต่หุบเขาคงหลิงเท่านั้นที่จะยากลำบาก แต่ทั้งอาณาจักรคงจะต้องลำบากไปด้วยกันแล้ว!

“ไสหัวออกไป ให้ข้าดูว่านี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น!”

หลิงอินตะโกนอย่างเย็นชา ไร้ความหวั่นกลัวแม้แต่น้อย

นางหวังว่านี่เป็นศพของจักรพรรดิบุปผา ไม่ใช่คนอื่น!

มีฉินเฟิ่งหมิงอยู่ในมือ นางไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!

สิ่งที่นางอยากเห็นที่สุดคือ ศพของจักรพรรดิบุปผา!

โครม!

โลงศพสั่นสะเทือนมากยิ่งขึ้น น้ำสีดำข้นคลั่กที่อยู่ภายในก็ยิ่งเดือดพล่านมากขึ้น พลังอันน่าสะพรึงกลัวของบางอย่างเคลื่อนไหวออกมาจากโลงศพ แม้แต่ฟ้าดินยังแปรเปลี่ยนเป็นอึมครึม เมฆหมอกทมิฬ

ปกคลุมดารา ผืนพสุธาเริ่มมืดมนก่อนจะกลายเป็นมืดสลัวแทบมองอะไรไม่เห็น!

ดูเหมือนว่ามีบางอย่างกำลังจะออกมาจากโลงศพจริง ๆ!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท