ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 298 สี่สุดยอดตระกูลฉิน กล้ารับคำท้าหรือไม่?

ตอนที่ 298 สี่สุดยอดตระกูลฉิน กล้ารับคำท้าหรือไม่?

ตอนที่ 298 สี่สุดยอดตระกูลฉิน กล้ารับคำท้าหรือไม่?

ตู้ม!

เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ทุกคนตกตะลึงทันที ในสมองพลันว่างเปล่าโดยสมบูรณ์

“บัดซบ! เขาสามารถสยบฉินเจวี่ยหลิงได้ภายในไม่กี่ลมหายใจ!”

“เป็นไปได้อย่างไร! ฉินเจวี่ยหลิงคือจักรพรรดิเซียนขั้นต้น แล้วเขาจะพ่ายแพ้ให้กับราชาเซียนขั้นสูงน่ะหรือ!”

“นี่หรือพลังของเซียนไร้เทียมทานในตำนาน… น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!”

“ประวัติศาสตร์เช่นนี้ไม่เคยมีบันทึกที่ใด ต่อให้รื้อค้นประวัติศาสตร์ทั้งหมดของเซียนฮวงเทียน ก็ไม่อาจพบเจอ!”

“อุกอาจเกินไปแล้ว นี่มันบ้าระห่ำเกินไป!”

ความรู้สึกของเหล่าเซียนพัวพันอยู่ในความว่างเปล่า ก่อเกิดเป็นความโกลาหล

ทุกคนตื่นตระหนก

“ฮ่าฮ่า! เอาล่ะ!”

ภายในห้องโถงใหญ่ จักรพรรดิอวี่ตบต้นขาตนเอง เขาอดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะลั่น

ในทางกลับกัน สีหน้าของจักรพรรดิหลิงมืดมน เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าฉินเจวี่ยหลิงจะพ่ายแพ้ง่ายดายเช่นนี้

“จักรพรรดิหลิง ท่านแพ้แล้ว ภาพวาดหลิงเทียนตกเป็นของชายชราผู้นี้แล้ว!” จักรพรรดิอวี่ทวงสิ่งของเดิมพันกับจักรพรรดิหลิง

“หน้าไม่อาย!”

จักรพรรดิหลิงโกรธจัด แต่เพราะการเดิมพันคราวนี้อยู่ต่อหน้าจักรพรรดิองค์อื่นด้วย ดังนั้นเขาจำต้องยินยอมอย่างช่วยไม่ได้ และเวลานี้ก็ทำได้เพียงนำภาพวาดหลิงเทียนออกมาจากมิติเก็บของด้วยสีหน้าไม่พอใจ!

“ฮ่าฮ่า!”

หลังจากได้รับภาพวาดหลิงเทียนมาแล้ว จักรพรรดิอวี่ยิ่งอารมณ์ดี เขามองหนิงฝานที่ยืนอยู่บนลานประลองเซียนพร้อมกล่าวต่อว่า “สหายเสี่ยวหนิง การเติบโตของเจ้านับว่าน่าสะพรึงกลัวกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก!”

ขณะนี้ บนลานประลองเซียน

หนิงฝานใช้กระบี่ชี้ไปที่ฉินเจวี่ยหลิงก่อนจะเย้ยหยัน “ฮ่าฮ่า! เจ้าไม่ต้องการล้างความอัปยศที่มีแล้วหรือ? โอกาสมาถึงแต่กลับไม่อาจใช้ประโยชน์ได้!”

“หนิงฝาน โปรดยกโทษให้ข้า ข้าทราบความผิดแล้ว และจะไม่กระทำเช่นนี้อีก!”

“โปรดไว้ชีวิตข้า!”

ฉินเจวี่ยหลิงร้องขอความเมตตาทันที

“ขอโทษ? แล้วหากข้าแพ้ เจ้าจะไว้ชีวิตข้าหรือไม่?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานเผยรอยยิ้มเย็นชาก่อนจะยกกระบี่ในมือขึ้นสูงอย่างคิดสังหารบุคคลตรงหน้า

“หยุดมือ!”

“ไอ้บัดซบ!”

“เจ้ากล้า!”

ทันใดนั้น เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวดังขึ้นต่อเนื่อง ก่อนจะปรากฏกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวสี่ดวงพุ่งเข้ามา เสียงดังกึกก้องไปทั่วฟ้า ร่างกำยำทั้งสี่เข้าสู่ลานประลองเซียนในพริบตาเดียว

ผู้มาใหม่เป็นชายสี่คน อีกทั้งใบหน้าของพวกเขายังคล้ายคลึงกับฉินเจวี่ยหลิงด้วย

“โอ้!”

“เป็นสี่ในเจ็ดสุดยอดตระกูลฉิน ฉินเจวี่ยเฟิง ฉินเจวี่ยอวิ๋น ฉินเจวี่ยเลี่ย ฉินเจวี่ยเอ้า!”

“สี่สุดยอดตระกูลฉิน ผู้ที่อ่อนแอที่สุดอยู่ในจักรพรรดิเซียนขั้นกลางช่วงต้น และผู้แข็งแกร่งที่สุดยังติดหนึ่งในห้าร้อยอันดับแรกของเซียนฮวงเทียน!”

ทันทีที่เห็นว่าร่างทั้งสี่ปรากฏขึ้นอย่างกระทันหัน มีใครบางคนอุทานออกมา

“พี่ชายทั้งสี่ ช่วยข้าด้วย!”

เวลานี้ฉินเจวี่ยหลิงคล้ายกับพบเจอฟางเส้นสุดท้าย เขาจึงรีบร้องขอความช่วยเหลือ

“หนิงฝาน เจ้าชนะแล้ว ปล่อยเขาไปเสีย!”

“หนิงฝาน เจ้าทำสิ่งต่าง ๆ ที่สมควรเกินพอแล้ว เราค่อยพบกันใหม่ในวันหน้า!”

“ปล่อยน้องชายหลิงไปเสีย หากเจ้ากล้าสังหารเขา ตัวข้าและตระกูลฉินจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป!”

“ข้าจะให้เวลาเจ้าสามลมหายใจ หากเจ้าไม่คิดปล่อย ข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นผงธุลี!”

“…”

หลังจากได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของฉินเจวี่ยหลิง สี่สุดยอดตระกูลฉินเลิกคิ้วสูง ก่อนจะเริ่มตะโกนใส่หนิงฝานอย่างข่มขู่

ขณะเดียวกัน ทั้งสี่ปลดปล่อยพลังจักรพรรดิเซียนขั้นกลางออกมาเพื่อกดดันหนิงฝาน

“ฮ่าฮ่า คิดข่มขู่ข้า?!”

ทว่าแม้ถูกคุกคามจากนายน้อยฉินทั้งสี่ หนิงฝานเพียงยกยิ้มเย็นชาพร้อมเคลื่อนไหวกระบี่ในมือทันที

“ไม่…”

เมื่อเห็นว่าหนิงฝานเคลื่อนไหว ฉินเจวี่ยหลิงกรีดร้องด้วยความสยดสยอง แต่ทันทีที่เสียงดังขึ้น วิญญาณเซียนทั้งหมดถูกตัดขาดด้วยปราณกระบี่ทรงพลัง ก่อนจะสูญสลายไปอย่างไร้ร่องรอย

ฉินเจวี่ยหลิง ตายตกแล้ว!

“อ๊าก!”

“ไอ้สารเลว!”

“ไอ้บัดซบ!”

“เจ้ากล้าสังหารน้องเจ็ดของเรา ข้าจะฆ่าเจ้า!”

เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ ใบหน้าของสี่สุดยอดตระกูลฉินกลายเป็นเกรี้ยวกราด

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ทันใดนั้น สี่สุดยอดตระกูลฉินก็ระเบิดพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมา คนทั้งหมดพุ่งทะยานเข้าหาหนิงฝานในบัดดล!

“บังอาจ!”

ขณะนี้เสียงคำรามทุ้มต่ำดังขึ้น ภาพจำแลงเซียนเหนือความว่างเปล่าปรากฏ มันปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์หมดสิ้น ลำแสงเซียนเจิดจ้าเปล่งประกายออกมา ทำให้ร่างของสี่สุดยอดตระกูลฉินถึงกับแข็งค้างหยุดนิ่งอยู่กับที่

“นั่น? ภาพวาดหลิงเทียน!”

เมื่อเห็นสิ่งนี้ สี่สุดยอดตระกูลฉินถึงกับตกตะลึง

พรึ่บ!

ลมหายใจถัดมา ร่างของชายชราผมขาวที่หยุดยืนอยู่บนภาพวาดหลิงเทียน… เป็นจักรพรรดิอวี่!

“จักรพรรดิอวี่!”

“เขาได้รับภาพวาดหลิงเทียนของจักรพรรดิหลิงได้อย่างไร!”

เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว สี่สุดยอดตระกูลฉินพลันเผยความสับสนผ่านแววตา

เมื่อเห็นจักรพรรดิอวี่หยุดยืนอยู่บนภาพวาดหลิงเทียนของจักรพรรดิหลิง เขาตะโกนใส่สี่สุดยอดตระกูลฉินด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไอ้ตัวบัดซบ ในฐานะสมาชิกของราชวงศ์เซียนฮวงเทียน เจ้าไม่ทราบหรือไม่ว่าการท้าทายจัดอันดับคือสิ่งต้องห้ามของราชวงศ์? หากเจ้าต้องการโจมตีพร้อมกันทั้งสี่คน ข้าจึงสมควรกำจัดขอบเขตการฝึกฝนของพวกเจ้าแล้วขับไล่ออกจากราชวงศ์เสีย!”

“ไม่กล้า!”

เมื่อได้ยินแล้ว สี่สุดยอดตระกูลฉินเผยสีหน้าแปรเปลี่ยน พวกเขาทั้งหมดรีบปิดกั้นพลังของตนในทันที

“จักรพรรดิอวี่ มันใช่เรื่องที่ท่านจะต้องสร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่ารุ่นเยาว์งั้นหรือ!”

เวลานี้เอง พลันมีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมา เป็นชายวัยกลางคน!

“จักรพรรดิหลิง!” เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิหลิงมาแล้ว สี่สุดยอดตระกูลฉินจึงถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย

“หึหึ ชายชราผู้นี้มิได้กล่าวโป้ปด ผู้ฝึกยุทธ์ที่ริเริ่มต่อสู้ด้วยตนเอง พวกเขาสมควรถูกขับไล่ออกจากราชวงศ์เซียนฮวงเทียน!” จักรพรรดิอวี่ยกยิ้มเย็นชา

จักรพรรดิหลิงขมวดคิ้ว “จักรพรรดิอวี่กล่าวถูกต้อง แต่เป็นเพราะน้องชายของพวกเขาตายตก นี่ย่อมเข้าใจได้ว่าสี่สุดยอดตระกูลฉินจะขุ่นเคือง และพวกเขายังมีอารมณ์ที่หุนหันพลันแล่นด้วย อีกอย่างเวลานี้พวกเขายังไม่ทันลงมือ จึงไม่มีความจำเป็นที่จักรพรรดิอวี่จะต้องลงไม้ลงมือกับเหล่ารุ่นเยาว์นี้”

“หึ ชายชราย่อมไม่สร้างความอับอายต่อเหล่ารุ่นเยาว์ แต่คราวหน้าหากชายชราผู้นี้พบเจอผู้ใดต้องการใช้พลังเพื่อต่อสู้เป็นการส่วนตัว อย่าได้ตำหนิว่าชายชราผู้นี้หยาบคาย!”

จักรพรรดิอวี่ยกยิ้มเย็นชา ก่อนจะเลิกสนใจสี่สุดยอดตระกูลฉิน แล้วหันมองหนิงฝานแทน

“จักรพรรดิอวี่!”

ชายหนุ่มแสดงความเคารพต่อจักรพรรดิอวี่

“ฮ่าฮ่า! สหายเสี่ยวหนิงช่างเติบโตรวดเร็วเกินความคาดหมายข้าเสียจริง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมาถึงจุดนี้โดยใช้เวลาเพียงสามร้อยปี! ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยมแล้ว!” ขณะหันมองหนิงฝาน จักรพรรดิอวี่กล่าวชม

“จักรพรรดิอวี่ ท่านยกยอข้าเกินไปแล้ว” หนิงฝานยกยิ้มพร้อมกล่าวถ่อมตน

ตู้ม!

ทันใดนั้นพลันเกิดเสียงดังลือลั่น

“การท้าทายสิ้นสุด และผู้ชนะคือหนิงฝาน ได้รับการเลื่อนอันดับขึ้นมาสู่อันดับที่สองพันห้าร้อย!”

พรึ่บ!

สิ้นเสียง ป้ายเซียนฮวงเทียนในมือของหนิงฝาน และตัวเลขสามพันด้านหลังแปรเปลี่ยนเป็นสองพันห้าร้อยโดยสมบูรณ์

เลื่อนระดับถึงห้าร้อยตำแหน่งในคราวเดียว!

“ฮ่าฮ่า”

หนิงฝานหัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นว่าอันดับของเขาถูกเลื่อนแล้ว ทรัพยากรที่เขาสมควรได้รับจะมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก

ทว่าเวลานี้ใบหน้าของสี่สุดยอดตระกูลฉินกลับมืดมนยิ่งกว่าเดิม

ในสายตาของพวกเขา การที่หนิงฝานเลื่อนอันดับนั้นแลกมาด้วยศพของฉินเจวี่ยหลิง!

เมื่อเห็นว่าศัตรูได้สังหารพี่น้องของตนตามใจชอบ สี่สุดยอดตระกูลฉินจึงไม่อาจอดทนได้

ทันใดนั้น หนึ่งในสี่สุดยอดตระกูลฉินก็กล่าวขึ้น “จักรพรรดิอวี่ เป็นเพราะท่านกล่าวว่าทุกคนต้องปฏิบัติตามกฏของราชวงศ์เซียนฮวงเทียน เช่นนั้นพวกเราจะปฏิบัติตามกฏ!”

“ข้า… ฉินเจวี่ยเฟิง ขอท้าทายหนิงฝาน!”

“ข้า… ฉินเจวี่ยอวิ๋น ขอท้าทายหนิงฝาน!”

“ข้า… ฉินเจวี่ยเลี่ย ขอท้าทายหนิงฝาน!”

“ข้า… ฉินเจวี่ยเอ้า ขอท้าทายหนิงฝาน!”

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

ทันทีที่สี่สุดยอดตระกูลฉินกล่าวจบ วงแหวนเซียนขนาดใหญ่สี่วงก่อตัวขึ้นในอากาศ

ลมหายใจถัดมา สายตาของทั้งสี่จับจ้องหนิงฝานอย่างดุร้าย ทั้งหมดตะโกนออกมาพร้อมกัน

“หนิงฝาน กล้ารับคำท้าหรือไม่?!”

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

Status: Ongoing

หนิงฝาน' ชายหนุ่มผู้เดินทางข้ามสายธารแห่งกาลเวลามาเป็นสามีของจักรพรรดินีแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีก็คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้อ่อนแอและเกาะภรรยากินไปชั่วชีวิตเสียแล้ว ทว่าจู่ ๆ เขากลับเปิดใช้งานระบบสลากขั้นเทพได้...

นี่เองคือจุดเริ่มต้นใหม่ของผู้ที่ 'เคยอ่อนแอ' มาก่อน!

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังจักรพรรดินีเสร็จสิ้น และได้ร่างกายของเซียนดาบ!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ยอดเขาสารพัดประโยชน์ได้สำเร็จ และได้รับเสื้อคลุมเร้นลับ!]

หนิงฝานเดินเล่นไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมระบบสลากขั้นเทพ ล็อกอินสถานที่อย่างเงียบ ๆ ในฐานะสามีผู้ไร้ค่าของจักรพรรดินี จนกระทั่งหลายปีต่อมา บรรพชนของปีศาจทั้งหลายถือกำเนิดขึ้นและยกกองทัพปีศาจนับล้านบุกแดนศักดิ์สิทธิ์!

จักรพรรดินีผู้เลอโฉมพ่ายแพ้ และทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในภยันตราย! หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปีศาจนับล้านพลันถูกกำจัด! แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มไม่ได้สนใจมากนัก... เพราะเขารู้เพียงว่าเขาได้กลายเป็นตัวตน 'อมตะ' ในโลกนี้แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท