ร่างกายผอมบางของอินซอบเด้งขึ้นมาเพราะท่อนเนื้อที่สอดใส่เข้าไปอย่างกะทันหัน แม้จะโลมเลียช่วงล่างให้อยู่สักพัก แต่ช่องทางนั้นก็ไม่ขยายออกมากพอที่สิ่งนั้นจะสอดใส่เข้าไปได้
อีอูยอนจูบหน้าผากของอินซอบและปลอบอีกฝ่ายว่า “ผ่อนคลายหน่อยครับ”
“…ครับ”
อินซอบพยักหน้า
เซ็กซ์กับอินซอบใช้แรงมาก การสอดใส่เองก็ไม่ง่าย และถึงจะสอดใส่แล้ว เขาก็ยังต้องใช้เวลาในการปลอบอินซอบที่ขี้กลัวอยู่สักพัก แม้จะผ่านมาหลายปีแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม การจัดการหลังจากมีอะไรกันเสร็จมักเป็นหน้าที่ของอีอูยอนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเอาน้ำกามออก การล้างตัวของอินซอบ การนวดแขนและขาของอีกฝ่าย และการกล่อมให้อินซอบที่เป็นไข้เล็กน้อยนอน
“เพราะผม…จะค่อยๆ ขยับ”
เขาหลับตาและกระซิบ เขากดความต้องการที่อยากจะกอดรัดและชำเราอินซอบราวกับสุนัขติดสัดไว้อย่างสุดความสามารถ
“…จูบผมทีครับ”
อินซอบขอร้องอีอูยอนด้วยน้ำเสียงที่อู้อี้จากการร้องไห้ อินซอบชอบการจูบ เขามักจะร้องขอจูบเสมอในตอนที่กลัว หรือเหนื่อยในระหว่างที่เซ็กซ์ หลังจากที่รู้ว่ามันเป็นวิธีการหนึ่งของการออดอ้อน บางครั้งอีอูยอนจึงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“ผม…อยากจูบครับ”
เพราะอีกฝ่ายก็จะขอร้องอีกครั้งทันที
สวยฉิบหาย
อีอูยอนจูบอินซอบและถูไถแก่นกายราวกับจะทำให้ภายในขยายออกทีละน้อย แม้จะตัวสั่น แต่อินซอบก็จูบอีอูยอนราวกับออดอ้อน เขาปลอบเพื่อไม่ให้อินซอบร้องไห้พลางสอดใส่เข้าไปอย่างช้าๆ
เขาทำแบบนั้นทุกครั้ง พฤติกรรมทั้งหมดที่ทำกับชเวอินซอบมีส่วนที่ไม่ได้ผลอยู่ด้วย เขาเกลียดการใช้เวลาไปกับเรื่องที่ไม่ได้ประโยชน์มาก เพราะการกระทำทั้งหมดกับผลลัพธ์จะต้องสำเร็จลุล่วงภายในสูตรที่เป็นไปได้ ทว่าชเวอินซอบกลับต่างออกไป เขาชอบทุกอย่างที่ทำกับอีกฝ่ายจนยอมทนกับความยุ่งยาก ไม่สิ จนสนุกกับขั้นตอนที่วุ่นวายและไม่สามารถเข้าใจได้
“คุณอินซอบ…แฮ่ก…ชอบนะ”
“ผมก็…ชอบครับ”
อินซอบตอบรับการพึมพำที่รุ่มร้อนของอีอูยอน เส้นเอ็นปรากฏที่หลังมือของอีอูยอนที่กุมมือของอินซอบไว้ เขาเสยเอวขึ้นมาจนเกิดเสียงดัง ความรู้สึกที่น่าลุ่มหลงพุ่งขึ้นมาจนถึงหัว
“…ชอบนะครับ”
อินซอบสะอื้นพลางสารภาพความรู้สึกของตัวเองออกไป เขามองดวงตาที่กลมโตนั้น อารมณ์ที่รุนแรงจนภายในลำคออุ่นร้อนก่อตัวขึ้น
“…คุณอูยอน…อ๊ะ ฮือ…ชอบนะครับ…ผมชอบคุณครับ”
พรุ่งนี้เขาก็จะกลับเกาหลีแล้ว แต่อีอูยอนก็ยังรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับความน่ารักอย่างผิดปกติของอินซอบที่บอกว่าคิดถึงเขา และมาหาถึงที่นี่อย่างกะทันหัน
“…เพราะอยากทำแบบนี้เหรอ”
“ครับ?”
“ผมถามว่าเพราะอยากมีอะไรกับผม…ก็เลยมาหาถึงที่นี่และอ้าขาให้เหรอ ฉิบ”
“…ครับ”
อินซอบพยักหน้าพลางเอ่ยพูด
“…เพราะผมคิดถึงคุณอูยอน…”
ไม่จำเป็นต้องพูดต่อ อีอูยอนพุ่งเข้าใส่ราวกับเป็นสัตว์ที่ติดสัดจนไม่มีสติ นี่เป็นเซ็กซ์ที่เหมือนกับการผสมพันธุ์ ต้นขาที่แข็งแกร่งของชายหนุ่มแยกขาของอินซอบออกและสอดใส่เข้ามา ร่างกายผอมบางสั่นไหวอย่างรุนแรง ทุกครั้งที่กระแทกกายเข้ามา อินซอบจะร้องไห้พร้อมกับอ้อนวอนอีอูยอน อีอูยอนจับมือของอินซอบอย่างแรงราวกับมัดไว้ และสอดใส่แก่นกายเข้ามาราวกับตอกหมุด เพราะเขาอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของอินซอบ และอยากจะรวมเป็นหนึ่งกับอีกฝ่าย…แม้จะเป็นเพียงแค่นิดเดียวก็ยังดี
“…คุณอูยอน”
อินซอบกำลังช้อนตาขึ้นมองเขา เขารู้สึกเหมือนกับสามารถมองทะลุเข้าไปในดวงตากลมโตที่ไม่มีจุดประสงค์อะไรอยู่เลยได้อยู่เสมอ
“รักนะครับ”
อีอูยอนขบกรามแน่น การร่วมรักที่เร่งรีบและรุนแรงดำเนินต่อไป เขาเหมือนจะตาย ความเร้าใจที่รุนแรงผ่าอกของเขาออกและกระชากกล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างกาย
“…อินซอบ…อินซอบ”
อินซอบพยักหน้าราวกับตอบรับน้ำเสียงที่เอ่ยเรียกตนหลายครั้ง
การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยและดูขัดเขิน…แต่กลับน่ารักมาก
อีอูยอนกอดอินซอบไว้ราวกับพังทลายและขยับเอว กล้ามเนื้อต้นขาที่แข็งแรงเกร็งแน่นราวกับโกรธ เขาทิ่มเข้าไปในจุดไหนสักจุดที่โผล่ออกมาราวกับกระแทกอย่างแรงและไปถึงฝั่งฝัน พอน้ำเชื้ออุ่นร้อนถูกฉีดพ่นเข้าไปในช่องทางคับแคบ อินซอบก็มาถึงจุดสุดยอดทันทีเช่นกัน อีอูยอนมีความสุขกับสัมผัสที่เปียกและอุ่นนิดๆ ตรงท้องน้อย
“…แฮ่ก…แฮ่ก…”
สายตาที่ยังคงร้อนแรงไล่มองใบหน้าที่ขาวซีดของอินซอบ อินซอบที่หอบหายใจอย่างสุขสมรับรู้ถึงสายตานั้นและยิ้มให้เล็กน้อย
พอได้เห็นรอยยิ้มที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรเลย เขาก็ได้รู้สิ่งใหม่
อ้อ ถ้าไม่ใช่คนนี้คงไม่ได้จริงๆ
อีอูยอนฝังหน้าลงกับต้นคอของอินซอบ และสามารถยิ้มออกมาได้เล็กน้อยหลังจากสูดกลิ่นกายที่อ่อนโยนเข้าไปจนเต็มปอด
***
“ว่าไงนะ”
อีอูยอนเด้งตัวขึ้นมาจากเตียง
หลังจากอาบน้ำด้วยกันหลังจากเสร็จกิจ พวกเขาก็นอนคุยนั่นคุยนี่กันบนเตียง อีอูยอนถามราวกับแกล้งเล่นว่าอยากเห็นใบหน้าของตนแค่ไหนถึงมาหาจนถึงที่นี่
‘ชอบหน้าของผมขนาดนั้นเลยเหรอ ชอบตรงไหนเหรอครับ ตา จมูก หรือปาก’
อินซอบที่มักจะหน้าแดงและอ้ำอึ้งในเวลาปกติลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะเอ่ยปากพูดว่า “ความจริงแล้ว”
“นี่คุณมีสติอยู่หรือเปล่าครับ ทำไมถึงมาที่นี่ แม่ง”
อีอูยอนเสยผมขึ้น ความรู้สึกรุนแรงที่ไม่สามารถจัดการได้เคลื่อนไหวอยู่ในตาของเขา
“ทำอะไรอยู่ครับ ลุกสิครับ”
“คุณอูยอน…”
“เราจะไปโรงพยาบาลกันนะครับ เดี๋ยวนี้เลย…”
อินซอบจับมือของอีอูยอนไว้
“ถ้าจะบอกว่าไม่เป็นไรก็หุบปากไปเถอะครับ เพราะผมไม่คิดที่จะมองข้ามด้วยคำพูดนั้นอยู่แล้ว”
อินซอบยิ้มจางๆ
“…ผมเป็นครับ”
“…ผมเป็นมากๆ เลยด้วยครับ”
อินซอบจับมือของอีอูยอนไว้และทำคอตก
“ขอโทษที่โกหกนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ… ผมตั้งใจหลอกถูกแล้วครับ ผมทำแบบนั้นเพราะผมอยากจะเชื่อว่าจะไม่เป็นไร”
‘ไม่รายงานผลตรวจเหรอครับ ดูเหมือนผลจะออกมาแย่สินะ’
ตอนนั้นอีอูยอนพูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า และไม่คิดเลยแม้แต่น้อยว่าผลที่ออกมาจะต่างจากเมื่อสองเดือนก่อน อินซอบตอบอีอูยอนที่หัวเราะพลางถามแบบนั้นว่า “ไม่เป็นไรครับ” อย่างไม่รู้ตัว
“ขอโทษนะครับ ทั้งที่สัญญาไว้แล้ว…ผมรู้ครับว่าผมทำผิดจริงๆ ที่มาที่นี่ เป็นความผิดของผมเองครับ”
อินซอบใช้มือที่สั่นเล็กน้อยจับอีอูยอนไว้แน่นพลางพูดต่อ
“…ขอโทษครับ ผมจะไปโรงพยาบาลครับ ผมจะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทันทีที่กลับถึงเกาหลี…”
เพราะฉะนั้นอย่าโกรธเลยนะครับ
การร้องไห้ที่ถูกกดเอาไว้เจืออยู่ในน้ำเสียงที่พูดต่อเบาๆ อีอูยอนถอนหายใจพลางเรียกเขาว่า “คุณอินซอบครับ”
“ผมไม่ได้โกรธที่คุณป่วย…”
มือที่ใหญ่โตของอีอูยอนกุมใบหน้าของอินซอบไว้ ตอนนั้นเองสิ่งที่มองไม่เห็นก็เข้ามาในสายตา ทั้งใบหน้าที่ซูบลงกว่าเมื่อสองสามวันก่อนเล็กน้อย ตาที่บวมแดง…และนิ้วนางที่สวมแหวนที่เคยห้อยไว้ที่คอ
แค่จินตนาการว่าอินซอบที่ขี้กลัวและระมัดระวังตัวเก็บของและนั่งเครื่องบินมาจนถึงที่นี่ในสภาพที่สวมแหวนไว้ด้วยความคิดแบบไหน เขาก็รู้สึกปวดใจแล้ว
อีอูยอนกดความรู้สึกที่พุ่งขึ้นมาไว้อย่างยากลำบาก และจูบแก้มของอินซอบ
“ขอโทษครับ ผมควรจะอยู่ด้วยแท้ๆ”
“ไม่ใช่นะครับ”
อินซอบส่ายหน้า
“ขอโทษนะครับคุณอินซอบ”
“…ไม่ใช่นะครับ”
น้ำตาที่กลั้นไว้อย่างยากลำบากไหลออกมาจากดวงตากลมโตของอินซอบ อีอูยอนนิ่วหน้าและก้มหน้าลงเพื่อที่จะสบตา
“อย่าร้องเลย นะ?”
“ครับ”
อินซอบรีบพยักหน้า ในขณะที่ทำแบบนั้นน้ำตาก็ไหลลงมาตามแก้มกลมมน อีอูยอนกอดอินซอบไว้ตามเดิม
“…คุณจะต้องไม่เป็นไรครับ”
อีอูยอนลูบหลังหัวของอินซอบพลางพึมพำ
คุณจะไม่เป็นไรครับ คุณจะต้องไม่เป็นไร มันต้องดีขึ้นแน่ อย่ากังวลเลยนะครับ เพราะผมจะช่วยให้เป็นแบบนั้นเอง…ผมจะทำให้ทุกอย่างเลย ได้โปรด…
คำพูดที่ไม่รู้ว่าเป็นการปลอบใจ หรือเป็นการอ้อนวอนดำเนินต่อไป อินซอบพยักหน้ากับหัวไหล่ของอีอูยอน
พวกเขานอนลงบนเตียงอีกครั้ง และกอดกันโดยไม่พูดอะไรเลยพักหนึ่ง
“ผมไม่ชินเลยครับ”
อินซอบเอ่ยปากพูดอย่างกะทันหัน
“แม้ว่าควรจะชิน…แต่ผมกลับกลัวอย่างน่าประหลาดทุกครั้งเลยครับ”
อีอูยอนช่วยทัดผมของอินซอบไว้ที่หลังหูและส่งสายตาให้เล็กน้อย อินซอบพูดต่ออย่างช้าๆ
“ตอนเด็กๆ ผมคิดว่า ‘นี่เราจะตายตอนไหนก็ได้สินะ’ เพราะได้ยินว่าคงเป็นไปได้ยากที่จะมีชีวิตอยู่อย่างยาวนาน…”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ อินซอบก็กลืนน้ำลาย เขาสัมผัสได้ถึงสายตาที่แรงกล้าของชายหนุ่มที่เหมือนจะอ้อนวอนตน
“…หลังจากผ่าตัด ไม่สิ หลังจากเจอคุณอีอูยอนผมก็ไม่คิดแบบนั้นอีกเลยครับ เพราะผมเชื่อนิดๆ ว่าผมจะไม่เป็นไร”
เขาทำตัวราวกับความตายเป็นเรื่องของคนอื่น ราวกับตนเป็นคนปกติที่เหมือนจะอยู่ได้ตลอดชีวิต
“รักนะครับ”
อีอูยอนกลั้นหายใจกับความจริงในใจที่อินซอบเผยออกมาอย่างกะทันหัน
“รักนะครับ…ผมรักคุณมากจริงๆ ครับ”
เขานอนอยู่ในห้องพักผู้ป่วยและรอให้อีอูยอนเปิดประตูเข้ามา
“เพราะอย่างนั้นผมถึงมาครับ เพราะผมคิดถึงคุณอีอูยอน”
หากย้อนกลับไปตอนนั้นได้ เขาจะเปิดประตูออกไป และจับมือของอีอูยอนที่นั่งอยู่ตรงม้านั่งหน้าโรงพยาบาลทั้งคืนเอาไว้
อีอูยอนกอดอินซอบก่อนจะกดจูบที่หน้าผากพลางเอ่ยเรียกว่า “อินซอบ”
“ผมยกหัวใจของผมให้คุณดีไหม”
อินซอบหัวเราะเบาๆ พลางส่ายหน้า ริมฝีปากของอีอูยอนแตะที่หน้าผากอีกครั้ง
“ถ้าต้องการ ผมจะให้ครับ คุณบอกผมได้ทุกเมื่อเลย”
อินซอบพยายามยิ้มให้ เพราะเขารู้ว่าคำพูดที่แปลกประหลาดและเหลวไหลนั้นเป็นเรื่องจริง
“ผมขอปฏิเสธครับ”
อีอูยอนใช้นิ้วกดริมฝีปากของอินซอบ อินซอบจูบตรงนั้นอย่าวแผ่วเบา
“กลับเกาหลีแล้วเราไปโรงพยาบาลกันนะ”
“ครับ”
“ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมย้ายคุณไปโรงพยาบาลที่ใหญ่กว่าในอเมริกาได้นะ”
“ครับ ผมจะทำแบบนั้นครับ”
อินซอบพยักหน้าอย่างว่าง่าย
“น่ารักนะเนี่ย เชื่อฟังผมด้วย”
อินซอบหลุบสายตาลงราวกับเขินอายในคำชมของอีอูยอน อีอูยอนกอดอินซอบไว้อย่างแนบแน่น จากนั้นก็แนบหน้าของตัวเองลงกับหน้าอกของอินซอบและหลับตาเงียบๆ
“รู้ไหมครับ”
“…อะไรเหรอครับ”
“ว่าแม้กระทั่งเสียงหัวใจของคุณอินซอบก็เพราะ”
“…”
“บางครั้งผมก็ฟังแบบนี้”
เขารู้ว่าอีอูยอนตื่นขึ้นมากลางดึกและแนบหน้ากับหน้าอกของตนอยู่อย่างนั้นสักพัก
“…ขอบคุณครับ”
อีอูยอนหัวเราะสั้นๆ ให้กับการขอบคุณที่เนิบช้าของอินซอบ
“รีบนอนเถอะครับ เพราะเราต้องรีบออกเพื่อขึ้นเครื่องบินในวันพรุ่งนี้เช้า”
“ครับ”
อินซอบหลับตาลง ไออุ่นของชายหนุ่มโอบกอดร่างกายของเขาไว้ราวกับเถาวัลย์ เขาไม่รู้สึกเหงา เศร้า และกลัวอีกต่อไปแล้ว ความง่วงที่ค่อยๆ ถาโถมเข้ามาทำให้อินซอบเรียกอีกฝ่ายเบาๆ ว่า “คุณอูยอน”
“หื้ม”
อีอูยอนเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่รู้สึกถึงความง่วงเลยแม้แต่น้อย
“…ไว้เราไปด้วยกันนะครับ ร้านอาหารตรงนั้น…”
“ได้สิ”
อีอูยอนตอบอย่างอ่อนโยนราวกับกล่อมอินซอบ ผ่านไปไม่นานลมหายใจของอินซอบก็สม่ำเสมอ มือที่ใหญ่โตของชายหนุ่มค่อยๆ ตบหลังเป็นจังหวะเดียวกับการเต้นของหัวใจ
นี่เป็นค่ำคืนที่เงียบสงบ
***
“อืม ดีนะครับ”
“ครับ?”
“ตัวเลขดีกว่าคราวที่แล้วหมดเลยนี่ครับ? ดูเหมือนจะตั้งใจออกกำลังกายนะครับ”
หมอยกแว่นขึ้นและยิ้มอย่างใจดีและอบอุ่น
อีอูยอนโทรศัพท์หากรรมการผู้จัดการคิมก่อนขึ้นเครื่อง เขาขอร้องกรรมการผู้จัดการคิมที่ถามอย่างหงุดหงิดว่าโทรศัพท์มาให้เป็นลางไม่ดีอะไรแต่เช้าให้ช่วยนัดโรงพยาบาลอย่างกะทันหัน
‘ว่าไงนะ? โรงพยาบาลอะไร อย่าบอกนะว่านายบาดเจ็บอีกแล้ว’
‘ไม่ใช่ผมครับ แต่เป็นคุณอินซอบ’
‘อ๋อ แผนกอายุรกรรมโรคหัวใจเหรอ นั่นเขาไปหาสองเดือนครั้งไม่ใช่เหรอ’
‘ไม่ต้องพูดมากและช่วยนัดตอนบ่ายวันนี้ให้ทีครับ พร้อมกับการตรวจด้วย’
‘คิดว่าฉันเป็นเลขาของนายหรือไง ถ้านายสั่งให้นัด ฉันจะ…’
‘กรรมการผู้จัดการ’
กรรมการผู้จัดการคิมเผลอกลืนน้ำลาย เพราะเสียงของอีอูยอนที่ถูกกดให้ทุ้มต่ำ
‘ผมขอร้องล่ะครับ’
‘ว่าไงนะ’
‘ขอร้องนะครับกรรมการผู้จัดการ’
‘นะ นี่นายกำลังขอร้องฉัน…’
อีอูยอนวางสายไป อินซอบเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาที่เป็นกังวลอยู่ข้างๆ