ตอนที่ 300 หนึ่งต่อสี่ ผู้ใดจะขัดขวางได้!
“หนิงฝานท้าทายพวกเราสี่พี่น้องในคราวเดียวเลยหรือ?”
เวลาเดียวกันนี้ ขณะที่ตระกูลฉินทั้งสี่คนกำลังฝึกฝนเส้นชีพจรเซียนของตัวเองอยู่นั้น ก็ได้รับข้อความการท้าทายจนทำให้เกิดความงุนงง ก่อนที่อารมณ์ของทั้งสี่คนจะกลายเป็นรู้สึกดีใจยิ่ง!
ผู้ใดจะล่วงรู้ว่าสี่ร้อยปีมานี้ พวกเขาอยากฆ่าหนิงฝานเพื่อล้างแค้นให้กับฉินเจวี่ยหลิงเต็มทน แต่เพราะกฎแห่งราชวงศ์เซียน พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะสร้างปัญหาให้กับหนิงฝาน ทำได้เพียงอดทนเอาไว้และรอโอกาส
คาดไม่ถึงว่าวันนี้ โอกาสอันดีจะเกิดขึ้นแล้ว
“สี่ร้อยปีก่อนเขาปฏิเสธคำท้าทายของพวกเรา คิดไม่ถึงว่าสี่ร้อยปีต่อมาเขาจะกลับมาท้าทายพวกเราทั้งสี่คนด้วยตัวเอง!”
“หึหึ! เพิ่งเลื่อนขั้นเป็นราชาเซียนขั้นสุดเพียงเท่านั้น หลงคิดว่าตัวเองเป็นราชันจักรพรรดิเซียนหรืออย่างไร!”
“ราชาเซียนขั้นสุดคนหนึ่งกล้าท้าทายจักรพรรดิเซียนขั้นกลางทั้งสี่คนอย่างพวกเรา ช่างรนหาที่ตายเสียจริง!”
“หึ! ในเมื่อรนหาที่ตายเอง พวกข้าจะสนองความต้องการให้!”
ทั้งสี่คนหัวเราะเยาะออกมา และยอมรับคำท้าทายทั้งหมด
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ทันทีที่ทั้งสี่คนยอมรับคำท้าทาย บนความว่างเปล่าขนาดใหญ่ก็ปรากฏลานประลองเซียนขนาดมหึมาขึ้น ก่อนที่ร่างทั้งห้าร่างจะถูกค่ายกลเคลื่อนย้ายไปยังด้านบนของลานประลองเซียน และคนเหล่านั้นก็คือ หนิงฝานและตระกูลฉินทั้งสี่คน
“หึ!”
“มาแล้ว!”
เมื่อเห็นคนทั้งห้าคนมาถึง ผู้คนแห่งราชวงศ์เซียนฮวงเทียนรู้สึกตื่นตกใจ
ปัง! ปัง! ปัง!
ยอดฝีมือมากมายมิได้สนใจการปิดด่านกักตนอีกต่อไป แต่กลับไล่ตามมายังลานประลองเซียน และหนึ่งในนั้นก็มีจักรพรรดิอวี่กับจักรพรรดิหลิงอยู่ด้วย
“หนิงฝานเริ่มท้าทายอีกครั้งแล้ว แต่การต่อสู้แบบหนึ่งต่อสี่มันดูไม่น่าไว้วางใจจริง ๆ!”
จักรพรรดิอวี่มองหนิงฝานที่อยู่บนลานประลองเซียน ก่อนจะขมวดคิ้วแน่นอย่างอดไม่ได้
หากชายหนุ่มท้าทายเพียงหนึ่งคนในนั้น ด้วยพลังของหนิงฝานแล้วคงมิต้องกังวลใจไป แต่นี่สี่คน…
“หึหึ หนึ่งต่อสี่? หนิงฝานผู้นี้ช่างบ้าบิ่นเสียจริง”
จักรพรรดิหลิงหัวเราะอย่างเย็นชา ก่อนจะพูดกับจักรพรรดิอวี่ “จักรพรรดิอวี่ เจ้ากล้าใช้โอกาสครั้งนี้พนันกับข้าหรือไม่ หากว่าตระกูลฉินทั้งสี่คนชนะ เจ้าจะต้องนำภาพวาดหลิงเทียนคืนให้กับข้า หากว่าพวกเขาแพ้ ข้าจะให้เกราะเซียนหลิงเทียนชิ้นนั้นกับเจ้า ดีหรือไม่?”
“นี่…”
ได้ยินเช่นนั้น จักรพรรดิอวี่ก็ครุ่นคิด เขาไม่อยากพนันกับจักรพรรดิหลิง แต่เมื่อนึกถึงเวลาหลายปีมานี้ที่ดูเหมือนว่าหนิงฝานจะไม่ทำในเรื่องที่เขาไม่มั่นใจ อีกทั้งภาพวาดหลิงเทียนนี้ก็ได้มาเพราะเขาเดิมพันว่าหนิงฝานในตอนนั้นจะชนะ
หากทำไม่สำเร็จ มันก็แค่ย้อนกลับไปเป็นเช่นเดิมในอดีต
คิดถึงตรงนี้แล้ว จักรพรรดิอวี่ก็พยักหน้าและพูดขึ้นว่า “ตกลง! ข้าพนันกับเจ้า!”
“ฮ่าฮ่า! ดี!”
ได้ยินเช่นนั้น จักรพรรดิหลิงก็เงยหน้าขึ้นฟ้าและหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ราวกับว่าภาพวาดหลิงเทียนได้กลับมาอยู่ในมือของตัวเองแล้ว
…
ในช่วงที่จักรพรรดิอวี่และจักรพรรดิหลิงพนันกันนั้น ณ ด้านบนลานประลองเซียน
“หนิงฝาน! คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าท้าทายพวกเราทั้งสี่คน!”
“ฮ่าฮ่า พวกข้าคงต้องยอมรับ เจ้าช่างกล้าหาญเสียจริง!”
“ฮึ่ม! ปล่อยให้ชีวิตเจ้าล่วงเลยมาถึงสี่ร้อยปี ดูไปแล้วนี่คงเป็นความผิดของพวกข้าเอง!”
“พูดมาเถอะ ว่าวันนี้เจ้าอยากตายเช่นไร พวกข้าจะสนองความต้องการให้เจ้าเอง!”
“…”
ตระกูลฉินทั้งสี่แบ่งกันไปรอบลานประลองเซียนทั้งสี่ทิศ และส่งรอยยิ้มเย้ยหยันให้หนิงฝาน
เมื่อเห็นเช่นนั้น ชายหนุ่มกลับหัวเราะออกมา “อย่าพูดให้มากความ! มาสู้กัน!”
ชิ้ง!
แล้วหนิงฝานก็ชักกระบี่ต้าหลัวออกมา เจตจำนงแห่งกระบี่เดือดพล่านทันที
“หึ! ในเมื่อเจ้าอดทนรอความตายไม่ไหว ข้าจะสนองความต้องการให้เจ้าเอง!”
เห็นเช่นนั้นหนึ่งในตระกูลฉินทั้งสี่นามว่าฉินเจวี่ยเฟิงก็หัวเราะเยาะเย้ยพร้อมกับระเบิดพลังออกมา
ตู้ม!
ร่างกายของเขาสั่นสะเทือน พลังของจักรพรรดิเซียนขั้นกลางเดือดพล่านไปทั่วร่าง ก่อนจะปะทุออกมาและครอบคลุมไปทั้งฟ้าดิน!
ตู้ม!
หลังจากนั้น เขาก็ผลักฝ่ามือออก เพียงชั่วพริบตา ท้องฟ้าก็ถูกบดขยี้และนำพาพลังอันไร้เทียมทาน ราวกับต้องการสังหารหนิงฝานให้ได้ในคราวเดียว
“หึหึ!”
เห็นเช่นนั้น หนิงฝานเพียงแค่นเสียงหัวเราะเย็นชาก่อนจะสับฟันกระบี่ออกไป
ตู้มมม!
ชั่วพริบตาที่กระบี่ฟาดฟันออกไป ฝ่ามือที่ผลักเข้ามาก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ หลังจากนั้นปราณกระบี่ที่ฉีกฟ้าแหวกอากาศก็พุ่งทะยานเข้าใส่ฉินเจวี่ยเฟิงอย่างอุกอาจ
“อะไรกัน!”
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว ฉินเจวี่ยเฟิงพลันหน้าถอดสีด้วยความตกใจ แม้เขาจะรู้ดีว่าพลังรบของหนิงฝานนั้นแข็งแกร่ง แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งได้มากถึงขั้นนี้
“อ๊าก!”
“แย่แล้ว!”
“เจวี่ยเฟิง รีบออกไป!”
ตอนนี้เอง ตระกูลฉินที่เหลืออยู่อีกสามคนก็ตื่นตกใจและเริ่มลงมือช่วยเหลือในทันที
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ทั้งสามคนระเบิดพลังออก พลังอันยิ่งใหญ่ปะทุออกมาจากร่างกายของแต่ละคน เพียงชั่วพริบตาพลังมังกรเกรี้ยวกราดทั้งสามก็ก่อตัวขึ้น เสียงร้องดังกึกก้องกัมปนาทก่อนที่มันจะพุ่งเข้าหาหนิงฝาน เพื่อบีบให้เขาต้องเก็บกระบี่ในมือกลับไป
“หึ!”
“คนที่ข้าต้องการสังหาร ผู้ใดก็ไม่อาจขัดขวางได้!!” หนิงฝานลั่นวาจาออกมาดังกังวาน
ตู้มมม!
ชายหนุ่มฟาดฟันกระบี่ต้าหลัวในมือออกไปอีกครั้ง ปราณกระบี่พาดผ่านไปอย่างรวดเร็ว
บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!
บังเกิดเสียงระเบิดสามเสียง พลังมังกรเกรี้ยวกราดทั้งสามถูกทำลายสิ้น จวบจนแสงกระบี่พาดผ่านไป พลังช่วยเหลือทั้งสามก็ระเบิดออกจนต้องถอยกลับ
“อ๊าก!”
“ทำลายมันเสีย!”
ในตอนนี้เอง เมื่อไร้การช่วยเหลือ ฉินเจวี่ยเฟิงทำได้เพียงเงยหน้าขึ้นและร้องคำรามออกมา พลังทั่วร่างกายราวกับคลื่นพายุที่ซัดเข้าหาฝั่ง ก่อนที่เขาจะโดนปราณกระบี่ฟาดฟันเข้าใส่!
ตู้มมม!
ทันใดนั้น บนลานประลองเซียนเกิดเสียงดังกึกก้องไปทั่วฟ้าดิน เมื่อพลังอันบ้าคลั่งไร้ที่สิ้นสุดฟาดฟันลงไป ทุกหนแห่งที่ผ่านไป กระทั่งความว่างเปล่าก็ราวกับกระดาษที่ถูกฉีกออกจากกันจนกลายเป็นผุยผง
อ๊ากก! ตู้มม!
บนลานประลองเซียนเกิดเสียงร้องอันน่าอนาถขึ้น จากนั้นภายใต้ดวงตาอันตกตะลึงของผู้คนนับไม่ถ้วน ร่างของฉินเจวี่ยเฟิงก็แหลกสลายลงบนลานประลอง ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือวิญญาณเซียนล้วนแตกสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย!
หนึ่งกระบี่ สังหารเจวี่ยเฟิง!
“อ๊าก!”
“เจ้าหก!”
“เจวี่ยเฟิง!”
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้น ร่างทั้งสามร่างของตระกูลฉินก็หยุดลงพร้อมตะโกนออกมาอย่างตื่นตกใจ
เหล่าผู้คนที่มาดูการประลองก็ส่งเสียงพูดคุยขึ้น
“บัดซบ! ฉินเจวี่ยเฟิงตายแล้ว!”
“นี่เพิ่งจะเริ่ม… ตระกูลฉินทั้งสี่กลับตายไปหนึ่งแล้ว!”
“กระบี่ของหนิงฝานช่างแข็งแกร่งเสียจริง!!”
“ดูเหมือนการต่อสู้ครั้งนี้ยังคงต้องรอดูต่อไป!”
“…”
แม้แต่สีหน้าของจักรพรรดิอวี่และจักรพรรดิหลิงก็เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิอวี่รู้สึกมีความสุขมาก ขณะที่จักรพรรดิหลิงกลับรู้สึกย่ำแย่ยิ่ง
และในช่วงเวลาที่เหล่าผู้คนพูดคุยกันอยู่นั้น หนิงฝานกระตุ้นกระบี่ต้าหลัวในมืออีกครั้ง ก่อนที่จะตะโกนใส่คนตระกูลฉินที่เหลืออยู่ทั้งสามคน “ในหมู่พวกเจ้า ใครอยากตายเป็นคนต่อไป!”
“หึ! หนิงฝาน สมควรตาย!”
“เจ้าฆ่าเจวี่ยหลิง ทำลายเจวี่ยเฟิง ข้าจะฉีกเจ้าออกเป็นชิ้น ๆ!”
“หนิงฝาน หากข้าไม่ได้สังหารเจ้า อย่าได้เรียกข้าว่าเป็นคน!”
ดวงตาตระกูลฉินทั้งสามแดงก่ำใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ทว่าชายหนุ่มกลับมิได้สนใจคนทั้งสามแม้แต่น้อย เขาเอาแต่จ้องมองฉินเจวี่ยอวิ๋นและพูดขึ้นว่า “เจ้าแล้วกัน!”
ตู้มมม!
สิ้นคำ หนิงฝานก็ฟันกระบี่สังหารใส่ฉินเจวี่ยอวิ๋น!
“ฆ่า!”
เห็นเช่นนั้น ฉินเจวี่ยอวิ๋นก็โพล่งออกมาทันที ขณะเดียวกัน ฉินเจวี่ยเลี่ยและฉินเจวี่ยเอ้าก็ระเบิดพลังออกมาด้วยโทสะ
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
พลันบนลานประลองเซียนเดือดพล่านไปด้วยจิตสังหารและพลังที่ท่วมท้นท้องฟ้า!