บทที่ 284 นิกายเทพโบราณโจมตีวังเซียน
หมู่เกาะโบราณเป็นหนึ่งในสามพันเซียนแห่งอาณาจักรเซียนฮวงเทียน ซึ่งติดกับหมู่เกาะจิ่น ดินแดนแห่งนี้กว้างใหญ่คล้ายกับหมู่เกาะจิ่นแทบทุกสิ่ง
ในฐานะกองกำลังอันดับหนึ่งในหมู่เกาะโบราณ นิกายเทพโบราณแข็งแกร่งยิ่งกว่าวังมาร ซ้ำยังมียอดฝีมือมากมายภายในนิกายแห่งนี้ โดยเฉพาะกู่เสินเยว่ เจ้านิกายเทพโบราณ เขาประสบความสำเร็จในการขึ้นเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งภายในสามพันเซียนแห่งอาณาจักรเซียนฮวงเทียน ซึ่งทำให้ความแข็งแกร่งและพลังอำนาจของนิกายเทพโบราณอยู่ในจุดสูงสุด!
หลังจากเดินทางยาวนาน ผู้ส่งสารจากวังมารเดินทางมาถึงนิกายเทพโบราณแล้ว
“หยุด นั่นผู้ใด!”
เมื่อเห็นว่าผู้ส่งสารจากวังมารเข้ามาใกล้ ศิษย์ของนิกายเทพโบราณรีบเอ่ยคำขู่ทันที
เห็นดังนั้น ผู้ส่งสารของวังมารประสานกำปั้นพร้อมกล่าว “เรียนท่านผู้ยิ่งใหญ่ ข้าคือสมาชิกจากวังมารจากหมู่เกาะจิ่น เจ้าวังมารของข้าสั่งให้ข้านำสารมามอบแก่เจ้านิกายเทพโบราณ ข้าจึงต้องขอเข้าสู่ด้านในเพื่อรายงานขอรับ!”
“วังมาร หมู่เกาะจิ่น?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว ศิษย์ผู้พิทักษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ในหมู่เกาะจิ่น วังมารนั้นเป็นสถานที่ที่ศิษย์แห่งนิกายเทพโบราณรู้จักเป็นอย่างดี เมื่อเร็ว ๆ นี้นิกายเทพโบราณยังให้ความสนใจกับแคว้นหมู่เกาะจิ่นด้วย
“รอสักครู่!”
ศิษย์คนหนึ่งเข้าไปรายงานด้านใน หลังจากนั้นไม่นานเขาออกมาอีกครั้ง “ตามข้ามา เจ้านิกายต้องการพบเจ้า!”
“ขอบคุณท่านมาก!”
ผู้ส่งสารจากวังมารติดตามศิษย์ผู้พิทักษ์เข้าสู่ด้านในของนิกายเทพโบราณ ไม่ช้าก็มาถึงวังอันโอ่อ่าใหญ่โต
ภายในวัง บนบัลลังก์มีชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำนั่งเด่นเป็นสง่า ใบหน้าคมคาย โหนกแก้มชัด สวมใส่ชุดเกราะสีทองอร่าม เพียงแค่นั่งอยู่เฉย ๆ ก็รู้สึกได้ถึงรัศมีอันน่าสะพรึงแผ่ขยายออกมาอย่างท่วมท้น นี่คือเจ้านิกายเทพโบราณ… กู่เสินเยว่!
“ข้าผู้ส่งสารแห่งวังมาร ทำความเคารพเจ้านิกายเทพโบราณขอรับ!”
แม้ผู้ส่งสารของวังมารไม่ได้เคารพนิกายเทพโบราณนัก แต่ภายใต้รัศมีอันน่าเกรงขามนี้ เขารีบคุกเข่าลงพร้อมกล่าวทำความเคารพอย่างลนลาน
“คนจากวังมาร? เหตุใดจึงมาพบข้า!”
เวลานี้ เจ้านิกายเทพโบราณเปิดปากกล่าว เสียงของเขาดังสนั่นราวท้องฟ้าคำราม ห้องโถงภายในสั่นสะเทือน
“รายงานเจ้านิกายเทพโบราณ ข้ามีเรื่องสำคัญ… วังมารต้องการหารือกับท่าน นี่คือสารที่เขียนโดยเจ้าวังมารขอรับ เจ้านิกายเทพโบราณโปรดรับไว้เถิด”
ผู้ส่งสารกล่าวพร้อมร่างกายสั่นสะท้านไปทั่ว แต่ก็ยังสามารถยื่นสารออกไปได้
พรึ่บ!
สารที่ถูกยื่นออกไป กู่เสินเยว่เริ่มอ่านพร้อมกับคิ้วคมเข้มนั้นขมวดเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว
“ฮ่าฮ่า! เจ้าคนเย่อหยิ่งนั่นน่าสนใจไม่น้อย ถึงขนาดทำให้วังมารผู้ยิ่งใหญ่ถึงกับต้องขอความร่วมมือกับนิกายเทพโบราณ!”
หลังจากอ่านจบแล้ว เจ้านิกายเทพโบราณระเบิดเสียงหัวเราะโดยพลัน
นับตั้งแต่ที่เขาประสบความสำเร็จในการกุมอำนาจเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งในสามพันเซียนแห่งอาณาจักรเซียนฮวงเทียน เขาไม่ได้อยากจะครองอำนาจเพียงแค่แคว้นนี้เท่านั้น เขาต้องการแผ่ขยายอาณาเขตพร้อมกับสร้างนิกายเทพโบราณเพื่อควบคุมแคว้นต่าง ๆ
และเวลานี้เขาสนใจหมู่เกาะจิ่นอยู่เช่นกัน แต่ทว่ากลับไม่มีโอกาสในการไปยึดครองที่นั่น และไม่คาดคิดมาก่อนว่าวังมารจะเป็นผู้เปิดประตูอยากร่วมมือกับนิกายเทพโบราณเพื่อทำลายวังเซียน แล้วจะแบ่งแคว้นหมู่เกาะจิ่นร่วมกันอย่างเท่าเทียม!
นับว่านี่คือโอกาสที่เหมาะสม!
“เอาเถิด ในเมื่อโม๋จิ่วโยวต้องการความช่วยเหลือ นิกายเทพโบราณของข้าก็ยินดี!”
ท้ายที่สุด กู่เสินเยว่มองขึ้นฟ้าพร้อมระเบิดเสียงหัวเราะลั่น แล้วจึงกล่าวกับผู้ส่งสารจากวังมารว่า “กลับไปรายงานตามคำกล่าวของข้า บอกกับเขาว่าข้ายินดีให้ความร่วมมือ หลังจากนี้หนึ่งร้อยปี นิกายเทพโบราณจะส่งกองกำลังสู่แคว้นหมู่เกาะจิ่นเพื่อช่วยเหลือวังมาร… ในการทำลายหนิงฝานและวังเซียนให้สิ้นซาก!”
“เจ้านิกายขอรับ หนึ่งร้อยปีนั้นนานเกินไปหรือไม่?”
ผู้ส่งสารของวังมารขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะกล่าวอธิบาย “ท่านเจ้านิกาย ท่านไม่ทราบหรือว่าหนิงฝานเป็นเซียนไร้เทียมทานในตำนาน ไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์หาคนเทียบเคียง แต่ยังพัฒนาความแข็งแกร่งได้รวดเร็วมาก เจ้าวังมารของข้าคาดหวังว่าเจ้านิกายเทพโบราณจะไปที่นั่นในทันที…”
“หืม?! เจ้าคิดสั่งสอนข้างั้นหรือ?!”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ผู้ส่งสารจะกล่าวจบ กู่เสินเยว่เลิกคิ้วเผยใบหน้าเย็นชา ก่อนที่พลังรุนแรงจะห่อหุ้มอีกฝ่ายเอาไว้
“อ๊ากก!”
“ได้โปรด!”
“ข้าผิดไปแล้ว!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้ส่งสารวังมารสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
“ฮึ่ม! ถ้าอย่างนั้นก็จงรีบออกไปเสีย!”
หลังจากได้รับความเมตตาจากเจ้านิกายเทพโบราณ ผู้ส่งสารของวังมารรีบวิ่งออกจากห้องโถงทันที ก่อนจะมุ่งหน้าออกจากนิกายเทพโบราณ
“ฮ่าฮ่า!”
“ก็แค่กึ่งราชาเซียน เปราะบางราวกับมด แม้จะสังหารราชาเซียนขั้นสูงได้ แต่ก็เป็นเพียงมดที่ตัวใหญ่กว่าปกติเท่านั้น น่าขันที่วังมารถึงกับเกรงกลัวสิ่งเล็กจ้อยนี่
เมื่อมองแผ่นหลังของผู้ส่งสารจากวังมาร กู่เสินเยว่ยกยิ้มเหยียดหยาม
แม้ว่าโม๋จิ่วโยวจะกล่าวไว้แล้วว่าหนิงฝานทรงพลังและชั่วร้ายเพียงใด แต่กู่เสินเยว่กลับไม่คิดใส่ใจแม้แต่น้อย
และที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาสัมผัสได้ว่าตนเองกำลังจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตราชาเซียนขั้นสุด!
เมื่อเขาทะลวงเข้าสู่ขอบเขตราชาเซียนขั้นสุดแล้ว เขาคงไม่พึงพอใจกับการแบ่งหมู่เกาะจิ่นอย่างเท่าเทียมกับวังมารแน่ อย่างไรแล้วหลังจากทำลายวังเซียนเสร็จสิ้น ค่อยทำลายวังมารภายหลังก็ย่อมได้ กว่าจะถึงตอนนั้นมันคงงดงามยิ่งกว่าหากนิกายเทพโบราณจะครอบครองหมู่เกาะจิ่นแต่เพียงผู้เดียว
…
“ร้อยปีงั้นหรือ?”
“บัดซบ! กู่เสินเยว่คิดทำอะไร! แค่ส่งกองกำลัง ครึ่งหนึ่งของหมู่เกาะจิ่นจะกลายเป็นของเขาทันที แต่กลับไม่ออกคำสั่งอย่างนั้นหรือ?!”
ณ วังมาร โม๋จิ่วโยวขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้รับฟังถ้อยคำจากผู้ส่งสาร
หลังรู้ว่านิกายเทพโบราณยังไม่ส่งกองกำลังในทันที พวกเขาก็คงทำสิ่งใดไม่ได้
“ร้อยปีก็ร้อยปี แม้ว่าเจ้าจะไปค้นประวัติศาสตที่ผ่านมาของอาณาจักรเซียน ก็ไม่มีผู้ใดเข้าสู่ขอบเขตราชาเซียนได้ภายในร้อยปี และหนิงฝานเองก็ไม่อาจทำได้!”
สุดท้ายโม๋จิ่วโยวเพียงออกคำสั่ง “ทำตามคำสั่ง หลังจากนี้วังมารจะเข้าสู่สภาวะเตรียมพร้อมสู่สงคราม ร้อยปีข้างหน้า เมื่อนิกายเทพโบราณนำทัพมาถึง จะเป็นเวลาตายของหนิงฝานและวังเซียน!”
…
เช่นนี้ การต่อต้านหนิงฝานและวังเซียนค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบงัน
หากแต่หนิงฝานและผู้คนภายในวังเซียนต่างไม่มีใครทราบ ทุกสิ่งยังคงดำเนินต่อไปเช่นเดิม และเขาไม่ได้สนใจโลกภายนอกสักนิด ได้แต่อุทิศตนเพื่อทะลวงเข้าสู่ขอบเขตราชาเซียน!
ยี่สิบปี!
ห้าสิบปี!
แปดสิบปี!
หนึ่งศตวรรษ!
ร้อยปีผ่านไปในพริบตา
[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้วังเซียนสำเร็จ และได้รับเม็ดยาราชาเซียนแห่งโชค!]
พรึ่บ!
วันนี้หลังจากลงชื่อเข้าใช้ ยาอายุวัฒนะก็ปรากฏขึ้น
“โอ้! ด้วยเม็ดยาราชาเซียนแห่งโชค วันนี้ข้าจะต้องทะลวงสู่ขอบเขตราชาเซียนได้แน่”
หนิงฝานมองเม็ดยาตรงหน้าด้วยความยินดี
เป็นอย่างที่โม๋จิ่วโยวคาดเดา ขอบเขตราชาเซียนนั้นทะลวงผ่านได้ยากยิ่ง แม้หนิงฝานที่อยู่ในระดับกึ่งราชาเซียน แต่ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมาเขาก็ยังไม่สามารถทะลวงผ่านไปได้สักที
และเม็ดยาราชาเซียนแห่งโชคนี้จะทำให้เขาผ่านพ้นขั้นตอนสุดท้ายนี้ได้
ตู้ม!
แต่ทันทีที่หนิงฝานกลืนเม็ดยานี้ พลังแห่งโชคลาภมหาศาลระเบิดภายใน หลังจากเปิดใช้งานคัมภีร์โบราณราชันจักรพรรดิเซียน คลื่นพลังอันสง่างามของราชาเซียนเริ่มแพร่กระจายออกจากร่างกาย…
และในเวลาเดียวกัน
พรึ่บ!
ร่างกายกำยำหุ้มด้วยเกราะสีทองอร่ามก็มาถึงวังมารแล้ว กลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวของราชาเซียนสูงสุดแผ่ขยายเป็นวงกว้าง เขาคือเจ้านิกายเทพโบราณ… กู่เสินเยว่!
“โอ้! ท่านพี่กู่ ในที่สุดท่านก็มา!”
เมื่อเห็นว่ากู่เสินเยว่มาถึงแล้ว โม๋จิ่วโยวยิ่งยินดี
กู่เสินเยว่พยักหน้ารับอย่างเย็นชา ก่อนจะโบกมือเบา ทันใดร่างแข็งแกร่งจำนวนมากของศิษย์จากนิกายเทพโบราณปรากฏขึ้นภายในวังมาร
“หึหึหึ!”
“จากนี้ไป โลกใบนี้จะไม่มีชื่อของวังเซียนหลงเหลืออยู่อีก!”
สิ้นเสียง โม๋จิ่วโยวเงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมส่งเสียงหัวเราะชั่วร้าย
ในเมื่อเขาได้ความช่วยเหลือจากผู้แข็งแกร่งเช่นนิกายเทพโบราณ ในตอนนี้ก็พร้อมจะบุกโจมตีวังเซียนสักที!