ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 282 พลังศักดิ์สิทธิ์ไร้เทียมทาน ราชาเซียนหลั่งเลือด!

ตอนที่ 282 พลังศักดิ์สิทธิ์ไร้เทียมทาน ราชาเซียนหลั่งเลือด!

ตอนที่ 282 พลังศักดิ์สิทธิ์ไร้เทียมทาน ราชาเซียนหลั่งเลือด!

หลังจากเห็นว่าโม๋เทียนตาย แท่นเซียนมารถึงกับตกอยู่ในความเงียบงัน

หากบอกว่าการตายของโม๋เลี่ยทำให้ทุกคนประหลาดใจ เช่นนั้นการตายของโม๋เทียนก็ทำให้ทุกคนตื่นตระหนก

ในขอบเขตกึ่งราชาเซียน การตัดศีรษะของราชาเซียนขั้นสูงถือเป็นเรื่องที่อาจกล่าวได้ว่ามีเพียงแต่ในเทพนิยายเท่านั้น ทว่าเวลานี้มันกลับเกิดขึ้นต่อหน้าทุกคน

“สวรรค์! แม้แต่โม๋เทียนยังไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของเขา!”

“กระบี่สามกระบวนท่า เพียงแค่สามกระบวนท่าสามารถสังหารราชาเซียนขั้นสูงได้!”

“แม้เขาจะเป็นเซียนต้องห้ามในตำนาน แต่ก็ไม่สมควรแข็งแกร่งมากมายเช่นนี้”

“ฮึ่ม! หนิงฝานผู้นี้ฝืนลิขิตสวรรค์อย่างแท้จริง!”

“…”

แท่นเซียนมารทั้งหมดพูดคุยกันจนเกิดความโกลาหล ทุกสายตาจับจ้องหนิงฝาน บางคนประหลาดใจ บางคนไม่เชื่อสายตา และบางคนลอบหวาดกลัวอยู่ภายใน

“หึ! กระบี่สามกระบวนท่าตัดศีรษะราชาเซียนขั้นสูง! ดูเหมือนข้าจะประเมินสหายหนิงต่ำเกินไปจริง ๆ!”

แม้แต่จวินเต้าหลินยังอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจลึกด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยวบนใบหน้า หากเขาทราบว่าหนิงฝานทรงพลังมากมายเช่นนี้ เขาจะไม่หยุดยั้งอีกฝ่ายแม้แต่น้อย!

“ไอ้บัดซบ!”

“ไอ้สารเลว!”

“ต่ำทราม!”

โม๋จิ่วโยวขุ่นเคือง ร่องรอยความหวาดกลัวพลันปรากฏขึ้นในจิตใจ

ขนาดยังไม่ได้เป็นราชาเซียน หนิงฝานยังสามารถสังหารราชาเซียนขั้นสูงได้ หากเขากลายเป็นราชาเซียนขึ้นมาจะแข็งแกร่งขนาดไหน? ไม่แน่เขาอาจจะสังหารราชาเซียนสูงสุดได้!!!

“ตามกฎวังมาร หากชนะสิบครั้งก็จบ ผู้ใดจะต่อสู้กับข้าเป็นรอบที่สาม!”

บนแท่นเซียนมาร หนิงฝานยังไม่เก็บกระบี่ในมือพร้อมเอ่ยปากท้าทายอีกครั้ง

“ฆ่ามัน! ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสังหารมันให้ได้!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว โม๋จิ่วโยวก็ตะโกนออกมา จิตสังหารรุนแรงไร้สิ้นสุดปรากฏในแววตา หากไม่ใช่เพราะกฎเหล็กของแท่นประลองที่ห้ามราชาเซียนขั้นสุดเข้าร่วม เขาคงจะเข้าร่วมการประลองนี้แล้ว!

แน่นอน เขาทราบดีว่าหากไม่มีกฎเหล็กนี้ หนิงฝานจะสามารถใช้หุ่นกระบอกราชาเซียนขั้นสุดได้ เมื่อถึงเวลานั้นเขาก็คงไม่สามารถสังหารหนิงฝานได้!

หากต้องการสังหารหนิงฝานในเวลานี้ ก็จำต้องพึ่งพาพลังของราชาเซียนขั้นสูงเท่านั้น!

ตู้ม!

ลมกระโชกรุนแรงดังขึ้น มีร่างหนึ่งพุ่งทะยานออกจากวังมารอีกครั้ง มันคือมารตัวเตี้ย มีดวงตาเก้าดวงเรียงเป็นแนวตั้งบนหน้าผาก กลิ่นอายผันผวนในกายพลุ่งพล่าน นอกจากนี้มันอยู่ในขอบเขตราชาเซียนขั้นสูงด้วย เมื่อเทียบกับโม๋เทียนแล้ว มันแข็งแกร่งกว่ามาก

“เจ้าหนู! มารที่จะสังหารเจ้าคืออาวุโสแห่งวังมาร… จิ่วมู่!”

ทันทีที่มารตนนี้ยืนบนแท่นประลอง มันก็คำรามเสียงเย็น ก่อนจะปล่อยหมัดตรงออกทันที

ตู้ม!

เพียงหมัดเดียว โลกาทั้งใบสั่นสะเทือน แท่นเซียนมารคล้ายกับถูกหยุดเวลาเอาไว้

เปรี้ยง!

อย่างไรเสีย หนิงฝานไม่อยู่เฉย เขาฟันกระบี่ออกไปทำลายกำปั้นตรงหน้าทันที

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ใบหน้าของจิ่วมู่ก็พลันตื่นตระหนก แต่มันคาดคิดเอาไว้แล้ว พริบตาต่อมา ร่างกายมันก็สั่น พลังเซียนพลันพลุ่งพลานออกมา พลังทั้งหมดอัดแน่นอยู่บนดวงตาทั้งเก้าบนหน้าผาก

“เบิกเนตร!”

ทันทีที่เสียงตะโกนดังขึ้น ดวงตาทั้งเก้าก็ลุกโพลง ลำแสงสีทองมหาศาลพุ่งทะยาน กลายเป็นปราณกระบี่ผ่าอากาศโดยรอบ

“หึ!”

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว หนิงฝานเพียงสบถเย็นชา เขากระชับกระบี่ในมืออีกครั้งพร้อมฟันออกไป ปราณกระบี่ของอีกฝ่ายสูญสลายทันที

“เบิกเนตร!”

เมื่อเห็นว่าการโจมตีล้มเหลว จิ่วมู่ก็ซัดลำแสงออกไปอีกครั้ง ดวงตาทั้งเก้าเปิดออกเป็นครั้งที่สอง

ตู้ม!

สิ่งที่ปรากฏขึ้นคราวนี้คือลำแสงสีฟ้าเจิดจรัส ควบแน่นเป็นเถาวัลย์ หนามแหลม ทะลวงผ่านอากาศพุ่งเข้าหาหนิงฝานอย่างรวดเร็ว

หึ!

หนิงฝานยังคงใช้กระบี่เพื่อลบล้างมันอีกครั้ง

“เบิกเนตร! เบิกเนตร! เบิกเนตร!”

จิ่วมู่ยังคงเปิดการโจมตีอย่างต่อเนื่อง พลังที่พุ่งออกมาทั้งหมดล้วนแตกต่างกัน มีทั้งเปลวเพลิง น้ำแข็ง ลมกระโชก ฟ้าคำราม ทันใดลำแสงทุกชนิดก็สาดแสง เกิดคลื่นพลังรุนแรง แทบจะกลืนกินแท่นเซียนมารทั้งหมด

“หึ! เล่ห์เหลี่ยมมากมายนักนะ ข้าจะทำลายมันในคราวเดียว!”

หนิงฝานไม่คิดสนใจ เขาเหวี่ยงปราณกระบี่ออกไปทันที

ครืน!

ฟาดฟันกระบี่เพียงเพียงครั้งเดียว ทั้งเปลวเพลิง น้ำแข็ง ลมกระโชก ฟ้าคำราม และพลังอื่น ๆ ก็สูญสลายในพริบตา ปราณกระบี่ยังคงไม่หมดกำลัง พุ่งทะยานต่อไป ศีรษะจิ่วมู่ลอยลิ่วขึ้นสู่อากาศ ดวงตาทั้งเก้าที่เคยเปิดออกปิดลง ใบหน้าเหลือเพียงความสยดสยอง

“อ๊าก!”

“อาวุโสจิ่วมู่!”

เมื่อเห็นว่าอาวุโสจิ่วมู่ตาย ผู้คนภายในวังมารทั้งหมดตื่นตระหนก ดวงตาต่างฉายชัดถึงความโกรธเกรี้ยวและขุ่นเคือง

ในทางกลับกัน ผู้คนจากวังเซียนรู้สึกโล่งใจ พวกเขาสัมผัสได้ถึงความสุขที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ทั้งหมดแทบจะอาเจียนเป็นเลือดเพราะความพ่ายแพ้ถึงเก้าครั้ง

“รอบที่สี่ ขึ้นมา!” หนิงฝานไม่หยุดพร้อมชี้กระบี่ไปทางวังมารอย่างท้าทาย

“ไอ้สารเลว!”

หลังจากเห็นเช่นนี้แล้ว โม๋จิ่วโยวก็ตบที่พักแขนบนเก้าอี้ก่อนจะชี้ไปที่บุคคลหนึ่ง สั่งให้ขึ้นสู่แท่นประลอง

ราชาเซียนขั้นสูงสองคนขึ้นสู่แท่นประลองทีละคน แต่พวกเขาก็ยังพ่ายแพ้ให้กับหนิงฝานเช่นเดิม

“ฮ่าฮ่า! คนของวังมารมีเพียงเท่านี้งั้นหรือ?”

หนิงฝานเงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมระเบิดเสียงหัวเราะลั่น จากนั้นเขาหันไปมองผู้คนจากวังมาร ส่งสายตาเหยียดหยามก่อนจะตะโกนลั่น “มาทีละคนมันช้าเกินไป เหลืออีกห้ารอบ ขึ้นมาพร้อมกันเลย ข้าจะได้สังหารทีเดียว!”

“ไอ้บัดซบ!”

“สามหาว!”

“เย่อหยิ่งเกินไป!”

เมื่อได้รับฟังคำเย้ยหยันนี้ วังมารทั้งหมดแทบจะระเบิดออกด้วยความเกรี้ยวกราด

ใบหน้าของโม๋จิ่วโยวมืดมนเช่นกัน เขากล่าวเสียงเย็น “ในเมื่อเจ้าเย่อหยิ่งถึงเพียงนี้ วังมารก็จะทำตามที่เจ้าปรารถนา!”

พึ่บ พึ่บ

ทันใดนั้น ร่างทั้งห้าพุ่งทะยานเข้าสู่แท่นประลองทันที มีทั้งวัยกลางคน ชายชรา สตรี ทุกคนอยู่ในขอบเขตราชาเซียนขั้นสูง ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาคือ ผู้เฒ่าหม่าอี อีกเพียงครึ่งก้าวเท่านั้นเขาจะสามารถเข้าสู่ขอบเขตราชาเซียนขั้นสุดได้!

“สหายเสี่ยวหนิง หุนหันพันแล่นไปแล้ว ผู้เฒ่าหม่าอีแข็งแกร่งเป็นอันดับสองของวังมาร เขาเป็นรองจากโม๋จิ่วโยว…” เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว จวินเต้าหลินกล่าวผ่านสัมผัสเทวะด้วยความกังวล แต่หนิงฝานเพียงหันกลับมายกยิ้มให้ส่งสัญญาณว่าไม่เป็นไร

ชิ้ง!

กระบี่ปรากฏในมือหนิงฝานอีกครั้ง เขาเริ่มกระบวนท่าเพื่อสังหารราชาเซียนทั้งห้าทันที

“ฮ่าฮ่า!”

“ฆ่ามัน!”

“นี่คือโอกาสสุดท้ายของพวกเรา!”

ราชาเซียนทั้งห้ามองหน้ากัน จากนั้นถึงระเบิดพลังในกายของตนจนถึงขีดสุดเพื่อร่วมมือกันสังหารหนิงฝาน

ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

ทันใดนั้น หนิงฝานและราชาเซียนทั้งห้าเริ่มเข้าห้ำหั่นกันอย่างเดือดพล่าน เสียงระเบิดดังครึกโครมเป็นระลอก

เคร้ง เคร้ง เคร้ง!

ในการต่อสู้นี้ แม้หนิงฝานมีเพียงหนึ่งต่อห้า แต่พลังของเขากลับท่วมท้น จัดการราชาเซียนห้าได้อย่างง่ายดาย

กระบี่ของหนิงฝานแข็งแกร่ง ไร้สิ่งใดเทียบ!

อ๊าก!

ครู่เดียวเท่านั้น ชายจากวังมารก็ถูกหนิงฝานสับฟันจนตาย

เวลานี้ร่างของหนิงฝานอาบด้วยโลหิตราชาเซียน จิตสังหารพลุ่งพล่านจนน่าหลงใหล

อ๊า! อ๊าก! อ๊า!

เวลาเพียงหนึ่งถ้วยชา ชายอีกคนก็ถูกแทงทะลวง มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่ยืนอยู่บนแท่นประลองได้จวบจนลมหายใจสุดท้าย… นั่นคือผู้เฒ่าหมาอี!

“ตายซะ!”

หนิงฝานคำรามลั่นก่อนเปิดใช้งานคัมภีร์โบราณราชันจักรพรรดิเซียน เขาเปิดกลยุทธ์สงครามบรรพกาลออก พลังต้องห้ามพวยพุ่ง กระบี่พลันสั่นสะเทือน ปลดปล่อยปราณกระบี่ทรงพลังออก

ตู้ม!

เมื่อปราณกระบี่พุ่งทะยานออกไป แท่นประลองก็ระเบิด แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ

อ๊ากกก!

ทันใดนั้น ผู้เฒ่าหม่าอีกรีดร้องออกมาก่อนจะสูญสลายไปในความสิ้นหวัง

ทั้งโลหิต เนื้อหนัง กระดูกของราชาเซียนเกลื่อนกลาดอยู่บนแท่นประลองอย่างน่าสยดสยอง

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

Status: Ongoing

หนิงฝาน' ชายหนุ่มผู้เดินทางข้ามสายธารแห่งกาลเวลามาเป็นสามีของจักรพรรดินีแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีก็คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้อ่อนแอและเกาะภรรยากินไปชั่วชีวิตเสียแล้ว ทว่าจู่ ๆ เขากลับเปิดใช้งานระบบสลากขั้นเทพได้...

นี่เองคือจุดเริ่มต้นใหม่ของผู้ที่ 'เคยอ่อนแอ' มาก่อน!

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังจักรพรรดินีเสร็จสิ้น และได้ร่างกายของเซียนดาบ!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ยอดเขาสารพัดประโยชน์ได้สำเร็จ และได้รับเสื้อคลุมเร้นลับ!]

หนิงฝานเดินเล่นไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมระบบสลากขั้นเทพ ล็อกอินสถานที่อย่างเงียบ ๆ ในฐานะสามีผู้ไร้ค่าของจักรพรรดินี จนกระทั่งหลายปีต่อมา บรรพชนของปีศาจทั้งหลายถือกำเนิดขึ้นและยกกองทัพปีศาจนับล้านบุกแดนศักดิ์สิทธิ์!

จักรพรรดินีผู้เลอโฉมพ่ายแพ้ และทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในภยันตราย! หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปีศาจนับล้านพลันถูกกำจัด! แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มไม่ได้สนใจมากนัก... เพราะเขารู้เพียงว่าเขาได้กลายเป็นตัวตน 'อมตะ' ในโลกนี้แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท