ตอนที่ 291 คุณชายเทียนซวี ซื่อปู๋เซี่ยง!
หนิงฝานชักกระบี่ออกพลางมองไปรอบ ๆ แววตาของเขาเย็นชาและลึกล้ำ!
“หึ! เป็นแค่ราชาเซียนขั้นกลางกล้าบังอาจหันปลายกระบี่มาที่ข้าหรือ!”
“เจ้าหนุ่ม เจ้าช่างกล้าหาญจริง ๆ!”
“ในเมื่อไม่ดื่มสุราคำนับ เช่นนั้นก็ดื่มสุราจับกรอก ข้าจะประทานความตายให้เจ้าเอง!”
“ฮ่าฮ่า ฆ่าเขา ชิงป้ายเซียนฮวงเทียนมา!”
“…”
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว กลุ่มผู้แข็งแกร่งก็เปล่งเสียงตะโกนฆ่าออกมา!
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ทันใดนั้น ร่างหลายร้อยร่างก็ลุกขึ้นและพุ่งเข้าหาหนิงฝาน สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความโลภไม่สิ้นสุด!
“หึ!”
หนิงฝานเพียงแค่นเสียงเย็นชา มือยกกระบี่ต้าหลัวขึ้นโดยตรงแล้วฟันออกไป!
ตู้ม!
หลังจากกระบี่ฟันออกไป ลำแสงของกระบี่ก็พุ่งออกไปกวาดล้างสวรรค์และโลก
ปัง! ปัง! ปัง!
เมื่อแสงกระบี่ผ่านไป เงานับร้อยที่พุ่งมาข้างหน้าก็กลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตาก่อนที่พวกเขาจะได้ส่งเสียงกรีดร้อง!
“บัดซบ!!”
เมื่อเห็นฉากนี้ เหล่าผู้แข็งแกร่งรอบข้างที่ยังไม่ได้เคลื่อนไหวหรือกำลังจะเคลื่อนไหวพลันตกใจในทันที!
ใบหน้าของทุกคนราวกับเห็นผี ความรู้สึกเย็นยะเยือกชาวาบไปทั่วร่างกาย!
“ขะเขา…เขาฆ่าผู้แข็งแกร่งระดับสูงหลายร้อยคนด้วยกระบี่เดียวงั้นหรือ!”
“เฮือก! เขาเป็นราชาเซียนขั้นกลางไม่ใช่หรือ? ไฉนจึงน่ากลัวปานนี้!”
“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้! นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร!”
“…”
กระบี่นี้เหมือนกับการเทอ่างน้ำเย็นใส่ทุกคน ดับเปลวไฟแห่งความโลภในใจของผู้คนนับไม่ถ้วนโดยตรง
แม้แต่ผู้พิทักษ์ประตูที่อยู่หลังประตูบานนั้นก็ยังแสดงความประหลาดใจในดวงตาของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าความแข็งแกร่งของหนิงฝานจะทรงพลังขนาดนี้!
เคร้ง!
เวลานี้ หนิงฝานกระตุ้นกระบี่ต้าหลัวอีกครั้ง สายตาเย็นชามองไปรอบ ๆ “ดูเหมือนว่ากระบี่ของข้าจะไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคิดจะชิงป้ายเซียน!”
ทุกคนเงียบเสียงลง ดวงตาของพวกเขาไม่ร้อนแรงเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ที่มีทักษะสูงและกล้าหาญยังคงไม่ยอมแพ้
“หึ! เก่งดีนี่ เช่นนั้นก็ให้ข้าได้ลองสัมผัสดูหน่อยเถิด!”
ลมหายใจถัดมา ชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาวก้าวออกมาจากฝูงชนพร้อมกับเสียงเย้ยหยัน ใบหน้าของเขาราวกับมงกุฎหยก แผ่กลิ่นอายเซียน ในมือถือพัดเล่มหนึ่ง ยกมือขึ้นพลางสาวเท้าไป ราวกับจักรพรรดิเซียนมาสู่โลก!
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือเบ้าตาของบุคคลนี้ลึกไปหน่อย ทำให้ใบหน้าของเขาดูเหมือนหยางพร่อง!
“โอ้! คุณชายเทียนซวี!”
“มีข่าวลือว่าคุณชายเทียนซวีมาจากเผ่าเทียนซวีและมีพลังอย่างมาก!”
“แม้ว่าชายผู้นี้จะแข็งแกร่ง แต่เขาคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณชายเทียนซวี!”
“หึหึ มีอะไรสนุก ๆ ให้ดูแล้ว!”
“…”
เมื่อชายหนุ่มในชุดขาวเดินออกไป ผู้คนที่นี่ก็พูดคุยกันอย่างดุเดือดทันที แม้ว่าพวกเขาจะละทิ้งความคิดที่จะชิงป้าย แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางพวกเขาจากการชมเรื่องสนุก
“กึ่งจักรพรรดิเซียนช่วงต้นหรือ ยังไม่พอ!”
เมื่อมองไปที่ชายหนุ่มในชุดขาว หนิงฝานส่ายหัวด้วยท่าทางเหยียดหยาม
“หือ? ราชาเซียนเพียงผู้เดียวกล้าที่จะประเมินข้าต่ำเช่นนี้หรือ ตายเสีย!”
เมื่อได้ยินวาจานั้น คุณชายเทียนซวีเลิกคิ้วขึ้นอย่างเย็นชา จากนั้นเขาโบกพัดในมือ ทันใดนั้นพลังงานที่บ้าคลั่งก็พัดออกมาราวกับขุนเขาทะเลคลั่ง
ไม่ว่าจะผ่านไปที่ใด ฟ้าดินกลายเป็นว่างเปล่า และทุกสิ่งก็พังทลายลง!
ชิ้ง!
เมื่อเห็นเช่นนี้หนิงฝานก็ยกกระบี่ขึ้นฟัน!
ตู้ม!
กระบี่ตัดผ่านพลังงานไร้ที่สิ้นสุด จากนั้นแสงของกระบี่ก็พุ่งตรงเข้าหาคุณชายเทียนซวี
“หืม?!”
เมื่อเห็นว่าการโจมตีของเขาถูกทำลายอย่างง่ายดาย คุณชายเทียนซวีก็ขมวดคิ้วอย่างเย็นชา
แต่เขาหาได้ตื่นตระหนก เพียงแค่ตะโกนว่า “สวรรค์และโลกกลายเป็นความว่างเปล่า!”
ครืน!
สิ้นเสียง ร่างกายของเขาพลันพร่ามัว และทั้งร่างก็ดูเหมือนจะกระโดดออกมาจากห้วงเวลาและอวกาศนี้
เมื่อแสงกระบี่ของหนิงฝานฟันผ่านร่างของคุณชายเทียนซวี มันก็ผ่านร่างของเขาไปจนสุดปลายท้องฟ้า
“หืม?!” หนิงฝานขมวดคิ้วเล็กน้อย
ในเวลานี้เอง คุณชายเทียนซวีหัวเราะเยาะและพูดว่า “หึหึ นี่คือสุดยอดพลังแห่งเผ่าเทียนซวีของข้า มันสามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีทั้งหมดได้!”
ชายหนุ่มยังคงนิ่งเงียบ เขาเพียงตวัดกระบี่อีกครั้งและฟันปราณกระบี่นับร้อยล้านกระบวนท่าในลมหายใจเดียว ปราณกระบี่ทุกเล่มเจาะผ่านสวรรค์และโลก กระทั่งทำลายความว่างเปล่าจนพินาศ
ทว่าคุณชายเทียนซวีไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ เลย และไม่สนใจปราณกระบี่ที่กระจายไปทั่วท้องฟ้าด้วย!
“อย่าเสียพลังไปเปล่า ๆ ในสถานะล่องหนเช่นนี้ ข้าไร้เทียมทาน!”
“ตายเสีย!”
คุณชายเทียนซวีเยาะเย้ยขณะถือพัดในมือ จากนั้นเขาก็ปลดปล่อยพลังเซียนออกไปหมายสังหารหนิงฝาน
“หึ ไร้เทียมทานงั้นหรือ?”
เมื่อได้ยินคำว่า ‘ไร้เทียมทาน’ หนิงฝานก็ยิ้มอย่างเหยียดหยามพร้อมตะโกนว่า “ในเมื่อเผ่าเทียนซวีของเจ้ากลายเป็นความว่างเปล่าของสวรรค์และโลก เช่นนั้นข้าก็จะกวาดล้างความว่างเปล่าของสวรรค์และโลกให้หมดสิ้น แล้วคอยดูว่าเจ้าจะยังไร้เทียมทานอยู่หรือไม่!”
ตู้ม!
ทันทีที่เสียงตะโกนดังขึ้น พลังเซียนในร่างกายของหนิงฝานก็เดือดพล่าน ก่อนที่เขาจะสับฟันกระบี่ออกไป
เมื่อกระบี่ออกมา สวรรค์ โลก และความว่างเปล่าอันไร้ที่สิ้นสุดในทุกทิศทางก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ เหมือนเศษกระดาษ นอกจากนี้ เมื่ออยู่ภายใต้พลังถาโถมของปราณกระบี่ สวรรค์และโลกก็ถูกกำจัดออกไปอย่างสมบูรณ์ กระทั่งมิติเวลาและพื้นที่ก็สายเกินไปที่จะซ่อมแซม!
“อ๊าก!”
“เป็นไปไม่ได้!”
เมื่อเห็นฉากนี้ คุณชายเทียนซวีพลันกรีดร้องออกมาเสียงหลง!
ร่างของเขาเริ่มสลายไปในความว่างเปล่า ตั้งแต่ร่างกายจนถึงวิญญาณเซียน เพียงพริบตาเดียว มันก็หายไปอย่างสมบูรณ์!
สวรรค์และโลกเป็นความว่างเปล่าฉันใด ครั้งนี้มันกลายเป็นความว่างเปล่าอย่างแท้จริงฉันนั้น!
“เฮือก! คุณชายเทียนซวีตายแล้ว!”
“แม้แต่กึ่งจักรพรรดิเซียนก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ชายผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป!”
“ราชาเซียนขั้นกลางน่าสะพรึงกลัวเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด!”
“ไม่น่าแปลกใจที่เขามีป้ายเซียนฮวงเทียน เพราะเขามีพลังอย่างแท้จริง!”
ทุกคนกำลังคุยกันอย่างดุเดือด สายตามองไปที่หนิงฝานด้วยความตกใจและหวาดกลัว!
“ใครยังต้องการป้ายเซียนอีก!”
หลังจากฆ่าคุณชายเทียนซวีแล้วหนิงฝานก็ถือกระบี่ของเขาและมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง
ทันทีที่สายตาของเขากวาดผ่านไป ทุกคนก็ก้มศีรษะลง
โฮก!
แต่ในตอนนี้เอง จู่ๆ เสียงร้องของมังกรก็ดังขึ้น ตามด้วยกลิ่นอายสัตว์ประหลาดมหึมาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า!
ครืน!
หลังจากกลิ่นอายสัตว์ประหลาด ทันใดนั้น ร่างขนาดใหญ่ก็ลุกขึ้นจากฝูงชน มันเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวยาวสามพันจั้ง มีหัวเป็นมังกร ตัวเป็นพยัคฆ์ หลังเป็นกระดองเต่า และมีปีกสีแดง รูปร่างคล้ายสี่สัตว์เทพ ทั่วทั้งร่างเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งกึ่งจักรพรรดิเซียนขั้นกลาง!
“โอ้ มันคืออสูรมาร—ซื่อปู๋เซี่ยง (สี่ประหลาด) !”
“มีข่าวลือว่ามันมีสายเลือดของสัตว์เทพทั้งสี่ แต่มันไม่เหมือนซะทีเดียว ดังนั้นจึงถูกเรียกว่าซื่อปู๋เซี่ยง!”
“แม้จะอ้างว่าเป็นสี่ประหลาด แต่ก็เป็นสี่ประหลาดที่สมบูรณ์ ซ้ำยังทรงพลังมากด้วย!”
“โอ้! ถ้าซื่อปู๋เซี่ยงออกโรงเอง ข้าเกรงว่าเด็กคนนี้จะดับสิ้นเป็นแน่!”
“…”
เมื่อซื่อปู๋เซี่ยงเดินออกมาก็บังเกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง นี่แสดงให้เห็นว่าซื่อปู๋เซี่ยงมีชื่อเสียงมากที่นี่!
“พวกมนุษย์ จงตายเสีย!”
ทันทีที่ซื่อปู๋เซี่ยงปรากฏขึ้น มันก็ไม่มัวพูดพล่าม แต่ลงมือโจมตีทันที!
โฮก!
เห็นเพียงมันยกหัวมังกรที่ดุร้ายขึ้น และทันใดนั้นก็ส่งเสียงคำรามออกมา เสียงร้องของมังกรปลดปล่อยพลังงานมหาศาล กวาดไปทางหนิงฝานที่อยู่ฝั่งตรงข้าม!
“ไสหัวไป!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น หนิงฝานก็ตะโกนเสียงดัง เสียงนั้นกระทบกับพื้นที่ในความว่างเปล่า และเสียงคำรามอันน่าสยดสยองก็ดังออกมา
“ตาย!”
เมื่อเห็นว่าการโจมตีล้มเหลว ซื่อปู๋เซี่ยงก็พุ่งเข้าใส่หนิงฝานอีกครั้งอย่างรุนแรง!
ฟิ้ว!
ปีกสีแดงใต้ซี่โครงกางสะบัด ร่างกายที่ใหญ่โตของมันราวกับกระแสไฟ พุ่งเข้าหาหนิงฝานในชั่วพริบตา ยกกรงเล็บพยัคฆ์ขึ้นคว้าอย่างแรง!
ตู้ม!
กรงเล็บพยัคฆ์คู่นั้นใหญ่เท่าภูเขา และท้องฟ้าก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ด้วยการคว้าจับเพียงครั้งเดียว!
“เฉือน!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงฝานก็ตวัดกระบี่ต้าหลัวทันที!
ตู้ม!
ทันใดนั้น เมื่อกระบี่ต้าหลัวปะทะกับกรงเล็บพยัคฆ์ เสียงคำรามลั่นก็ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว จากนั้นพลังงานรุนแรงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ก็กวาดไปทั่วหล้า บังคับให้ผู้ที่อยู่รอบ ๆ จำต้องถอยห่างไปอย่างหยุดไม่ได้!
ครืน!
ลมหายใจถัดมา เกิดเสียงดังขึ้นอีกครั้ง เป็นกรงเล็บพยัคฆ์ของซื่อปู๋เซี่ยงที่หักออก และเลือดของสัตว์ร้ายก็ไหลทะลักออกมา!
“อ๊าก!”
ซื่อปู๋เซี่ยงร้องอย่างเจ็บปวดและถอยกลับทันที!
ทว่าหนิงฝานรีบถือโอกาสไล่ตาม พร้อมกับตวัดกระบี่ต้าหลัวในมือ เงากระบี่สูงเสียดฟ้าหนึ่งหมื่นจั้งรวมตัวกันในความว่างเปล่า มันเป็นพลังกระบี่ที่สามารถปราบปรามทุกสิ่ง!
“สยบ!” หนิงฝานตะโกนออกมาด้วยโทสะ
ตู้ม!
เงากระบี่นั้นกระตุ้นสายอัสนีและปราบอีกฝ่ายในทันที!
“โฮก!”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ รูม่านตาของซื่อปู๋เซี่ยงหดลงด้วยความตกใจ มันแหงนหน้าขึ้นไปบนฟ้าแล้วปล่อยเสียงคำราม ร่างสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่สั่นอย่างบ้าคลั่ง และพลังงานไร้ที่สิ้นสุดรวมตัวกันอย่างรวดเร็วบนกระดองเต่า!
จู่ ๆ กระดองเต่าก็ปะทุลำแสงพร่างพราว ปรากฏเป็นเงาร่างเต่าเสวียนอู่ตัวมหึมาในทันที ราวกับภูเขาเซียนโบราณที่ทอดยาวไปทั่วท้องฟ้าและผืนดิน ซ้ำยังบรรจุพลังที่ทำลายไม่ได้!
ตู้ม!
ในที่สุด ภายใต้สายตาตกตะลึงของผู้คนนับไม่ถ้วน เงากระบี่เฉือนกระดองเต่าเสวียนอู่ เสียงกัมปนาทเลือนลั่นก็ดังออกมาอีกครั้ง!
คลื่นพลังงานรุนแรงอย่างหาที่เทียบมิได้ปะทุออกมาจากความว่างเปล่า และพลังงานก็พัดโหมกระหน่ำ สวรรค์และโลกทุกทิศทุกทางพังทลายลงโครมคราม!
อ๊าก!
อย่างไรก็ตาม หลังจากลมหายใจเดียว ก็มีเสียงกรีดร้องโหยหวนจากเหนือความว่างเปล่า จากนั้นแสงมหึมาก็กลืนกินทุกสรรพสิ่ง
ผ่านไปครู่หนึ่ง…
เมื่อแสงมาบรรจบกันและพลังงานกระจายหายไป ฉากในนั้นถูกเปิดเผย
“เฮือก!”
เมื่อทุกคนมองดูก็ต้องตกตะลึงพรึงเพริด!
เห็นเพียงศพของซื่อปู๋เซี่ยงนอนนิ่งอยู่ในความว่างเปล่า หัวมังกรของมันล้มลง ปีกสีแดงหัก ร่างของพยัคฆ์แตกเป็นเสี่ยง ๆ กระดองเต่าแตก และลมหายใจแห่งชีวิตหายไปอย่างสิ้นเชิง!