หญิงสาวสองคนนั่งอยู่หน้ากระจก หัวไหล่พิงกัน ดูแล้วสนิทสนมกันมาก
แต่แท้จริงแล้ว ระหว่างพวกนางมีความแค้นที่ต้องตายกันไปข้าง
เหยาฝูไม่ได้หลบเฉินตันจู อีกทั้งไม่ได้ไล่ให้นางออกไป…แพ้ชนะไม่ได้ตัดสินด้วยคำพูด
เวลานี้นางสามารถมองดูความสิ้นหวังและความโกรธของหญิงสาวผู้นี้ด้วยรอยยิ้มที่สงบ
เหยาฝูยิ้มเบาๆ “คุณหนูตันจูนั่งใกล้เพียงนี้ ท่านอยากฟังว่าข้ารู้จักกับพี่เขยท่านอย่างไรหรือ”
เฉินตันจูโน้มตัวเข้าใกล้ เบียดตัวเองเข้าไปในกระจกทองแดง มองเข้าไปยังเหยาฝูในกระจก พูดอย่างเยาะเย้ย “ใช่ ท่านทำให้พี่เขยข้ากลายเป็นคนหน้าเนื้อใจเสือได้อย่างไร”
เหยาฝูในกระจกหัวเราะขึ้นมา
นางมองหญิงสาวที่แทบจะพิงไหล่ของตนเอง
“คุณหนูตันจูสมควรฟัง” นางโน้มตัวเข้าไปใกล้แก้มอันบอบบางของหญิงสาว สูดดมลึกๆ “คุณหนูตันจูต้องเรียนรู้ที่จะหลอกล่อชายหนุ่มผู้หนึ่งให้สังหารภรรยาของตนเองเพื่อท่านเหมือนข้า ทำให้เขาเหมือนสุนัขที่คุกเข่าเชื่อฟังคำสั่ง ถึงจะไม่ทำให้ความงามของท่านสูญเปล่า”
สาวรับใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังอกสั่นขวัญแขวนมากเมื่อได้ยิน นางรู้มาก่อนว่าคุณหนูสี่แห่งตระกูลเหยานี้เป็นคนตีสองหน้า แต่เมื่อเห็นนางพูดจาชั่วร้ายเช่นนี้ด้วยท่าทียิ้มแย้มกับตาของตนเอง นางก็อดที่จะก้มหน้าก้าวถอยห่างออกไปไม่ได้
เฉินตันจูไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวหรือโกรธ สีหน้าของนางไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด อีกทั้งนางยังยิ้มขึ้นมา “ได้ ให้ข้าได้เรียนรู้บ้าง”
ต้องการฟังจริงหรือ เหยาฝูนั่งตัวตรง มองหญิงสาวในกระจกด้วยรอยยิ้ม “เรื่องนี้ง่ายมาก หญิงงามอย่างพวกเรา ตราบใดที่ต้องการทำให้ชายหนุ่มพึงพอใจย่อมสามารถทำได้อย่างแน่นอน คุณหนูตันจูเชี่ยวชาญโดยไม่ต้องมีอาจารย์แล้ว ตอนที่ข้าพบกับพี่เขยของท่าน ข้ายังสับสนเล็กน้อย หากตอนนั้นข้ามีความงามและมารยาเหมือนคุณหนูตันจูในเวลานี้” นางยื่นมือออกไปบีบแก้มของเฉินตันจู “เวลานี้ใบหน้าของท่านคงกลายเป็นกระดูกแห้งเหี่ยว พี่สาวของท่าน รวมทั้งคนในตระกูลของท่านคงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”
เฉินตันจูจับมือของนางเอาไว้ ไม่ได้ตีหรือสะบัดออก หากแต่ลูบไล้แผ่วเบา จากนั้นดึงมือข้างนี้ทาบลงบนใบหน้าของตนเอง
“ข้างดงามกว่าคุณหนูเหยาจริง” นางพินิจเหยาฝู “พี่สาวข้าก็งามกว่าท่าน เหตุใดหลี่เหลี่ยงจึงตาบอดชื่นชอบท่านได้”
แม้ว่าจะภาคภูมิใจเพียงใด แต่เมื่อถูกหญิงสาวอื่นบอกว่างดงามกว่าตนเอง ก็อดที่จะโกรธไม่ได้
เหยาฝูคว่ำมุมปาก ชักมือของตนเองกลับมา มองตัวเองในกระจก “เพราะนอกจากความงาม พวกท่านก็ไม่มีสิ่งอื่นอีก”
เฉินตันจูกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เมื่อหญิงสาวมีความงาม ยังต้องการสิ่งอื่นอีกหรือ”
ไม่รอให้เหยาฝูพูดต่อ นางยื่นมือไปจับหัวไหล่ของเหยาฝู
“อย่างไรก็ตาม ข้าอยากจะขอบคุณความเปิดเผยของคุณหนูเหยา แต่ท่านอยากรู้หรือไหมว่าข้าสังหารหลี่เหลียงได้อย่างไร”
เฉินตันจูคิดว่าพรรณนาถึงความตายอันน่าสลดใจของหลี่เหลียง นางจะเสียใจหรือ นางไม่ได้มีความรักลึกซึ้งต่อชายผู้นั้นอย่างแท้จริง น่าขันสิ้นดี เหยาฝูยิ้ม ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย “อยากสิ ท่านรีบเล่าให้ข้าฟังเร็วเข้า”
เฉินตันจูโน้มตัวเข้ามาใกล้หูของนาง กระซิบแผ่วเบา “ข้าสังหารเขาอย่างไร้เสียงเช่นนี้อย่างไรเล่า”
เช่นนี้ เช่นนี้คือเช่นไหน เหยาฝูผงะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหญิงสาวเข้าใกล้เกินไปหรือไม่ นางรู้สึกอึดอัดที่หน้าอก หายใจลำบากเล็กน้อย ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าอย่างแรง แต่กลิ่นหอมที่เดิมทียังคงอบอวลอยู่ท่ามกลางลมหายใจของนางกลายเป็นกลิ่นเผ็ดร้อน พุ่งตรงขึ้นสมอง
ทันใดนั้น ลมหายใจของนางหยุดชะงัก
ผิดปกติ! มีบางอย่างผิดปกติ!
…
ทหารที่เฝ้าอยู่นอกประตูมีทั้งทหารของเหยาฝูและทหารเกราะทอง
แม้ว่าเฉินตันจูไม่ได้ให้พวกเขาติดตาม แต่ยังคงมีสองคนติดตามมา เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด ถึงแม้ว่าเหล่าหญิงสาวปะทะกันจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่อย่างไรก็ดูไม่งาม
เพียงแต่สถานการณ์ทางนี้ทำให้พวกเขาประหลาดใจ หญิงสาวทั้งสองภายในห้องไม่ทะเลาะกัน อีกทั้งยังส่งเสียงหัวเราะออกมา มีทหารคนหนึ่งแอบมองแนบหน้าต่าง พบว่าหญิงสาวสองคนนั่งอยู่ด้วยกัน แนบไหล่มองกระจก สนิทสนมราวกับพี่สาวน้องสาว
สตรีช่างแปลกประหลาด แต่เป็นเช่นนั้นย่อมดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแค่ความสันติที่ภายนอกหรือไม่ ตราบใดที่พวกนางไม่ฉีกหน้าตบตีกัน งานของพวกเขาในรอบนี้ก็สบายแล้ว
เหล่าทหารเดินห่างออกไปหลายก้าว ยืนพูดคุยในลานอย่างสนุกสนาน
“พวกเจ้ามาถึงเมื่อใด?”
“พรุ่งนี้ออกเดินทางตั้งแต่เช้าเถิด”
“ดูเหมือนว่าทั้งสองจะไม่ทะเลาะกัน อีกทั้งยังสามารถเดินทางไปด้วยกันได้”
“ลืมไปเสียเถิด เหล่าสตรี วันนี้มีความสุข พรุ่งนี้เจ้าก็บาดหมางกันได้…อีกอย่าง เดิมทีพวกนางก็บาดหมางกันอยู่แล้ว”
จนกระทั่งถึงเวลาผู้ที่ต้องประจำการรอบสองมาเปลี่ยนเวร เหล่าทหารถึงได้นึกขึ้นได้ ผิดปกติ เวลาผ่านไปนานมากแล้ว คุณหนูตันจูจะนอนร่วมห้องกับคุณหนูสี่หรือ
แม้จะทำเพื่อความสันติแบบผิวเผิน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำถึงเพียงนี้ใช่หรือไม่
ทุกคนต่างรีบเดินเข้าใกล้ประตูห้อง ฟังอย่างระมัดระวัง ภายในห้องเงียบสงัด แต่ไฟยังเปิดอยู่
มีบางอย่างผิดปกติ!
ทุกคนมองหน้ากัน หนึ่งในนั้นตะโกนเสียงดัง “คุณหนูเหยา!” แล้วผลักประตูเข้าไปอย่างแรง
ประตูไม่ได้ใส่กลอน เพียงแค่ผลักก็สามารถเปิดออกได้ แสงไฟภายในห้องริบหรี่
ทหารที่เบียดเสียดกันอยู่บริเวณประตูตกอยู่ในภวังค์ พวกเขาเห็นเหยาฝูนอนฟุบลงบนโต๊ะ รวมทั้งสาวรับใช้ที่ล้มนอนอยู่บนพื้น…
ไม่มีเฉินตันจู
เหล่าทหารหลั่งไหลเข้ามา “คุณหนูเหยา!”
“คุณหนูตันจู!”
บนเตียงไม่มีคน ภายในห้องขนาดเล็กไม่มีสถานที่อื่นสำหรับซ่อนคน เกิดอันใดขึ้น
ไม่มีใครอยู่บนเตียงและไม่มีที่อื่นให้ซ่อนในห้องเล็กๆ พวกเขาเงยหน้ามองขึ้นไป เห็นหน้าต่างด้านหลังที่อยู่สูงเปิดออกกว้าง…หน้าต่างนั้นสามารถผ่านได้เพียงคนเดียว
คุณหนูมีความสามารถนี้ด้วยหรือ
นอกจากนี้ พวกเขาเข้ามาจำนวนมากเพียงนี้ สาวรับใช้และเหยาฝูยังคงนอนนิ่งเฉย
ทหารคนหนึ่งมองหญิงสาวที่ฟุบนอนอยู่บนโต๊ะ เส้นผมของนางปกคลุมใบหน้าราวกับน้ำตก เขาเรียกขานคุณหนูเหยา มือของเขายื่นมือออกไปปัดผมของนางออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้าที่หลับใหลของหญิงงาม…
มือของเขาไม่หยุดลง เขาเลื่อนมือไปบริเวณใต้จมูกของหญิงงามในห้วงนิทรา ก่อนที่จะชักกลับมาอย่างรวดเร็วราวกับถูกไฟเผา คนถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“ตาย ตายแล้ว!” เขาส่งเสียงตะโกนออกมา
โรงเตี๊ยมที่สว่างไสวตกอยู่ในความโกลาหลในทันที ทหารวิ่งไปทั่วทุกหนทุกแห่ง คบเพลิงกระจัดกระจายไปทุกทิศทุกทาง
…
สายลมในยามค่ำคืนหวีดหวิวอยู่ในหู ร่างคนที่กำลังวิ่งอย่างรวดเร็วตัดผ่านกลางคืนเหมือนลำแสง
เนื่องจากต้องหลบหลีกทหารที่ไล่ตาม ดังนั้นจึงไม่ได้จุดคบเพลิง ม้าไม่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืน ดังนั้นการที่เขาแบกคนวิ่งจึงเร็วกว่าการขี่ม้า
คนบนหลังราวกับตื่นขึ้นมาเพราะการกระแทก ส่งเสียงพึมพำ ลมหายใจอ่อนระทวยรดลงที่ลำคอของเขา ถึงแม้จะมีผ้าชั้นหนึ่งกั้นเอาไว้ แต่บนลำคอที่อ่อนไหวก็ขนลุกขึ้น
การขนลุกนี้ทำให้เขารู้สึกโชคดี
ผู้บ้าคลั่งคนนี้! เขารู้อยู่แล้วว่าต้องใช้วิธีนี้อีก เมื่อเทียบกับการสังหารหลี่เหลียง ครานี้นางใช้ยาพิษที่รุนแรงกว่าเดิม
ตอนที่เขาเข้ามา สาวรับใช้และเหยาฝูสลบไปแล้ว หญิงสาวผู้นี้สะลึมสะลือ แต่สติของนางยังคงประคองไว้เพื่อมั่นใจว่าเหยาฝูตายไปแล้วหรือไม่ นางมองเห็นเขา ไม่รู้นึกถึงเรื่องใด นางจึงยังยิ้มออกมาได้
หลังจากยิ้มนางก็ล้มลง
ถึงแม้ยังมีลมหายใจ แต่ก็ไม่อาจรอจนกว่าหวังเจียนเดินทางมาถึงได้ โชคดีที่หวังเจียนได้บอกไว้ว่าต้องจัดการอย่างไรบ้าง
ด้านหน้ามีเสียงน้ำไหลดังมาให้ได้ยิน แม่น้ำอยู่ทางนี้ ยามค่ำคืนที่ไม่มีแม้แต่ดวงดาวฟ้ามืดสนิท ท้องฟ้า พื้นดิน และแม่น้ำรวมเป็นหนึ่งเดียว
เขาหยิบยาหลายขวดออกมาจากสัมภาระที่แบกอยู่ ก่อนจะสาดลงบนตัวของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว ปลดเสื้อผ้าของตนเองออก เปลือยกายด้านบนจับหญิงสาวขึ้นมา ก่อนจะพาหญิงสาวกระโดดลงน้ำ