ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 334 ยอมรับ(กลาง)

ตอนที่ 334 ยอมรับ(กลาง)

สือ​อี​เหนียง​สั่ง​ให้​โรง​ครัว​เตรียม​อาหาร​และ​เครื่องดื่ม​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​ยัง​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

ชี​เหนียง​กำลัง​เล่าเรื่อง​ที่​เจอ​ระหว่าง​การ​เดินทาง​ ​“​…​มี​โรง​เตี​๊​ยม​แห่งหนึ​่ง​ชื่อว่า​โรง​เตี​๊​ยม​เกา​ซื่อ​ ​ขนม​เปี๊ยะ​แบน​เรียบ​ราวกับ​แผ่น​กระดาษ​ ​ทาน​กับ​เนื้อ​สับ​ ​อร่อย​เป็นอย่างมาก​ ​แต่ว่า​ร้าน​นั้น​สกปรก​เกินไป​ ​ข้า​ไม่กล้า​นั่ง​ที่​ร้าน​ ​จึง​จอด​รถม้า​พักผ่อน​ที่​ลาน​หนึ่ง​คืน​ ​แต่​ตอน​ออกมา​เถ้าแก่​กลับ​เก็บเงิน​ข้า​…​”

ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​ ​เด็ก​ๆ​ ​สอง​สาม​คน​ก็​นั่ง​ฟัง​อย่างใจจดใจจ่อ​อยู่​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ข้างๆ​ ​โดยเฉพาะ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​สายตา​ของ​เขา​เป็นประกาย

ชี​เหนียง​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ ​นาง​ก็​หยุด​พูด​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หาร​อง​เท้า​ไม้​ของ​ท่าน​โหว​เจอ​แล้ว​หรือยัง​”

ในเมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​หา​ข้ออ้าง​เรียก​นาง​ออก​ไป​ ​เขา​คงจะ​ไม่​อยาก​ให้​ชี​เหนียง​รู้​ว่า​จู​อาน​ผิง​มา​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หา​เจอ​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​เร่ง​เด็ก​ๆ​ ​ไป​นอน​ ​“​…​สาย​มาก​แล้ว​”

จุน​เกอ​ยัง​อาลัยอาวรณ์​ ​แต่​สวี​ซื่อ​อวี​้​กลับ​ลุกขึ้น​คำนับ

สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​พาส​วี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​ไป​ที่​เรือน​ลี่​จิ​่ง​เซ​วี​ยน​ ​ส่วนตัว​เอง​ ​ชี​เหนียง​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เดิน​ไป​ทาง​ทิศตะวันตก​ ​จากนั้น​ก็​แยกย้าย​กันที่​หน้า​ศาลา​ปี้​อี​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เดิน​ไป​ทางเรือน​เสา​หวา​ ​สือ​อี​เหนียง​ไป​ส่ง​ชี​เหนียง​ที่​เรือน​ท่าเรือ​หลิว​ฟัง

“​พี่เขย​เจ็ด​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​แล้ว​พูด​เบา​ๆ

ชี​เหนียง​ที่​กำลัง​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​ตัว​พลัน​แข็งทื่อ​ทันที

“​ท่าน​โหวกำ​ลัง​ดื่ม​สุรา​อยู่​กับ​เขา​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​อีก​ประเดี๋ยว​ก็​จะ​ถึง​เวลา​ห้าม​ออกจาก​เคหสถาน​ใน​ยามค่ำคืน​แล้ว​ ​ข้า​คิด​ว่า​เขา​คงจะ​นอน​ที่​ลาน​ข้างนอก​กระมัง​”

ชี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ไม่​พูด​อะไร

สือ​อี​เหนียง​เกลี้ยกล่อม​ ​“​พี่เขย​เจ็ด​ตั้งใจ​มาจาก​เกา​ชิง​ ​ถึงอย่างไร​ท่าน​ก็​ควรจะ​ไว้หน้า​เขา​ ​ไม่​สู้​ถือโอกาส​นี้​คิด​ให้​ดี​ ​คิด​ว่า​พรุ่งนี้​เจอกัน​แล้ว​จะ​พูด​อะไร​ดี​”

“​มี​อะไร​ต้อง​พูด​กัน​อีก​”​ ​ชี​เหนียง​ก้มหน้าก้มตา​ ​“​นอก​เสีย​จาก​ว่า​ข้า​จะ​มีบุ​ตร​ชาย​ ​ไม่เช่นนั้น​พูด​อะไร​ก็​ไม่มี​ประโยชน์​”

“​จะ​ไม่มี​ประโยชน์​ได้​เช่นไร​กัน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​ตะเกียง​ ​“​ชีวิต​ขึ้นอยู่กับ​มนุษย์​ ​หาก​ความสัมพันธ์​ของ​พวก​ท่าน​จะ​พลิกผัน​ไป​เพียง​เพราะ​แค่​ไม่มี​ลูก​ ​เช่นนั้น​ท่าน​ก็​ต้อง​พูด​กับ​เขา​ว่า​จะ​ตัดสินใจ​รับ​สาวใช้​ห้อง​ข้าง​คลอด​บุตรชาย​เลี้ยง​ในนามของ​เขา​ ​หรือว่า​จะ​ให้​พี่เขย​เจ็ด​ให้​เวลา​ท่าน​อีก​สักหน่อย​ ​หา​หมอ​มาดู​ ​หรือ​ขอร้อง​อ้อนวอน​สวรรค์​ ​ทั้งหมด​ล้วน​ดีกว่า​เจอ​เรื่อง​อะไร​ก็​หนี​ออกมา​เช่นนี้​”​

“​ข้า​…​”​ ​ชี​เหนียง​เงยหน้า​ขึ้น​ ​นาง​ปาก​สั่น​ ​ท่าทาง​ลังเล​ที่จะ​พูด

สามีภรรยา​ที่รัก​กัน​ ​ใคร​จะ​ยอมให้​มี​คน​มา​แทรก​ตรงกลาง​ ​แต่​นาง​กลับ​พูดไม่ออก​ ​พูด​ออกมา​ก็​คือ​ความอิจฉา

สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​อารมณ์​ของ​นาง​ดี​ ​จึง​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​พี่​หญิง​เจ็ด​เจ้า​คะ​ ​เช่นนั้น​ท่าน​ถือโอกาส​นี้​หา​หมอ​ที่​เยี​่​ยน​จิง​มาดู​ดี​หรือไม่​ ​หาก​สี่​ห้า​ปี​แล้วยัง​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​ ​ถึง​ตอนนั้น​ค่อย​ปรึกษา​กัน​ว่า​จะ​ทำ​เช่นไร​ต่อไป​ก็​ยัง​ไม่​สาย​”

เช่นนี้​ก็​จะ​ได้​มีคำ​อธิบาย​ให้​สกุล​จู​ ​จะ​ได้​ไม่มี​คน​บอกว่า​ชี​เหนียง​หนี​ออกมา​จาก​จวน​สกุล​จู​เพราะว่า​เรื่อง​ของ​บุตร

ชี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​ได้สติ​ขึ้น​มา​

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่านาง​เข้าใจ​ใน​สิ่ง​ที่​ตน​อยาก​จะ​สื่อ​ก็​โล่งใจ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หาก​พี่​หญิง​เจ็ด​เห็นด้วย​ ​พรุ่งนี้​เช้า​ข้า​จะ​ขอให้​ท่าน​โหว​นัด​พี่เขย​เจ็ด​มาที​่​ห้อง​หนังสือ​ลาน​ข้างนอก​ ​ให้​พวก​ท่าน​ปรับความเข้าใจ​กัน​ ​พี่เขย​เจ็ด​ไม่ได้​มาที​่​เยี​่​ยน​จิง​บ่อยๆ​ ​ก็​รีบ​ปรับความเข้าใจ​กับ​เขา​เสียเถิด​ ​จะ​ได้​ไป​เยี่ยม​ญาติ​ๆ​ ​กับ​พี่เขย​เจ็ด​ ​ไป​ชม​วิว​ทิวทัศน์​และ​สถานที่​ประวัติศาสตร์​ใน​เยี​่​ยน​จิง​”

ชี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​จิตใจ​สั่น​ไหว

“​ถ้าอย่างนั้น​ก็​ตกลง​ตาม​นี้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ขอตัว​ออก​ไป​ ​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยัง​ไม่​กลับมา​ ​นาง​หา​เชือก​สีแดง​ออกมา​ ​ไป​นั่ง​ถัก​เชือก​ดอก​เหมย​บน​เตียง​เตา​อย่าง​ตั้งอกตั้งใจ

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​กลับมา

สือ​อี​เหนียง​วาง​ของ​ใน​มือ​ลง​แล้ว​ลุกขึ้น​ยืน

“​ทำ​อะไร​อยู่​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​เข้ามา

เขา​ดู​มึนเมา​ ​มองดู​ดอก​เหมย​สีแดง​ดอก​ใหญ่​ที่​วาง​อยู่​ใน​ตะกร้า​หวาย​เงียบๆ​ ​“​กำลัง​ถัก​เชือก​อยู่​หรือ​”

“​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​สั้น​ๆ​ ​นาง​เก็บของ​แล้ว​เรียก​สาวใช้​ยก​น้ำแกง​สร่าง​เมา​เข้ามา

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​หยิบ​เชือก​ขึ้น​มาดู​ ​“​เล็ก​ขนาด​นี้​ ​ถัก​ซับซ้อน​ขนาด​นี้​ ​เอาไว้​ทำ​อะไร​”

“​เอาไว้​ใส่​ของ​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หยิบ​เชือก​เก็บ​ใส่​ใน​ตะกร้า​หวาย

สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา

สาวใช้​ยก​น้ำแกง​สร่าง​เมา​เข้ามา

สือ​อี​เหนียง​รับ​น้ำแกง​มายื​่น​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​พี่เขย​เจ็ด​พักผ่อน​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​ยก​น้ำแกง​ดื่ม​จน​หมด​ ​จากนั้น​ก็​ถอนหายใจ​ ​“​ให้​เขา​นอน​ที่​ห้องรับแขก​ลาน​ข้างนอก​”

สือ​อี​เหนียง​รับ​ถ้วย​น้ำแกง​มา​วาง​ไว้​บน​ถาด​สีแดง​ใน​มือ​ของ​สาวใช้​ ​สะบัด​มือ​ให้​สาวใช้​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​บรรดา​สาวใช้​ก็​พากัน​ถอย​ออก​ไป​อย่า​เงียบๆ

“​พูดคุย​อะไร​กัน​บ้าง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เข้าไป​นั่ง​ข้าง​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​เอน​ตัว​พิง​หมอนอิง​ใบ​ใหญ่​สีเหลือง​ที่อยู่​ข้างหลัง​ ​“​บอกว่า​ทะเลาะ​กัน​ ​เขา​ทำให้​ชี​เหนียง​โมโห​จน​หนี​กลับมา​สกุล​เดิม​ ​ทันทีที่​ได้​รู้​ว่านาง​หนี​มาที​่​เยี​่​ยน​จิง​ ​จึง​รีบ​ตามมา​ที่นี่​”

แต่ว่า​ใช้เวลา​เพียง​สอง​วัน​ก็​มาถึง

ถึง​แม่​ว่า​รถม้า​ที่​หรูหรา​คัน​นั้น​จะ​เป็น​ที่จับ​ตาม​อง​ ​แต่​ก็​ต้อง​ใช้เวลา​ใน​การตาม​หา​!

และ​สิ่ง​ที่​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​แปลกใจ​ก็​คือ​ ​จู​อาน​ผิง​ยอมรับ​ความผิด​เอง​ทั้งหมด​!

“​เขา​พูด​อะไร​อีก​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​สามีภรรยา​ทะเลาะ​กัน​ ​ข้า​ก็​ไม่​อยาก​ถาม​อะไร​มาก​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ

ชี​เหนียง​หนี​ออกจาก​บ้าน​มา​เพราะ​เรื่อง​สาวใช้​ห้อง​ข้าง​ ​หาก​เรื่อง​นี้​แพร่​ออก​ไป​ ​คงจะ​ทำลาย​ชื่อเสียง​ของ​นาง​ ​จู​อาน​ผิง​คน​นี้​ ​ยัง​ไม่ต้อง​พูดว่า​เขา​ทำ​อะไร​ ​ดี​กับ​ชี​เหนียง​แค่ไหน​ ​แต่​เขา​ปกป้อง​ชี​เหนียง​ต่อหน้า​คนนอก​เช่นนี้​ ​อย่างน้อย​เขา​ก็​เป็น​คนที​่​รู้​หน้าที่​ ​คน​เช่นนี้​ ​ส่วนมาก​มักจะ​เป็น​คนมีเหตุผล​ ​พูดคุย​ง่าย

“​ข้า​เห็น​จู​อาน​ผิง​พูดจา​ ​ทำ​อะไร​ตรงไปตรงมา​อีกทั้ง​ยัง​หนักแน่น​ ​ไม่ใช่​คนที​่​ไม่มีความรู้​ ​แล้วยัง​สามารถ​ตามมา​ถึง​เยี​่​ยน​จิง​ได้​อย่าง​เงียบๆ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​เจ้า​เกลี้ยกล่อม​ชี​เหนียง​เถิด​ ​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​สัก​สอง​สาม​วัน​แล้ว​ให้​กลับ​ไป​เกา​ชิง​กับ​จู​อาน​ผิง​”

ต้นตอ​ของ​ความขัดแย้ง​ระหว่าง​ชี​เหนียง​และ​จู​อาน​ผิง​คือ​เรื่อง​บุตร​ ​แต่​หาก​ไม่​จัดการ​เรื่อง​นี้​ให้​เรียบร้อย​ ​ถึงแม้ว่า​ชี​เหนียง​จะ​กลับ​ไป​ ​ก็​รับประกัน​ไม่ได้​ว่านาง​จะ​ไม่​หนี​ออกมา​อีก​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​บ่อยๆ​ ​ไม่ว่า​จะ​รัก​กัน​แค่ไหน​ก็​คงจะ​รู้สึก​เหนื่อยหน่าย​ ​สามีภรรยา​หลาย​คู่​ก็​แตกแยก​กัน​เพราะ​เรื่อง​เช่นนี้​

“​เรื่อง​ที่​พี่เขย​เจ็ด​มาหา​ ​ข้า​บอก​พี่​หญิง​เจ็ด​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เรื่อง​บาง​เรื่อง​พี่​หญิง​เจ็ด​ยัง​คิด​ไม่ได้​…​”​ ​นาง​เล่าเรื่อง​ที่​ตัวเอง​วางแผน​ให้​ชี​เหนียง​และ​จู​อาน​ผิง​ยืม​ห้อง​ลาน​ข้างนอก​ปรับความเข้าใจ​กัน​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​

“​ได้​สิ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​นัด​จู​อาน​ผิง​ให้​ ​เจ้า​ก็​เชิญ​คุณหนู​เจ็ด​มาที​่​ห้อง​หนังสือ​ลาน​ข้างนอก​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​รับใช้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ล้างหน้า​แปรงฟัน​ ​นาง​ลังเล​อยู่​หลายครั้ง

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​แล้วก็​รู้สึก​แปลกใจ

สือ​อี​เหนียง​ไม่ใช่​คน​ชอบ​ลังเล​แบบนี้

“​มี​อะไร​หรือ​”​ ​เขา​เอ่ย​ถาม​อย่าง​อ่อนโยน

ถึงแม้ว่า​มัน​จะ​เกี่ยวข้อง​กับ​ความเป็นส่วนตัว​ของ​ชี​เหนียง​ ​แต่​หาก​ไม่​ถาม​เรื่อง​นี้​ให้​ชัดเจน​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​ของ​ชี​เหนียง​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​

แต่​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ยัง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ก่อนที่​พี่เขย​เจ็ด​จะ​แต่งงาน​กับ​พี่​หญิง​เจ็ด​เขา​เคย​มีสาว​ใช้​ห้อง​ข้าง​ ​เคย​เลี้ยง​นางรำ​ ​ข้า​อยาก​ให้ท่าน​ช่วย​ไป​สืบ​ดู​ว่า​ ​บรรดา​สตรี​พวก​นั้น​เคย​มีบุ​ตร​หรือไม่​”​

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​ก็​เข้าใจ​ทันที​ ​“​เพราะ​เรื่อง​การ​มีบุ​ตร​เช่นนั้น​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​“​หาก​รู้​ว่า​สาเหตุ​เป็น​เพราะ​ใคร​ก็​คงจะ​ดีเจ​้า​ค่ะ​”

เรื่อง​เช่นนี้​ ​ทาง​ที่​ดี​ควร​ถาม​ชี​เหนียง​ ​แต่​ตน​ไม่แน่ใจ​ว่า​ชี​เหนียง​รู้เรื่อง​จู​อาน​ผิง​ก่อน​แต่งงาน​หรือไม่

“​เกรง​ว่า​คงจะ​ไม่​ง่าย​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ขัด​นาง​ ​“​แม้ว่า​จะ​ไม่มี​ภรรยา​ ​และ​ถึงแม้ว่า​จะ​มีเรื่อง​แบบนี้​จริง​ ​แต่​เขา​ก็​คงจะ​หาทาง​ปกปิด​มัน​เอาไว้​”

ก็​จริง​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​นาย​หญิง​สอง​คง​ไม่มีทาง​ปล่อย​ให้​ชี​เหนียง​แต่งงาน​กับ​สกุล​จู​แน่นอน

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ผิดหวัง

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​ก็​นึก​ว่า​เรื่อง​อัน​ใด​ ​หาก​อีก​สอง​สาม​ปี​ยัง​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​ ​รับ​คน​มา​อยู่​ใน​เรือน​สัก​คน​ก็ได้​”

พูด​เรื่อง​พวก​นี้​กับ​เขา​ ​ก็​เหมือน​สีซอ​ให้​ควาย​ฟัง​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​เปลี่ยน​เรื่อง​สนทนา​ ​พูดถึง​เรื่อง​งานเลี้ยง​สกุล​เจียง​ ​“​…​ตอนแรก​เป็น​เพราะ​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ของ​ข้า​ ​หาก​ไม่มี​การเคลื่อนไหว​อะไร​ ​เกรง​ว่า​พวกเขา​จะ​คิด​ว่า​เรา​ไม่สน​ใจ​เจ้าค่ะ​”

“​เกิดเรื่อง​ขึ้น​พร้อมกัน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พูดว่า​ ​“​หาก​สามารถ​จัดการ​เรื่อง​ของ​คุณหนู​เจ็ด​ได้​ภายใน​สอง​วันนี้​ ​ก็​กำหนด​ไว้​วันที่​สิบห้า​เถิด​ ​แต่​หาก​เกิด​การพลิก​ผัน​ ​เจ้า​ก็​ส่ง​ป้า​รับใช้​ไป​คารวะ​ก่อน​ ​จากนั้น​ค่อย​นัด​เวลา​ใหม่​ ​ยื้อ​ไป​สัก​สอง​สาม​วัน​”

สือ​อี​เหนียง​ตอบรับ

“​แล้วยัง​มีสกุล​หลี​่​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​จะ​ล่าช้า​ไม่ได้​แล้ว​ ​สอง​วันนี้​หา​เวลา​ไปดู​ ​หาก​เจ้า​คิด​ว่า​ไม่เลว​ ​ก็​ตอบ​ตกลง​เถิด​ ​เช่นนี้​จะ​ได้​ปฏิเสธ​สกุล​หวัง​เร็ว​ๆ​ ​หน่อย​ ​ยื้อ​ไป​ยื้อ​มา​จะ​กลายเป็น​ศัตรู​กันได​้​”

ตัดสินใจ​อนาคต​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เร็ว​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ลังเล

“​ทำไม​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หรือ​เจ้า​ไม่พอใจ​ที่​สกุล​หลี​่​ไม่​ค่อย​ร่ำรวย​?​”

“​ไม่ใช่​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​บิดา​มี​ ​มารดา​มี​ ​ก็​ไม่​สู้​ตัวเอง​มี​ ​ข้า​แค่​ยัง​ไม่เคย​เจอ​เขา​จึง​ยัง​ไม่​มั่นใจ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พลัน​นึกถึง​ก่อนหน้านี้​ที่นาง​พูดถึง​เรื่อง​ที่​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​เป็น​แม่สื่อ​ให้​ ​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ ​เจ้า​เคย​เจอ​คุณชาย​สกุล​เซ่า​แล้ว​เช่นนั้น​หรือ​”

“​เคย​เจอ​ตอนที่​นำ​ของขวัญ​ไป​ให้​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ครั้งหนึ่ง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​รูปร่าง​สูงโปร่ง​ ​หน้าตา​หล่อเหลา​ ​เหมาะสม​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​เรา​อยู่​ไม่น้อย​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​นาง​พูด​เช่นนี้​ก็​ลังเลใจ

สือ​อี​เหนียง​ทำ​อะไร​รอบคอบ​เสมอ​ ​ในเมื่อ​นาง​พูด​เช่นนี้​ ​ก็​ต้อง​มีเหตุผล​ของ​ตัวเอง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ตัว​สูง​กว่า​เด็กผู้หญิง​ทั่วไป

เขา​ครุ่นคิด​อยู่​สักพัก​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​รอ​ให้​เจ้า​เจอ​กับ​คุณชาย​สกุล​หลี​่​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​ดีกว่า​”​ ​เขา​พูด​ช้า​ลง

ก็​จริง​ ​ตัวเอง​ยัง​ไม่เคย​เจอ​หลี​่​จี้​เลย​ด้วยซ้ำ​ ​ตัดสินใจ​ตอนนี้​ ​มัน​คงจะ​เร็ว​เกินไป

“​เช่นนั้น​ข้า​จะ​หา​เวลา​ไป​เจอ​คุณชาย​สอง​สกุล​หลี​่​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ลุกขึ้น​ยืน​ ​รับใช้​สวี​ลิ่ง​อี๋​พักผ่อน

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เชือก​สีแดง​ใน​เสื้อ​ของ​นาง​ ​เขา​รู้​ว่านาง​ได้​ห้อย​ป้าย​หยก​ที่​ตัวเอง​มอบให้​ไว้​ตรงหน้า​อก​ ​ก็​ยิ้มพราย​ ​หอม​แก้ม​นาง​แล้ว​นอนลง

เช้า​วัน​ต่อมา​ ​หลังจาก​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​เสร็จ​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​พาชี​เหนียง​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​ลาน​ข้างนอก

สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​จู​อาน​ผิง​นั่ง​ดื่ม​ชา​อยู่​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ ​ข้างหลัง​จู​อาน​ผิง​นั้น​มี​หญิงสาว​ตัวเล็ก​ๆ​ ​ยืน​อยู่​คน​หนึ่ง​

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

เมื่อม​อง​ดูดี​ๆ​ ​แล้ว​ ​ที่แท้​ก็​คือ​เซียง​อวิ​๋น​

นาง​มอง​ไป​ที่​ชี​เหนียง​

ใบหน้า​ของ​ชี​เหนียง​ซีดเซียว

“​คุณนาย​ใหญ่​เจ้า​คะ​”​ ​เซียง​อวิ​๋​นคุก​เข่า​ลง​ ​“​ท่าน​เข้าใจ​คุณชาย​ใหญ่​ผิด​แล้ว​เจ้าค่ะ​…​”​ ​นางร้องไห้​ ​“​ข้า​รับ​ท่าน​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​ถึงแม้ว่า​ท่าน​จะ​ไม่เชื่อ​ข้า​ ​แต่​ท่าน​ก็​ไม่เชื่อ​คุณชาย​ใหญ่​หรือ​เจ้า​คะ​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รีบ​มอง​ไป​ที่​จู​อาน​ผิง

ใน​หน้า​ของ​จู​อาน​ผิง​นิ่ง​สงบ​ ​หาง​ตาของ​เขา​สั่น​ไหว​เล็กน้อย

“​เซียง​อวิ​๋น​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​เจ้า​ออก​ไป​ก่อน​เถิด​!​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​ประเดี๋ยว​ค่อย​ว่า​กัน​ ​ข้ามี​เรื่อง​จะ​พูด​กับ​คุณชาย​ใหญ่​และ​คุณนาย​ใหญ่​ของ​เจ้า​!​”

“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​!​”​ ​เซียง​อวิ​๋น​ยืน​ขึ้น​ทั้ง​น้ำตา​ ​สีหน้า​เศร้า​เสียใจ

สือ​อี​เหนียง​ขยิบตา​ให้​หู่​พั่ว

หู่​พั่ว​พยักหน้า​อย่าง​รู้ทัน​ ​รีบ​เดิน​เข้าไป​ประคอง​เซียง​อวิ​๋น​ ​“​พี่​เซียง​อวิ​๋น​ไป​ล้างหน้าล้างตา​กับ​ข้า​ก่อน​เถิด​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​ ​อ้างว่า​มีเรื่อง​จะ​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​พาสื​ออี​เหนียง​ออก​ไป

หลิน​ปัว​วิ่ง​พรวด​เข้ามา

“​ท่าน​โหว​ขอรับ​”​ ​เขา​หอบ​หายใจ​ก่อนที่จะ​พูด​เบา​ๆ​ ​“​กำหนด​พระ​ชายา​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​แล้ว​ขอรับ​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท