สามคนภายในกระโจมในเดิมทีราวกับกลายเป็นสี่คน
หวังเจียน เฟิงหลิน หน้ากากเหล็กในมือของเฟิงหลิน รวมทั้งชายหนุ่มที่มีผมขาวผู้หนึ่ง
เฟิงหลินกอดหน้ากากเหล็กด้วยความผงะ มองชายหนุ่มที่มีใบหน้างดงามภายใต้เงาสะท้อนของผมขาว
“เฟิงหลินปลอมตัวเป็นข้าชั่วคราว” เขายังคงพูดต่อ “หวังไต้ฟูแต่งตัวให้เขา”
เฟิงหลิงตั้งสติกลับมา เขาเป็นคนจำนวนน้อยที่รู้ตัวตนที่แท้จริงภายใต้หน้ากากเหล็กของท่านแม่ทัพ แต่เขาไม่เคยคิดว่าตนเองจะกลายเป็นคนใต้หน้ากากเหล็ก
“ข้า ข้า…” เขาไม่มีความคล่องแคล่วเหมือนปกติ เรื่องเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน อีกทั้งสำคัญเกินไป ทำให้เขาตะกุกตะกัก “ข้าทำไม่ได้ ต้องถูกจับได้แน่…”
หวังเจียนโกรธเคืองอย่างมาก “ท่านกำลังล้อเล่นหรือ ท่านคิดว่าผู้ใดก็ปลอมตัวได้หรือ ท่านติดตามแม่ทัพอวี๋แปดปี ถึงได้เลียนแบบท่าทางได้ อีกทั้งเวลานั้นเนื่องจากท่านแม่ทัพอวี๋อาการกำเริบก่อให้เกิดความตื่นตระหนก ทุกคนต่างอกสั่นขวัญแขวน เห็นข้อบกพร่องของท่านก็ไม่สนใจ หรือสามารถอ้างได้ว่าอาการป่วยยังไม่หายสนิท แต่เวลานี้เล่า? อีกทั้ง…” เขาจับแขนของชายหนุ่ม “ไม่ใช่แค่คืนเดียว ท่านไปครานี้ต้องนานเพียงใด”
ตามความเร็วที่เร็วสุด ไปสามวันกลับมาอีกสามวัน ไปกลับเป็นเวลาทั้งสิ้นหกเจ็ดวัน!
เฟิงหลินสามารถปลอมตัวได้หนึ่งคืน เขาจะปลอมตัวได้ถึงหกเจ็ดวันหรือ เฟิงหลินสามารถนอนอยู่ในกระโจมไม่พบผู้อื่นในยามกลางคืน แต่จะสามารถไม่พบผู้อื่นในเวลากลางวันได้หรือ
“ท่านอย่าวู่วาม” หวังเจียนกัดฟัน “เฉินตันจูนั้น นาง…”
หญิงสาวผู้นี้ หากนางจะตายก็ให้นางตายไปเถิด!
“หากตัวตนของท่านมีความผิดปกติ” เขามองใบหน้างดงามของชายหนุ่ม พูดแล้วชะงัก “จะยุ่งยากอย่างมาก ราชสำนัก ฮ่องเต้ ที่สำคัญคือท่าน ท่านจะมีปัญหาใหญ่มาก!”
“หวังไต้ฟู ปัญหาใหญ่เพียงใดก็ไม่ใช่ความเป็นความตาย เพียงแค่ข้ายังมีชีวิตอยู่ มีปัญหาก็จัดการปัญหา แต่หากคนตายไป…” ชายหนุ่มยื่นมือปัดมือของเขาออก “ก็ไม่มีอีกแล้ว”
“องค์ชายหก!” หวังเจียนกัดฟันพูดเสียงต่ำ ตะโกนตัวตนของเขาออกมา “ท่านอย่าใช้อารมณ์”
องค์ชายหกหรือ เมื่อได้ยินคำเรียกขานนี้ทำให้เขาแปลกหูเล็กน้อย ชายหนุ่มยิ้ม ดวงตาแพรวพราวภายใต้แสงไฟ
“หวังไต้ฟู ท่านลืมอีกแล้ว ข้ามักใช้อารมณ์เสมอ” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “นับแต่ออกจากจวนองค์ชาย ตามตื๊อท่านแม่ทัพอวี๋ให้เขารับข้าเป็นศิษย์ จนกระทั่งสวมหน้ากากเหล็ก ทุกครั้งล้วนเป็นการใช้อารมณ์”
หวังเจียนผงะ ระลึกถึงเรื่องในอดีต บนใบหน้าเผยรอยยิ้มขมขื่น ใช่ เขาผู้นี้…
“ไม่ต้องกังวล” ชายหนุ่มจับมือของเขาอีกครั้ง “เฟิงหลินสามารถไม่พบผู้คนได้ ให้เขาแสร้งป่วยก็พอ หากแม่ทัพหน้ากากเหล็กป่วย ค่ายทหารสามารถใช้กฎอัยการศึกได้ นอกจากฮ่องเต้ไม่มีผู้ใดเข้าใกล้ได้ อีกทั้งไม่ต้องพบผู้คน”
“แม่ทัพหน้ากากเหล็กป่วยเป็นเรื่องใหญ่หลวง” หวังเจียนยิ้มขมขื่น “ท่านใช้เรื่องใหญ่เพียงนี้มาหลอกลวงฝ่าบาท ฝ่าบาทไม่มีทางให้อภัยท่านอย่างง่ายดาย”
ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม “ฝ่าบาทไม่ทรงให้อภัยข้า ข้าก็มีเพียงขอให้ลงโทษเท่านั้น” พูดพลางจับมือของหวังเจียนแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความจริงใจ “ขอให้หวังไต้ฟูช่วยข้า ผู้ที่ทำให้ข้าได้รับโทษน้อยลงมีเพียงหวังไต้ฟูเท่านั้นแล้ว”
เนื่องจากมือของชายหนุ่มเคลือบยา ทำให้มือของเขาทั้งมีแรงทั้งหยาบกร้าน แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ฉายแววระยิบระยับภายใต้แสงไฟ ทั้งสดใส งดงาม สะอาดหมดจด…
หวังเจียนผงะไปเล็กน้อย พึมพำ “ตอนนั้นข้าไม่ควรคิดจะเป็นแค่หมอเทวดาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแผ่นดินจึงไปเป็นไต้ฟูที่จวนองค์ชายหกเสียจริง”
จากนั้นเขาพบว่าเด็กคนนั้นไม่มีโรคร้ายแรงที่จำเป็นต้องตายแต่อย่างใด เพียงแค่มีการขาดแคลนโดยกำเนิด หากเลี้ยงดูอย่างดียังคงเป็นเด็กที่สามารถกระโดดโลดเต้นได้…เด็กที่กระโดดโลดเต้นได้อย่างดีมาก มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแผ่นดินคงไม่มีแล้ว อีกทั้งเขายังถูกลากเข้าไปในวังวนหนึ่งแล้ววังวนหนึ่งเล่า
เพิ่งจะสงบได้เพียงไม่กี่ปี เวลานี้มีเฉินตันจูมาอีกคน วังวนก็เริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว!
…
โจวเสวียนยืนอยู่บนเนินสูงที่สุดภายในค่ายทหาร ค่ายทหารในยามค่ำคืนสว่างไปด้วยแสงไฟราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า โจวเสวียนหรี่ตาลง มองไปท่ามกลางดวงดาวเหล่านั้น
“เกิดอันใดขึ้น” ทางด้านรองแม่ทัพสังเกตความผิดปกติของเขา ซักถามขึ้น
โจวเสวียนพูด “ทางด้านท่านแม่ทัพ เหตุใดจึงดูมีคนจำนวนมาก”
รองแม่ทัพมองตามไป ส่งเสียง “เปลี่ยนเวร อีกทั้งท่านแม่ทัพบางครั้งจะยุ่งมากในเวลาดึก ท่านโหวไม่ต้องกังวล” พูดพลางหัวเราะ “หากอยู่ในค่ายทหารยังต้องกังวล พวกเราคงกลายเป็นคนที่น่าขบขันแล้ว”
ใช่ ที่นี่คือค่ายทหาร ค่ายทหารในเมืองหลวง สถานที่ที่ท่านแม่ทัพหน้ากากเหล็กนั่งบัญชาการด้วยตนเอง นอกจากพระราชวังแล้ว สถานที่แห่งนี้แน่นหนาที่สุด อีกทั้งเนื่องจากมีแม่ทัพหน้ากากเหล็กอยู่ พระราชวังจึงมั่นคงแน่นหนา โจวเสวียนมองไปยังบริเวณสว่างที่สุดท่ามกลางหมู่ดาว ยิ้ม
“ไปเถิด” เขาพูด “ถึงเวลาลาดตระเวนแล้ว”
ตามคำสั่งของเขา กำลังขบวนหนึ่งเหยียบย่ำผ่านหมู่ดาว เดินทางไปลาดตระเวนท่ามกลางความมืด
…
แสงสว่างปรากฏขึ้นท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิด
องครักษ์ที่ถือคบไฟควบม้าหันกลับมายังหน้ารถที่นำอยู่ด้านหน้า
“คุณหนูตันจู” เขาพูด “ด้านหน้ามีโรงเตี๊ยม พวกเราจะเดินทางต่อหรือแวะพักผ่อนที่โรงเตี๊ยมก่อนขอรับ”
เฉินตันจูเปิดม่านรถขึ้น สีหน้าเหนื่อยล้า แต่ดวงตามุ่งมั่น “เดินทาง”
นึกไม่ถึงว่าสตรีสูงศักดิ์ผู้บอบบางผู้นี้จะสามารถเดินทางไม่หยุดหย่อนได้ถึงสองวันสองคืน ไม่เหมือนเป็นการเดินทาง หากแต่เหมือนเป็นการเดินขบวนที่เร่งรีบ
หัวหน้าทหารเกราะทองรู้สึกว่าตนเองแทบจะทนไม่ไหวแล้ว คราก่อนที่ลำบากและเร่งรีบเพียงนี้คือเมื่อสามปีที่แล้วที่เขาติดตามฮ่องเต้ออกรบ
“คุณหนูตันจู” เขาอดไม่ได้ที่จะเกลี้ยกล่อม “ท่านไม่ต้องการพักผ่อนจริงหรือ”
หญิงสาวภายใต้แสงไฟของคบเพลิงในยามค่ำคืนยิ้มให้เขา “ไม่ต้อง มันยังไม่ใช่เวลาพักผ่อน เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะได้พักผ่อนอีกนานแสนนาน”
หมายความว่าตอนที่เดินทางไม่ไหวจะพักผ่อนอยู่ที่เดิมเป็นเวลานานมากหรือ? เช่นนั้นการเดินทางที่เร่งรีบนี้จะมีความหมายอันใด หากคำนวณ คงจะดีกว่าที่ถึงเวลาเดินทางก็เดินทาง ถึงเวลาพักผ่อนก็พักผ่อน เช่นนี้ยังสามารถถึงเมืองซีจิงได้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย หญิงสาวช่างเอาแต่ใจตัวเองและเข้าใจยาก หัวหน้าทหารไม่กล้าเกลี้ยกล่อมอีก ถึงแม้เขาจะเป็นองครักษ์ของฮ่องเต้ แต่เขาไม่กล้าหาเรื่องเฉินตันจู
“เดินทาง!” เขาออกคำสั่ง “เดินทางต่อ! เร่งให้เร็วขึ้น!”
…
ม้าสีดำสามตัวและไฟคบเพลิงหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในค่ำคืนที่มืดมิด ม้าสองตัวว่างเปล่า บนหลังม้าสีดำตัวหนึ่งด้านหน้าสุดมีคนผู้หนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำ เนื่องจากความเร็วที่เร็วมาก หมวกบนหัวของเขาจึงร่วงลงอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นผมสีขาว และไฟในมือส่องสว่างค่ำคืนที่มืดมิด
แสงไฟนั้นเคลื่อนที่ไปด้านหน้าอย่างว่องไว ทอดทิ้งความมืดไว้ด้านหลังอย่างรวดเร็ว ม้าสีดำกระโดดเข้าหาแสงในยามเช้า แต่คนบนม้าไม่มีการหยุดชะลอแม้แต่น้อย เขาโยนคบไฟในมือลง มือทั้งสองข้างจับสายบังเหียนไว้แน่น มุ่งหน้าไปทางซีจิงด้วยความเร็วที่เร็วยิ่งขึ้น
บนหลังของเขาแบกสัมภาระใบน้อย ข้างหูยังมีเสียงของหวังเจียนดังก้องอยู่
“ยานี้อาจจะได้ใช้ หากนางกินยาพิษเข้าไปแล้ว ใช้ยานี้ช่วยนางเอาไว้ก่อน”
“ข้าจะตามไป หลังจากทางด้านเฟิงหลินเรียบร้อยแล้ว”
“องค์ชายหก ท่านเองก็รู้ว่าเฉินตันจูบ้าคลั่งเพียงใด หากสิ้นหวังแล้วจริงๆ ท่านอย่าได้รอช้า ท่านต้องรีบกลับมาโดยเร็ว”
ไม่ เขาจะไปให้ทันเวลา ด้านหน้ามีร่องน้ำอยู่ เขายืดตัวตรงบนหลังม้า ม้าสีดำร้องและกระโจนข้ามผ่านไป ในเวลาเดียวกัน พระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาจากพื้นสาดแสงสีทองลงมาที่ตัวของเขา…