ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 297 การเดิมพันของสองจักรพรรดิ สยบในหนึ่งกระบี่

ตอนที่ 297 การเดิมพันของสองจักรพรรดิ สยบในหนึ่งกระบี่

ขณะเดียวกัน บนชีพจรเซียนเส้นที่สองพันห้าร้อย ฉินเจวี่ยหลิงซึ่งกำลังฝึกฝนอยู่สัมผัสได้ว่าป้ายเซียนฮวงเทียนในอ้อมแขนพลันร้อนฉ่า

ทันใดนั้น เสียงก็ดังออกจากป้ายเซียนฮวงเทียน

“หนิงฝานในอันดับที่สามพันยื่นเรื่องขอท้าทายเจ้าในการจัดอันดับ เนื่องจากระดับของเจ้าสูงกว่าจึงไม่สามารถปฏิเสธได้ หากเจ้าปฏิเสธย่อมถือว่ายอมพ่ายแพ้!”

“หือ? หนิงฝาน!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินเจวี่ยหลิงถึงกลับผงะไปชั่วขณะ ก่อนจะยกยิ้มยินดี!

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ทางสวรรค์มีให้เดินไม่ยอมเดิน กลับอยากลงนรกแทนเสียอย่างนั้น!”

“ข้าไร้ซึ่งเวลาจะนึกถึงเจ้าด้วยซ้ำ แต่เจ้ากล้าหาญริเริ่มที่จะมาเยือนประตูหน้าบ้านของข้า!”

“หึหึ ยอดเยี่ยมแล้ว! วันนี้ข้าจะสะสางความอัปยศในอดีตให้หมดสิ้น!”

ฉินเจวี่ยหลิงรับคำท้าทายผ่านป้ายเซียนฮวงเทียนทันที

สำหรับหนิงฝานที่อยู่ในขอบเขตราชาเซียนขั้นสูง พลังรบเพียงเท่านี้นับว่าน่าขันยิ่งนัก!

ตู้ม!

เมื่อฉินเจวี่ยหลิงยอมรับคำท้า ลำแสงทะยานออกจากป้ายเซียนฮวงเทียนในมือก่อตัวเป็นวงแหวนขนาดใหญ่เหนือท้องฟ้า ก่อนจะก่อเกิดเป็นลานประลองยิ่งใหญ่ที่สมบูรณ์ในทันที

“ฉินเจวี่ยหลิงยอมรับคำท้าทาย และการประลองเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ!”

พรึ่บ! พรึ่บ!

เมื่อเสียงประกาศดังขึ้น ทั้งสองร่างถูกส่งเข้าสู่ลานประลองเซียนด้านในทันที

หนิงฝานอยู่ในชุดคลุมธรรมดาท่าทางสุขุมลุ่มลึก ในขณะที่ฉินเจวี่ยหลิงอยู่ในชุดคลุมสีม่วง ออร่าเย็นชาเย่อหยิ่งแผ่ขยายออกมา

“โอ๊ะ! กำลังจะเริ่มต้นแล้ว!”

“นั่นคือหนิงฝานหรือ? ยังเยาว์วัยกว่าที่คิดมาก!”

“ฮ่าฮ่า! เด็กน้อยไร้เดียงสา!”

“อายุน้อยเพียงเท่านี้ เหตุใดจึงเร่งรนหาที่ตายนัก!”

“…”

สายตาของเซียนทั้งหมดจับจ้องหนิงฝานอย่างไม่วางตา

ขณะเดียวกันนั้น ณ สถานที่แห่งหนึ่งในราชวงศ์เซียนฮวงเทียน ภายในห้องโถงยิ่งใหญ่หรูหราไร้สิ่งใดเปรียบ

มีร่างตระหง่านสูงใหญ่ทั้งสิบนั่งอยู่ กลิ่นอายอันน่าพรั่นพรึงแผ่ขยายออก ทั้งหมดคือสิบจักรพรรดิ!

เดิมทีจักรพรรดิทั้งสิบกำลังหารือกันเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ แต่ทันใดนั้นพวกเขาได้ยินว่าการประลองเซียนจัดอันดับได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

“หนิงฝาน?”

“ฉินเจวี่ยหลิง?”

สีหน้าของชายชราคนหนึ่งและชายวัยกลางคนแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย และพวกเขาแทบจะกล่าวออกมาอย่างพร้อมเพรียง

ทั้งสองไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นจักรพรรดิอวี่ซึ่งอยู่ในอันดับที่เก้า และจักรพรรดิหลิงซึ่งอยู่ในอันดับที่สิบ!

เวลานี้ จักรพรรดิหลิงกล่าวเย้ยหยันจักรพรรดิอวี่ “หนิงฝาน? นี่น่ะหรือเซียนไร้เทียมทานที่จักรพรรดิอวี่กล่าวถึงเมื่อไม่นานมานี้? ราชาเซียนขั้นสูงกล้าหาญท้าทายฉินเจวี่ยหลิงซึ่งอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิเซียนขั้นต้นได้อย่างไร? ท่านแน่ใจแล้วหรือว่าในสมองของเขายังปกติดีอยู่?”

คราวแรกจักรพรรดิอวี่ก็ขมวดคิ้วเช่นกัน แต่เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้วจึงรีบกล่าวเหยียดหยามโต้กลับ “ฮ่าฮ่า จักรพรรดิหลิง อย่าได้ดูถูกผู้อื่นเกินไปนัก เมื่อสหายเสี่ยวหนิงอยู่ในขอบเขตราชาเซียนขั้นกลาง เขาสามารถเอาชนะเย่ดาบใหญ่ และมีพลังมากพอที่จะสังหารจักรพรรดิเซียน เวลานี้เขาอยู่ในขอบเขตราชาเซียนขั้นสูง แน่นอนว่าเขาจะต้องสามารถสังหารจักรพรรดิเซียนขั้นต้นได้!”

“ราชาเซียนขั้นสูงสามารถสังหารจักรพรรดิเซียนขั้นต้นได้? ไร้สาระสิ้นดี!”

“ไร้สาระงั้นหรือ?”

“แล้วไม่จริงหรือ?”

จักรพรรดิอวี่และจักรพรรดิหลิงโต้เถียงกันราวกับโต้วาที

สำหรับเรื่องนี้แล้ว จักรพรรดิทั้งแปดที่เหลือไม่ออกความเห็นใด เพราะทราบดีว่าทั้งสองมีความคับข้องใจต่อกันมานาน

ในที่สุด จักรพรรดิอวี่กล่าวถ้อยคำเย็นชา “ในเมื่อจักรพรรดิหลิงคิดว่ามันไร้สาระนัก เหตุใดเราจึงไม่เดิมพันกันดูเล่า? หากหนิงฝานชนะ จักรพรรดิหลิงจะต้องมอบภาพวาดหลิงเทียนให้ชายชราผู้นี้เป็นอย่างไร?”

จักรพรรดิหลิงตอบกลับ “ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ แต่หากฉินเจวี่ยหลิงได้รับชัยชนะ กระดิ่งมหาเต๋าของเจ้าจะต้องตกเป็นของข้า!”

“ดี!”

“เป็นอันว่าตกลง!”

หลังจากเดิมพันเสร็จสิ้น ทั้งสองหยุดกล่าวคำ ก่อนจะหันกลับไปจ้องมองลานประลองเซียนในอากาศ

เวลานี้ เหนือลานประลองเซียน

“หนิงฝาน! ข้าไม่คาดคิดมาก่อนว่าวันนี้เจ้าจะลงมือกระทำเรื่องเช่นนี้!”

“เมื่อสามร้อยปีที่แล้ว เจ้าสร้างความอับอายแก่ข้านัก ในเวลานั้นข้าสาบานกับตนเองว่าจะต้องตอบแทนเจ้าเป็นร้อยเท่าในอนาคต!”

“วันนี้… ข้าจะขอเอาชีวิตของเจ้าล้างความอัปยศทั้งหมดในอดีต!”

คำพูดของฉินเจวี่ยหลิงเย็นชา ร่างกายปลดปล่อยจิตสังหารรุนแรงออก

อย่างไรเสีย หนิงฝานเพียงยกยิ้มเหยียดหยาม “พูดมากเสียจริง!”

“เจ้า!”

ฉินเจวี่ยหลิงโกรธจัดและหยุดปากทันที

ตู้ม!

ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน พลังจักรพรรดิเซียนขั้นต้นระเบิดออกอย่างฉับพลัน คลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวท่วมท้นราวมังกรฟื้นคืนชีพ สั่นสะเทือนไปทั่วสี่ทิศของโลก แปดทิศแห่งสวรรค์!

“หนิงฝาน จงตายเสีย!”

เสียงคำรามลั่นอย่างเกรี้ยวกราดดังขึ้น ก่อนที่ฉินเจวี่ยหลิงจะปลดปล่อยพลังออกโจมตี

ตู้ม!

เพียงสะบัดฝ่ามือ พลังงานล้นหลามทะยานขึ้น ในพริบตาฝ่ามือปกคลุมท้องฟ้าปิดกั้นดวงอาทิตย์ทั้งหมดก่อนจะควบแน่นเหนือน่านฟ้าของลานประลองเซียน

ไม่ว่ามันจะผ่านพ้นสถานที่ใด ท้องฟ้าพลันคำรามคล้ายจะพังทลาย แผ่นดินแตกแยกเป็นเสี่ยง แม้แต่บรรยากาศโดยรอบยังถูกฉีกขาด

“โอ้! ฉินเจวี่ยหลิงเคลื่อนไหวแล้ว!”

“โอ้! ด้วยฝ่ามือนี้ ฉินเจวี่ยหลิงคิดทุ่มกำลังทั้งหมดของเขาแน่นอน!”

“อืม! แม้จักรพรรดิเซียนทั่วไปยังไม่อาจต้านทานฝ่ามือนี้ได้ เขาผู้นั้นสามารถตายตกได้ในทันที!”

“ดูเหมือนว่าชีวิตของหนิงฝานผู้นั้นต้องจบสิ้นแล้ว!”

“ฮ่าฮ่า เป็นความตายที่สมควรแล้ว เพราะเขาเป็นผู้ที่รนหาที่ตายเอง จะโทษผู้ใดได้!”

“…”

เมื่อเห็นว่าฉินเจวี่ยหลิงเคลื่อนไหว สิ่งมีชีวิตทั้งหมดภายในราชวงศ์เซียนฮวงเทียนก็กล่าวเย้ยหยันหนิงฝานทีละคน

ทว่า…

ด้านบนลานประลองเซียน ชายหนุ่มยังคงสงบนิ่ง มีเพียงมุมปากที่ยกยิ้มเย้ยหยัน “หึ นี่คือพลังทั้งหมดของจักรพรรดิเซียนขั้นต้นงั้นหรือ? น่าสมเพช!”

ชิ้ง!

สิ้นคำ หนิงฝานชักกระบี่ออกมาทันที

ฉัวะ!

เมื่อสับฟันกระบี่ออกไป สวรรค์และโลกาพลันถูกฉีกขาดออกจากกัน ปราณกระบี่ทรงพลังไร้ผู้ใดเทียบทะยานสู่ท้องฟ้าปะทะกับพลังฝ่ามือโดยตรง

ตู้ม!

ลมหายใจถัดมา บังเกิดเสียงระเบิดลือลั่น พลังฝ่ามือแตกออกเป็นเสี่ยงราวกับกระดาษ ก่อนที่ปราณกระบี่จะทะยานผ่านชั้นบรรยากาศทั้งหมดเพื่อพุ่งเข้าหาฉินเจวี่ยหลิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

“อ๊าก!”

“เป็นไปไม่ได้!”

เมื่อเห็นฉากที่ไม่อาจตั้งรับนี้ รอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าของฉินเจวี่ยหลิงพลันแข็งทื่อ ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว!

เขาไม่ประมาทหนิงฝาน ดังนั้นเขาจึงปลดปล่อยพลังทั้งหมดที่มีในกระบวนท่าแรก

แต่กลับไม่คาดคิดว่าพลังทั้งหมดของตนจะถูกหนิงฝานลบล้างได้อย่างง่ายดายในกระบวนท่าเดียว!

“ป้องกัน!”

“ป้องกันมันให้ข้า!”

ขณะนี้ เขาไม่มีเวลาจะคิดสิ่งอื่นมากเกินไป เขาปลดปล่อยเสียงคำรามโคจรพลังทั้งหมดเพื่อสร้างปราการป้องกันหนาแน่นตรงหน้า และพยายามใช้ทุกสิ่งที่มีเพื่อปิดกั้นปราณกระบี่อันน่าสะพรึงนั้น

ตู้ม!

ภายใต้สายตาของเซียนนับไม่ถ้วนที่กำลังตกตะลึง ปราณกระบี่สับฟันลง เสียงระเบิดแสบแก้วหูลือลั่นดังขึ้นจากลานประลองเซียนตรงหน้า!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

พลังศักดิ์สิทธิ์ระเบิดออกโหมกระหน่ำสิ่งรอบข้างรุนแรง แสงสว่างจ้ากลืนกินลานประลองเซียนนี้หมดสิ้น ในชั่วขณะหนึ่งไม่มีผู้ใดมองเห็นสิ่งใดอยู่ภายใน

ผ่านไปเนิ่นนาน…

พลังงานบ้าคลั่งค่อย ๆ สลายไป ฉากบนลานประลองเซียนจึงปรากฏสู่สายตาของทุกคน

โอ้!

เวลานี้ทุกคนที่รับชมอยู่กลายเป็นตกตะลึง

บนลานประลองเซียน หนิงฝานยืนนิ่งพร้อมกระบี่ในมือ ชุดคลุมธรรมดาพลิ้วไหวอยู่บนร่างกาย ใบหน้าสงบนิ่ง ไม่มีแม้ร่องรอยขีดข่วนใด ๆ

ส่วนฝ่ายตรงข้าม… ร่างของฉินเจวี่ยหลิงแทบจะแหลกสลาย แม้แต่วิญญาณเซียนของเขายังถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยพร้อมกับโลหิตวิญญาณหลั่งไหลจนท่วมลานประลอง

ใบหน้าของเขามีเพียงความเจ็บปวดรุนแรง และเผยความหวาดกลัวไร้ที่สิ้นสุดออกมา!