ตอนที่ 288 ป้ายเซียนฮวงเทียน ย้ายเมืองหลวงไปยังวังเซียน!
“ท่านเจ้าวัง!”
“ท่านเจ้านิกาย!”
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้น ผู้คนวังมารและนิกายเทพโบราณต่างร้องขึ้นด้วยอาการเสียขวัญ ทุก ๆ คนล้วนตื่นตกใจ
ตายแล้ว!
ท่านเจ้าวังและเจ้านิกายของพวกเขา… ราชาเซียนขั้นสุดทั้งสองคนตายตกแล้ว!
“ฮ่าฮ่า! ดี!”
หากเปรียบเทียบกับวังมารและนิกายเทพโบราณ สีหน้าของผู้คนวังเซียนดูตกตะลึงยิ่ง ใบหน้าของทุกคนเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นและความดีใจ
เมื่อครู่นี้ทุกคนเพิ่งจะเผชิญหน้ากับอันตรายและการทำลายล้าง ต่อมาหลังจากที่หนิงฝานออกมาได้ไม่นานก็ราวกับว่าเรื่องราวต่าง ๆ ถูกเขียนขึ้นใหม่
ในอากาศเปล่าตอนนี้ หนิงฝานมิได้เก็บกระบี่กลับไปในทันที แต่จ้องมองไปยังที่ที่กู่เสินเยว่ถูกสังหาร ก่อนจะยกยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา
ครืด!
ในเวลาต่อมา แสงพร่างพราวพลันกะพริบไหว วิญญาณเทวะ ร่างกายและโลหิตราวกับเวลาที่ไหลย้อนกลับ เพียงชั่วพริบตาร่างของกู่เสินเยว่ก็ถูกหลอมรวมขึ้นมาใหม่
ทว่าสีหน้าของกู่เสินเยว่ในตอนนี้ซีดเซียวไร้สีโลหิต อีกทั้งลมหายใจของเขาก็เฉื่อยชา แม้จะสามารถก่อร่างขึ้นมาใหม่ได้ แต่เห็นได้ชัดว่าเขาต้องจ่ายราคาที่สูงมากออกไปด้วยเช่นกัน
ส่วนโม๋จิ่วโยวนั้น เขาได้ตายตกไปแล้วจริง ๆ
“หึ! รับกระบี่ข้าไปแล้วแต่กลับไม่ตาย เจ้าเองก็มีทักษะบางอย่าง แต่ยังคงเปล่าประโยชน์อยู่ดี!”
หนิงฝานหัวเราะอย่างเย็นชา หลังจากนั้นเขาก็ยกกระบี่ขึ้น หมายสังหารกู่เสินเยว่อีกครั้ง
“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้!!”
เห็นเช่นนั้นกู่เสินเยว่พลันหน้าซีดเซียวด้วยความตกใจและรีบพูดขึ้นทันทีว่า “ข้าเป็นคนของราชวงศ์เซียนฮวงเทียน และเป็นหนึ่งในสามพันเซียนของราชวงศ์เซียนฮวงเทียน หากเจ้าฆ่าข้าก็เท่ากับว่าเป็นศัตรูกับราชวงศ์เซียนฮวงเทียน!”
พรึ่บ!
พูดจบกู่เสินเยว่ก็หยิบเอาป้ายบางอย่างออกมาจากช่องเก็บของในความว่างเปล่า
ป้ายนั้นไม่ใหญ่มากนัก มันเต็มไปด้วยแสงเซียนอันพร่างพราว ด้านหนึ่งบนนั้นแกะสลักคำว่า ‘ฮวงเทียน’ เอาไว้ ส่วนอีกด้านหนึ่งสลักเป็นเลขสามพัน
“ราชวงศ์เซียนฮวงเทียน?”
หนิงฝานเลิกคิ้วขึ้นและหยุดการกระทำในทันที
กู่เสินเยว่ถอนหายใจออกมา ภายในใจคิดว่าหนิงฝานน่าจะเกรงกลัวต่อนามของราชวงศ์เซียนฮวงเทียน ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ใดบ้างจะไม่เกรงกลัวนามของราชวงศ์เซียนฮวงเทียน
ใบหน้าของเขาปรากฏความภาคภูมิใจขึ้นมาก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “ใช่แล้ว ราชวงศ์เซียนฮวงเทียนได้จัดตั้งกลุ่มเซียนสามพันคน หรือที่เรียกว่าสามพันเซียนฮวงเทียน และข้าเองก็เป็นหนึ่งในนั้น”
“ข้าขอแนะนำเจ้าเอาไว้ ตอนนี้จงปล่อยให้ข้าพาผู้คนแห่งนิกายเทพโบราณออกไปอย่างปลอดภัย แน่นอนว่าข้ารับรองว่าต่อไปจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับหมู่เกาะจิ่นของพวกเจ้าอีก ตกลงหรือไม่?”
พูดจบกู่เสินเยว่ก็มองไปยังหนิงฝาน ป้ายเซียนฮวงเทียนในมือแสดงให้เห็นถึงภัยคุกคาม
“ได้ เจ้าจงไปเสีย!” หนิงฝานพยักหน้าในทันที
“นับว่าเจ้ายังมีความฉลาดอยู่บ้าง!”
กู่เสินเยว่ยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนจะหันหลังกลับเพื่อพานิกายเทพโบราณจากไป
ในเวลาเดียวกันภายในใจก็กำลังคิดว่า หลังจากกลับไปแล้วจะต้องคิดหาวิธีสังหารหนิงฝานให้จงได้ เพื่อแก้แค้นความเกลียดชังในวันนี้!
ปัง!
ทว่าเมื่อเขาหมุนตัวหันหลังให้ แสงกระบี่กลับส่องลอดเข้ามาในทันที โลหิตสาดกระเซ็น ศีรษะลอยขึ้นฟ้า ก่อนที่จะกลิ้งไปยังแทบเท้าของหนิงฝาน การแสดงออกนี้ทำให้กู่เสินเยว่เกิดความมึนงง ความตกตะลึง ความยากลำบาก รวมถึงไม่เข้าใจ
“โง่เขลานัก จะให้ข้าปล่อยเจ้ากลับไปเพื่อให้โอกาสเจ้ามาเอาคืนข้างั้นหรือ?”
หนิงฝานยิ้มเย็นชา หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เอาเท้าเหยียบลงบนศรีษะของกู่เสินเยว่ พริบตานั้นทุกอย่างล้วนมลายหายสิ้น
พรึ่บ!
หนิงฝานยื่นมือออกไปหยิบป้ายเซียนฮวงเทียน หลังจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองผู้คนแห่งวังมารและนิกายเทพโบราณ
“อ๊าก!”
“ไว้ชีวิตพวกข้าด้วย!”
“พวกข้ารู้ผิดแล้ว พวกข้าไม่กล้าอีกแล้ว!”
“ท่านหนิงฝาน ท่านเจ้าวัง…วังเซียนและวังมารเป็นพระราชวังที่เป็นเหมือนบ้านหลังเดียวกัน!”
“นิกายเทพโบราณของพวกข้าถูกวังมารลวงมาที่นี่ ปล่อยพวกข้าไปเถิด ตลอดชีวิตนี้พวกข้าจะไม่ก้าวเข้ามายังหมู่เกาะจิ่นอีกแม้แต่ครึ่งก้าว!”
“…”
ตอนนี้ผู้คนแห่งวังมารและนิกายเทพโบราณ ทั้งสองฝ่ายต่างพากันคุกเข่าลงพร้อมร้องขอความเมตตา
สำหรับเรื่องนี้หนิงฝานยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็สับฟันกระบี่ออกไป ในชั่วพริบตาทั้งสองฝ่ายต่างกลายเป็นความว่างเปล่า
“ตายแล้ว! ตายหมดแล้ว!”
“ฮ่าฮ่า! ดีมาก! วังเซียนของพวกข้าชนะแล้ว!”
“ล้วนเป็นเพราะท่านหนิงฝานช่วยพวกเราไว้!”
“ใช่แล้ว หากวันนี้ไม่มีท่านหนิงฝาน เกรงว่าคงจะไม่มีวังเซียนของพวกเราอีกต่อไปแล้ว!”
“…”
ผู้คนแห่งวังเซียนส่งเสียงพูดคุยจนดังกึกก้อง
สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปยังหนิงฝาน ในดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ
“ท่านหนิงฝาน ขอบคุณท่านมากที่ช่วยวังเซียน เพื่อแสดงความขอบคุณและความเคารพ เราขอยกย่องท่านหนิงฝานให้เป็นท่านเจ้าวังเซียนคนใหม่!”
ตอนนี้เอง จวินเต้าหลินยืนขึ้น แต่ก็คุกเข่าลงไปใหม่อีกครั้ง “จวินเต้าหลิน ขอเคารพต่อท่านเจ้าวังหนิง!”
“ข้าขอเคารพต่อท่านเจ้าวังหนิง!”
“ข้าขอเคารพต่อท่านเจ้าวังหนิง!”
“ข้าขอเคารพต่อท่านเจ้าวังหนิง!”
“…”
หลังจากจวินเต้าหลินที่เริ่มทำความเคารพ เหล่าลูกศิษย์และผู้อาวุโสแห่งวังเซียนต่างพากันคุกเข่าลงเพื่อทำความเคารพเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นการที่หนิงฝานช่วยเหลือวังเซียนเอาไว้ หรือพลังที่สามารถสังหารราชาเซียนขั้นสุดได้นั้น ล้วนทำให้พวกเขาเต็มใจที่จะยกตำแหน่งท่านเจ้าวังให้
“ท่านเจ้าวัง ท่านกำลังทำอะไร อย่าทำเช่นนี้เลย!”
เห็นเช่นนั้นหนิงฝานรีบเหาะมายังด้านหน้าของจวินเต้าหลินอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะช่วยพยุงเขาขึ้นมา
ทว่าจวินเต้าหลินไม่ยอมลุกขึ้น และตอบกลับด้วยใบหน้าจริงจัง “หากท่านหนิงฝานไม่ตกลงเป็นท่านเจ้าวังเซียนของพวกข้า ข้าจะไม่ขอลุกขึ้น!”
“หากท่านหนิงฝานมิยอมตกลง ข้าก็จะไม่ลุกขึ้นเช่นกัน!”
ในตอนนี้ เหล่าผู้คนแห่งวังเซียนต่างพูดขึ้นด้วยท่าทางที่หนักแน่น
“นี่…!”
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ หนิงฝานอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างลำบากใจ หลังจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ท่านเจ้าวัง ทุกท่าน ขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจข้า แต่ข้ายังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก และอีกไม่นานก็จะต้องจากหมู่เกาะจิ่นไปแล้ว เช่นนั้นคงเป็นเจ้าวังเซียนไม่ได้หรอก!”
ได้ยินเช่นนั้นเห็นได้ชัดว่าจวินเต้าหลินและผู้คนอื่น ๆ ต่างรู้สึกสิ้นหวัง แต่ในเวลาต่อมา หนิงฝานกลับพูดขึ้นอีกครั้งว่า “อย่างไรก็ตาม หากว่าพวกท่านเชื่อในตัวข้า ข้าสามารถแนะนำบุคคลผู้หนึ่งเพื่อเป็นเจ้าวังให้เจ้าได้!”
“ผู้ใดกัน?”
“บุตรสาวของข้า หนิงหนานหนาน!”
หลังจากนั้น หนิงฝานก็พูดเรื่องที่เขามาจากราชวงศ์เทพขนนกขึ้นมาเพื่อเป็นการทดสอบ
เพื่อให้เห็นว่าหากวังเซียนยอมรับก็จะสามารถเข้าร่วมราชวงศ์เทพขนนกได้
หากไม่ยอมรับ อีกฝ่ายก็สามารถดูแลวังด้วยตัวเองต่อไปได้
“ข้ายินดีเข้าร่วมราชวงศ์เทพขนนก!”
และในตอนนี้เหล่าผู้คนและจวินเต้าหลินมิได้ปฏิเสธ แต่กลับดูมีความสุขมากกว่าเดิมเสียอีก
อย่างไรวันนี้วังมารก็ถูกทำลายแล้ว พลังรบของวังเซียนเสียหายไปมาก แน่นอนว่าสูญเสียความสามารถในการปกครองดินแดนของหมู่เกาะไปแล้ว
โอกาสในการเข้าร่วมราชวงศ์เทพขนนกนี้มิเพียงสามารถปกป้องตัวเองได้ แต่ยังสามารถอยู่ภายใต้การดูแลของหนิงฝานได้อีกด้วย
“อืม! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกท่านก็เตรียมตัวเสียเถิด ข้าจะกลับไปยังเมืองหลวงราชวงศ์เทพขนนก!”
ท้ายที่สุดหนิงฝานก็ออกคำสั่ง และใช้ยันต์มิติเวลาเพื่อกลับไปยังเมืองหลวงราชวงศ์เทพขนนกในทันที และที่นั่นก็คือสถานที่ที่เคยเป็นเขตเซียนเฉียนหยวน
“ท่านพ่อ ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว!”
เมื่อเห็นหนิงฝานที่กลับมาในรอบสองร้อยปี เหล่าราชวงศ์เทพขนนกผู้แข็งแกร่งที่นำโดยหนิงหนานหนานก็แสดงความดีใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
หนิงฝานกล่าวทักทายผู้คนทีละคน ท้ายที่สุดหนิงหนานหนานก็เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านพ่อ การไปในครั้งนี้ท่านตามหาที่อยู่ท่านแม่ของข้าเจอหรือไม่?”
“ตอนนี้ยังไม่เจอ!”
หนิงฝานส่ายหัว หลังจากนั้นก็ยิ้มขึ้นบาง ๆ “อย่างไรก็ตาม ข้ามีเป้าหมายแล้ว เชื่อข้าเถิดว่าอีกไม่นานจะต้องสามารถตามหาแม่เจ้าจนพบ!”
“อืม ข้าเชื่อท่านพ่อ!”
หนิงหนานหนานพยักหน้า
ท้ายที่สุดชายหนุ่มเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางในครั้งนี้
เมื่อได้รู้ว่าหนิงฝานกลับมาคราวนี้ เพื่อเตรียมการให้ราชวงศ์เทพขนนกสั่งการและควบคุมดินแดนหมู่เกาะจิ่นและหมู่เกาะโบราณ เรื่องนี้ทำให้เหล่าผู้คนตื่นตกใจมาก
แน่นอนว่าเรื่องนี้ เขาเองก็คุ้นชินไปแล้ว
มิต้องใช้เวลายาวนาน หนิงหนานหนานก็เตรียมตัวจนพร้อม หลังจากนั้นก็นำเหล่าผู้แข็งแกร่งแห่งราชวงศ์เทพขนนกตามหนิงฝานย้ายไปยังวังเซียน