Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 247 ราชาโอสถ (2)

ตอนที่ 247 ราชาโอสถ (2)

หญิงสาวชะงักไป บอดีการ์ดก็ตกใจจนสะดุ้งโหยงเช่นกัน

ฉากต่อมาไม่มีบทพูดแล้ว มีเพียงตัวเอกซึ่งจ้องมองหญิงสาวซึ่งเป็นตัวแทนด้วยสายตาคาดคั้น

ชั่วขณะนั้น หลูเหว่ยก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที

เดี๋ยวนะ…

การ์ตูนแนวอาหาร ทำไมถึงทำให้ตื่นเต้นได้ขนาดนี้กัน?

รู้สึกเหมือนตนกำลังอ่านการ์ตูนแนวต่อสู้อยู่เลย

อีกทั้ง…

ซิ่งผิงเป็นเพียงพ่อครัววัยรุ่นที่พ้ายแพ้ให้พ่อมานับร้อยครั้ง เขาไปมั่นอกมั่นใจมาจากไหนกัน

ตอนนั้น ความสงสัยใคร่รู้และความคาดหวังอันแรงกล้าพลุ่งพล่านในใจของหลูเหว่ย!

ฉากหลังจากนั้น ประหนึ่งเข้าสู่โหมดสูงสุดในทันที

ตัวเอกกำลังทำอาหารง่ายๆ อยู่แท้ๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการหั่นหรือวิธีการจัดการกับวัตถุดิบ ก็ล้วนเผยให้เห็นออร่าของความไม่ยอมจำนน

“เป็นไปได้ยังไง…”

สีหน้าของตัวแทนหญิงเปลี่ยนไป มองไปยังบอดีการ์ดด้วยสายตาเย็นเยียบ “ไหนบอกว่าทำลายเนื้อทั้งหมดไปแล้วไง”

บอดีการ์ดเหงื่อตก “ผมทำลายไปแล้วจริงๆ ครับ…”

หลูเหว่ยขมวดคิ้วมุ่น เขามั่นใจว่าเนื้อทั้งหมดถูกทำลายไปแล้ว ไม่มีเนื้อ จะทำอาหารจานเนื้อออกมาได้อย่างไร

ไม่นาน พล็อตเรื่องก็ทำการอธิบายเรียบร้อยแล้ว

อันที่จริงซิ่งผิงไม่มีเนื้อจริงๆ นั่นแหละ แต่เขาใช้เบค่อนซึ่งเพิ่งซื้อมา ใช้มันฝรั่งเป็นส่วนประกอบหลัก นำมันฝรั่งไปนึ่งให้แห้ง ด้านนอกปรุงรสจนมีรสชาติคล้ายคลึงกับอาหารจานเนื้อมาก!

ตัวเอกไม่ใช่ไก่อ่อนหรอกหรือ?

ไก่อ่อนที่ไม่เคยแข่งชนะพ่อเลย…

แต่เมื่อเอาจริงขึ้นมากลับกลเม็ดแพรวพราว?

ตัวแทนหญิงคล้ายกับสัมผัสได้ถึงความอับอาย “ฉันต้องการอาหารจานเนื้อ อาหารเลิศรสที่เสิร์ฟในภัตตาคารระดับไฮเอนด์เท่านั้น ปรุงออกมาด้วยวิธีประณีต ร้านข้างทางเล็กๆ อย่างนายไม่มีเหตุผลให้เปิดต่อไปด้วยซ้ำ!”

ตึง

อาหารวางลงบนโต๊ะ ซิ่งผิงจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเยือกเย็น “ที่นี่ควรหรือไม่ควรค่าให้เปิดต่อไป ลองชิมดูก่อนแล้วค่อยประเมินครับ”

หญิงสาวไม่พูดอะไร

ทว่าเธอหยิบมีดและส้อมขึ้นมา ตักกินไปหนึ่งคำ

อย่างไรก็ตาม ชั่วขณะที่อาหารเข้าไปในปาก เธอก็แลดูราวกับชะงักไป

ขณะที่ฟันกำลังบดเคี้ยว ความชุ่มฉ่ำของเบค่อนหอมซึ่งผ่านการย่างมาเป็นอย่างดีจนส่งกลิ่นหอมกรุ่นก็ละลายไปทั่วทั้งปาก…

สีหน้าของเธอแปรเปลี่ยนเป็นแปลกชอบกล ราวกับทั้งร่างกำลังพังทลาย

ฉากนี้บรรยายได้อย่างเห็นภาพ

กลิ่นหอมปกคลุมไปทั่วทุกมุมห้อง ประหนึ่งกำลังก่อตัวขึ้นเป็นพายุหมุน

แม้แต่บอดีการ์ดก็ยังอดกลืนน้ำลายไม่ได้

นี่ไม่ใช่เนื้อจริงๆ…

ทว่าทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัสกลับเหมือนอาหารจานเนื้อเสียยิ่งกว่าเนื้อจริงๆ!

เมื่อกินอาหารหนึ่งคำนี้เข้าไป รู้สึกราวกับสิ่งที่กินเข้าไปนั้นไม่ใช่อาหาร หากแต่เป็น…

ยาปลุกความปรารถนา

คำอธิบายอาจฟังดูแปลกประหลาดอยู่สักหน่อย

แต่ในความจริงก็คือ…

นี่เป็นยาปลุกความปรารถนาซึ่งทำให้ลูกค้าเคลิบเคลิ้มได้?

นี่มันจิตวิญญาณสือจี่ซะที่ไหนกันล่ะ นี่มันจิตวิญญาณยาปลุกความปรารถนาชัดๆ!

ส่วนตัวเอก…

นี่มันราชาโอสถชัดๆ!

เห็นได้ชัดว่าในฉากเต็มไปด้วยความวาบหวิบชวนขวยเขิน แต่หลูเหว่ยกลับไม่รู้สึกขัดหูขัดตาเลย เมื่อลูกค้ายอมศิโรราบต่ออาหารของตัวเอก เขาก็รู้สึกกระหยิ่มใจขึ้นมาสุดๆ!

เยี่ยมยอด!

ฉากหลังจากนั้น ก็ยิ่งทำให้หลูเหว่ยประหลาดใจ และรู้สึกว่าการ์ตูนแทบยกล้อรถมาทับหน้าเขาแล้ว…

ตัวเอกถึงกับดึงอาหารคืนมา จ้องมองตัวแทนหญิงเขม็ง “ถ้าอยากทานต่อ ก็สาบานมาสิครับ ว่าคุณจะไม่มาหาเรื่องที่นี่อีก”

“ไม่มีวัน!”

ตัวแทนหญิงปฏิเสธ แต่สีหน้ากลับไม่หนักแน่นพอ ใบหน้าแดงระเรื่อ สายตาทอดมองอาหารอย่างไม่เป็นสุข

“ถึงจะน่าเสียดายก็เถอะ…”

ซิ่งผิงยกอาหารขึ้นมา กำลังจะเดินออกไป

ตัวแทนหญิงต่อสู้กับจิตใจของตนอย่างรุนแรง ทันใดนั้นก็โพล่งขึ้นมาขณะร่างกายกำลังบิดเกร็ง “ฉันสาบาน…”

“อ้อ”

ซิ่งผิงชะงักฝีเท้า

บทพูดของตัวแทนหญิงแปลกพิลึกขึ้นเรื่อยๆ “ได้โปรด…ให้ฉัน…ได้ลองชิม…อีกหน่อย…”

“ตกลง”

ซิ่งผิงวางอาหารกลับลงบนโต๊ะ

ในครั้งนี้ ไม่เพียงตัวแทนหญิง แม้แต่เหล่าบอดีการ์ดก็กระโจนเข้าใส่อาหาร

และยามที่พวกเขากินหมดแล้ว หลายคนลงนอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้น ประหนึ่งเพิ่งผ่านศึกหนักมา

เสื้อผ้าหลุดรุ่ย เห็นได้ชัดว่าเพิ่งกินจนเสื้อผ้าปริแตก

ซิ่งผิงปลดแถบผ้าบนหน้าผากออก “เป็นการต้อนรับเล็กๆ น้อยๆ โปรดอย่าถือสา”

ตอนแรกจบลง

หลูเหว่ยกลับรู้สึกราวกับถูกทำร้ายจิตใจ แววตาหม่นหมองลงเล็กน้อย

เล่นแบบนี้ก็ได้เหรอ

แน่ใจใช่ไหมว่านี่ไม่ใช่ฉากต่อสู้

ความตื่นเต้นที่ไม่อาจอธิบายได้นี่มันอะไรกัน

แถมยังมีปฏิกิริยาของลูกค้าตอนที่กินอาหารอีก…

จะให้อธิบายว่ายังไงดีล่ะ

เห็นชัดๆ ว่าเว่อร์วังเกินจริง แต่ดูเหมือนว่าจะสอดคล้องกับโลกทัศน์ของการ์ตูนแนวอาหารได้อย่างสมบูรณ์

เห็นชัดๆ ว่าแปลกประหลาด แม้แต่บทพูดยังเบียวสุดๆ แต่กลับทำให้ผู้อ่านหัวใจเต้นระส่ำ

นอกจากนั้น…

เมื่อเห็นว่าอาหารของซิ่งผิงเอาชนะตัวแทนหญิงและบอดีการ์ด ความรู้สึกผ่อนคลายระคนสะใจพุ่งถึงขีดสุด!

เหมือนลากไปตบกลางสี่แยก!

แถมตบจนไม่เหลือทางหนีทีไล่!

นี่ยังเรียกว่าการ์ตูนอาหารได้อยู่ใช่ไหม!

การ์ตูนแนวอาหารบ้านแกเล่นแบบนี้ได้ด้วยเหรอ

แต่ถ้าจะบอกว่าเซตติงนี้ไม่สมเหตุสมผล อาหารมังสวิรัตจะรวมกับเบคอน แล้วทำเลียนแบบอาหารจานเนื้อออกมาได้ยังไง

ในการ์ตูนก็ดันอธิบายแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียดและเป็นมืออาชีพ!

จากทฤษฎีในการ์ตูน อาหารประเภทนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!

ก่อนหน้านี้หลูเหว่ยเคยดูสารคดีเกี่ยวกับอาหาร คล้ายกับว่าจะพูดถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เห็นอยู่ว่าเป็นอาหารมังสวิรัติธรรมดา แต่กลับทำออกมาได้มีเนื้อสัมผัส รสชาติ และกลิ่นเหมือนเนื้อ แถมยังมีคุณลักษณะพิเศษที่เนื้อไม่มีด้วย…

“อึก”

ลำคอของหลูเหว่ยขยับขึ้นลง

เขาพบว่าจู่ๆ ตนก็รู้สึกหิวขึ้นมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นอาหารในภาพและเห็นปฏิกิริยาของตัวแทนหญิงกับบอดีการ์ด จู่ๆ หลู่เหว่ยก็เกิด ความอยากอาหารขึ้นมาอย่างมาก ทว่านี่ไม่ใช่ความอยากเดินออกไปหาอะไรกิน หากแต่เป็นความปรารถนาที่จะลิ้มรสอาหารของตัวเอก!

เดี๋ยวนะ…

ตัวเอกไม่ใช่ไก่อ่อน?

ดูเหมือนว่าตนจะเกิดความเข้าใจผิดครั้งใหญ่

นี่เป็นร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งไม่ผิดแน่ แต่ตัวเอกก็ไม่ได้เป็นมือใหม่ในการทำอาหารอย่างแน่นอน เขาคือพ่อครัวใหญ่ หรือเรียกได้ว่า เขาคือราชาโอสถ!

อาหารที่พ่อครัวมือใหม่ทำ จะทำให้ลูกค้าเกิดปฏิกิริยาตอบสนองทางกายเช่นนี้ได้หรือ?

เขาคือยอดฝีมือ จึงสามารถทำอาหารที่ทำให้ลูกค้าตกตะลึงได้ถึงขนาดนี้!

ส่วนความพ่ายแพ้อันเป็นจุดจบของการประชันฝีมือการทำอาหารระหว่างเขากับพ่อนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ใช่เพราะฝีมือของตัวเอกยังไม่ถึงขั้น แต่น่าจะเป็นเพราะพ่อของตัวเอกเป็นยอดฝีมือด้านการทำอาหารระดับปรมาจารย์เสียมากกว่า!

เมื่อลองกลับไปคิดโดยละเอียด

ในฉากเปิดของการ์ตูนก็บอกใบ้ไว้เล็กน้อยแล้วไม่ใช่หรือ

นี่เป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมสูงมากจากลูกค้า!

ลูกค้าทุกคนที่ก้าวออกจากร้าน ใบหน้าเปี่ยมความพึงพอใจ เอ่ยปากชมถึงความอร่อยของอาหาร แม้แต่นักเรียนซึ่งอยู่โดยรอบ ก็ยังตรงมากินอาหารที่นี่โดยไม่ลังเล…

“แม่เจ้าโว้ย!”

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!

ความผิดหวังก่อนหน้านี้มลายหายไปในชั่วพริบตา ในใจของหลูเหว่ยพลันเกิดความคาดหวังกับเรื่องราวหลังจากนี้เป็นอย่างมาก!

ต้องเข้าใจว่า…

แรกเริ่มเดิมทีหลูเหว่ยกดเข้ามาอ่านเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ เพียงเพราะคิดถึงความรู้สึกในอดีต ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้เห็นการ์ตูนแนวอาหารเรื่องใหม่ปรากฏในตลาดมานานแล้ว

ทว่าตอนนี้…

หลูเหว่ยกลับถูกการ์ตูนเรื่องนี้ตกเข้าเต็มเปา นี่เป็นการ์ตูนแนวอาหารที่แตกต่าง ไม่เหมือนกับการ์ตูนแนวอาหารที่เขาเคยอ่านมาก่อนเลย!

ตื่นเต้น!

เร้าใจ!

ดุเดือด!

เลือดพล่าน!

นี่คือโลกแห่งอาหารที่บริสุทธิ์ และอาหารที่ปรุงโดยพ่อครัวคืออาวุธที่ทรงพลังที่สุด!

………………………………………..

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท