เฉินตันจูออกจากจวนก็ไม่ได้เดินทางไปที่อื่นอีก นางกลับไปยังภูเขาดอกท้อ การวิ่งไปมาในครานี้ ทำให้ยามเย็นมาปกคลุมป่าไม้อย่างไม่รู้ตัว
นางเดินอย่างเชื่องช้าบนทางเดินภูเขา ได้ยินด้านหน้ามีเสียงเรียกขานแผ่วเบา “เจ้ากลับมาแล้ว”
ไม่ใช่เสียงหญิงสาวของอาเถียนหรือเยี่ยนเอ๋อ หากแต่เป็นเสียงของชายหนุ่มที่อ่อนโยนและสุขุม เฉินตันจูเงยหน้าขึ้น เห็นองค์ชายสามยืนอยู่บนทางเดินภูเขา
ท่ามกลางยามเย็น เงาคนสลัว เฉินตันจูมองด้วยความผงะ ยกมือขึ้นกัดนิ้วอย่างไร้เหตุผล
องค์ชายสามเห็นท่าทางของนาง นิ้วที่ปล่อยลงเจ็บขึ้นมาอย่างประหลาด ราวกับนางกัดลงบนมือของตนเอง
การปรากฏตัวของเขาสำหรับนางเป็นเรื่องที่เหมือนฝันไปแล้วหรือ
เมื่อมั่นใจว่าไม่ใช่ความฝัน อีกทั้งไม่ได้เห็นภาพลวงตา เฉินตันจูกลับคืนสู่ความสงบ
“องค์ชายสามเสด็จมาได้อย่างไรเพคะ” นางเดินเข้าไปถามอย่างเร่งรีบ ก่อนจะมองแขนของเขา “ได้รับบาดเจ็บตรงที่ใดเพคะ”
องค์ชายสามชี้บริเวณที่ได้รับบาดเจ็บให้นางดู “ไม่เป็นอันใด หายดีแล้ว”
เมื่อได้ยินเขาบอกเช่นนี้ เฉินตันจูจึงไม่ได้ดูอีก พยักหน้าพลางเอ่ย “เช่นนั้นย่อมดี เช่นนั้นย่อมดี”
ท่ามกลางป่าไม้เงียบสงัดไปชั่วครู่
องค์ชายสามไม่ชอบความเงียบนี้ รีบเอ่ยปากทำลายความเงียบ “วันนี้เจ้าเข้าวังหรือ”
เฉินตันจูตอบด้วยรอยยิ้ม “ใช่เพคะ องค์หญิงจินเหยาเชิญพวกหม่อมฉันไปพูดคุย เห็นว่าองค์ชายสามท่านทรงงานหนัก จึงไม่ได้ไปรบกวนเพคะ”
องค์ชายสามเงียบ ถึงแม้จะทำลายความเงียบแล้ว แต่บทสนทนานี้ไม่น่ารื่นรมย์มากนัก ได้ยินว่าเฉินตันจูถามว่าองค์ชายสามเสด็จมาได้อย่างไร
“มาดูเจ้า” เขาจึงตอบ
เฉินตันจูยิ้มให้เขา “ขอบพระทัยเพคะ ระยะนี้หม่อมฉันสบายดี”
สบายดีตรงไหน ก่อนหน้านี้เขายืนอยู่บนทางเดินภูเขา หญิงสาวที่เดินเข้ามาท่ามกลางยามเย็นตัวลอยราวกับสูญเสียจิตวิญญาณ เขาจึงอดเอ่ยปากเรียกขานไม่ได้ เกรงว่าหากช้าไปเพียงเล็กน้อย ลมบนภูเขาจะพัดเฉินตันจูจากไป
“ข้าได้ยินว่าองค์รัชทายาทไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท” องค์ชายสามพูด “จึงไปถาม บอกว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเจ้า”
เป็นเช่นนั้นจริงด้วย เฉินตันจูจับมือของเขา เอ่ยถาม “เรื่องใดเพคะ” พูดจบก่อนจะชะงักลง “หากไม่สะดวก องค์ชายสามารถไม่พูดได้เพคะ”
นางกำลังเป็นห่วงเขา ดังนั้นจึงเกรงใจเขา? องค์ชายสามไม่มีความยินดีแม้แต่น้อย นึกถึงตอนนั้นที่นางพูดอย่างไม่ปิดบังต่อหน้าเขา
“องค์ชายสาม ท่านต้องพบกับสหายของหม่อมฉัน เขาดีอย่างมาก”
“องค์ชายสาม ท่านต้องช่วยเหลือหม่อมฉันด้วย”
“ตันจู” เขาพูด “ข้ามาแล้ว แค่พูดจะเป็นอันใดไป”
ใช่ เขามาด้วยตนเองแล้ว ไม่ว่าพูดหรือไม่ ภายในสายตาของฮ่องเต้หรือองค์รัชทายาทล้วนเกี่ยวข้องกับเขา องค์ชายสามยังคงเป็นเหมือนเดิม ยังคงช่วยเหลือนางเหมือนเดิม เฉินตันจูอดยิ้มไม่ได้ พูด “องค์ชายสามเวลานี้ท่านหายจากอาการประชวรแล้ว อีกทั้งเคยคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้สองครั้งแล้ว หม่อมฉันแค่กังวลไม่รู้ว่าองค์ชายจะช่วยเหลือหม่อมฉันอย่างไรดี”
องค์ชายสามหัวเราะ “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องกังวล ข้ากังวลก็พอ”
ทั้งสองคนสบตากันพลันยิ้มออกมา ลมท่ามกลางป่าไม้ดูรื่นเริงมากขึ้น
“บอกว่าเป็นเรื่องของหลี่เหลียง” องค์ชายสามพูดต่อ “เสด็จพ่อไม่ได้ให้ข้าเข้าเฝ้า ราวกับกังวลอย่างมาก องค์รัชทายาทคงขอโปรดความดีความชอบให้หลี่เหลียง แน่นอน เขาไม่ได้ทำเพื่อหลี่เหลียง หากแต่เพื่อตัวของเขาเอง”
นับแต่องค์รัชทายาทเสด็จมาถึงเมืองหลวง เขาไม่ได้สร้างความดีความชอบแต่อย่างใด เดิมทีมีความดีความชอบในการสร้างความมั่นคงแก่เมืองซีจิง สุดท้ายก็ถูกคดีหมู่บ้านซ่างเหอทำให้แปดเปื้อน จากนั้นองค์ชายห้าและฮองเฮายังกระทำผิดอันใหญ่หลวงถูกกักบริเวณ องค์รัชทายาทจำเป็นต้องทำให้ฮ่องเต้เห็นถึงความดีความชอบของเขา
ถึงแม้หลี่เหลียงจะทำไม่สำเร็จ แต่เขาก็วางแผนอย่างสุดแรงกายแรงใจเพื่อฮ่องเต้ อีกทั้งยังสังหารบุตรชายของเฉินเลี่ยหู่ กอบกุมกองกำลังทั้งหมดของเมืองอู๋ ด้วยสาเหตุนี้ ทำให้เฉินตันจูจำเป็นต้องยอมจำนนต่อราชสำนัก…
หากจะพิจารณา สุดท้ายการกำราบเมืองอู๋โดยไม่สูญเสียกองกำลังแม้แต่คนเดียวควรจะเป็นความดีความชอบขององค์รัชทายาท
“แต่ว่าเจ้าไม่ต้องกังวล” องค์ชายสามพูด “ถึงแม้เขาจะขอโปรดความดีความชอบให้หลี่เหลียง แต่ย่อมไม่อาจลบเลือนความดีความชอบของเจ้าได้ ยิ่งไม่สามารถคาดโทษเจ้าได้”
เฉินตันจูพยักหน้า “หลี่เหลียงทรยศต่อตระกูลเฉิน หม่อมฉันสังหารเขาเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งหม่อมฉันสังหารเขา แต่หม่อมฉันก็ช่วยเรียกคืนแผ่นดินเมืองอู๋ ถือว่ากระทำความดีความชอบทดแทนการทำผิด ฝ่าบาทไม่มีเหตุผลลงโทษหม่อมฉัน” พูดพลางยิ้มให้องค์ชายสาม “องค์ชายท่านวางใจ หม่อมฉันไม่กลัว” พูดพลางกำหมัดแน่น “หม่อมฉันก็แค่ โกรธเล็กน้อย!”
ไม่ใช่แค่เพียงเล็กน้อย แต่ควรจะโกรธอย่างยิ่ง องค์ชายสามมองนาง อาจเป็นเพราะการเดินทาง ทำให้เส้นผมของนางกระจายอยู่ข้างหู พลิ้วไหวตามสายลม เขาอดยื่นมือออกไปทัดผมของนางไว้หลังหูให้ไม่ได้
“ตันจู” เขาพูด “เจ้าวางใจ องค์รัชทายาทไม่สมปรารถนาอย่างแน่นอน แต่เจ้ากับข้าล้วนจะสมดังปรารถนา”
คำมั่นสัญญาอันใดกัน เหตุใดฟังแล้วจึง…เฉินตันจูมองเขา ใบหน้าที่อบอุ่นแสดงออกถึงความเย็นชาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หัวใจของนางกระตุก องค์ชายห้าและฮองเฮาลอบทำร้ายองค์ชายสาม แต่องค์รัชทายาทนั้นบริสุทธิ์หรือ นางเหม่อลอยไปชั่วขณะจนไม่ทันสังเกตท่าทางขององค์ชายสามที่ทัดผมให้นาง
อาจเป็นเพราะเวลานานเกินไป เสี่ยวชวีที่อยู่ด้านข้างอดพูดเตือนไม่ได้ “องค์ชาย พวกเราควรกลับแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เฉินตันจูตั้งสติกลับมา รีบพูด “องค์ชายสาม ท่านรีบเสด็จกลับเถิด ท่านต้องทรงงานหนักเพียงนี้”
องค์ชายสามส่งเสียงตอบรับในลำคอ ในขณะที่กำลังจะจากไป เขาก็หยุดลง “ตันจู ข้ายุ่งมากก็จริง แต่ถึงแม้จะยุ่งเพียงใดก็มีเวลาพบเจ้า คราหน้าหากเจ้าเข้าวังอีก บอกข้าเถิด”
เขา…ไม่พอใจที่วันนี้นางเข้าวังแล้วไม่ได้ไปหาเขาหรือ แต่วันนี้ นางบอกแล้ว ให้หนิงหนิงผู้นั้น อ่อ…หนิงหนิงนั้น…เป็นสตรี เฉินตันจูกระจ่าง ตอนนั้นนางต้องการแย่งชิงโอกาสในการรักษาองค์ชายสามก่อนหนิงหนิง เช่นนั้นหนิงหนิงย่อมสามารถกีดขวางนางไม่ให้เข้าใกล้องค์ชายสาม
“ได้เพคะ” เฉินตันจูพูดเสียงดัง “หม่อมฉันย่อมไปทูลองค์ชายด้วยตนเอง ไม่ให้เหมือนวันนี้ ได้ยินสาวรับใช้หนิงหนิงของท่านบอกว่าท่านทรงงานยุ่งมากจึงไม่กล้าไปรบกวนเพคะ”
นางเน้นย้ำคำว่าสาวรับใช้ของท่าน…การอดทนอดกลั้นไม่ใช่วิถีทางของนาง เฉินตันจู
สีหน้าขององค์ชายสามเปลี่ยนไป เขาฉายแววโกรธเล็กน้อย แต่เมื่อมองไปยังเฉินตันจูก็แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ที่แท้ไม่ใช่เพราะนางไม่อยากพบเขา
“ได้” เขาไม่ได้พูดเรื่องอื่น เวลานี้ไม่จำเป็นต้องพูดถึงผู้อื่น
เสี่ยวชวีที่ราวกับไม่มีตัวตนทำได้เพียงเร่งเร้าอีกครั้ง “องค์ชาย”
องค์ชายสามไม่ได้ชะลออีกต่อไป เขาโบกมือให้เฉินตันจู หันหลังเดินจากไป นายบ่าวสองคนหายลับไปในราตรีอย่างรวดเร็ว
เฉินตันจูยืนนิ่งอยู่บนทางเดินภูเขา รอยยิ้มบนมุมปากหายไปอย่างช้าๆ สีหน้าเคร่งเครียด
องค์รัชทายาทขอโปรดความดีความชอบให้แก่หลี่เหลียง นางไม่กลัว แต่นางแค้น
นางสังหารหลี่เหลียง แต่ยังคงไม่อาจหยุดยั้งไม่ให้เขาทำร้ายตระกูลเฉินได้
หลี่เหลียงมีความดีความชอบ เช่นนั้นพี่สาวของนางเป็นอันใด สามีได้รับเกียรติยศ ภรรยาย่อมได้เกียรติยศหรือ
“อาลัยอาวรณ์เพียงนี้หรือ”
เสียงประหลาดดังขึ้นมาจากเชิงเขา
ในเวลาเดียวกันยังมีเสียงของจู๋หลินดังขึ้น “คุณหนูตันจู ท่านโหวโจวมาขอรับ”
จากนั้นจึงเป็นเสียงกระทบกัน ราวกับเสียงหมัดแต่ก็ราวกับเสียงอาวุธ
“เฉินตันจู เหตุใดองค์ชายสามจึงมาได้ตามใจ แต่ข้ามาต้องถูกกีดขวาง” เสียงชายหนุ่มบนทางเดินภูเขาซักถามด้วยความโกรธ
เฉินตันจูตั้งสติมองไป เห็นโจวเสวียนถูกจู๋หลินขวางเอาไว้ นางอดหัวเราะไม่ได้ “ย่อมเป็นเพราะท่านไม่ใช่องค์ชาย ท่านเป็นเพียงแค่ท่านโหว สิทธิไม่พอ”
นางพูดได้มีเหตุผลอย่างยิ่ง โจวเสวียนผงะ ก่อนจะหัวเราะออกมา
จู๋หลินหายลับไปท่ามกลางป่าไม้ ไม่สนใจพวกเขาอีกต่อไป
โจวเสวียนเดินขึ้นมา ยืนอยู่ต่อหน้าของเฉินตันจู เอ่ยถาม “ท่านมาหาข้าเพื่อการใด” ก่อนจะส่งเสียงไม่พอใจ “ที่แท้ไม่ได้มาหาข้าแค่คนเดียว”
เฉินตันจูพูด “ข้าไม่ได้ไปหาท่าน ข้าแค่ต้องการดูจวนของข้า ไม่ได้หรือ”
ดูจวน…โจวเสวียนสำลักอีกครั้ง แต่เขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติ เขามองใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้า พลางเอ่ยถาม “คุณหนูตันจู ท่านเศร้าโศก?”
เฉินตันจูมองเขา พูดอย่างเศร้าโศก “ท่านโหวโจว ท่านมีความสุขหรือไม่”
เขา เขาย่อมไม่มีความสุข เขามีสิ่งใดที่น่ายินดีกัน ความแค้นของท่านพ่อยังไม่แก้แค้น ความโศกเศร้ายากที่จะเอ่ย โจวเสวียนคิดในใจ มองไปยังเฉินตันจู ก่อนจะหัวเราะขึ้นมา “ข้าไม่มีความสุข แต่เมื่อคิดถึงตอนที่คุณหนูตันจูไม่มีความสุข วิ่งมาหาข้า ข้าก็มีความสุขอย่างยิ่งแล้ว”