ดวงอาทิตย์ขึ้นและลับขอบฟ้าไปแล้ว เมื่อค่ำคืนหนึ่งอีกคืนมาถึงอีกครั้ง ทหารเกราะทองที่อดนอนจนตาแดงหน้าซีดก็พบกับโรงเตี๊ยมอีกแห่งในที่สุด
แต่โรงเตี๊ยมนั้นดูเหมือนจะเต็มไปด้วยผู้คน ด้านนอกมีทหารอีกกลุ่มเฝ้าอยู่
หัวหน้าของทหารเกราะทองรายงานต่อเฉินตันจูอย่างหมดแรง “คุณหนู มีโรงเตี๊ยมอีกแห่งขอรับ แต่มีคนพักอาศัยอยู่ พวกเราจะเดินทางต่อ…”
เขายังไม่ทันที่จะพูดจบประโยค ม่านรถก็เปิดออกพร้อมกับเฉินตันจูที่มีสีหน้าเหนื่อยล้า นางถามขึ้น “ผู้ใดพักอยู่”
หัวหน้าทหารฉงน “ไม่รู้ขอรับ ไม่ได้ถาม คุณหนูท่านไม่ได้ต้องการเร่งเดินทาง…”
เฉินตันจูพูด “ผู้ใดบอกว่าข้าต้องการเร่งเดินทาง ข้าก็เป็นคน ม้ายังเปลี่ยนไปหลายตัวแล้ว”
ท่านยังรู้ว่าตนเองเป็นคนหรือ หัวหน้าทหารคิดในใจ ก่อนจะสั่งการให้คนทั้งขบวนมุ่งหน้าไปยังโรงเตี๊ยม
ทหารด้านนอกโรงเตี๊ยมลักษณะโหดเหี้ยม พวกเขากีดขวางไม่ให้เข้าใกล้ แต่เมื่อได้ยินว่าเป็นทหารเกราะทองจึงรีบหลบทางให้
“ไม่รู้ว่าเป็นผู้ทรงเกียรติท่านใด” ทหารกลุ่มนี้ถาม ก่อนจะอธิบาย “พวกข้าเป็นทหารของตำหนักบูรพา โรงเตี๊ยมนี้ถูกน้องสาวของพระชายา คุณหนูเหยาจองเอาไว้หมดแล้ว”
เขายังพูดไม่ทันจบ ภายในรถด้านหลังทหารเกราะทองส่งเสียงหัวเราะเย็นชาออกมา “ไม่ว่าผู้ใด ไล่ออกไปให้หมด โรงเตี๊ยมนี้ข้าเฉินตันจูจองแล้ว”
ทหารกลุ่มนี้ผงะ ก่อนจะขุ่นเคืองขึ้นมาเล็กน้อย ถึงแม้ผู้ที่สามารถใช้ทหารเกราะทองย่อมไม่ใช่คนธรรมดา แต่พวกเขาแจ้งแล้วว่าตนเองเป็นคนขององค์รัชทายาท แผ่นดินนี้นอกจากฮ่องเต้ ยังมีผู้ใดสูงส่งกว่าองค์รัชทายาท
ม่านรถถูกยกขึ้นพร้อมกับเสียงพูด ใบหน้าของหญิงสาวซีดขาวราวกับกระดาษภายใต้แสงสะท้อนจากโคมไฟ ดวงตาของนางแดงก่ำ ลักษณะเหมือนปีศาจรูปงามที่กำลังจะกินคน
เฉินตันจู! เหล่าทหารคิดว่าจะเป็นการดีกว่าหากพบกับปีศาจ
หากเฉินตันจูยืนกรานที่จะงี่เง่า แม้แต่องค์รัชทายาทก็ยังต้องยอม
“พวกเจ้ายังนิ่งเฉยอยู่ทำไม” เฉินตันจูเร่งเร้าอย่างรำคาญใจ “ไล่พวกเขาไปให้หมด”
ทหารเกราะทองลำบากใจอย่างมาก หัวหน้าทหารพูดเสียงเบา “คุณหนูตันจู น้องสาวของพระชายา…”
เฉินตันจูชำเลืองมองเขาด้วยรอยยิ้มอย่างมีนัยยะ “อย่าว่าแต่น้องสาวของพระชายา แม้ว่าพระชายาหรือองค์รัชทายาทเสด็จมาเองแล้วอย่างไร พวกเจ้าเป็นทหารเกราะทองของฮ่องเต้ ฮ่องเต้พระราชทานให้ข้าก็เปรียบเสมือนฮ่องเต้เสด็จมาด้วยพระองค์เอง เวลานี้ข้าต้องการพักผ่อน ผู้ใดก็ไม่อาจขัดขวางได้ ข้าไม่ได้พักผ่อนมาเป็นเวลานานแล้ว”
เหตุใดจึงเทียบเท่ากับฮ่องเต้เสด็จมาด้วยพระองค์เอง หัวหน้าทหารผงะ ฮ่องเต้ไม่เคยตรัสเช่นนี้ คุณหนูตันจูช่างกล้าพูดเสียจริง
อีกอย่าง ไม่ได้พักผ่อนเป็นเวลานานจะโทษผู้ใดได้
เวลานี้ได้ยินว่าคุณหนูสี่แห่งตระกูลเหยาพักอยู่ในโรงเตี๊ยม นางก็ดื้อรั้นจะพักผ่อน เห็นได้ชัดว่าเจตนา
ในขณะที่ทางนี้กำลังถกเถียงกัน ภายในโรงเตี๊ยมมีคนเดินออกมา
“คุณหนูตันจูหรือ” เสียงหญิงสาวดังขึ้น เงาคนสลัว นางย่อเข่าคำนับ “เหยาฝูทักทายคุณหนูตันจู หวังว่าคุณหนูตันจูจะไม่ถือสา เวลานี้ดึกมากแล้ว ไม่อาจเดินทางได้ ขอให้คุณหนูตันจูอนุญาตให้ข้าพักอยู่ที่นี่หนึ่งคืน เมื่อฟ้าสว่างข้าจะรีบจากไป”
ไม่ว่าอย่างไร ถือว่าดีกว่าการพบหน้ากันครั้งก่อนมากแล้ว ครั้งก่อนมีม่านกั้น ทำให้เห็นเพียงนิ้วมือของนาง ครานี้นางยืนคำนับอยู่บริเวณไม่ไกล อีกทั้งยังบอกกล่าวชื่อของตนเอง เฉินตันจูนั่งอยู่ในรถ ยิ้มเยาะที่มุมปาก “ข้าจะให้ท่านอยู่ในนี้หนึ่งคืน พรุ่งนี้เช้าคุณหนูเหยารีบไปเสีย อย่าได้ขวางทาง”
เหยาฝูตอบรับ มองม่านรถที่ถูกปล่อยลงทางนั้น หญิงสาวงดงามหายลับไปในสายตา ทหารเกราะทองคุ้มกันรถม้าเคลื่อนที่เข้ามาอย่างเชื่องช้า
เหยาฝูหลบไปด้านข้าง บนใบหน้ามีรอยยิ้ม แต่สาวรับใช้ด้านข้างแสดงสีหน้าขุ่นเคืองไม่เป็นธรรม
สาวรับใช้เป็นนางในของตำหนักบูรพา ถึงแม้ก่อนหน้านี้นางในของตำหนักบูรพาไม่โปรดปรานคุณหนูสี่แห่งตระกูลเหยาที่ไม่อาจเทียบได้แม้แต่สาวรับใช้ แต่เวลานี้แตกต่างกันไปแล้ว ก่อนหน้านี้นางปีนขึ้นเตียงขององค์รัชทายาท…ตำหนักบูรพามีสตรีมากมาย แต่นางเป็นคนแรก ต่อมานางยังได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์หญิงจากฮ่องเต้ ดังนั้นจึงมีคนจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาแสดงความภักดีต่อเหยาฝู เหยาฝูไม่สนใจท่าทีที่เปลี่ยนไปของคนเหล่านี้ หากแต่เลือกสาวรับใช้จากท่ามกลางคนเหล่านี้ออกมา
“องค์หญิง ท่านยังยิ้มออกมาได้อีกหรือเพคะ” สาวรับใช้พูดอย่างโกรธเคือง “เฉินตันจูนั้นถือเป็นผู้ใดกัน บังอาจรังแกคนเช่นนี้!”
เหยาฝูบีบปลายจมูกของนาง “อย่าเรียกองค์หญิง พระราชโองการของฝ่าบาทยังไม่ออกมา”
สาวรับใช้หัวเราะ “เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ข้าทำความเคยชินก่อน”
เหยาฝูไม่ได้ขัดนางอีก เรื่องนี้เป็นเรื่องไม่ช้าก็เร็วจริง มองทิศทางรถม้าของเฉินตันจู พูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้าดู คุณหนูตันจูน่าขบขันเพียงใด ข้าย่อมต้องยิ้ม”
น่าขับขันหรือ สาวรับใช้ฉงน คุณหนูตันจูกำเริบเสิบสาน โอหังอวดดีอย่างเห็นได้ชัด
“กำเริบเสิบสาน โอหังอวดดีเป็นแค่การกระทำที่ให้คนนอกดู มันคือเกราะป้องกันชีวิตของนาง” เหยาฝูยิ้ม สายตาเหยียดหยาม “เกราะป้องกันนี้ถูกทำลายได้อย่างง่ายดาย นางยังมีพี่สาวของนาง ต่อจากนี้นางจะเป็นของเล่นในกำมือข้า ลูกแมวลูกหมาขู่ข้าบ้างในบางเวลา ข้าจะโกรธได้อย่างไร”
สาวรับใช้ย่อมรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเหยาฝูและตระกูลของเฉินตันจู นางส่งเสียงเหยียดหยามด้วยเช่นกัน “เรื่องจนถึงบัดนี้ เฉินตันจูผู้นี้ยังไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ดูว่าต่อจากนี้พวกนางจะร้องไห้อย่างไร” พูดพลางพยุงเหยาฝู “องค์หญิงรีบกลับไปพักผ่อนเถิดเพคะ เดินทางเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
เหยาฝูถูกนางพยุงเดินกลับไปด้วยรอยยิ้ม
โรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ถูกหญิงสาวสองคนครอบครอง ทั้งสองต่างพักคนละด้าน แต่ทหารเกราะทองและเหล่าทหารของจวนองค์รัชทายาทไม่มีการแบ่งแยกมากเพียงนั้น องค์รัชทายาทมักติดตามอยู่ข้างกายฮ่องเต้ ทุกคนต่างคุ้นเคยกัน พวกเขาทานอาหารร่วมกันด้วยความคึกคัก อีกทั้งยังจัดเวรเฝ้ายามดึกร่วมกัน เช่นนี้ทำให้คนจำนวนมากสามารถพักผ่อนได้ดีขึ้น อย่างไรโรงเตี๊ยมแห่งนี้ก็มีเพียงพวกเขา บริเวณรอบด้านเงียบสงบ
ทางด้านนี้จัดเวรเสร็จสิ้น ทางด้านประตูห้องของเฉินตันจูก็ถูกเปิดออก
หญิงสาวปล่อยผมสยาย สวมเพียงชุดกระโปรงธรรมดา ตัวของนางส่งกลิ่นหอมหลังจากอาบน้ำ
เหล่าทหารรีบเบนสายตาหนี “คุณหนูตันจูต้องการสิ่งใดขอรับ”
เฉินตันจูพูด “ข้าไม่ต้องการสิ่งใด ข้าจะไปพบคุณหนูเหยา”
นี่…เหล่าทหารต่างมองหน้ากัน ไม่ใช่ต้องการหาเรื่องอีกหรอกนะ คุณหนูตันจูมักจะตีคน ด่าคน ไล่คนในเมืองหลวง อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างเฉินตันจูและเหยาฝู ถึงแม้ราชสำนักไม่ได้ชี้แจง แต่เบื้องหลังมีการเผยแพร่ออกไปแล้ว เหยาฝูเป็นภรรยานอกจวนของหลี่เหลียง ครานี้ถูกพระราชทานการแต่งตั้งเนื่องจากหลี่เหลียง มีศักดิ์เท่าเทียมกับพี่สาวของเฉินตันจูอีก
เฉินตันจูจะมีสีหน้าดีต่อเหยาฝูได้อย่างไร
น่าปวดหัวเสียจริง
“พวกเจ้าวางใจ ข้าไม่ได้ต้องการทำอันใดนาง พวกเจ้าไม่ต้องตามข้า” เฉินตันจูพูด บอกให้เหล่าสาวรับใช้ไม่ต้องตามมา “ข้าอยากคุยเรื่องในอดีตกับนาง มันเป็นเรื่องระหว่างสตรีอย่างพวกข้า”
หากไม่ต้องให้สาวรับใช้และทหารติดตาม หญิงสาวสองคนปะทะกันขึ้นมาก็ไม่ได้ย่ำแย่นัก พวกเขาเองก็สามารถห้ามปรามได้ทันเวลา ทหารเกราะทองตอบรับ มองเฉินตันจูเดินผ่านลานแห่งหนึ่งไปอีกด้านคนเดียวอย่างเชื่องช้า เหล่าทหารทางนั้นก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเห็นนางมาคนเดียว จึงรีบเข้าไปรายงาน ไม่นานนักเหยาฝูก็เปิดประตูห้องออก
“ไม่คิดว่าคุณหนูตันจูมาหาข้าอีกแล้ว” นางยืนยิ้มอยู่หน้าประตู “ทำให้ข้าระลึกถึงการพบกันเมื่อคราก่อนที่ถูกขัด”
เฉินตันจูมองสาวรับใช้ที่ยืนอยู่ข้างตัวนาง พูด “สาวรับใช้ที่ถือมีดสังหารคนได้คนนั้นซ่อนอยู่ที่ใดแล้ว กำลังรอปาดคอข้าอีกครั้งหรือ”
เหยาฝูปิดปากยิ้ม “หากคุณหนูตันจูไม่คิดทำร้ายข้า ข้าย่อมไม่ลงมือกับคุณหนูตันจู” พูดพลางหลบตัวไปด้านข้าง “คุณหนูตันจูเชิญเข้ามา”
เฉินตันจูเดินเข้าไปอย่างไม่ลังเล ห้องในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ถูกเหยาฝูตกแต่งจนเหมือนห้องพักในจวน บนม่านแคว้นไว้ด้วยมุก ภายในห้องจุดไฟสี่ห้าดวง บนโต๊ะปูผ้าไหม วางเตาธูปหอมที่มีควันลอยขึ้นมา รวมทั้งกระจกทองแดงและปิ่นปักผมที่กระจัดกระจาย แสดงออกให้เห็นถึงความฟุ่มเฟือยอย่างเห็นได้ชัด
เหยาฝูนั่งลงบริเวณโต๊ะ แกะผมตรงหน้ากระจกต่อ
“คุณหนูตันจูต้องการดื่มชาหรือไม่” นางพูดอย่างเฉื่อยชา “เสียดายข้าไม่ได้เตรียมแก้วสำหรับแขก หากท่านไม่รังเกียจ สามารถใช้แก้วข้าได้”
พูดพลางยิ้มขึ้น
“แต่คุณหนูตันจูก็อย่ารังเกียจเกินไป พวกเราจะเป็นครอบครัวเดียวกันในไม่ช้า”
ทหารที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูแอบฟัง คำพูดแต่ละประโยคของหญิงสาวสองคนล้วนเต็มไปด้วยความเย้ยหยันถากถาง พวกเขาต่างตกตะลึง แต่ก็วางใจในเวลาเดียวกัน คำพูดร้ายแรงเพียงใด แต่ไม่ใช่อาวุธที่แท้จริง
หญิงสาวทั้งสองต่างสวมชุดทั่วไป อีกทั้งยังเป็นยามค่ำคืน คงไม่ดีหากยังคงจับตามองต่อ ทุกคนจึงถอยลงไป
เฉินตันจูภายในห้องเดินไปถึงข้างตัวของเหยาฝู ดึงเก้าอี้มานั่งลง
นางเข้าใกล้เพียงนี้ ทำให้เหยาฝูได้กลิ่นหอมบนตัวนาง ราวกับเป็นกลิ่นของน้ำมันผม หรือจ้าวเจี่ยว[1] อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของยา หรืออาจเป็นกลิ่นหอมสดชื่นของหญิงสาวหลังจากอาบน้ำ
เหยาฝูชำเหลืองมองหญิงสาวที่โน้มตัวเข้าใกล้ ผิวของนางขาวอมชมพู ดวงตาเป็นประกาย งดงามดุจดั่งดอกถานฮวา แต่ก็สะดุดตาดุจดั่งแสงจากดวงดาว อย่าว่าแต่ชายหนุ่ม แม้แต่หญิงสาวที่ได้เห็นก็ไม่อาจเบนสายตาไปได้…สาเหตุที่เฉินตันจูนี้สามารถผูกมัดใจขององค์ชายสามและโจวเสวียนได้ อีกทั้งแม่ทัพหน้ากากเหล็กและฮ่องเต้ยังโปรดปรานนางอย่างมาก ก็เพราะใบหน้านี้!
อนาคตหากนางใช้ใบหน้านี้ ขึ้นครองตำแหน่งพระชายาของท่านอ๋อง หรือพระสนมของฮ่องเต้…
ถึงแม้องค์รัชทายาทไม่เคยเอ่ยถึงเฉินตันจูผู้นี้ แต่บางครั้งที่เอ่ยถึง ภายในดวงตาของเขาก็มีความคิดของชายชาตรี
เมื่อรอพระราชโองการลงมา เรื่องแรกที่ต้องทำคือทำลายใบหน้าของเฉินตันจู…
[1] จ้าวเจี่ยว เป็นพืชดอกสมุนไพรของจีนที่ถูกนำมาใช้ทำเป็นสบู่ นำฝักและผลมาบดและทำให้เกิดฟองมากเมื่อผสมในน้ำ สามารถใช้รักษาโรคผิวหนังและบำรุงเส้นผม