บทที่ 286 หลังหนึ่งชั่วยาม ข้าไร้ผู้ต่อกร!
จวินเต้าหลินหลีกหนี และคนที่ร้องขอให้ช่วยก็มิใช่ใครที่ไหน แต่ก็คือหุ่นกระบอกเซียนผู้เป็นราชาเซียนขั้นสูงที่หนิงฝานควบคุมเอาไว้อย่างราชันเซียนพินิจสวรรค์
“ฮ่าฮ่า!”
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้โม๋จิ่วโยวราวกับจะคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว เขาหัวเราะอย่างเย็นชาและพูดขึ้น “เจ้าหนิงฝาน วันนี้ไม่เหมือนก่อนหน้านี้แน่ หุ่นเชิดราชาเซียนเยี่ยงเจ้า คงจะช่วยตัวเองไม่ได้และก็คงไม่สามารถช่วยวังเซียนได้เช่นกัน!”
“หากมีไหวพริบพอ ก็จงรีบยอมแพ้เสีย มิเช่นนั้นทั่วทั้งวังเซียนจะถูกฝังไปพร้อมกับเจ้า!”
ตู้มมมม!
สิ้นเสียงโม๋จิ่วโยว ราวกับอัสนีฟาดไปทั่วทั้งวังเซียน
ภายในวังใหญ่ หนิงฝานที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ ในเวลานี้พลังการฝึกฝนของเขามาถึงช่วงเวลาสำคัญที่สามารถทะลวงไปถึงขั้นขอบเขตราชาเซียน
“ท่านเจ้าวัง ข้าขอมอบหุ่นกระบอกเซียนนี้ให้ท่าน ช่วยข้าถ่วงเวลาสักหนึ่งชั่วยามด้วยเถิด และหลังจากหนึ่งชั่วยามนี้ข้าจะไร้ผู้ต่อกร!”
หนิงฝานหันไปพูดกับจวินเต้าหลิน ในเวลาเดียวกัน เคล็ดวิชาควบคุมหุ่นกระบอกเซียนก็รวบรวมเข้ากับจิตใจของสิ่งหลัง
“หนิงฝาน? นี่มัน!”
ได้ยินเช่นนั้น จวินเต้าหลินก็ประหลาดใจ
หลังหนึ่งชั่วยาม ไร้ผู้ต่อกร?!
ถ้าหากว่าเป็นผู้อื่นที่พูดเรื่องไร้สาระเช่นนี้ เขาจะต้องเย้ยหยันอย่างแน่นอน
แต่หลายปีมานี้หนิงฝานกลับสร้างปฏิหาริย์ครั้งแล้วครั้งเล่า
เขาจึงตัดสินใจลองเดิมพันกับมันดู
“ได้!”
“วันนี้ แม้ว่าข้าจวินเต้าหลินจะต้องเสี่ยงชีวิต ก็จะต้องยื้อเวลาหนึ่งชั่วยามมาให้เจ้า!”
พูดจบสายตาของจวินเต้าหลินก็แข็งกร้าวขึ้น ใบหน้าจ้องมองไปยังความตายอย่างไม่เกรงกลัว
ตู้ม!
ทันใดนั้น เขาตัดสินใจเผาผลาญพลังต้นกำเนิด ในเวลาเดียวกันก็เข้าควบคุมราชันเซียนพินิจสวรรค์ด้วย!
“โม๋จิ่วโยว!”
“กู่เสินเยว่!”
“หากต้องการฆ่าเจ้าหนิงฝานและทำลายวังเซียนของข้า ก็จงข้ามศพของข้าไปก่อน!”
จวินเต้าหลินตะโกนเสียงดังลั่น และเข้าควบคุมราชันเซียนพินิจสวรรค์เพื่อเข้าปะทะทั้งสองคน
“ฮ่าฮ่า!”
“หึ! ประเมินความสามารถตัวเองสูงเกินไปรึเปล่า! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะสนองให้เจ้าเอง!”
โม๋จิ่วโยวและกู่เสินเยว่หัวเราะอย่างเย็นชา พลังมหาศาลของทั้งสองก็เดือดพล่าน
ตู้ม! ตู้ม!
เมื่อทั้งคู่ลงมือ ก็ทำให้เกิดพลังสังหารอันน่าเกรงขามขึ้นและพุ่งตรงไปยังจวินเต้าหลิน
“ตายซะ!”
ในตอนนี้ จวินเต้าหลินที่จ้องมองความตายอย่างไม่เกรงกลัว พลังต้นกำเนิดทั่วทั้งร่างกายก็เพิ่มสูงราวกับเปลวไฟอันเดือดพล่าน บีบบังคับให้ตนก้าวจากราชาเซียนขั้นสูงไปถึงขั้นสุด
ในเวลาเดียวกันนี้ ราชันเซียนพินิจสวรรค์ที่อยู่ภายใต้การควบคุม ก็ระเบิดพลังราชาเซียนขั้นสูงอันน่าเกรงขามออกมา
ตู้ม!
ทันใดนั้นเงาของร่างทั้งสี่ก็ปะทะกันในความว่างเปล่า จนเกิดเสียงดังอันไร้ที่สิ้นสุด และปลดปล่อยพลังงานอย่างมหาศาลเกินจะจินตนาการ
ตู้ม! ตู้ม!
ครู่ต่อมา จวินเต้าหลินและราชันเซียนพินิจสวรรค์ต่างก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ทว่าพลังของจวินเต้าหลินเป็นเพียงการเผาไหม้พลังต้นกำเนิดของพลังขั้นสูง และราชันเซียนพินิจสวรรค์เองก็เป็นเพียงหุ่นกระบอกเซียนที่สามารถใช้พลังกายได้อย่างเดียวเท่านั้น
เดิมทีทั้งสองไม่สามารถต่อกรกับโม๋จิ่วโยวและกู่เสินเยว่ได้เลย
ตู้ม! ปัง!
ในตอนนี้ จวินเต้าหลินถูกโม๋จิ่วโยวโจมตีจนกระอักออกมา ราชันเซียนพินิจสวรรค์เองก็ถูกกู่เสินเยว่โจมตีอย่างไม่หยุดยั้งเช่นกัน จนร่างกายมีแต่ปริแตก
“ตายซะ ตายซะ ตายซะ!”
แม้ว่าจวินเต้าหลินจะเข้าตาจน แต่เขากลับบ้าคลั่งโดยมิได้สนใจอาการบาดเจ็บของตนเองแม้แต่น้อย และยังคงควบคุมราชันเซียนพินิจสวรรค์ให้โจมตีต่อไป
หนึ่งชั่วยาม!
หนิงฝานต้องการเวลาหนึ่งชั่วยาม และมันต้องไม่ขาดไม่เกินแม้เพียงเสี้ยวลมหายใจ
ตู้ม! ตู้ม! ปัง! ปัง! ปัง!
ในความว่างเปล่า การต่อสู้อันรุนแรง เสียงปะทะกันของทั้งสองฝ่ายดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเกิดลำแสงหลากหลายสี พลังอันบ้าคลั่งแผ่ซ่านเป็นระลอกคลื่นครอบคลุมไปทั้งฟ้าดิน ทั่วทั้งวังเซียนเต็มไปด้วยการโจมตีแสนโกลาหล
และตอนนี้จวินเต้าหลินที่เสียสติควบคุมราชันเซียนพินิจสวรรค์ ยังคงโจมตีกู่เสินเยว่และโม๋จิ่วโยวไม่หยุดยั้ง
แม้ว่าจะไม่สามารถทำให้ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แม้ว่าเลือดของตนจะหลั่งไหล แม้ว่าร่างกายของราชันเซียนพินิจสวรรค์จะแตกร้าว แต่เขากลับยังคงยืนท้าทายต่อไป เพียงเพื่อเวลาหนึ่งชั่วยามนี้
“หึ!”
“หากเจ้ายังบ้าคลั่งต่อไป ด้วยพลังเช่นนี้คงจะไม่ไหวแน่!”
ท้ายที่สุด โม๋จิ่วโยวและกู่เสินเยว่ต่างมองหน้ากัน และปล่อยจิตสังหารออกมาสุดกำลัง
ตู้ม! ตู้ม!
ทันใดนั้น ผู้แข็งแกร่งทั้งสองก็ระเบิดพลังออกราวกับดวงอาทิตย์ดวงใหญ่สองดวงที่สว่างไสวด้วยแสงอันไร้ที่สิ้นสุด เพื่อปล่อยพลังอันน่าเกรงขามทั้งสองพลังออกมา
พลังทั้งสองนี้ราวกับจะทำลายฟ้าดิน และแม้แต่ความว่างเปล่า
เห็นเช่นนั้น จวินเต้าหลินทำได้เพียงใช้พลังที่มีทั้งหมดกระตุ้นราชันเซียนพินิจสวรรค์เพื่อมากำบังตนไว้
ตู้ม!
ด้วยแรงระเบิด ร่างกายของราชันเซียนพินิจสวรรค์แตกออกเป็นชิ้น ๆ และตัวเขาเองก็ทรุดตัวลงในทันที เลือดสาดกระเซ็นไปทุดทิศทาง
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
หลังจากนั้นพลังที่เหลืออยู่ของจวินเต้าหลิน เขาใช้มันเหาะออกไปจากตรงนี้ ทั่วทั้งร่างกายของเขาเป็นแผลเหวอะหวะ เลือดกระอักออกมาจากปาก แววตาสิ้นหวัง เลือดหลั่งไหลออกมาไม่หยุด
หลังจากที่ตกลงบนพื้น เขารู้สึกสิ้นหวังเป็นอย่างมาก และไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ต่อไปอีกแล้ว
“ท่านเจ้าวัง!”
เห็นเช่นนั้น เหล่าผู้คนวังเซียนตะโกนขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
แต่พวกเขากลับทำสิ่งใดไม่ได้เลย
“หึ!”
“วังเซียนของเจ้า สมควรถูกทำลายแล้ว!”
และในเวลานี้ โม๋จิ่วโยวก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา ทั่วทั้งร่างกายพุ่งพล่านไปด้วยพลังมาร
ตู้ม!
เขาเพียงยื่นฝ่ามือออกมา ก็ปรากฏรอยฝ่ามือปกคลุมไปทั้งท้องฟ้า ราวกับมันครอบคลุมไปทั้งวังเซียนนี้ และอัดแน่นไปด้วยพลังทำลายมหาศาล
พลังนี้คงทำลายวังเซียนได้ในชั่วพริบตา หากเป็นอย่างนี้เหล่าศิษย์หรือผู้อาวุโส จวินเต้าหลินหรือหนิงฝาน หรือทุก ๆ คนจะต้องตายเป็นแน่
“อ่า!”
“แย่แล้ว!”
“โม๋จิ่วโยวเจ้าไม่ตายดีแน่!!”
“วังมาร กู่เสินเยว่ ต่อให้ผู้คนในวังเซียนของข้าต้องกลายเป็นวิญญาณ เราก็จะตามจองล้างจองผลาญพวกเจ้าตลอดไป!”
ในเวลานี้ผู้คนทั่วทั้งวังเซียนตกอยู่ในความสิ้นหวัง ทำได้เพียงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและตะโกนสาปแช่งออกมา
แต่ไม่มีผู้ใดสามารถขัดขวางฝ่ามือนั้นเอาไว้ได้ ทุกคนทำได้เพียงมองดูรอยฝ่ามือที่ปกคลุมไปทั้งวังเซียนและค่อย ๆ ตกลงมา
เห็นเช่นนั้น ดวงตาของจวินเต้าหลินมืดมนลง และเอ่ยในใจ ‘เจ้าหนิงฝาน ขอโทษด้วย ข้า… พยายามแล้ว!’
…
ตู้ม! ตู้มมม!
ใกล้แล้ว!
อีกเพียงนิด!
เมื่อฝ่ามือนั้นกำลังจะประทับลงมา ทุกคนต่างยืนรอความตาย หากแต่กลับเกิดเสียงตะโกนดังลั่นขึ้นมา “สำเร็จแล้ว!!”
ตู้ม!
ด้วยเสียงร้องคำราม พลังราชาเซียนอันมหาศาลของหนิงฝานพวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นที่เก็บตัว ปราณนั้นราวกับพายุขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมไปทั่วทั้งวังเซียน
ชิ้ง!
ในเวลาต่อมาเสียงกระบี่ดังกึกก้องไปทั่วฟ้าดินทั้งสี่ทิศ หลังจากนั้นกระบี่เซียนที่บินออกมาจากวังทะลุผ่านความว่างเปล่าออกมา
แสงเซียนสาดส่อง เจตจำนงแห่งกระบี่เซียนแผ่ซ่านออกมา นั่นคือกระบี่ต้าหลัว!
ตู้มมม!
กระบี่ต้าหลัวพุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้า ทุกแห่งหนที่มันผ่านไปทำให้ฟ้าดินแตกสลาย และทุกสรรพสิ่งบนท้องฟ้าไม่อาจต้านทานต่อกระบี่เล่มนี้ได้!
ตู้ม!
เมื่อคมกระบี่ที่เฉือนลงมา ฝ่ามือปีศาจที่กำลังล่วงหล่นระเบิดออก กลายเป็นพลังอันไร้ขอบเขตและแผ่กระจายไปในฟ้าดิน
ปัง!
ท้ายที่สุด กระบี่ต้าหลัวลอยอยู่ในอากาศ และเกิดเสียงกระบี่ดังกึกก้อง
กระบี่เพียงเล่มเดียว ราวกับจะสยบได้ทั้งฟ้าดิน ครอบคลุมพลังสวรรค์และโลก
ครืน!
ท้ายที่สุด ภายใต้ดวงตาอันตื่นตกใจของเหล่าผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน ร่างในชุดคลุมพื้น ๆ ก้าวออกมาจากวังใหญ่ ทั่วทั้งร่างกายครอบคลุมไปด้วยพลังราชาเซียนที่แผ่ไปทั่วทั้งฟ้าดิน