ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 347 ความวุ่นวาย(ปลาย)

ตอนที่ 347 ความวุ่นวาย(ปลาย)

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ได้​ฟัง​แล้วก็​รู้สึก​ตกใจ

“​ต้อง​แต่งงาน​ไป​อยู่​ที่​ไกลๆ​ ​ต่อไป​คง​ไม่ได้​เจอกัน​ง่ายๆ​ ​จึง​อยาก​ให้​นาง​อยู่​ต่อ​อีก​สักหน่อย​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เล่า​ความรู้สึก​ที่​สกุล​สวี​ยัง​ตัดใจ​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​ไม่ได้​ให้​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ฟัง​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​นึกถึง​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​จึง​เข้าใจ​ความรู้สึก​ของ​คน​สกุล​สวี​ ​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​ข้า​จะ​บอก​กับ​พี่ชาย​ข้า​ให้​”​ ​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ไป​แล้ว​ ​นาง​ก็​รีบ​เขียนจดหมาย​ไป​ที่​ชัง​โจว​ทันที

ทันทีที่​สือ​อี​เหนียง​กลับมา​ถึง​เรือน​ ​เยี​่​ยน​หร​งก​็​เดินตาม​มา

“​เรื่อง​เมื่อคืน​บ่าว​ถาม​อย่างละเอียด​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ราว​กระซิบ​ ​“​ได้ข่าว​มา​ว่า​ฉิน​อี๋​เหนียง​บ่น​คิดถึง​คุณชาย​น้อย​สอง​ต่อหน้า​ท่าน​โหว​ ​บอกว่า​ที่​เล่อ​อาน​ไม่​เจริญ​เหมือน​เยี​่​ยน​จิง​ ​ใช้ชีวิต​ยากลำบาก​ ​ข้าง​กาย​คุณชาย​น้อย​สอง​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​คอย​ดูแล​เพียง​คนเดียว​ ​ไม่มี​ป้า​รับใช้​คอย​เป็น​เสาหลัก​ ​หาก​เกิดเรื่อง​ขึ้น​เกรง​ว่า​จะ​ไม่รู้​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​ ​อยาก​ให้ท่าน​โหว​ส่ง​มี่​เซียง​และ​คนอื่นๆ​ ​ที่อยู่​เรือน​คุณชาย​น้อย​สอง​ไป​ช่วย​ปรนนิบัติ​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ก็​อึ้ง​ไป​เล็กน้อย

“​ตอนแรก​ท่าน​โหว​ยัง​ตั้งใจฟัง​อยู่​ ​หลังจากนั้น​ใบหน้า​ของ​ท่าน​โหวก​็​ดู​ไม่สบายใจ​ ​บอกว่า​คุณชาย​น้อย​สอง​ไป​เพื่อ​ร่ำเรียน​หนังสือ​ ​ไม่ใช่​ไป​เพื่อ​หาความ​สุข​ความ​สบาย​ ​จะ​ต้องการ​คน​ไป​ปรนนิบัติ​มากมาย​ขนาด​นั้น​ทำไม​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​เห็น​ว่า​ท่าน​โหว​ไม่พอใจ​จึง​รีบ​คุกเข่า​ขอโทษ​ท่าน​โหว​ ​สีหน้า​ของ​ท่าน​โหว​จึง​ค่อยๆ​ ​ผ่อนคลาย​ลง​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​เรียก​ชุ่ย​เอ๋อร​์​มาป​รน​นิ​บัติ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​พูดถึง​เรื่อง​การ​หมั้น​หมาย​ของ​คุณชาย​น้อย​สอง​ขึ้น​มา​อีก​ ​บอกว่า​คุณชาย​น้อย​สอง​เกิด​ก่อน​คุณหนู​ใหญ่​สอง​สาม​วัน​ ​หลาย​วัน​มานี​้ฮู​หยิน​ตั้งใจ​หาว่า​ที่สามี​ให้​กับ​คุณหนู​ใหญ่​ ​แล้วยัง​เรียก​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ไป​ปรึกษา​ ​แต่กลับ​ไม่มี​ข่าวคราว​เกี่ยวกับ​การ​หมั้น​หมาย​ของ​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​ตอนนี้​คุณชาย​น้อย​สอง​ก็​ไป​เรียนหนังสือ​ที่​เล่อ​อาน​ ​มี​จิตใจ​กตัญญู​ ​ต้อง​อยู่​ห่าง​จาก​บิดา​มารดา​ ​ย่อม​ต้อง​ให้​อาจารย์​เป็นหลัก​ ​ด้วย​รูปลักษณ์​ ​บุคลิก​และ​ครอบครัว​ ​เกรง​ว่า​ใน​เล่อ​อาน​จะ​ไม่มีใคร​เทียบ​ได้​ใน​ตอนนี้​ ​หาก​ถูก​คนจน​ที่​มี​ความสามารถ​ที่​สนิทสนม​กับ​อาจารย์​เจียง​ถูกใจ​เข้า​ ​หาก​อาจารย์​เจียง​เห็นแก่​น้ำใจ​ก็​คง​ไม่​อาจ​ปฏิเสธ​ได้​ ​อาจจะ​ตัดสินใจ​รับปาก​หมั้น​หมาย​ด้วย​ความ​เลอะเลือน​ ​นั่น​จะ​ไม่​เป็นการ​ถ่วง​อนาคต​ของ​คุณชาย​น้อย​สอง​หรือ​ ​ขอร้อง​ท่าน​โหว​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ต้อง​รีบ​หา​คุณหนู​ที่​เหมาะสม​มา​หมั้น​หมาย​กับ​คุณชาย​น้อย​สอง​เจ้าค่ะ​…​”

ฉิน​อี๋​เหนียง​เป็นห่วง​จริงๆ​ ​หรือ​เพียงแค่​แกล้ง​เป็นห่วง​กัน​แน่​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​ใช่​ว่า​จะ​ไม่มี​พ่อ​มี​แม่​ ​แม้ว่า​อาจารย์​เจียง​จะ​เป็น​พ่อสื่อ​ ​แต่​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ต้อง​บอก​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก่อน​ ​จะ​ให้​คำสัญญา​โดยพลการ​ได้​อย่างไร

สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ก็​เลิก​คิ้ว​ขึ้น

“​เมื่อ​ท่าน​โหว​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​โยน​ผ้าเช็ดหน้า​ใน​มือ​ใส่​อ่างล้างหน้า​ ​ทำเอา​น้ำ​กระเด็น​ใส่​หน้า​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​บอกว่า​อาจารย์​เจียง​ไม่ใช่​คนที​่​นาง​จะ​มา​พูด​เช่นนี้​ได้​ ​แล้วยัง​ถาม​ฉิน​อี๋​เหนียง​ว่า​สรุป​แล้ว​ไม่พอใจ​ที่​คุณชาย​น้อย​สอง​ไป​เรียนหนังสือ​ที่​เล่อ​อาน​ ​หรือไม่​พอใจ​ที่ฮู​หยิน​หมั้น​หมาย​ให้​คุณหนู​ใหญ่​ก่อน​เจ้าค่ะ​”​ ​เยี​่​ยน​หรง​พูด​พลาง​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​สอง​สาม​ก้าว​ ​กระซิบ​ข้าง​หู​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ฉิน​อี๋​เหนียง​ตกใจ​จน​ตะลึงงัน​ไป​เลย​ ​ไม่กล้า​แม้แต่​จะ​เช็ด​หยดน้ำ​บน​หน้า​เจ้าค่ะ​”​ ​ราวกับว่า​นึก​ภาพ​เหตุการณ์​ใน​ตอนนั้น​ขึ้น​มา​ได้​ ​นาง​กลั้น​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​ท่าน​โหว​เห็น​ฉิน​อี๋​เหนียง​พูดไม่ออก​ก็​โกรธ​จน​หน้าแดง​ ​กำชับ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ให้​ไป​เก็บกวาด​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​เพราะ​เขา​จะ​ไป​พัก​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ลนลาน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​คุกเข่า​ลง​กับ​พื้น​กอด​ขา​ของ​ท่าน​โหว​แล้ว​ร้องไห้​ ​แล้วยัง​บอกว่า​ตัวเอง​เป็นห่วง​คุณชาย​น้อย​สอง​มากเกินไป​จึง​ได้​พูดจา​เหลวไหล​เช่นนี้​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ร้องไห้​น้ำหูน้ำตา​ไหล​ ​ท่าน​โหว​เห็น​เช่นนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว​ ​ให้​ซิ่งฮ​วา​พยุง​ฉิน​อี๋​เหนียง​ลุกขึ้น​ ​ส่วนตัว​เอง​ก็​เดิน​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​รีบ​ตาม​ไป​ ​คุกเข่า​อ้อนวอน​ขอ​ความเมตตา​ให้​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​ท่าน​โหว​เห็น​แล้วก็​ไป​ยัง​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ทันที​เจ้าค่ะ​…​”

ขณะที่​กำลัง​พูดคุย​ ​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​รายงาน​ ​“ฮู​หยิน​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​มา​พบ​เจ้าค่ะ​”

ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​มาคา​รวะ​ตอนเย็น​เลย

สือ​อี​เหนียง​ให้​สาวใช้​น้อย​เรียก​นาง​เข้ามา

ฉิน​อี๋​เหนียง​ตาบวม​แดง​ ​ยืน​มา​หยุด​อยู่​ตรงหน้า​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​คุกเข่า​ลง​ ​“ฮู​หยิน​เป็น​เพราะ​ข้างี​่​เง่า​จึง​ได้​พูด​เรื่องเหลวไหล​ออกมา​ ​ขอฮู​หยิน​อย่า​ได้​ถือสา​ ​เห็นแก่​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​โปรด​ยกโทษให้​ข้า​ด้วย​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”​ ​พูด​จบ​ก็​จะ​โขลก​ศีรษะ​ลง​กับ​พื้น​สีเขียว​หยก

เยี​่​ยน​หรง​รีบ​ดึง​มือ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ไว้​ ​“​อี๋​เหนียง​เป็น​อะไร​ไป​เจ้า​คะ​ ​เข้ามา​ยัง​ไม่ทัน​พูด​ให้​ชัดเจน​ก็​จะ​โขลก​ศีรษะ​แล้ว​ ​ต่อให้​มีเรื่อง​คับข้องใจ​หลาย​หมื่น​เรื่อง​ ​แล้ว​ท่าน​จะ​ให้ฮู​หยิน​ของ​พวกเรา​ช่วย​อย่างไร​”

ฉิน​อี๋​เหนียง​ไม่​ลุกขึ้น​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​จะ​โขลก​ศีรษะ​อีก​ ​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​น้ำตา​คลอ​เบ้า​ ​“​ข้า​เห็น​ว่า​ซื่อ​จื่อ​กำลังจะ​หมั้น​หมาย​แล้ว​ ​คุณหนู​ใหญ่​ก็​มี​ข่าวคราว​เรื่อง​การ​หมั้น​หมาย​แล้ว​ ​เหลือ​เพียง​คุณชาย​น้อย​สอง​อยู่​คนเดียว​ที่​ยัง​ไม่มี​คู่หมั้น​ ​ข้า​จึง​กังวล​เรื่อง​การ​หมั้น​หมาย​ของ​เขา​ ​ดังนั้น​เมื่อคืน​ตอนที่​ท่าน​โหว​มาหา​จึง​พูด​คำพูด​ที่​ไม่เหมาะสม​ทำให้​ท่าน​โหว​โกรธ​ ฮู​หยิน​ ​ท่าน​โหว​ให้​ความเคารพ​ต่อ​ท่าน​มาก​ที่สุด​ ​ขอร้อง​ท่าน​ได้​โปรด​เห็นแก่​ที่​ข้า​เป็น​คน​ไม่รู้​หนังสือ​ ​ไม่รู้​ความ​ ​ช่วย​ขอร้อง​ท่าน​โหว​แทน​ข้า​ด้วย​เถิด​”

ถึงกับ​อ้อนวอน​ให้​นาง​ช่วย​พูด​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ให้​…​สือ​อี​เหนียง​พูดไม่ออก​อยู่​ครู่หนึ่ง

ฉิน​อี๋​เหนียง​จะ​โขลก​ศีรษะ​อีกครั้ง​แต่​ถูก​เยี​่​ยน​หรง​ห้าม​เอาไว้

“ฮู​หยิน​”​ ​นาง​พูด​อย่าง​รีบร้อน​ ​“​เดิมที​ข้า​คอย​รับใช้​อยู่​ข้าง​กาย​ท่าน​โหว​ ​ด้วย​พระคุณ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​และ​ท่าน​โหว​จึง​ได้​ยก​ให้​ข้า​ขึ้น​เป็น​อี๋​เหนียง​ ​เท่านั้น​ข้า​ก็​พอใจ​แล้ว​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ตอนนี้​ข้า​ก็​อายุ​มาก​แล้ว​ ​ควร​ปล่อยวาง​ได้​แล้ว​ ​ที่​ท่าน​โหว​โกรธ​ข้า​ ​โทษ​ว่า​เป็นความ​ผิด​ข้า​ ​ก็​ไม่​ถือว่า​มากเกินไป​ ​แต่​ข้า​กลัว​ว่า​ข้า​จะ​เป็น​เหตุผล​ที่​ทำให้​ท่าน​โหว​รู้สึก​ว่า​คุณชาย​น้อย​สอง​เป็น​คนที​่​ไม่รู้​จัก​กฎเกณฑ์​…ฮู​หยิน​ ​ขอ​เพียงแค่​ท่าน​โหว​ไม่​โกรธ​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​ไม่ว่า​จะ​ให้​ข้า​ทำ​อะไร​ข้า​ก็​จะ​ไม่​บ่น​สัก​คำ​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

ฉิน​อี๋​เหนียง​กำลัง​บอก​ตัวเอง​ว่า​ใน​ใจ​ของ​นาง​มี​เพียง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​ส่วน​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​โปรดปราน​นาง​หรือไม่​นั้น​ ​นาง​ไม่ได้​สนใจ​มาตั​้ง​นาน​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​ตอนที่​เจอ​ฉิน​อี๋​เหนียง​เป็นครั้งแรก​ ​จุน​เกอ​มีท​่า​ทาง​ไม่ยอมรับ​นาง​ ​นึกถึง​ความ​นอบน้อม​ที่​ฉิน​อี๋​เหนียง​มีต​่อ​ตัวเอง​ตอน​พึ่ง​แต่ง​เข้ามา​ ​นึกถึง​การ​เผชิญหน้า​กัน​ใน​คืน​ฤดูหนาว​ที่​ฝนตก​…​ความรู้สึก​แปลก​ๆ​ ​พลอย​ผุด​ขึ้น​มา​ใน​ใจ

“​เจ้า​ลุกขึ้น​เถิด​!​”​ ​ใน​ห้องโถง​ที่​เงียบสงัด​ ​ทันใดนั้น​เสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ดัง​ขึ้น

สือ​อี​เหนียง​รีบ​หยุด​ความคิด​ ​ย่อเข่า​คำนับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​แม้แต่​จะ​ชายตามอง​ฉิน​อี๋​เหนียง​ที่​คุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​ ​กำชับ​เยี​่​ยน​หรง​ว่า​ ​“​ทั้งหมด​ออก​ไป​ก่อน​ ​ข้ามี​เรื่อง​จะ​พูด​กับฮู​หยิน​”

เยี​่​ยน​หรง​ย่อเข่า​ตอบรับ​ ​เห็น​ฉิน​อี๋​เหนียง​กำลัง​มอง​ใบหน้า​เย็นชา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​ใบหน้า​หม่นหมอง​ ​มุม​ปาก​ขยับ​เล็กน้อย​ก่อน​จะ​ถอย​ออก​ไป​พร้อมกับ​เยี​่​ยน​หรง

สือ​อี​เหนียง​ริน​ชา​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​โหว​มีเรื่อง​สำคัญ​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​”

สีหน้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อยๆ​ ​ผ่อนคลาย​ลง​ ​“​ก็​ไม่มี​อะไร​หรอก​ ​แค่​ไม่​อยาก​ให้​นาง​มาร​้​อง​ไห้​ฟูมฟาย​อยู่​ที่นี่​”​ ​ไม่พูดถึง​เรื่อง​นี้​อีก​ ​เปลี่ยน​ชุด​เสร็จ​ก็​ไป​ทานอาหาร​เย็น​ที่​เรือน​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​พอก​ลับ​มาก​็​ไม่​ไปหา​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​เอน​ตัว​อ่านหนังสือ​อยู่​บน​เตียง​เตา​ที่​ห้อง​ด้านใน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​เขา​คิด​จะ​ทำ​อะไร​กัน​แน่​ ​นึกถึง​เมื่อวาน​ที่​เขา​ไป​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​กลางดึก​ ​แล้ว​เรื่อง​ที่​ฉิน​อี๋​เหนียง​มา​โขลก​ศีรษะ​ที่​เรือน​ตัวเอง​ ​นาง​ไม่​อยาก​เข้าไป​ยุ่ง​ด้วย​ ​จึง​นั่ง​ทำ​รองเท้า​ให้​โจวฮู​หยิน​พลาง​อยู่​เป็นเพื่อน​สวี​ลิ่ง​อี๋

เมื่อถึง​ยาม​ไฮ​่​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​ว่า​ตาพร่า​มัว​เล็กน้อย​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พลัน​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​ข้า​จะ​ไป​แล้ว​!​”

สือ​อี​เหนียง​คิดไปคิดมา​กว่า​จะเข้า​ใจ

นาง​วาง​งาน​ใน​มือ​ลง​ ​“​ท่าน​โหว​ค่อยๆ​ ​เดิน​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ชะงัก​ฝีเท้า​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​เหมือนกับ​กำลัง​อธิบาย​แต่​ก็​เหมือนว่า​กำลัง​พูด​กับ​ตัวเอง​ ​“​ในเมื่อ​นาง​มา​ขอโทษ​เจ้า​ ​อย่างไร​เสีย​ข้า​ก็​ต้อง​เห็นแก่หน้า​เจ้า​บ้าง​”

สือ​อี​เหนียง​มอง​เขา​เดิน​จากไป​ด้วย​ความ​ครุ่นคิด

ฉิน​อี๋​เหนียง​มา​ขอโทษ​ตน​ต่อหน้า​คน​มากมาย​ ​ทั้ง​ยัง​ของ​ร้อง​ให้​ตน​ช่วย​พูด​แทน​ให้​ ​หาก​คืนนี้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ไปหา​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​เกรง​ว่าวั​นรุ​่ง​ขึ้น​คงจะ​มี​คน​บอกว่า​ตน​นั้น​ริษยา​หรือไม่ก็​เป็น​คน​ใจแคบ​ ​หรือ​แม้กระทั่ง​อาจจะ​แพร่​ออก​ไป​ว่า​ตน​ไม่มี​ความสำคัญ​ใน​สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

ฉิน​อี๋​เหนียง​รู้จัก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดีจริง​ๆ​!

วันรุ่งขึ้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​พักอ​ยู​ที่​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​และ​ตั้งแต่​ที่​ฉิน​อี๋​เหนียง​มา​พบ​สือ​อี​เหนียง​ก็​มีท​่า​ทีน​อบ​น้อม​เพิ่มขึ้น​กว่า​แต่ก่อน​อยู่​บ้าง

สือ​อี​เหนียง​อด​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​ ​ไม่ได้

******

ไม่​กี่​วัน​มานี​้​พี่ใหญ่​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​และ​บิดา​ของ​เซ่าจ​้ง​หรา​นก​็​มาถึง​เยี​่​ยน​จิง​เพื่อ​ปรึกษา​รายละเอียด​เกี่ยวกับ​การ​หมั้น​หมาย​กับ​สกุล​สวี

สวี​ลิ่ง​อี๋​ให้​คน​เรือน​นอก​ถอนเงิน​หนึ่ง​หมื่น​ตำลึง​ให้​สือ​อี​เหนียง​เพื่อนำ​มา​จัดการ​สินสอดทองหมั้น​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​สือ​อี​เหนียง​มอบ​เงิน​ให้​จู๋​เซียง​แล้ว​มอบ​บัญชี​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​“​…​เงิน​ไม่​มาก​เท่าไร​ ​แต่​หาก​ใช้​อย่างเหมาะสม​ก็​จะ​ทำให้​ดูดี​ได้​ ​เจ้า​ช่วย​ดูด​้วย​ ​อย่า​ใช้​เงิน​โดย​เปล่าประโยชน์​”

นี่​เป็น​เงิน​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอบให้​เพื่อ​ใช้​ซื้อ​ข้าวของ​เป็น​สินเดิม​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ส่วน​ที่ดิน​และ​ทรัพย์สิน​จะ​ถูก​จัดการ​โดย​ผู้ดูแล​เรือน​นอก​ ​เงิน​เพียง​สี่​ห้า​พัน​ตำลึง​ก็​สามารถ​ทำให้​ดู​ยิ่งใหญ่​ได้​แล้ว​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เงิน​หนึ่ง​หมื่น​ตำลึง​ ​แต่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​คิดถึง​ตอนนั้น​ที่​ตัวเอง​แต่ง​เข้ามา​เป็น​อนุ​ ​ของ​ที่​ท่าน​แม่​เก็บ​สะสม​ไว้​ก็​ไม่ได้​ใช้​ ​ตอนนี้​ก็​มีเงิน​อยู่​ใน​มือ​ ​หาก​ไม่เอา​ไป​ใช้​เพื่อ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แล้ว​จะ​เก็บ​ไว้​ตอน​ลง​โลง​หรือ​อย่างไร

เมื่อ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ถือว่า​เป็น​คนที​่​มี​ความยุติธรรม​ ​นาง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​สกุล​เหวิน​แต่ไหนแต่ไรมา​ก็​ทำการค้า​ขาย​ ​หากฮู​หยิน​เชื่อใจ​ข้า​ก็​จะ​แนะนำ​เถ้าแก่​ที่​ดูแล​ร้าน​ให้​ ​ไม่ได้​หวัง​ว่า​จะ​ให้​พวกเขา​ช่วย​ให้ราคา​ถูก​ ​อย่างน้อย​แค่​ไม่​โก่งราคา​ก็​พอแล้ว​”​ ​สุดท้าย​ก็​ไม่กล้า​พูดถึง​เงิน​ส่วนตัว​ ​“​อย่างไร​จู๋​เซียง​ก็​เป็น​สตรี​ ​เป็น​คน​ขี้อาย​ ​ไม่​เหมือน​ข้า​ที่​เติบโต​มา​ใน​สกุล​ค้าขาย​ ​อีกทั้ง​ยัง​บรรลุนิติภาวะ​แล้ว​ ​กล้า​ที่จะ​ไป​คุย​กับ​เถ้าแก่​พวก​นั้น​ ​ข้าว​่า​ไม่​สู้​ให้​ข้ามา​ดูแล​เงิน​จะ​ดีกว่า​แล้ว​ให้​แม่นาง​จู๋​เซียง​เป็น​คนดู​แลบัญ​ชี​ ​ท่าน​คิด​ว่า​อย่างไรบ้าง​”

สินสอดทองหมั้น​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ไม่​เพียง​เกี่ยวพัน​กับ​หน้าตา​ของ​สกุล​สวี​และ​สกุล​เซ่า​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​เกี่ยวพัน​ถึง​ชีวิต​หลัง​การ​แต่งงาน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ด้วย​ ​ในเมื่อ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เคย​เป็น​คน​ค้าขาย​อยู่​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​เชื่อ​ใน​ความรู้​เรื่อง​กำไร​ขาดทุน​ของ​นาง​อยู่​บ้าง​ ​แทบจะ​ไม่ได้​คิด​อะไร​มาก​สือ​อี​เหนียง​ก็​พยักหน้า​ตอบ​ตกลง​ทันที​ ​แต่​ยังคง​กำชับ​เตือน​นาง​ว่า​ ​“​อี๋​เหนียง​ต้อง​ระวัง​ให้​มาก​จะ​ได้​ไม่​เกิด​การ​ผิดพลาด​ ​ไม่​เพียงแค่​ขายหน้า​สกุล​สวี​ ​ซ้ำ​ยัง​เป็นการ​ทำร้าย​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ทำให้​นาง​อยู่​ใน​สกุล​เซ่า​อย่าง​ยากลำบาก​!​”

รอยยิ้ม​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เบ่งบาน​อย่าง​ไม่​อาจ​ปกปิด​ได้​ ​“​แม้ว่า​ข้า​จะ​เป็น​คน​หู​ตา​ไม่​กว้างไกล​ ​แต่​ก็​รู้​ว่านี​่​เป็นเรื่อง​ใหญ่​ ​จะ​ไม่​ทำลาย​เรื่อง​การ​หมั้น​หมาย​ของ​คุณหนู​ใหญ่​อย่างแน่นอน​”

สือ​อี​เหนียง​ให้​จู๋​เซียง​มอบ​ตั๋วเงิน​หนึ่ง​หมื่น​ตำลึง​ของ​เรือน​นอก​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​ประทับตรา​ไว้​ ​เมื่อ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​กลับมา​ถึง​ห้อง​ ​ก็​เรียก​ชิว​หงกับ​ตง​หง​เข้ามา

“​ตง​หง​เขียน​ตัวหนังสือ​ได้ดี​ ​เจ้า​มา​เขียน​ตัวอักษร​สีแดง​บน​แผ่น​ป้าย​ ​ข้า​จะ​ไป​จัด​สินสอดทองหมั้น​ให้​คุณหนู​ใหญ่​”​ ​น้ำเสียง​เต็มไปด้วย​ความยินดี

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ชิว​หงกับ​ตง​หง​ได้​ฟัง​ก็​อด​มองหน้า​กัน​ไม่ได้​ ​เมื่อ​ได้สติ​กลับมา​ก็​แสดง​สีหน้า​ประหลาดใจ​ ​“​ท่าน​โหว​รับปาก​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​!​”

“​ไม่ใช่​ท่าน​โหว​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​อย่าง​เบิกบานใจ​ ​“​เป็นฮู​หยิน​ที่​รับปาก​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​ความตื่นเต้น​เล็กน้อย​ ​“ฮู​หยิน​ทำ​อะไร​ได้​โปร่งใส​ตรงไปตรงมา​จริงๆ​”​ ​พลัน​นึกถึง​สายตา​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ใช้​มอง​นาง​ ​“​ไม่​เหมือนกัน​…​มักจะ​ทำให้​คน​รู้สึก​อึดอัด​”

ไม่​เหมือน​ใคร​?

คำพูด​คลุมเครือ​เช่นนี้​ ​แน่นอน​ว่า​ไม่ใช่​คนที​่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พูดถึง​ตามอำเภอใจ​ได้

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท