บทที่ 285 ระเบิดครั้งใหญ่ ราชาเซียนพินิจสวรรค์!
ตู้ม!
เกิดเสียงคำรามปะทุขึ้น ขบวนกองทัพยิ่งใหญ่มุ่งหน้าสู่วังเซียน ลำแสงนับร้อยล้านปรากฏ คลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวสร้างความหวาดหวั่นไปทั่วทั้งวังเซียน
“หืม! เกิดอะไรขึ้น?!”
“มีคนบุกโจมตีวังเซียนของข้า!”
“ผู้ใดกันมันกล้าถึงเพียงนี้!”
“เร็ว! รีบไปดู!”
“…”
ทุกคนภายในวังเซียนตื่นตระหนก ทั้งศิษย์และผู้อาวุโสทั้งหมดกลายเป็นลำแสงพุ่งทะยานออกสู่หน้าประตูวัง
พรึ่บ!
จวินเต้าหลินมาถึงหน้าประตูวังเป็นคนแรก เขาเห็นว่าด้านนอกของวังเซียนมีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนจากวังมาร แต่ละคนเผยความเกรี้ยวกราดดุร้าย จิตสังหารรุนแรง ทั้งหมดถูกนำมาโดยโม๋จิ่วโยว
“โม๋จิ่วโยว!!!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ แววตาจวินเต้าหลินแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาก่อนคำรามลั่น “เจ้าคิดทำสิ่งใด! หรือคิดใช้กำลังข่มเหงวังเซียนของข้า!”
“ฮึ่ม! หัวไวดีนี่! วันนี้… วังมารของข้าจะบุกทำลายวังเซียนของเจ้าให้สิ้น!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว โม๋จิ่วโยวกล่าวตอบเย็นชา จิตสังหารไร้สิ้นสุดปรากฏในดวงตาของเขา จากนั้นจึงกล่าวต่อว่า “อ่า… แต่ถ้าหากเจ้ายินยอมที่จะส่งมอบหนิงฝานแก่วังมารของข้า…”
“ไร้สาระ!”
ก่อนที่โม๋จิ่วโยวจะกล่าวจบ จวินเต้าหลินปฏิเสธโดยพลัน “โม๋จิ่วโยวต้องการโจมตีและทำลายวังเซียนเพื่อข่มขู่ให้วังเซียนมอบหนิงฝานงั้นหรือ! ไม่มีทาง! ความแข็งแกร่งของวังเซียนอาจด้อยกว่าวังมารของเจ้า แต่ด้วยความแข็งแกร่งของวังมารเพียงอย่างเดียว ไม่อาจทำลายวังเซียนของข้าได้ นับว่ายังห่างชั้น!”
“งั้นหรือ?”
เมื่อเห็นเช่นนี้ โม๋จิ่วโยวยกยิ้มเย็นยะเยือก
ทันใดนั้น เสียงคำรามหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง
“วังมารไม่อาจทำได้ แต่หากมีนิกายเทพโบราณเช่นพวกเราล่ะ!”
พรึ่บ!
สิ้นเสียง กู่เสินเยว่ก็ปรากฏตัวข้างกับโม๋จิ่วโยว
จากนั้นกองทัพขนาดใหญ่ของนิกายเทพโบราณปรากฏขึ้นในพริบตา และด้วยความแข็งแกร่งของคนเหล่านั้นล้วนมากกว่าผู้ฝึกยุทธ์ของวังเซียน!
“หืม? นิกายเทพโบราณ!!!”
เมื่อเห็นการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของกู่เสินเยว่และกองทัพศิษย์จากนิกายเทพโบราณ ใบหน้าของจวินเต้าหลินเผยความตื่นตระหนก ร่างกายสั่นสะท้านไร้การควบคุม
หลังจากนั้นความเยือกเย็นและขุ่นเคืองฉายชัดในแววตา “โม๋จิ่วโยว… เจ้าร่วมมือกับนิกายเทพโบราณเพื่อทำลายวังเซียนของข้า! เจ้าไม่กลัวจะถูกทอดทิ้งจากคนรุ่นหลังหรือจึงทำเช่นนี้!”
แม้ว่าวังเซียนและวังมารจะมีความคับข้องใจต่อกัน แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาทั้งหมดคือส่วนหนึ่งของกันและกัน ไม่ว่าการต่อสู้ระหว่างทั้งสองวังในยุคที่ผ่านมาจะดุเดือดเพียงใด แต่พวกเขาก็ไม่อาจแยกจากกันได้ด้วยความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
แต่เวลานี้ อีกฝ่ายกลับสมรู้ร่วมคิดกับนิกายเทพโบราณเพื่อสังหารหนิงฝานและทำลายวังเซียน
พฤติกรรมเช่นนี้คือการทรยศ!
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ถูกทอดทิ้ง?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว โม๋จิ่วโยวยกยิ้มเย็นชาก่อนจะกล่าวตอบ “ทุกอย่างในโลกล้วนไม่มีถูกผิด มีเพียงผู้ชนะและผู้แพ้ แม้วังมารของข้าจะร่วมมือกับนิกายเทพโบราณเพื่อทำลายวังเซียนของเจ้าในวันนี้ อย่างไรแล้วในอนาคตผู้ใดจะกล้าต่อต้านหมู่เกาะจิ่น!”
“ไร้ยางอาย!!!”
จวินเต้าหลินขุ่นเคืองยิ่ง เส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปนจนแทบจะระเบิดออก “โม๋จิ่วโยว เจ้ากำลังจุดไฟเผาตนเอง นิกายเทพโบราณแห่งหมู่เกาะโบราณนั้นทะเยอทะยานอยากครอบครองหมู่เกาะจิ่นของข้า หากวังเซียนของข้าถูกทำลาย ทั้งเจ้าและวังมารก็ต้องประสบชะตากรรมไม่ต่างกัน!”
“หึหึ เจ้าคิดผิดแล้ว เพราะหลังจากทำลายวังเซียนของเจ้าเสร็จสิ้น วังมารของข้าจะแบ่งสันปันส่วนหมู่เกาะจิ่นกับนิกายเทพโบราณ แล้วก่อตั้งวังเซียนมารขึ้น!”
โม๋จิ่วโยวหัวเราะเยาะ
หลังจากนั้นเขาไม่คิดพูดคุยเรื่องไร้สาระกับจวินเต้าหลินอีกต่อไป เขาหันมองกู่เสินเยว่แล้วกล่าวคำ “ท่านพี่กู่ โปรดร่วมมือกับข้าทำลายค่ายกลป้องกันของวังเซียนนี้เถิด!”
“ได้!”
กู่เสินเยว่ไม่กล่าวมากความ เพียงพยักหน้ารับ รัศมีของพลังราชาเซียนสูงสุดพลุ่งพล่านไปทั่วกายกำยำนี้
ตู้ม! ตู้ม!
ทันใด โม๋จิ่วโยวและกู่เสินเยว่เคลื่อนไหวอย่างดุดัน ก่อนจะปลดปล่อยพลังราวกับมังกรพิโรธออกมาสองตัว มันคำรามลั่นพร้อมพุ่งโจมตีค่ายกลป้องกันของวังเซียน
“ป้องกัน! รีบป้องกัน!!!”
เมื่อเห็นว่าราชาเซียนทั้งสองเปิดฉากโจมตี จวินเต้าหลินเร่งออกคำสั่ง
ตู้ม!
พลังอันน่าหวาดหวั่นพลุ่งพล่านในกายของทุกคน พวกเขาทั้งหมดเสริมพลังให้กับค่ายกลอย่างรวดเร็ว
ตู้ม!
จวินเต้าหลิน รวมถึงผู้อาวุโสสูงสุดและศิษย์ทั้งหมดในวังเซียนได้แปรเปลี่ยนพลังในกายของพวกเขาเข้าสู่ค่ายกลป้องกันอย่างรวดเร็ว
ตู้ม! ตู้ม!
การโจมตีของราชาเซียนสูงสุดทั้งสองปะทะกับค่ายกลของวังเซียน จนเกิดเสียงระเบิดขึ้นสองครั้งราวกับสวรรค์ทั้งเก้าสั่นสะเทือน คลื่นพลังถาโถมก่อเกิดระลอกคลื่นบนค่ายกลของวังเซียน แรงสั่นสะเทือนนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก
พรวด พรวด พรวด!
ลมหายใจถัดมา พลังค่ายกลถูกโจมตีอย่างหนัก ศิษย์ทั้งหลายกระอักเลือดออกมาพร้อมกระเด็นลอยไปด้านหลัง แม้แต่ผู้อาวุโสยังใบหน้าซีดเซียวพร้อมสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุมได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานนัก สถานที่แห่งนี้กลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง และค่ายกลของวังเซียนยังไม่ถูกทำลาย ทั้งยังสามารถต้านทานพลังของการโจมตีอีกฝ่ายได้
“หึ! แม้ค่ายกลนี้จะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังแตกสลายได้ มันจะอดทนได้นานเพียงใดเชียว!”
โม๋จิ่วโยวเย้ยหยันและไม่คิดแยแส จากนั้นเขาควบแน่นพลังในกายอีกครั้ง และยังร่วมมือกับกู่เสินเยว่เพื่อระดมพลังโจมตี
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ลมหายใจถัดมา ราชาเซียนขั้นสูงสุดทั้งสองโจมตีค่ายกลป้องกันของวังเซียนอย่างต่อเนื่อง และขบวนทัพทั้งหมดคำรามลือลั่น พลังงานมหาศาลถาโถมเข้ามาไม่หยุดยั้งจนปรากฏรอยแตกร้าวขึ้น!
พรวด! พรวด! พรวด!
ในระหว่างการบุกโจมตี มีการสะท้อนของพลังผ่านค่ายกลใหญ่ หลายคนที่ส่งพลังผ่านค่ายกลนี้กระอักเลือกออกมาอีกครั้งพร้อมกระเด็นออกไปด้านหลัง
การโจมตียังคงดุเดือด ค่ายกลป้องกันของวังเซียนถึงขีดจำกัดแล้ว เกิดรอยแตกร้าวไม่ต่างจากใยแมงมุม ทั้งศิษย์และผู้อาวุโสทุกคนของวังเซียนต่างบาดเจ็บสาหัส บ้างก็ตายตก
แม้แต่ใบหน้าของจวินเต้าหลินยังซีดเซียว พละกำลังของเขาแทบจะระเบิดออกจากกาย
“ฮึ่ม! เปิดออกซะ!!!”
ท้ายที่สุด กู่เสินเยว่และโม๋จิ่วโยวคำรามลั่น ทั้งสองเปรียบกับดวงอาทิตย์ดวงใหญ่สองดวง ดวงหนึ่งปรากฏลำแสงศักดิ์สิทธิ์สว่างไสว อีกดวงหนึ่งปลดปล่อยแสงวิเศษสาดส่องไปทุกสารทิศ!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
หลังจากการโจมตีรุนแรงของทั้งสอง เสียงคำรามลือลั่นดังกึกก้อง จากนั้นแนวปราการป้องกันของวังเซียนแตกสลายในทันที
เพล้ง!
ทันทีที่ค่ายกลใหญ่พังทลายลง พลังอันน่าสะพรึงเหล่านั้นครอบคลุมไปทั่วทั้งวังเซียนในทันที ร่างกายของเหล่าศิษย์มากมายแหลกสลาย มีเพียงโลหิตและเศษซากเนื้อเกลื่อนกลาดไปทั่ว
พรวด!
แม้แต่จวินเต้าหลินยังบ้วนโลหิตคำโตพร้อมลอยลิ่วไปด้านหลัง
“จบสิ้นแล้ว!”
ใบหน้าจวินเต้าหลินฉายแววความสิ้นหวัง
หากปราศจากค่ายกล คงไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งกู่เสินเยว่และโม๋จิ่วโยวได้อีกแล้ว ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมบรรดาศิษย์ผู้แข็งแกร่งจากวังมาร และนิกายเทพโบราณด้วย!
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“บุกเลย!!!”
ลมหายใจถัดมา เสียงหัวเราะบ้าคลั่งดังออกจากปากของกู่เสินเยว่และโม๋จิ่วโยว จากนั้นคนทั้งหมดบุกเข้าสู่วังเซียนอย่างพร้อมเพรียง ผู้ฝึกยุทธ์แข็งแกร่งจำนวนมากจากวังมารและนิกายเทพโบราณเข้าอัดแน่นทั่วทั้งบริเวณ
เวลานี้วังเซียนถูกสองกองกำลังใหญ่ล้อมเอาไว้โดยสมบูรณ์
“จวินเต้าหลิน เจ้ายังสามารถส่งหนิงฝานให้กับข้าได้ และข้าจะแสดงความเมตตาด้วยการทิ้งศพของคนในวังเซียนเอาไว้ส่วนหนึ่ง!”
ทันทีที่บุกรุกเข้าสู่วังเซียนได้ โม๋จิ่วโยวคำรามใส่จวินเต้าหลิน แล้วยังไม่ลืมที่จะร้องขอชีวิตของหนิงฝานด้วย
หากแต่จวินเต้าหลินไม่ตอบสนอง เพียงคำรามเสียงดังลั่น “สหายเสี่ยวหนิง วันนี้วังเซียนไม่อาจปกป้องเจ้าได้อีกต่อไป รีบหนีเร็วเข้า!!!”
การบอกกล่าวนี้ลือลั่นไปทั่วทั้งวังเซียนจนสั่นสะเทือน
“รนหาที่ตาย!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว แววตาของโม๋จิ่วโยวกลายเป็นเคร่งขรึมก่อนจะเหยียดมือออกไปควบแน่นพลังฝ่ามือสังหาร แล้วฟาดใส่จวินเต้าหลินอย่างรุนแรง
ตู้ม!
เพียงฝ่ามือล่วงหล่น โลกทั้งหมดแทบจะพังทลายสิ้น จวินเต้าหลินไม่อาจต้านทานได้ ทั้งร่างกายและวิญญาณเซียนของเขาแทบจะแตกสลายในคราวเดียว
พรึ่บ!
ขณะที่จวินเต้าหลินกำลังจะสิ้นลมหายใจ ร่างกำยำสูงใหญ่พลันปรากฏขึ้นอย่างกระทันหัน แล้วสิ่งนี้ทำลายฝ่ามือสังหารโดยตรง ความยิ่งใหญ่นี้เปรียบกับภูเขาสูงตระหง่านตั้งอยู่เบื้องหน้าจวินเต้าหลิน!