บทที่ 336 ข้ามิใช่ข้า หากแต่เป็นผู้อื่นอย่างนั้นหรือ???
ภายในวิหารต้าสยง สามเณรน้อยนั่งอยู่บนอาสนะ ท่าทางน่าเกรงขาม เขามีลักษณะผ่องแผ้วบริสุทธิ์ คล้ายกับพระอรหันต์รูปหนึ่งได้นั่งอยู่ตรงนั้นจริง ๆ
“อมิตาภพุทธ”
เขาท่องพระนาม ความเป็นพุทธะไหลเวียนอยู่รอบตัว ไม่ธรรมดาจริง ๆ อายุแค่เจ็ดแปดขวบก็มีความเป็นอรหันต์เสียแล้ว
“ข้าคือพระเก้าประทีปพุทธเจ้าแห่งยุคโบราณ”
เขาปริปากบอก
“พระเก้าประทีปพุทธเจ้ารึ? เจ้าปากกล้ายิ่งกว่าข้าเสียอีก!”
ต้าเต๋อมุมปากกระตุก “หากเจ้าใช้วจีเช่นนี้ ข้าบอกว่าข้าเป็นพระอมิตาภะพุทธเจ้ายังได้!”
เขาได้รับขนานนามว่าเป็นพุทธบุตรกลับชาติมาเกิด กระนั้นเขายังมิกล้าบอกว่าตนคือ พระเก้าประทีปพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด
ให้ตายสิ พระเก้าประทีปพุทธเจ้าคือพระโบราณองค์หนึ่งที่รุ่งเรืองเจิดจรัสที่สุดในพุทธศาสนา ความบรรลุธรรมด้อยกว่าเพียงพระอมิตาภะพุทธเจ้าเท่านั้น!
สามเณรน้อยหัวเราะเบา ๆ “ใช่ว่าเจ้าไม่อาจเป็นพระอมิตาภะพุทธเจ้าเสียหน่อย”
“หมายความว่าอย่างไร”
ต้าเต๋อขมวดคิ้วเป็นปม สามเณรน้อยผู้นี้แฝงความพิลึกไปทั้งตัว
โดยเฉพาะวาจาที่เอื้อนเอ่ยชวนขนลุกขนพอง จนเขาอดผวามิได้
“เจ้ากับข้าเป็นหนึ่งเดียว เราสองรวมร่างเมื่อใด ข้าจักกลับมามีร่างสมบูรณ์อีกครั้ง ถึงครานั้น ข้าจักเจิดจรัส ฟื้นฟูความรุ่งเรืองขึ้นได้ใหม่”
สามเณรน้อยหัวเราะเบา ๆ “ข้าจักกลายเป็นพระอมิตาภะพุทธเจ้าแห่งยุคนี้ หรืออาจเป็นตัวตนที่เหนือพระอมิตาภะพุทธเจ้าขึ้นไปอีก”
“หมายความว่าอย่างไรที่ว่าเราสองรวมร่าง เจ้าพูดมาให้ชัด!”
ต้าเต๋อจ้องสามเณรน้อยเขม็ง ลางสังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นในใจ
“พุทธศาสนาของเรายึดถือเรื่องโลกหน้า เหตุแห่งการกระทำในโลกนี้ คือผลของการกระทำในโลกหน้า”
สามเณรน้อยกล่าว “ทว่าโลกหน้าที่ว่าเคยปรากฏออกมาหรือ โลกหน้าเป็นเพียงความเพ้อฝันของเราเท่านั้น เป็นเป้าหมายให้เราต่อสู้เพื่อมัน”
เขากล่าวต่อ “หนทางบรรลุเซียนลำเค็ญ นิรันดรยากรั้ง หากมีโลกหน้าจริง พวกเราก็สามารถฝึกฝนบำเพ็ญต่อไปภพแล้วภพเล่าอย่างนั้นหรือ หากเป็นเช่นนี้ เหตุใดถึงมีคำล่าวว่าหนทางบรรลุเซียนลำเค็ญ นิรันดรยากรั้ง…”
หลังได้ยินวาจาของสามเณรน้อย สีหน้าต้าเต๋อพิลึกขึ้นไปอีก
เขาจ้องสามเณรน้อยขณะเอ่ย “เจ้าเล่นตลกกระไร เจ้าคิดจะล้มล้างสัจธรรมของพระอมิตาภะพุทธเจ้าหรือ เจ้านี่ไม่ได้เรื่องยิ่งกว่าข้าจริงด้วย!”
เหตุในโลกนี้ ผลในโลกหน้า
นี่คือหลักธรรมของพระอมิตาภะพุทธเจ้า
พุทธศาสนาเชื่อมั่นแน่วแน่ว่าโลกหน้ามีจริง
เพียงแต่ผลในโลกหน้ายังไม่เบ่งบานเท่านั้น
ต่อให้เขาไม่รักษาศีลของศาสนาปานใด แต่ในข้อนี้ เขามิกล้าสามหาว นั่นถือเป็นการลบหลู่พระอมิตาภะพุทธเจ้า!
“ล้มล้างสัจธรรมหรือ?”
สามเณรกล่าว “หามิได้ ข้าเพียงแต่บอกเล่าข้อเท็จจริงเท่านั้น โลกหน้าคือปณิธานที่พระอมิตาภะพุทธเจ้าตั้งไว้ เขาหวังให้สรรพชีวิตในโลกนี้มีโลกหน้ากันหมด และสานต่อเหตุในโลกนี้ต่อไป”
จากนั้น เขาเอ่ยขึ้นอีก “พระอมิตาภะพุทธเจ้าเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคอย่างแท้จริง ที่พุทธศาสนายิ่งใหญ่ได้ถึงเพียงนี้ ล้วนเป็นเพราะพระอมิตาภะพุทธเจ้า”
เขามองต้าเต๋อ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดพุทธศาสนาถึงสมัครสมาน ปรองดองเป็นเอกภาพเยี่ยงนี้ ในใต้หล้าผืนนี้มีสำนักฝึกตนใดทำได้ดั่งพุทธศาสนาบ้าง บนดินแดนแห่งนี้ ทุกชีวิตล้วนศรัทธาในพุทธศาสนา ไม่มีผู้ใดบำเพ็ญวิถีอื่น”
ต้าเต๋อมิได้พูดจา ฟังสามเณรน้อยเล่าต่อไป
เห็นเขาอยู่ในพุทธศาสนามาตั้งแต่เล็กแบบนี้ ซ้ำยังมีสถานะสูงส่ง กระนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าเหตุใดพุทธศาสนาถึงเป็นเอกภาพได้ถึงเพียงนี้ ทั่วทั้งดินแดนฝอล้วนบำเพ็ญธรรม มิมีผู้ใดฝึกตนในวิถีอื่น
“นั่นเพราะบำเพ็ญธรรมต่างจากการฝึกตนในวิถีอื่น”
สามเณรน้อยกล่าว “การบำเพ็ญธรรม สร้างประโยชน์แก่คนทั้งปวง ต่อให้เป็นปุถุชนผู้ไร้พรสวรรค์ฝึกฝน เมื่อศรัทธาในพุทธศาสนาแล้วยังได้รับประโยชน์ใหญ่หลวง ช่วยให้ชีวิตยืนยาว สุขภาพแข็งแรง เพิ่มวาสนา ลดทุกข์ภัย”
ต้าเต๋อใคร่ครวญดูแล้ว เห็นว่าเป็นเช่นนั้นจริง
ภายในดินแดนฝอนี้น้อยนักจะเกิดเภทภัย สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนร่มเย็นเป็นสุข เทียบกับดินแดนฮวงและดินแดนหยินแล้ว ดินแดนฝอเหมือนเป็นแดนสุขาวดี
“นี่คือความยิ่งใหญ่และความเหนือชั้นของพระอมิตาภะพุทธเจ้า!”
สามเณรน้อยมีสายตานับถือ “พระอมิตาภะพุทธเจ้าสร้างพลังความศรัทธาขึ้นมา ผู้ใดเลื่อมใสในพุทธศาสนา จักก่อกำเนิดพลังความศรัทธา พลังความศรัทธานั้นเป็นการให้และรับทั้งสองฝ่าย ผู้ศรัทธาจักได้ประโยชน์มหาศาลจากพลังนี้เช่นกัน”
“พลังความศรัทธา?”
ต้าเต๋อขมวดคิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยได้ยินคำนี้
“ปุถุชนยังได้รับประโยชน์มหาศาลจากพลังความศรัทธา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ฝึกตน ประโยชน์ที่เกิดแก่ผู้ฝึกคนนั้นใหญ่หลวงยิ่งกว่า ช่วยเพิ่มความเร็วในการฝึกฝน ช่วยยกระดับความสามารถในการตื่นรู้ เมื่อบรรลุไปจนถึงขอบเขตสูงขึ้น กลายเป็นผู้ที่มีสาวกศรัทธาแล้ว ข้อดียิ่งมีมากขึ้นไปอีก!”
สามเณรน้อยเอ่ย “นี่เห็นเหตุผลที่ผู้ฝึกตนวิถีอื่นมากมายเต็มใจผันตัวมาบำเพ็ญธรรม”
เขาว่าต่อ “ธรรมมะปราศจากความเห็นแก่ตัว ร่วมปันผลประโยชน์ เพื่อให้ได้กลายเป็นผู้ได้รับความศรัทธา เมื่อได้รับพลังความศรัทธาแล้วจักได้รับประโยชน์มากขึ้น มิหนำซ้ำคนเหล่านี้ยังทำบุญทำทานอยู่บ่อย ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความศรัทธาจากผู้อื่น จนกลายเป็นวัฏจักรอันดี ช่วยให้พุทธศาสนาเป็นเอกภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีสาวกมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย”
เป็นเช่นนี้นี่เอง!
หลังได้ยินสิ่งที่สามเณรน้อยบอกแล้ว ต้าเต๋อถึงเข้าใจว่าเหตุใดพุทธศาสนาถึงสมัครสมานถึงเพียงนี้
พลังความศรัทธาสร้างผลประโยชน์ให้ทั้งสองฝ่าย นับเป็นวัฏจักรอันดีงามจริง ๆ พระอมิตาภะพุทธเจ้าคือคนยิ่งใหญ่แห่งยุคที่แท้จริง สมควรแก่การเคารพนับถือ
ทว่าเรื่องเหล่านี้เกี่ยวอันใดกับเขา?
“เจ้าพูดเรื่องโลกหน้า แล้วยังพูดเรื่องพลังความศรัทธา เจ้าต้องการบอกสิ่งใดแก่ข้ากันแน่”
ต้าเต๋อมองสามเณรน้อยขณะเอ่ย
“สิ่งที่ข้าต้องการบอกเจ้าคือ ข้าทำสำเร็จ ตรัสรู้ถึงความประเสริฐของพลังความศรัทธา นิพพานได้อย่างแท้จริง เวียนว่ายตายเกิดภพแล้วภพเล่า และได้เกิดในโลกหน้า!”
สามเณรน้อยมองต้าเต๋อพลางกล่าว “เจ้ากับข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นผลในโลกหน้า!”
“เวียนว่ายตายเกิดภพแล้วภพเล่าตั้งแต่ยุคโบราณมาจนถึงยุคนี้หรือ!?”
ต้าเต๋อสูดปาก หากเป็นเรื่องจริง สามเณรน้อยตรงหน้าก็สะท้านโลกันตร์ยิ่ง!
ยุคโบราณผ่านมาแล้วนานปานใด ห่างกันถึงสองยุคสมัยเต็ม ๆ!
ยุคสมัยถัดจากยุคโบราณคือยุคบรรพกาล และยุคอนันตกาล!
นอกจากนี้ หากสามเณรน้อยผู้นี้คือพระเก้าประทีปพุทธเจ้าจริง ๆ ก็มิใช่แค่สองยุคสมัยแล้ว!
พระเก้าประทีปพุทธเจ้าคือตัวตนในช่วงต้นของยุคโบราณ
เท่านี้นับว่าอยู่มาแล้วสามยุคสมัย!
สามยุคสมัย!
เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด!
หนึ่งยุคสมัยเป็นเวลานานเพียงใด!?
ต่อให้เป็นมหาจักรพรรดิชั้นยอดที่ได้กินโอสถจักรพรรดิทั้งสิบในตำนาน ยืดอายุขัยออกไปอีกหกชาติ ก็มีชีวิตเป็นเวลาเพียงหนึ่งในสามของยุคสมัย!
นี่หรือคือความน่าพรั่นพรึงของพลังความศรัทธา?
เขาชาหนึบไปทั้งศีรษะ!
“อนิจจา พลังความศรัทธาลึกล้ำยิ่งใหญ่เกินไป แม้นข้านิพพานจนได้เกิดใหม่ กระนั้นยังมีจุดด่างพร้อยอยู่มาก ในระหว่างการเวียนว่ายตายเกิดภพแล้วภพเล่า ข้ามิได้ตื่นรู้ในความทรงจำของชาติก่อน มิได้ผสานเป็นหนึ่งอย่างแท้จริง”
สามเณรน้อยมองต้าเต๋อ “จวบจนชาตินี้ ข้าถึงสามารถผสานเป็นหนึ่งได้อย่างแท้จริง ประสบการณ์ในชาติก่อนพรั่งพรูกลับมา จนเกิดการตื่นรู้”
เขาเอ่ยต่อ “หลังกลับมาแล้วข้าพบว่าท้ายที่สุดก็เกิดปัญหาจนได้ หนึ่งในดวงจิตของข้าแยกจากข้า เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า! นั่นคือดวงจิตมุ่งร้ายหนึ่งในใจข้า”
“หมายความว่าอย่างไร ข้าคือดวงจิตนั้นของเจ้าหรือ?”
ต้าเต๋อไม่อยากเชื่อ เขามิใช่ตัวเขาเอง หากแต่เป็น…ผู้อื่น?
ซ้ำยังเป็นดวงจิตมุ่งร้ายอีกด้วย???
“คนทุกผู้ล้วนมีสองด้าน ด้านหนึ่งดี ด้านหนึ่งร้าย ข้าไม่เคยคิดว่าดวงจิตสองฝ่ายนี้ของข้าจะแยกจากกันระหว่างนิพพานเวียนว่ายตายเกิด”
สามเณรน้อยเอ่ย “ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีเหตุและแผล ล้วนเป็นการแฝงนัยยะบางอย่าง ที่เจ้ากับข้าปรากฏตัวในพุทธศาสนายุคนี้พร้อมกันคือนัยนั้น นัยที่บอกว่าข้าจักได้ผสานเป็นหนึ่งอย่างแท้จริง!”
จากนั้น แสงพุทธะเพิ่มพูนเจิดจ้าออกจากตัวเขา นิมิตพุทธภูมิปรากฏขึ้นด้านหลังอีกครั้ง
“แม้เจ้าคือจิตมุ่งร้ายของข้า กระนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของข้าที่ไม่อาจตัด บัดนี้ทุกอย่างกระจ่างแจ้งแล้ว กลับมาเสีย!”
เขาตวาดลั่น หมายจะให้ต้าเต๋อหวนคืน