ดูเหมือนอากาศจะร้อนขึ้นในพริบตา
ฮ่องเต้นั่งอยู่ในตำหนัก โบกพัดส่ายไปมา
องค์หญิงจินเหยาเดินเข้ามาเห็นจึงรีบแย่งมา “หม่อมฉันพัดให้เสด็จพ่อเองเพคะ”
ฮ่องเต้ปล่อยให้นางคว้าไป เอ่ยถาม “มีเรื่องใดมาขอร้องข้า”
“หม่อมฉันอยากเป็นลูกกตัญญูบ้างไม่ได้หรือเพคะ” องค์หญิงจินเหยาตำหนิ ก่อนจะหัวเราะคิกคัก “แต่ว่าหม่อมฉันอยากเชิญสหายสองสามคนเข้ามานั่งคุยในวังเป็นเพื่อนหม่อมฉัน ขอเสด็จพ่อโปรดอนุญาต”
ฮ่องเต้กล่าว “เจ้าออกไปเที่ยวเล่นไม่ดีกว่าหรือ”
ฮองเฮาถูกคุมขังในตำหนักเย็น พระสนมเสียนเป็นผู้ดูแลวังหลังแทน นางใจดีต่อผู้อื่นเสมอ ไม่เคยเข้าไปยุ่งเรื่องของผู้อื่น องค์หญิงจินเหยาสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระแล้วในเวลานี้
องค์หญิงจินเหยานั่งลงด้านข้าง หยิบพัดขึ้นมาพัดเบาๆ “ฮองเฮาและพี่ห้าเพิ่งประสบเรื่อง หม่อมฉันจะกล้าไปเที่ยวเล่นได้อย่างไรเพคะ”
เมื่อพูดถึงสองคนนี้ ใบหน้าของฮ่องเต้ดูย่ำแย่ลงเล็กน้อย อีกทั้งยังเจือปนไปด้วยความหงุดหงิดที่ยากจะสังเกต “อย่างไร ผู้ใดกล้ารังแกเจ้า พวกเขาเกิดเรื่อง บุตรของข้าคนอื่นก็ไม่อาจพบเจอผู้คนได้แล้วหรือ”
แม้ว่าจะปิดบังความจริงที่องค์ชายห้าและฮองเฮาถูกลงโทษ แต่ก็ไม่สามารถปิดบังจากเหล่าขุนนางทั่วราชสำนักได้ ไม่รู้ว่าด้านนอกมีข่าวลับภายในพระราชวังทั้งจริงและเท็จมากน้อยเพียงใด
“เป็นไปได้อย่างไร” องค์หญิงจินเหยาเอ่ย “หม่อมฉันแค่ไม่ต้องการแยกจากเสด็จพ่อ หม่อมฉันไม่อยากออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกแม้แต่น้อย อีกทั้งหม่อมฉันไม่คิดว่าข้างนอกจะสนุกแม้แต่น้อย หม่อมฉันแค่อยากอยู่กับเสด็จพ่อเพคะ”
ฮ่องเต้ยิ้ม “ข้าไม่อยากให้เจ้าอยู่ภายในพระราชวังจนเป็นสตรีแก่ไปตลอดชีวิต”
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาก็โกรธขึ้นอีกครั้ง เพราะโจวเสวียน การแต่งงานองค์หญิงจินเหยาจึงล้มเลิกไป
“เสด็จพ่อ เวลานี้หม่อมฉันอยากเล่นอยู่ในพระราชวังเพคะ” องค์หญิงจินเหยาเขย่าแขนฮ่องเต้ เสนออย่างร่าเริง “หม่อมฉันจะให้คุณหนูตันจูเข้ามา พวกเราจะเล่นชนมุมให้เสด็จพ่อทอดพระเนตร พระองค์ว่าอย่างไรเพคะ”
เฉินตันจู! ฮ่องเต้ส่งเสียงไม่พอใจอีกครั้ง แต่ระยะนี้เฉินตันจูอยู่นิ่งอย่างมาก ไม่ได้มีการยุ่งเกี่ยวกับโจวเสวียนอีก อีกทั้งไม่ได้วิ่งมาที่พระราชวังอีก
“เหตุใดเจ้าจึงชอบเล่นกับนาง” ฮ่องเต้บ่น “ในเมืองหลวงมีคุณหนูชนชั้นสูงมากมาย”
องค์หญิงจินเหยาเอ่ย “เพราะว่านางเป็นคุณหนูชนชั้นสูงที่แตกต่าง” พูดพลางเขย่าแขนของฮ่องเต้ อ้อนวอนระรัว
ฮ่องเต้ถูกเขย่าจนทั้งอยากหัวเราะทั้งเศร้าโศก เฮ้อ เด็กๆ ต่างโตกันแล้ว หัวใจล้วนห่างเหินออกไป อาศัยบุตรสาวที่ยังไม่โต ดื่มด่ำกับความสุขในครอบครัวมากขึ้นเสียเถิด
“เอาเถิด ข้าอนุญาตแล้ว อนุญาตแล้ว” ฮ่องเต้พูด “หยุดเขย่าได้แล้ว เขย่าจนข้าตาลายไปหมดแล้ว”
องค์หญิงจินเหยายิ้มอย่างมีความสุข จากนั้นถามด้วยความเป็นห่วง “เสด็จพ่อ พระองค์เป็นอันใด พระเนตรของพระองค์เป็นอันใดเพคะ”
ฮ่องเต้ยื่นมือออกมากดที่กึ่งกลางคิ้วเบาๆ “ไม่เป็นอันใด ข้าแค่เหนื่อยเท่านั้น ดวงตาเมื่อยล้า”
องค์หญิงจินเหยาเร่งให้เรียกหมอหลวงมา ฮ่องเต้พูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าให้หมอหลวงดูแล้ว จิ้นจงแทบจะให้หมอหลวงมาวันละสามครั้ง”
องค์หญิงจินเหยารู้สึกโล่งใจ ก่อนจะแนะนำอีกครั้ง “เมื่อคุณหนูตันจูเข้ามา ให้นางมาดูให้เสด็จพ่อ ฝีมือของคุณหนูตันจูก็เก่งมากเช่นกัน”
ฮ่องเต้โบกมือด้วยความโกรธ “เฉินตันจูปรากฏตัวต่อหน้าข้าน้อยลง ข้าย่อมไม่ป่วย”
องค์หญิงจินเหยายิ้มตอบรับ
แน่นอน นางรู้ว่าเวลานี้ฮ่องเต้กำลังอารมณ์ไม่ดี เมื่อเห็นเฉินตันจูย่อมต้องถลึงตาเลิกคิ้ว
เฉินตันจูเองก็ไม่ต้องการพบฮ่องเต้เช่นกัน เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย นางไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านั้นโดยไร้ความเกรงกลัวได้
องค์หญิงจินเหยาปลอบนางด้วยรอยยิ้ม “อย่ากังวล ไม่ได้ไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ ข้าแค่เบื่อเกินไป จึงเชิญพวกเจ้ามาคุยกับข้า”
นอกจากเฉินตันจู องค์หญิงจินเหยายังเชิญหลิวเวยและหลี่เหลียนมาด้วย
“พระราชวังมีสถานที่เที่ยวเล่นมากมาย” เฉินตันจูพูด “หม่อมฉันพาองค์หญิงไปเพคะ”
ทั้งสามคนล้วนขบขันต่อท่าทีของนาง “เฉินตันจูผู้เป็นบุตรสาวขุนนางของเมืองอู๋ก่อนคุ้นเคยกับพระราชวังอย่างยิ่ง”
“ไม่ถือว่าคุ้นเคยมากมายนัก ตอนนั้นหม่อมฉันเข้าวังน้อยครั้ง บางครั้งที่ติดตามพี่สาวมาก็อยู่ในตำแหน่งที่ห่างไกล สถานที่ที่คึกคักและงดงามไปน้อยครั้งมาก แต่ว่าสถานที่ห่างไกลจำนวนมากก็งดงาม” เฉินตันจูพูด ก่อนจะเดินนำหน้า “ทุกคนตามข้ามา มีสถานที่แห่งหนึ่ง มีภูเขาจำลองและกรวดหินมากมาย พวกเราสามารถเล่นซ่อนหาได้”
ไม่ใช่เด็กเล็กแล้ว เล่นซ่อนหาอันใดกัน หลิวเวยและองค์หญิงจินเหยาหัวเราะ แต่หลี่เหลียนสนใจมาก
“ตอนเด็กข้าไม่เคยเล่นมาก่อน แม่นมและสาวรับใช้ภายในจวนต่างจับตาดู” นางหัวเราะ “วันนี้มาหาองค์หญิง แม่นมและสาวรับใช้คงไม่กล้าควบคุมข้าแล้ว”
ขณะที่นางพูด นางก็มองไปข้างหลัง สาวรับใช้ที่ติดตามเข้าวังมีไม่มาก เวลานี้พวกนางกำลังเดินตามอยู่ด้านหลังอย่างเชื่อฟัง
หลิวเวยและองค์หญิงจินเหยาสนใจในสิ่งที่นางพูด ยิ้มพร้อมเดินตามขึ้นไป
เฉินตันจูเดินไปรอบๆ สวนดอกไม้ภายในพระราชวัง ทันใดนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้าใกล้ นางเดินอย่างเชื่องช้า ส่ายไปมาเบาๆ ราวกับดอกไม้ในสวนช่วงต้นฤดูร้อน
เฉินตันจูชะงักฝีเท้า
หญิงสาวผู้นั้นมองเห็นนาง ก่อนจะคำนับทักทาย “คุณหนูตันจู”
เฉินตันจูทักทายกลับ “เจ้าเองหรือ”
องค์หญิงจินเหยา หลี่เหลียน และหลิวเวยเดินตามมา พินิจหญิงสาวผู้นี้
“หนิงหนิง” องค์หญิงจินเหยาพูด พลางมองไปรอบด้าน “พี่สามมาที่สวนหรือ”
ไม่มีร่างขององค์ชายสามแม้แต่น้อย
หนิงหนิงพูด “องค์ชายสามกำลังทรงงาน หม่อมฉันมารับยาที่หมอหลวงให้เพคะ”
นางยกขวดลายครามในมือให้องค์หญิงจินเหยาดู
องค์หญิงจินเหยายิ้ม “เจ้ารีบไปบอกพี่สาม ทรงงานเสร็จแล้วให้มาหาพวกเรา”
นางพูดประโยคนี้พลางเหลือบมองเฉินตันจู เฉินตันจูยิ้ม แต่ไม่พูดอันใด
หนิงหนิงตอบรับ ก่อนจะก้มหน้าเดินผ่านพวกนางไป
องค์หญิงจินเหยาจับมือเฉินตันจู “อีกสักพักจะได้พบพี่สามแล้ว หลังจากพี่สามกลับมา ทั้งได้รับบาดเจ็บทั้งต้องทรงงาน พวกเราไม่กล้าไปรบกวน”
เฉินตันจูพูด “อย่ารบกวนองค์ชายสามเลยเพคะ หม่อมฉันรู้แล้วว่าเขาสบายดี” ก่อนจะพาองค์หญิงจินเหยาเดินไปข้างหน้า ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก “รีบมา พวกเรามาเล่นทางนี้”
หนิงหนิงชะงักเท้าลง หันกลับไปมอง ร่างของเหล่าหญิงสาวจากไปไกลแล้ว นางเบนสายตากลับมาไม่ได้ออกจากสวนดอกไม้ หากแต่เดินไปด้านหน้า จนกระทั่งถึงทิศตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณนี้มีทะเลสาบ ที่ริมทะเลสาบมีศาลาขนาดเล็ก มองไปจากระยะไกลสามารถเห็นร่างของชายหนุ่มนั่งอยู่ข้างใน
“ได้ของมาแล้วหรือ?” เมื่อสัมผัสได้ว่ามีคนเข้าใกล้ องค์ชายสามไม่แม้แต่เงยหน้า หากแต่พลางอ่านจดหมายพลางถาม พร้อมยกมืออีกข้างขึ้น
หนิงหนิงตอบรับ ก่อนจะวางขวดลายครามลงบนมือขององค์ชายสาม องค์ชายสามเปิดขวดเทยาเม็ดหนึ่งออกมากินลงไป สายตาไม่ห่างจากจดหมายแม้แต่น้อย
หนิงหนิงก้าวถอยหลังไป ยืนรออยู่ด้านข้างอย่างเงียบสงบ ไม่พูดไม่จา
…
หลังจากเล่นซ่อนหา กินอาหารในสวนดอกไม้แล้ว งานเลี้ยงขององค์หญิงจินเหยาก็สิ้นสุดลง แต่องค์ชายสามไม่ได้เสด็จมาแต่อย่างใด
“ดูยุ่งจริงๆ” องค์หญิงจินเหยาพึมพำ นางโน้มตัวไปถามเฉินตันจูที่นั่งอยู่ด้านข้าง “เราจะไปหาพี่สามกันดีหรือไม่ เมื่อมาแล้ว อย่างไรก็พบหน้าสักครั้ง”
เฉินตันจูกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องเร่งรีบ องค์ชายสามยุ่งเพียงนี้ หม่อมฉันไม่อยากรบกวน หม่อมฉันไม่อยากถูกฝ่าบาทตำหนิอีก”
องค์หญิงจินเหยายิ้ม “เจ้ายังกลัวว่าฝ่าบาทจะตำหนิหรือ”
“หม่อมฉันไม่ได้กลัวฝ่าบาทจะตำหนิหม่อมฉัน” เฉินตันจูพูด “เวลานี้ฝ่าบาทคงอารมณ์ไม่ดี หม่อมฉันไม่อยากทำให้ฝ่าบาทไม่มีความสุขไปมากกว่านี้เพคะ”
องค์หญิงจินเหยาหัวเราะ “คำพูดนี้เจ้าควรบอกฝ่าบาท พระองค์คงตำหนิเจ้าไม่ได้แน่” ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ แต่นางไม่ได้บังคับให้เฉินตันจูอยู่ต่อ เพียงแต่ยืนส่งทั้งสามคนจากไปอยู่บริเวณประตูพระราชวัง
ทั้งสามคนเดินออกจากวังพร้อมกับนางใน หลิวเวยและหลี่เหลียนหารือกันถึงวิธีจัดงานเลี้ยงต้อนรับองค์หญิงกลับ
“อย่าได้จัดในเวลานี้เลย” เฉินตันจูเตือนพวกนาง “รอเรื่องขององค์ชายห้าและฮองเฮาเงียบลงสักระยะก่อนดีกว่า”
ทั้งสองพยักหน้าอย่างเข้าใจ ทันใดนั้นก็เห็นเฉินตันจูยืนนิ่ง ด้านหน้ามีเหล่าขันทีวิ่งวุ่นวาย โบกมือให้พวกนาง “องค์รัชทายาทเสด็จ”
องค์รัชทายาทหรือ หลิวเวย หลี่เหลียน และเฉินตันจูรีบหลบหลีกไปข้างทางทันที เมื่อเห็นขันทีหลายคนแบกเกี้ยวอยู่บนทางเดินในพระราชวัง ด้านบนเกี้ยวมีชายหนุ่มสวมชุดงดงาม ใบหน้าคล้ายคลึงกับฮ่องเต้มาก
เมื่อสังเกตถึงสายตาทางนี้ องค์รัชทายาทจึงมองมา เฉินตันจูรีบก้มหน้าลง
“องค์รัชทายาท” นางในขององค์หญิงจินเหยาเดินขึ้นหน้าคำนับ “ทั้งสามเป็นแขกขององค์หญิงจินเหยาเพคะ”
เฉินตันจูและคนอื่นต่างคำนับ “คารวะองค์รัชทายาทเพคะ”
องค์รัชทายาทพยักหน้าต่อพวกนาง “ไม่ต้องมากพิธี” ก่อนจะเบนสายตาไม่สนใจอีก
แต่เฉินตันจูยังคงรู้สึกว่ามีสายตาจับจ้องอยู่บนตัวนาง นางเงยหน้าขึ้น ก่อนจะเห็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างเกี้ยวขององค์รัชทายาทปรากฏในสายตา
หญิงสาวคนนี้อายุราวยี่สิบ รูปร่างงดงาม ใบหน้ามีเสน่ห์
เมื่อเห็นเฉินตันจูมองมา นางไม่เพียงไม่หลบหลีก หากแต่เม้มปากยิ้ม
ผู้นี้คือ? เฉินตันจูมองนาง หญิงสาวผู้นั้นไม่พูด เบนสายตาเดินตามเกี้ยวขององค์รัชทายาท
“คุณหนูตันจู” นางในเรียกเสียงเบา “พวกเราไปกันเถิด”
เฉินตันจูตอบรับ ในขณะที่กำลังจะหันหลัง นางก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวดังขึ้นจากระยะไกล
“องค์รัชทายาท” เสียงของนางอ่อนหวาน “ผู้นั้นคือคุณหนูตันจูเพคะ”
ร่างกายของเฉินตันจูหยุดกะทันหันราวกับถูกฟ้าผ่า
องค์รัชทายาทหันหน้ากลับมา เหลือบมองนางด้วยความฉงน ก่อนจะเบนสายตากลับไปอย่างไม่สนใจ หญิงสาวผู้นั้นยิ้มให้นางอีกครั้ง ยกมือขึ้นทำท่าปาดคอเบาๆ ริมฝีปากแดงขยับอย่างไร้เสียง
เฉินตันจูเหมือนถูกดึงกลับไปยังจวนเล็กหลังนั้น ลำคอของนางเย็นยะเยือก เพราะถูกมีดสั้นของสาวรับใช้คนนั้นเข้าใกล้
“ฆ่านางเสีย”
เสียงของหญิงสาวหลังม่านพูดขึ้น
คือนาง! ดวงตาของเฉินตันจูแดงก่ำขึ้นทันที ครานี้ในที่สุดนางก็ได้เห็นลักษณะของอีกฝ่ายแล้ว!