ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 330 กลับมาพบหน้า(ต้น)

ตอนที่ 330 กลับมาพบหน้า(ต้น)

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ

นาง​คิด​ไว้​ว่า​ ​การ​ไป​จัง​ชิว​ครั้งนี้​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จะ​ใช้เวลา​ประมาณ​สิบ​วัน​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​มี​วิธี​รีบ​กลับมา​ ​แต่​เช่นนั้น​ก็​ควร​เป็น​ตอนเย็น​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เขา​จะ​มาถึง​ตอนบ่าย

แต่​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​กลับดี​ใจมาก​ ​“​พูดถึง​โจโฉ​ ​โจโฉ​ก็​มา​พอดี​ ​ช่าง​บังเอิญ​จริงๆ​!​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​จะ​รอ​ข่าวดี​จาก​เจ้า​”

ทันทีที่​นาง​พูด​จบ​ ​ก็ได้​ยิน​เสียงดัง​ขึ้น​จาก​นอก​ประตู​ฉุยฮ​วา​

พวก​นาง​สอง​คน​มองออก​ไป​ที่​ประตู​อย่าง​พร้อมเพรียงกัน

เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​สวม​ชุด​สีน้ำเงิน​เก่าๆ​ ​ขี่ม้า​รูปงาม​มา​หยุด​อยู่​หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​ข้างหลัง​เขา​มี​รถม้า​หรูหรา​ที่​มี​หลังคา​เป็น​กระจก​หลาก​สีสัน​และ​ผ้าม่าน​สีเขียว​ ​แล้วยัง​มี​รถ​เกวียน​ขน​หีบ​อีก​หนึ่ง​คัน

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

จอด​รถม้า​ไว้หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​แน่นอน​ว่า​ต้อง​เป็น​สตรี​ ​แต่​สกุล​ใหญ่​สกุล​โตนั​้​นมี​พิธีรีตอง​และ​เข้มงวด​ ​พวกเขา​ไม่มีทาง​ใช้​รถม้า​ที่​สะดุดตา​โดดเด่น​อย่างนี้​ ​เช่นนั้น​คนที​่​อยู่​ใน​รถ​คือ​…

นาง​เลิก​คิ้ว​ ​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลง​จาก​หลัง​ม้า

“​สือ​อี​เหนียง​…​”​ ​เขา​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​กำลังจะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​แต่​หันหน้า​มาก​็​เห็น​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​อยู่​ข้างๆ​ ​จึง​ถาม​ด้วย​ความแปลกใจ​ ​“​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​?​”

“​ท่าน​โหวก​ลับ​มา​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ย่อเข่า​คำนับ​เขา​ ​“​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​มาร​่วม​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ของ​ข้าเจ้า​ค่ะ​”

สายตา​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ที่​กำลัง​มอง​รถม้า​หรูหรา​คัน​นั้น​ก็​หันมา​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ก่อนที่จะ​รีบ​อธิบาย​ ​“​ข้า​กำลังจะ​กลับ​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​หันมา​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​สาย​มาก​แล้ว​ ​เจ้า​ยุ่ง​มาทั​้ง​วัน​ ​วัน​อื่น​ข้า​ค่อย​มา​เยี่ยม​เจ้า​ใหม่​”​ ​ย่อเข่า​คำนับ​ ​เอ่ย​ขอตัว​ลาส​วีลิ​่​งอี​๋​และ​สือ​อี​เหนียง

รถม้า​ของ​สกุล​หลิน​รอ​อยู่​ข้างๆ​ ​อยู่​แล้ว​ ​ท่าน​ป้า​ที่​ติดตาม​มาก​็​รีบ​วาง​บันได​ให้​นาง​

“​สือ​อี​เหนียง​”​ ​มี​คน​เรียกชื่อ​นาง

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​และ​สือ​อี​เหนียง​หันไป​มอง​ด้วย​ความตกใจ​ ​ก็​เห็น​ม่าน​รถ​ที่​หรูหรา​ที่​จอด​อยู่​ข้างหลัง​ขยับ​ ​เผย​ให้​เห็น​ใบหน้า​ที่​สวยงาม​ของ​ผู้หญิง​คน​หนึ่ง

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​พลัน​ตกอกตกใจ​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​กลับ​ตะโกนเรียก​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ​“​พี่​หญิง​เจ็ด​”

ท่าน​ป้า​ที่​ติดตาม​มา​เปิดม่าน​รถม้า​ออก​ ​สตรีที​่​สวม​เสื้อผ้า​งดงาม​ที่อยู่​ใน​รถม้า​ก็​ปิดปาก​ยิ้ม​ ​“​เจ้า​ไม่​ตกใจ​หรือ​”

ซุกซน​แบบนี้​ ​ไม่ใช่​ชี​เหนียง​ที่​แต่งงาน​ไป​อยู่​ที่​ซาน​ตง​แล้ว​จะ​เป็น​ใคร​เล่า

สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่นา​งอย​่า​งกลืน​ไม่​เข้า​คาย​ไม่​ออก

“​เจ้า​ไม่รู้​หรอก​ว่า​มัน​บังเอิญ​แค่ไหน​”​ ​ป้า​รับใช้​ประคอง​นาง​ลงมา​จาก​รถม้า​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​โหว​รีบ​กลับมา​ ​แต่​ม้า​กลับ​หมดแรง​กลางคัน​ ​เห็น​ว่า​ม้า​ที่​ลาก​รถ​ให้​ข้า​เป็น​ม้า​ดี​ ​เขา​จะ​ซื้อ​ให้​ได้​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​เรา​คงจะ​ไม่ได้​เจอกัน​”

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มอง​ไป​ทาง​สวี​ลิ่ง​อี๋

เมื่อ​ครู่​ไม่ได้ตั้งใจ​ดู​ ​ตอนนี้​ดูแล​้ว​ ​ถึงแม้​เขา​จะ​อกผาย​ไหล่​ผึ่ง​ ​สายตา​เป็นประกาย​ ​แต่​ใบหน้า​ของ​เขา​กลับ​เต็มไปด้วย​ฝุ่นผง​ ​สีหน้า​ดู​เหนื่อยล้า​อ่อนแรง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยก​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​เขา​พูด​สั้น​ๆ​ ​“​ตอนนั้น​ไม่มี​ร้าน​อะไร​”

ชี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​ ​“​ข้า​จึง​มา​เยี่ยม​เจ้า​กับ​ท่าน​โหว​”

จะ​ซื้อ​ม้า​ลาก​รถ​ของ​คนอื่น​ ​แล้วยัง​จะ​ซื้อ​ให้​ได้​…​แค่​ฟัง​ก็​รู้​ว่า​ต้อง​มีเรื่อง​อะไร​แน่นอน​ ​สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ที่​ยัง​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​นาง​จึง​ไม่​ซักถาม​อะไร​มาก​ ​แนะนำ​ชี​เหนียง​ให้​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​รู้จัก​ ​“​นี่​คือ​พี่​หญิง​ที่​แต่งงาน​ออก​ไป​อยู่​ซาน​ตง​ของ​ข้าเจ้า​ค่ะ​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​นึกถึง​เรื่อง​ที่​ตัวเอง​คาดเดา​เมื่อ​ครู่​…​นาง​แอบ​ยิ้ม​ใน​ใจ​ ​จากนั้น​ก็​คำนับ​ชี​เหนียง​ ​พูดคุย​กัน​สอง​สาม​ประโยค​แล้ว​นั่ง​รถม้า​กลับ​จวน

หู่​พั่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​เดิน​เข้ามา​คำนับ​ชี​เหนียง

ชี​เหนียง​มอบ​เงิน​หนึ่ง​ตำลึง​เป็น​รางวัล​ให้​พวก​นาง

หลังจากนั้น​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ต้อนรับ​ชี​เหนียง​เข้าไป​ใน​ประตู​ฉุยฮ​วา

สวี​ลิ่ง​อี๋​พลัน​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​ไป​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ ​พวก​เจ้า​สอง​พี่น้อง​พูดคุย​กัน​เถิด​”

เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​ส่ง​สวี​ลิ่ง​อี๋​จากไป​แล้ว​ ​ก็​ขึ้นรถ​ลาก​ไป​กับ​ชี​เหนียง​

“​เหตุใด​ท่าน​ถึง​กลับมา​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ ​แล้วยัง​นั่ง​รถม้า​แบบนี้​?​”

ชี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​ ​“​นี่​คือ​รถม้า​ของ​สกุล​จู​ ​ทรุดโทรม​ที่สุด​แล้ว​”

สือ​อี​เหนียง​พูดไม่ออก​ ​นั่งลง​บน​รถลาก​กับ​นาง

แต่​นาง​ขยับตัว​เข้ามา​ประชิดตัว​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เจ้า​ช่วย​บอก​ให้ท่าน​โหว​ช่วย​ข้า​ขาย​รถม้า​คัน​นั้น​ที​เถิด​ ​เปลี่ยนเป็น​รถม้า​หลังคา​สีดำ​เรียบๆ​ ​ก็​พอ​ ​ตั้งแต่​ข้า​เดินทาง​มา​ไม่กล้า​แม้แต่​จะ​โผล่​หน้า​ออก​ไป​ด้านนอก​ ​กลัว​คนอื่น​จะ​คิด​ว่า​ข้า​เป็น​เศรษฐี​ร่ำรวย​”

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​ ​“​ข้า​นำ​รถม้า​ออกมา​ให้ท่าน​ใช้​ก็ได้​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ขาย​ทิ้ง​”

“​ดี​เลย​ ​ดี​เลย​”​ ​ชี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็ดี​อก​ดีใจ​ ​“​เช่นนั้น​รถ​คัน​นี้​ข้าม​อบ​ให้​เจ้า​”

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​ ​“​ข้า​จะ​เอา​รถม้า​คัน​นี้​ของ​พี่​หญิง​ไป​ทำ​อะไร​เล่า​”​ ​พลัน​นึกถึง​เรือน​ที่​ตรอก​เหล่าจ​วิน​ถัง​ที่​ท่าน​อา​สอง​อาศัย​อยู่​นั้น​ไม่ได้​ใหญ่โต​กว้างขวาง​อะไร​ ​ไม่มี​ที่​ให้​จอด​รถม้า​ ​“​รถม้า​ของ​ท่าน​จอด​ไว้​ที่​จวน​ข้า​ก่อน​ก็ได้​ ​เมื่อ​ท่าน​จะ​กลับ​เกา​ชิง​แล้ว​ค่อย​มา​เอา​กลับ​ไป​”

ชี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ ​สายตา​ก็​หม่นหมอง​ลง​ ​“​ข้า​ไม่​กลับ​ไป​เกา​ชิง​แล้ว​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​หดหู่​และ​เดียวดาย

“​เกิด​อะไร​ขึ้น​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จับมือ​นาง​ไว้​แน่น

ชี​เหนียง​น้ำตา​รื้น​ ​“​จู​อาน​ผิง​ ​ไอ้​สารเลว​คน​นั้น​ ​เขา​…​เขา​รังแก​ข้า​”

สือ​อี​เหนียง​สับสน​ ​นาง​กำลังจะ​ซักถาม​ ​แต่​รถลาก​ก็​จอด​พอดี

นาง​ครุ่นคิด​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ป้า​รับใช้​ที่​ลาก​รถ​ ​“​ไป​ที่​เรือน​ของ​ข้า​ก่อน​ ​ให้​คุณหนู​เจ็ด​ไป​ล้างหน้าล้างตา​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ไป​คำนับ​ไท่ฮู​หยิน​”

ท่าน​ป้า​ลาก​รถ​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​รถลาก​ก็​ค่อยๆ​ ​เคลื่อนตัว​ไป​ยัง​สวนดอกไม้

สือ​อี​เหนียง​นั่งลง​ ​ชี​เหนียง​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ขึ้น​มาซั​บน​้ำ​ตา

นาง​ไม่ได้​ถาม​อะไร​ ​แค่​จับ​ไหล่​ชี​เหนียง​เบา​ๆ

ชี​เหนียง​พิง​ไหล่​นางร้องไห้

ท่ามกลาง​เสียง​ล้อรถ​ลาก​ ​สือ​อี​เหนียง​คอย​ตบหลัง​นาง​ปลอบประโลม​เบา​ๆ

ผ่าน​ไป​สักพัก​ ​ชี​เหนียง​ก็​ค่อยๆ​ ​หยุด​ร้องไห้

“​ข้า​พามู​่ฝู​และ​ท่าน​ป้า​สอง​คน​มาด​้วย​”​ ​นาง​สะอื้น​ ​“​เจ้า​ต้องหา​สาวใช้​และ​ท่าน​ป้า​มารับ​ใช้​ข้า​เพิ่ม​!​”

ยัง​รู้จัก​มี​ข้อต่อรอง​เหล่านี้​ ​ดูเหมือนว่า​สภาพ​จิตใจ​ของ​นาง​คง​ไม่ได้​ย่ำแย่​ขนาด​นั้น

แต่ว่า​ ​ฟัง​จาก​ที่นาง​พูด​ ​นาง​ยัง​ไม่ได้​กลับ​ไป​ที่​ตรอก​เหล่าจ​วิน​ถัง​…

“​ได้​เลย​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​ท่าน​มีเงิน​พอใช้​หรือไม่​ ​หาก​ไม่พอ​ ​ประเดี๋ยว​ให้​มู่ฝู​ไป​เอา​เงิน​ที่​หู่​พั่ว​”

“​ข้า​ไป​หยิบ​ตั๋วเงิน​มาจาก​ห้อง​หนังสือ​ของ​เขา​กอง​หนึ่ง​ ​แล้วยัง​ไป​หยิบ​ทองคำ​ให้​ห้องเก็บของ​มาถุง​หนึ่ง​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

“​เขา​คง​ไม่​ทาง​คิด​ว่า​ข้า​หยิบ​ตั๋วเงิน​มา​แน่นอน​”​ ​ชี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​“​คงจะ​ตามหา​ข้า​บริเวณ​ใกล้​ๆ​ ​เกา​ชิง​”​ ​นาง​ยิ้ม​อย่าง​พอ​อก​พอใจ​ ​“​คง​คิดไม่ถึง​ว่า​ข้า​กลับมา​เยี​่​ยน​จิง​”​ ​จากนั้น​ก็​จับ​เสื้อ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เจ้า​ห้าม​บอก​พี่ใหญ่​เชียว​นะ​ ​หาก​พี่​หญิง​สี่​และ​พี่​สาม​รู้​ว่า​ข้า​กลับมา​เยี​่​ยน​จิง​ ​พวกเขา​ต้อง​บอก​ท่าน​แม่​แน่นอน​ ​จู​อาน​ผิง​หา​ข้า​ไม่​เจอ​ ​เขา​ก็​จะ​ไป​ถาม​ท่าน​แม่​ ​ถึง​ตอนนั้น​ ​เขา​จะ​มาตา​มหา​ข้า​ที่​เยี​่​ยน​จิง​แน่นอน​”

แผนการ​มากมาย​ขนาด​นี้​…​สือ​อี​เหนียง​พลัน​ตระหนัก​ขึ้น​ได้​ว่าความ​เป็นห่วง​ของ​ตัวเอง​นั้น​คือ​ส่วนเกิน​!

“​ข้า​รู้​แล้ว​”​ ​นาง​ยิ้ม​ ​“​แล้ว​มีแผน​การ​เช่นไร​ต่อไป​!​”

“​ไป​อยู่​ที่​จวน​ของ​เจ้า​สัก​สอง​สาม​วัน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​”​ ​ชี​เหนียง​พูด​โดย​ไม่​คิด​ ​“​ในเมื่อ​ข้า​กลับมา​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ ​ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​ไป​กิน​ไส้กรอก​ข้าว​ที่​วัดฮู​่กั​๋ว​ ​ไป​ซื้อ​น้ำแกง​ที่​ร้าน​ขาย​น้ำแกง​ซิ่ง​เห​ริน​ตรง​ถนน​ซี​ต้า​ ​แล้วยัง​มี​หวี​เขา​ควาย​ของ​ร้าน​อวี​๋๋​จี้​ ​ต้อง​นำ​กลับ​ไป​สัก​สอง​สาม​ชิ้น​…​”

บอกว่า​จะ​ไม่​กลับ​เกา​ชิง​ไม่ใช่​หรือ​ ​แล้ว​จะ​นำ​หวี​เขา​ควาย​ของ​อวี​๋๋​จี้​กลับ​ไป​ที่ไหน​กัน

สือ​อี​เหนียง​แอบ​หัวเราะ

โชคดี​ที่​รถลาก​จอด​พอดี​ ​ขัดจังหวะ​คำพูด​ของ​ชี​เหนียง

เข้าไป​ที่​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กำลังจะ​พาส​วี​ซื่อ​เจี​้ย​ไป​เล่น​ขว้าง​ถุง​ทราย​ ​ทันทีที่​เห็น​ชี​เหนียง​ก็​ตกใจ

สือ​อี​เหนียง​แนะนำ​ให้​พวก​นาง​รู้จัก​กัน​

ชี​เหนียง​ถอด​กำไล​หยก​บน​ข้อมือ​มอบให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​ของขวัญ​ ​มอบ​เหรียญ​สิบ​ตำลึง​เป็น​ของขวัญ​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​ดูออก​ว่านาง​ไม่ได้​วางแผน​เอาไว้​ล่วงหน้า

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​สงสัย​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ระหว่างทาง​ ​หรือ​ชี​เหนียง​มาที​่​เยี​่​ยน​จิง​เพราะอะไร​กัน​แน่​ ​หรือ​เพียง​เพราะว่า​เจอ​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ระหว่างทาง​โดยบังเอิญ​?​

นาง​บอก​ให้​หู่​พั่ว​ช่วย​มู่ฝู​รับใช้​ชี​เหนียง​อาบน้ำ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​ส่วนตัว​เอง​ออก​ไป​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​

สวี​ลิ่ง​อี๋​เปลี่ยนเป็น​สวม​เสื้อ​สีเขียว​ ​กำลัง​นั่ง​พูดคุย​บางอย่าง​กับ​หลิน​ปัว​อยู่​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ด้วย​ท่าทาง​ที่​เคร่งขรึม​ ​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​ดู​อึดอัด​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ ​เขา​ก็​หยุด​พูด​ทันที​ ​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​นาง​ว่า​ ​“​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​วันนี้​ใคร​เป็น​แขก​หลัก​”

หลิน​ปัว​รีบ​ขอตัว​ออก​ไป

“​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​เจ้าภาพ​คือ​กานฮู​หยิน​ ​ส่วน​น้อง​สะใภ้​ห้า​เป็น​ผู้ช่วย​”​ ​จากนั้น​ก็​ชี้​ไป​ที่​ปิ่นปักผม​หยก​หยาง​จือ​อวี​้​บน​หัว​ ​“​ฮองเฮา​ทรง​ประทาน​ให้​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ประหลาดใจ

“​ท่าน​แม่​เป็น​คน​จัดการ​ทุกอย่าง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ด้วย​ความ​ซาบซึ้ง​ ​“​เชิญ​แต่​ญาติสนิท​มิตรสหาย​มา​ ​ยิ่งใหญ่​เป็นอย่างมาก​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​จ้องมอง​นาง​ด้วย​สายตา​ที่​อ่อนโยน

“​ทำไม​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เดิน​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​ตรงข้าม​เขา

“​ไม่มี​อะไร​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้มแย้ม​ ​“​ท่าน​แม่​ชอบ​เจ้า​มาก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​“​ข้า​ก็​ชอบ​ท่าน​แม่​เช่นกัน​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​ลูบ​หัว​นาง​เบา​ๆ

สือ​อี​เหนียง​ไม่​ชอบ​พฤติกรรม​เช่นนี้​ ​จึง​ขยับตัว​หนี​ไป​ข้างหลัง​ ​อยาก​จะ​หลบหลีก​เขา​ ​“​ข้า​ทำพิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​แล้ว​…​”​ ​ยัง​พูด​ไม่​จบ​นาง​ก็​รู้สึก​ว่า​สิ่งของ​ที่อยู่​บน​หัว​กำลัง​ไหล​ลงมา​เบา​ๆ​ ​แล้ว​หายวับ​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​พลัน​นึกถึง​ปิ่นปักผม​ที่​ฮองเฮา​มอบให้​…​สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​จน​หน้าซีด​ ​“​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ปิ่น​ของ​ข้า​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​นั่ง​ตรงข้าม​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​ย่อม​รู้เห็น​สถานการณ์​ดีกว่า​นาง​ ​ชั่วขณะ​ที่​ปิ่นปักผม​กำลังจะ​ตกลง​ไป​ ​เขา​ก็​ผลัก​โต๊ะ​ที่อยู่​ข้างหน้า​ ​คว้า​ปิ่นปักผม​เอาไว้​ได้​ ​และ​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​ตะโกน​ ​พวกเขา​สอง​คน​ก็​หันหน้าเข้าหากัน​และ​ล้ม​ลง​ปาก​ประกบ​จูบ​กัน​บน​เตียง​เตา

ชุด​สีฟ้า​ฐาน​สีแดง​ที่​ปัก​ด้วย​ด้าย​สีทอง​อัน​งดงาม​ ​สะท้อน​ใบหน้า​ที่​สะอาดสะอ้าน​ราวกับ​ลูก​แพร​์​ของ​นาง​ ​ความงดงาม​ที่​ขาวบริสุทธิ์​ ​ทำให้​หัวใจ​ของ​เขา​สั่น​ไหว

“​ร้อง​อีก​สิ​!​”​ ​เขา​ค่อยๆ​ ​เอาหน้า​มุด​เข้าไป​ใน​เส้น​ผม​ที่​มีกลิ่นหอม​อ่อน​ๆ​ ​ของ​กุหลาบ​ ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​แผ่วเบา​ดึงดูด​เย้ายวนใจ​ ​“​เรียก​ข้าว​่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​อีก​สิ​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​จากนั้น​ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​ซีดเซียว​ลง

ตน​จะ​เรียก​เขา​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ใน​สถานการณ์​เดียว​เท่านั้น​…

เสียง​ลมหายใจ​ที่อยู่​ข้าง​หู​ค่อยๆ​ ​แรง​ขึ้น​ ​ติ่งหู​ของ​นาง​ถูก​กัด​อย่าง​นุ่มนวล​ ​มือ​ใหญ่​ที่​อบอุ่น​ลูบไล้​แผ่น​หลัง​นาง​…​ความรู้สึก​จั๊กจี้​ก็​ไหล​ทะลัก​ออกมา

นาง​สูด​หายใจเข้า​ลึก​แล้ว​ผลัก​เขา​ออก​ ​“​…​วันนี้​คือ​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ของ​ข้า​ ​แล้วยัง​มี​ชี​เหนียง​…​อีกทั้ง​ยัง​เป็น​เทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​…​ท่าน​แม่​บอกว่า​ต้อง​ทานอาหาร​เย็น​ด้วยกัน​เจ้าค่ะ​…​”

เขา​เงยหน้า​ขึ้น​ ​มอง​นาง​ด้วย​สายตา​ที่​เป็นประกาย​ ​จากนั้น​ก็​โน้มตัว​ลง​ช้าๆ​…​โน้ม​ลง​ไป​จูบ​ปาก​นาง​

สือ​อี​เหนียง​หันหน้า​หนี

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ

มีเสียง​หลิน​ปัว​ดัง​มาจาก​ข้างนอก​ ​“​ท่าน​โหว​ขอรับ​ ​ลี่ว​์​อวิ​๋​นบ​อก​ว่า​ ​คุณนาย​เจ็ด​แต่งตัว​เสร็จ​แล้ว​ ​ถามฮู​หยิน​ว่า​เมื่อไร​จะ​กลับ​ไป​ขอรับ​!​”

ราวกับ​ได้ยิน​เสียง​ของ​พระพุทธเจ้า​ ​สือ​อี​เหนียง​รีบ​ผลัก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ออก​ไป​แล้ว​ลุกขึ้น​นั่ง​ทันที

“​ข้า​จะ​ไป​ประเดี๋ยวนี้​”

แต่กลับ​ถูก​สวี​ลิ่ง​อี๋​กอด​เอว​เอาไว้

“​ท่าน​โหว​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่พอใจ

“​มา​ ​นั่งลง​ก่อน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​ข้า​ปักปิ่น​ให้​เจ้า​”

*****

ทันทีที่​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ชี​เหนียง​ก็ดี​ใจ​เป็นอย่างมาก​ ​จับ​นาง​มาม​อง​สำรวจ​ตั้งแต่​หัว​จรด​เท้า​ ​“​สวย​จริงๆ​ ​เลย​”

ชี​เหนียง​ยิ้ม​หวาน​ราวกับ​น้ำผึ้ง​ ​“​ก็เพราะว่า​ข้า​และ​น้อง​หญิง​สิบเอ็ด​ได้​แต่งงาน​กับ​คนดี​เจ้าค่ะ​ ​ดังนั้น​จึง​ยิ่ง​โตยิ่ง​สวย​”

“​ไอ​๊​หยา​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​จน​ตา​เป็น​พระจันทร์​เสี้ยว​ ​“​คุณหนู​เจ็ด​พูดจา​เป็นจริง​ๆ​”

“​ไท่ฮู​หยิน​เรียก​ข้าว​่า​ชี​เหนียง​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ชี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​ท่าน​แม่​ข้า​บอก​ไว้​ว่า​ ​สตรี​ก็​เหมือนกับ​เมล็ด​พืช​ ​ได้​ไป​อยู่​กับ​คนที​่​ดี​ก็​เติบโต​ดี​ ​ได้​ไป​อยู่​กับ​คนที​่​ไม่ดี​ก็​เติบโต​ไม่ดี​ ​คนอื่น​ไม่รู้​แต่​ข้า​รู้​เจ้าค่ะ​ ​เมื่อก่อน​สือ​อี​เหนียง​นั้น​ผ่ายผอม​และ​ตัวเล็ก​ ​แต่​ตอนนี้​ทั้ง​ขาว​ทั้ง​สูง​ ​คง​เป็น​เพราะ​หลักการ​นี้​ไม่ใช่​หรือ​เจ้า​คะ​”

ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​ร่า​อย่าง​ชอบใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท