ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 354 จากลา

ตอนที่ 354 จากลา

สือ​อี​เหนียง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​“​ยัง​!​”

สือ​เหนียง​ก้มหน้า​ ​ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก

สือ​อี​เหนียง​มอง​หวัง​เฉิง​จู่​ที่จับ​ชาย​เสื้อ​ของ​สือ​เหนียง​ไว้​ ​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​ท่าน​กับ​ลูก​กลับ​ไป​ก่อน​เถิด​ ​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​ข้า​ค่อย​แจ้ง​ให้​เจ้า​ทราบ​ทีหลัง​”

สือ​เหนียง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​จูงมือ​หวัง​เฉิง​จู่​เดิน​ออก​ไป

คนที​่​เห็น​นาง​ก็​พากัน​หลบ​ให้​ห่าง​จาก​นาง

สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​แล้ว​เดิน​เข้าไป​ที่​ห้อง​ด้านใน

ใน​กลางดึก​วันนั้น​ ​นาย​หญิง​ใหญ่​ได้เสีย​ชีวิต​ลง

วันรุ่งขึ้น​ ​กรม​พิธีการ​มี​หนังสือ​แจ้ง​อย่างเป็นทางการ​ให้​หวัง​เฉิง​จู่​สืบทอด​ตำแหน่ง​เม่ากั​๋​วกง

******

เป็น​งานศพ​ที่​มี​ผู้คน​เข้าร่วม​มากมาย​ ​บัณฑิต​ซื่อ​หลิน​มาหา​นายท่าน​ใหญ่​สกุล​หลัว​กับ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​โดยเฉพาะ​ ​ส่วน​สตรี​ระดับสูง​และ​แม่ทัพ​มาหา​สวี​ลิ่ง​อี๋​โดยเฉพาะ​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​คน​ของ​สกุล​หลัว​หรือ​คน​ของ​สกุล​สวี​ ​แม้แต่​อวี​๋​อี๋​ชิง​และ​เฉียน​หมิง​ต่าง​ก็​ยุ่ง​อยู่​กับ​งานศพ​ ​มี​เพียง​คน​ของ​สกุล​เจียง​เท่านั้น​ที่​เข้าร่วม​พิธี​สืบทอด​ตำแหน่ง​ของ​หวัง​เฉิง​จู่

พิธีศพ​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​เป็น​ที่​กล่าวถึง​ไป​ทั่ว​เยี​่​ยน​จิง​ ​ผ่าน​ไป​หลาย​เดือน​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ก็​ยัง​มี​คนพูด​ถึง​พิธีศพ​นี้​อยู่

นายท่าน​ใหญ่​เหมือน​แก่​ขึ้น​อีก​สิบ​ปี​ภายใน​พริบตาเดียว​ ​หลังจาก​ผ่าน​เจ็ด​วัน​แรก​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​ ​สกุล​หลัว​ก็​เริ่ม​เก็บของ​เตรียม​กลับ​อวี​๋​หัง

ในระหว่างนั้น​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​มาหา​ ​เขา​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ข้า​ยัง​ดูแล​นาง​ได้​ไม่ดี​พอ​หรือ​”​ ​ดวงตา​เต็มไปด้วย​ความ​สับสน​และ​ไม่แน่ใจ

สือ​อี​เหนียง​ไม่​สามารถ​ตอบ​ได้

ดอก​กุ้ยฮ​วา​เบ่งบาน​สะพรั่ง​ใน​ช่วงต้น​เดือน​เก้า​ ​กลิ่น​แรง​แสบ​จมูก​เล็กน้อย​ ​ท้องฟ้า​แจ่มใส​ ​อากาศ​สดชื่น​ ​แต่​ฝีเท้า​ของ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​กลับ​ไม่มั่นคง

สือ​อี​เหนียง​ปักปิ่น​ปัก​ผม​และ​แต่งกาย​เรียบๆ​

นาง​มอง​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​เดิน​จากไป​อย่าง​เงียบๆ​ ​สูด​อากาศ​เย็น​เข้าไป​เต็ม​ปอด​ ​จากนั้น​ก็​หันหลัง​แล้ว​เดิน​กลับ​เข้า​ห้อง

สวี​ลิ่ง​อี๋​นั่ง​อ่านหนังสือ​อยู่​บน​เตียง​เตา​ ​เมื่อ​เห็น​นาง​เดิน​เข้ามา​ก็​วาง​หนังสือ​ลง​ ​“​เจิ​้น​ซิ่ง​ไป​แล้ว​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​นั่งลง​ฝั่ง​ตรงข้าม​กับ​เขา​ ​“​บอกว่า​จะ​ฝาก​เรือน​ใน​เมืองหลวง​ให้​พี่​สาม​ดูแล​ ​ให้​ข้าวาง​ใจ​ได้​ ​เขา​จะ​ดูแล​อี๋​เหนียง​ห้า​กับ​น้อง​เจ็ด​เป็น​อย่างดี​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​“​เจิ​้น​ซิ่ง​เป็น​บุรุษ​ที่รัก​ษา​คำพูด​ ​หาก​พูด​ออกมา​แล้ว​ต้อง​ทำได้​แน่นอน​”

ตอน​เกิดเรื่อง​กับ​นาย​หญิง​ใหญ่​ ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​ทำได้​เพียง​ยืน​เหม่อลอย​อยู่​ด้าน​ข้าง​เท่านั้น​ ​ ​หาก​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​เป็น​อย่าง​นาย​หญิง​ใหญ่​ที่​รู้จัก​แต่​กดดัน​ลูก​อนุ​ ​ต่อไป​เมื่อถึง​รุ่น​ของ​ซิว​เกอ​ ​เกรง​ว่า​คง​ไม่มี​พื้นที่​ให้​คน​ยืน​เหม่อลอย​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​พูด​เรื่อง​ที่​ไม่สบายใจ​ให้​สวี​ลิ่ง​อี่​ฟัง

เมื่อ​นาย​หญิง​ใหญ่​เสียชีวิต​ ​บุญคุณ​ความแค้น​บางอย่าง​ที่​วาง​ลง​ได้​ก็​ปล่อยวาง​เสียเถิด​!

“​เพียงแต่ว่า​ไม่​ง่าย​เลย​ที่​ท่าน​โหว​จะ​อยู่​เรือน​ใน​วันเกิด​พอดี​แต่กลับ​ไม่​สามารถ​จัดงาน​ได้​ ​ข้า​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เลย​”​ ​นาง​เปลี่ยน​เรื่อง

วันที่​สาม​เดือน​เก้า​เป็น​วันเกิด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​หลาย​ปี​มานี​้​หาก​ไม่อยู่​ใน​กองทัพ​ก็​มี​งาน​ราชการ​ที่​ทำให้​ไม่ได้​อยู่​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ ​คนใน​ครอบครัว​ไม่ได้​ฉลอง​วันเกิด​ให้​เขา​มา​หลาย​ปี​แล้ว

“​ใน​เรือน​มี​ผู้อาวุโส​อยู่​ ​จะ​จัดงาน​วันเกิด​อะไร​กัน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​อย่าง​ไม่เห็นด้วย​ ​“​อีก​อย่าง​เจ้า​ก็​ตื่น​ตั้งแต่​เช้าตรู่​มาทำ​บะหมี่​อายุ​ยืน​ให้​ข้า​ทาน​แล้ว​”

สือ​อี​เหนียง​พลัน​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​เขา​ทาน​บะหมี่​อายุ​ยืน​ถึง​สาม​ชาม​ ​ก็​พยายาม​กลั้น​หัวเราะ​ ​“​หาก​ท่าน​โหว​ชอบ​ ​ข้า​จะ​ทำ​บะหมี่​อายุ​ยืน​ให้ท่าน​โหว​ทุกปี​เลย​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เพียงแต่​หัวเราะ​ ​ไม่ได้​พูด​อะไร

หลังจาก​วันนี้​ไป​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ปฏิเสธ​งานเลี้ยง​ต่างๆ​ ​นาง​ตั้งใจ​ทำหน้าที่​ผู้ดูแล​ของกินของใช้​ใน​เรือน​ ​ขอ​คำ​ชี้แนะ​จาก​อาจารย์​เจี่ยน​เรื่อง​งาน​เย็บ​ปัก​ ​บางครั้ง​ก็​ไป​เยี่ยมเยียน​กาน​ไท่ฮู​หยิน

เมื่อ​สกุล​หลัว​ออกจาก​เมืองหลวง​ ​นาง​ก็​มาส​่ง​ถึง​นอก​ประตู​เซ​วี​ยน​อู่

มอง​ไป​ยัง​รถม้า​สกุล​หลัว​ที่​ค่อยๆ​ ​ไกล​ลับ​ออก​ไป​ ​เดิมที​สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่าความ​โศกเศร้า​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​จะ​ผ่าน​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่าน​้ำ​ตากลับ​ไหล​ออกมา​อย่าง​ควบคุม​ไม่ได้​ ​จะ​หยุด​ก็​หยุด​ไม่ได้

ไม่รู้​ว่า​เมื่อไร​จะ​ได้​พบ​อี๋​เหนียง​ห้า​และ​เด็กทารก​น้อย​ที่​ถูก​ห่อ​ด้วย​ผ้าอ้อม​อีก​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​เกรง​ว่า​ทุกอย่าง​คงจะ​ไม่​เหมือนเดิม​แล้ว​ ​เป็น​คนละ​ภาพ​กับ​ที่​เห็น​ใน​ตอนนี้​

เป็นครั้งแรก​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​นางร้องไห้​หนัก​เช่นนี้

นาง​หันหน้า​หนี​ซ่อน​น้ำตา​ที่​ไหล​เหมือน​สายฝน​ ​แต่กลับ​กลั้น​ไว้​ไม่​ให้​มีเสียง​สะอึกสะอื้น​ออกมา

เขา​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​โอบ​สือ​อี​เหนียง​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ ​ลูบ​หลัง​นาง​เบา​ๆ​ ​ราวกับ​ปลอบใจ​เจ้าตัว​น้อย​ที่​ได้รับบาดเจ็บ​ ​สัมผัส​อ่อนโยน​แฝง​ไว้​ด้วย​ความ​เอ็นดู

อ้อมกอด​อัน​อบอุ่น​กับ​เสียง​ล้อหมุน​ที่​เป็นจังหวะ​ ​สือ​อี​เหนียง​ร้องไห้​จน​ผล็อย​หลับ​ไป

เมื่อ​กลับมา​ถึง​เรือน​ก็​ต้น​ยาม​โหย​่ว​แล้ว

จู​อาน​ผิง​กับ​ชี​เหนียง​มาก​ล่า​วลา​ ​“​ใกล้​จะ​ได้เวลา​เก็บเกี่ยว​ฤดูใบไม้ร่วง​แล้ว​ ​ต้อง​กลับ​ไปดู​สักหน่อย​”

“​เช่นนั้น​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มอง​ชี​เหนียง

ชี​เหนียง​กลับ​เหลือบมอง​จู​อาน​ผิง​ ​ก้มหน้า​ลง​ด้วย​ใบหน้า​แดง​ระเรื่อ

จู​อาน​ผิง​เห็น​ดังนั้น​ก็​หัวเราะ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​ให้​นาง​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ต่อ​ ​แต่​นาง​อยาก​จะ​กลับ​เกา​ชิง​ไป​กับ​ข้า​ ​อย่างไร​เสีย​ก็​สั่ง​ยามา​เยอะ​แล้ว​ ​อยาก​กลับ​ก็​กลับ​เถิด​!​ ​ไว้​พวกเรา​จะ​กลับมา​ใหม่​”​ ​จากนั้น​ก็​มอง​ชี​เหนียง​ ​“​นาง​มีชีวิตชีวา​มาก​เวลา​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​”

ชี​เหนียง​ได้​ฟัง​ก็​บุ้ยปาก​ ​ถาม​ว่าฮู​หยิน​ห้า​อยู่​เรือน​หรือไม่​ ​“​…​ข้า​จะ​ไป​บอกกล่าว​กับ​นาง​สักหน่อย​!​”

“​นาง​อยู่​ที่​เรือน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​กับ​ชี​เหนียง​ไปหาฮู​หยิน​ห้า​ ​ให้​จู​อาน​ผิง​อยู่​คุย​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

ฮู​หยิน​ห้า​ได้ยิน​ว่า​ชี​เหนียง​กำลังจะ​ไป​แล้ว​ ​จับมือ​นาง​ไว้​ ​“​เจ้า​จะ​มา​อีก​เมื่อไร​ ​เมื่อ​สอง​วันก่อน​ข้า​กลับ​สกุล​เดิม​ยัง​ตั้งใจ​บอก​ท่าน​พ่อ​ว่า​ข้า​ขอยืม​เรือน​นอก​ที่อยู่​ตรง​ทะเลสาบ​ซา​เหิน​ ​คิด​ว่า​อีก​สัก​สอง​สาม​วัน​จะ​ไปเที่ยว​เล่น​กับ​เจ้าที่​นั่น​!​”​ ​นาง​ถาม​อย่างใจจดใจจ่อ​ว่า​ ​“​เจ้า​จะ​กลับมา​เมื่อไร​ ​จะ​กลับมา​เยี​่​ยน​จิง​อีก​หรือไม่​”

ยัง​ไม่ทัน​ได้​จากไป​ก็​รีบร้อน​อยาก​จะ​พบกัน​ใน​ครั้งหน้า​แล้ว​ ฮู​หยิน​ห้า​เป็น​เช่นนี้​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

“​จู​อาน​ผิง​บอกว่า​หาก​ข้า​ยัง​ไม่มี​ความคืบหน้า​ก็​จะ​มา​เยี​่​ยน​จิง​อีก​หลังจาก​หว่าน​เมล็ด​พืช​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​แล้ว​”​ ​ชี​เหนียง​พูด​ด้วย​ความตื่นเต้น​ ​“​เจ้า​ไปเที่ยว​เล่น​ที่​เกา​ชิง​ของ​พวกเรา​ดี​หรือไม่​ ​เกา​ชิง​ของ​พวกเรา​ก็​น่าสนใจ​มาก​เช่นกัน​ ​มี​เขา​ติ่ง​จู๋​ ​เขา​หนิว​ ​และ​แม่น้ำ​มากมาย​ ​ไอ​๊​หยา​ ​สอง​วันนี้​เป็นช่วง​เวลา​เก็บเกี่ยว​องุ่น​กับ​ผิง​กั่ว​พอดี​ ​เจ้า​ไปเที่ยว​เกา​ชิง​กับ​พวกเรา​สัก​สอง​สาม​วันดี​หรือไม่​”

ฮู​หยิน​ห้า​ฟัง​อย่างตั้งใจ​ ​แต่​ไม่นาน​แววตา​ก็​เริ่ม​หม่นหมอง​ลง​เล็กน้อย​ ​“​หาก​ข้า​ไป​แล้ว​ใคร​จะ​ดูแล​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เล่า​”

เมื่อมี​ครอบครัว​แล้วก็​ไม่​สามารถ​เดินทางไกล​ได้​อย่าง​อิสระ

มี​หรือ​ที่​ชี​เหนียง​จะ​ไม่รู้

นาง​รู้​ว่า​ตัวเอง​ได้​ให้​คำแนะนำ​ที่​ไร้สาระ​จึง​เพียงแต่​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​

ฮู​หยิน​ห้า​ถามถึง​การ​เดินทาง​ของ​ชี​เหนียง​ ​“​จะ​ออกเดินทาง​เมื่อไร​”

“​ไป​วันมะรืนนี้​”​ ​ชี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​ฝาก​เรือน​ไว้​ให้​พี่​สาม​ช่วยดูแล​ ​ต่อไป​พอ​มา​เยี​่​ยน​จิง​ก็​จะ​ได้​มีที​่​พัก​”

ฮู​หยิน​ห้า​พยักหน้า​ ​คุย​กัน​อีก​สอง​สาม​ประโยค​แล้วไป​หา​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​ว่า​ชี​เหนียง​กำลังจะ​ไป​แล้ว​ ​จึง​ให้​นาง​อยู่​ทานข้าว​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทานข้าว​กับ​จู​อาน​ผิง​ที่​เรือน​นอก​ ​ก่อน​ไป​นาง​ได้​ให้​ของกิน​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ที่​ใน​วัง​มอบให้​มากมาย​ให้​ชี​เหนียง​นำ​กลับ​ไป​ด้วย​ ​“​เอา​กลับ​ไป​ให้​ญาติสนิท​มิตรสหาย​ของ​เจ้า​ด้วย​”

ชี​เหนียง​กล่าว​ขอบคุณ​ ฮู​หยิน​ห้า​กับ​สือ​อี​เหนียง​ไป​ส่ง​นาง​ที่​ประตู​ฉุยฮ​วา

ไท่ฮู​หยิน​กำชับฮู​หยิน​ห้าว​่า​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​เจ้า​ก็​ควรจะ​ไป​ส่ง​ด้วย​ ​หลาย​วัน​มานี​้​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่​เพียงแค่​ไม่​หอบหืด​ ​แม้แต่​ไอ​ก็​ไม่มี​สัก​แอะ​”

ฮู​หยิน​ห้า​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​กำลัง​กลัว​ว่า​ท่าน​จะ​ไม่​อนุญาต​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​หาก​นาง​กลับ​ช้า​อีก​สอง​วัน​ ​ต่อให้​ข้า​อยาก​ไป​ส่ง​ก็​คง​ไป​ไม่ได้​แล้ว​”

อีก​สอง​วัน​จะ​เป็น​พิธี​อภิเษกสมรส​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​ ​ตามกำหนด​แล้ว​วันที่​สาม​หลังจาก​พิธี​อภิเษก​บรรดา​ขุนนาง​ใน​ราชสำนัก​จะ​ต้อง​ไป​แสดงความยินดี​ ​สตรีที​่​มีตำ​แหน่ง​จะ​ต้อง​ไป​แสดงความยินดี​ใน​งานเลี้ยง​ต่อหน้า​พระพักตร์​ไท​เฮา​และ​ฮองเฮา

“​…​ตอนนี้​อากาศ​เริ่ม​เย็น​แล้ว​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ท่าน​ต้อง​ใส่​เสื้อผ้า​หนา​ๆ​ ​จึง​จะ​ดี​”

“​นั่น​ไม่ใช่​ปัญหา​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เตรียม​อาหาร​ให้​ทุกคน​ไว้​ทาน​บน​รถ​ด้วย​”

สือ​อี​เหนียง​รับคำ​ ​เตรียม​อาหาร​ล่วงหน้า​หนึ่ง​วัน​ ​เนื่องจาก​ตัวเอง​อยู่​ใน​ช่วง​ไว้ทุกข์​จึง​ไม่​สามารถ​เข้า​วัง​ได้​ ​หลังจาก​ส่ง​ไท่ฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ไป​แล้ว​นาง​ก็​ไปหา​อาจารย์​เจี่ยน

อาจารย์​เจี่ย​นกำ​ลัง​สวม​แว่นตา​ปัก​ม่าน​ประตู​ ​เมื่อ​เห็น​นาง​เข้ามา​ก็​ยิ้ม​พลาง​ถอด​แว่น​ที่​หนีบ​อยู่​บน​จมูก​ออก​ ​“​ที่​เจ้า​ให้​มานั​้น​เป็น​ของดี​ ​อีกทั้ง​ยัง​บาง​เฉียบ​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​หยิบ​แว่น​ขึ้น​มาสำ​รวจ​ดู​ ​“​ข้า​จะ​วาด​แบบ​ขึ้น​มาสั​กรูป​ ​เมื่อถึง​เวลา​จะ​เชิญ​อาจารย์​ที่​ร้าน​ตัว​เป่า​เก๋​อมา​ช่วย​ทำ​ ​ดู​ว่า​จะ​สามารถ​เกี่ยว​ไว้​บน​หู​ได้​หรือไม่​ ​หนีบ​ไว้​ที่​สันจมูก​นั้น​ลำบาก​เกินไป​”

“​เจ้า​มี​ความคิดสร้างสรรค์​เสมอ​”​ ​ขณะที่​อาจารย์​เจี่ย​นกำ​ลัง​พูด​ ​ชิวจ​วี​๋​ก็​ยก​ชาด​อก​เก๊กฮวย​มา​พอดี​ ​“ฮู​หยิน​ ​ดื่ม​คลาย​ร้อน​สักหน่อย​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​เห็น​กลีบดอก​เก๊กฮวย​สะอาด​ราวกับ​หยก​ ​เกสร​สีเหลือง​ดั่ง​ทอง​ ​เอ่ย​ถาม​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​สอง​ส่ง​มา​ให้​หรือ​”

ฮู​หยิน​สอง​ได้ยิน​ว่า​อาจารย์​เจี่ย​นมา​จึง​ตั้งใจ​มา​เยี่ยม​ ​อาจารย์​เจี่ยน​ส่ง​ภาพ​ปัก​สอง​ด้าน​ลาย​หุบเขา​เมฆา​ให้​นาง​ ​นาง​ชื่นชอบ​มาก​จึง​มักจะ​มานั​่ง​เล่น​กับ​อาจารย์​เจี่ยน​ประจำ

ชิวจ​วี​๋​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​“​บอกว่า​เป็น​ดอก​เก๊กฮวย​สีขาว​ของถง​เซียง​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​นั่งลง​ดื่ม​ชากั​บอา​จารย์​เจี่ยน​

“​เพราะเหตุใด​ท่าน​ถึง​ได้คิด​ปัก​ม่าน​ประตู​”​ ​นาง​มอง​ผ้าไหม​สีแดง​ผืน​ใหญ่​ที่เก็บ​อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​เหมือนกับ​ว่า​กำลัง​ทำ​ของหมั้น​ให้​ใคร​ ​“​ท่าน​สายตา​ไม่ดี​ ​หาก​ปฏิเสธ​ไม่ได้​จริงๆ​ ​ก็​บอก​ข้า​ ​ข้า​จะ​ออกหน้า​ปฏิเสธ​ให้​เอง​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​กลัว​ว่า​จะ​มี​คน​คิด​ว่า​อาจารย์​เจี่ยน​เป็น​ช่างเย็บ​ปัก

“​ไม่ได้​มี​ใคร​ให้​ทำ​”​ ​อาจารย์​เจี่ยน​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​ข้า​ทำ​ของ​ข้า​เอง​”

สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

“​ข้า​เห็น​ว่า​ม่าน​ประตู​ของ​ปินจ​วี​๋​ขาย​ได้ราคา​ดี​ ​เพียงแต่​ใช้เวลานาน​ไป​หน่อย​”​ ​อาจารย์​เจี่ย​นพูด​ช้าๆ​ ​ว่า​ ​“​ข้า​กำลัง​คิด​ว่า​จะ​สามารถ​เปลี่ยนแปลง​วิธี​ปัก​ได้​หรือไม่​ ​ดู​ว่า​สามารถ​ลด​เวลา​ลง​ได้​หรือไม่​ ​ตอนนี้​ดูเหมือนว่า​ผลลัพธ์​ที่​ได้​ถือว่า​ไม่เลว​เลย​”​ ​อาจารย์​เจี่ย​นพูด​พลาง​หยิบ​ม่าน​ประตู​ให้​สือ​อี​เหนียง​ดู​ ​“​เจ้า​ดู​สิ​ ​นี่​คือ​รูป​นก​สาลิกา​เกาะ​อยู่​บน​กิ่งไม้​ ​ตรงนี้​เดิมที​ใช้​เข็ม​เย็บ​ตะเข็บ​เรียง​ซ้อน​กัน​ ​ข้า​เปลี่ยนเป็น​ใช้การ​เย็บ​แบบ​กากบาท​ทำให้​เร็ว​ขึ้น​มากกว่า​เดิม​ ​ผล​ที่​ได้​กลับ​ดูดี​กว่า​การ​เย็บ​ตะเข็บ​แบบ​ทั่วไป​”​ ​นาง​หยิบ​ภาพ​อีก​ภาพ​หนึ่ง​มาชี​้​ให้​สือ​อี​เหนียง​ดู​ ​“​นี่​คือ​รูป​บึง​บัว​ ​เดิมที​ใช้การ​เย็บ​แบบ​กากบาท​ ​ข้า​เหลือ​พื้นที่​สีขาว​ไว้​ ​สอย​เพียงแค่​ด้าน​ข้าง​เท่านั้น​ ​ดูแล​้​วก​็​สวยงาม​ดี​ใช่​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ่ง​ฟัง​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​มีบา​งอย​่าง​ผิดปกติ

การ​เย็บ​ปัก​เป็น​วิชา​ความรู้​อย่างหนึ่ง​ ​ความสามารถพิเศษ​ของ​อาจารย์​เจี่ย​นคื​อการ​ปัก​สอง​ด้าน​และ​การ​ถัก​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​ ​ระดับ​อย่าง​อาจารย์​เจี่ย​นค​วร​จะ​คิด​หาวิ​ธี​ที่​ทำ​อย่างไร​จึง​จะ​โดดเด่น​ใน​การ​เย็บ​ปัก​สอง​ด้าน​และ​การ​ถัก​ใน​แบบ​ที่​ไม่มีใคร​เคย​ทำ​มาก​่อน​และ​คนรุ่นหลัง​ก็​ไม่​สามารถ​ทำได้​จึง​จะ​ถูก​ ​เดิมที​เป็น​เพราะ​ชีวิต​ที่​ยากลำบาก​จึง​ไม่​สามารถ​ทำการ​ศึกษา​อย่างสบายใจ​ได้​ ​ตอนนี้​มา​อาศัย​เป็น​แขก​ของ​หย่ง​ผิง​โหว​ ​ต้องการ​ผ้า​ก็​มี​ผ้า​ให้​ ​ต้องการ​ด้าย​ก็​มีด​้าย​ให้​ ​ทำไม​นาง​ไม่​ตั้งใจ​ศึกษา​สิ่ง​ที่นาง​ถนัด​ที่สุด​ ​แต่กลับ​ใช้​ความพยายาม​อย่างมาก​ไป​กับ​ลวดลาย​มงคล​ธรรมดา​เหล่านี้​ ​แม้ว่า​จะ​มี​การเปลี่ยนแปลง​บางอย่าง​ ​แต่​ก็​อย่างที่​อาจารย์​เจี่ย​นก​ล่าว​ไว้​การเปลี่ยนแปลง​นี้​มี​เพียงแค่​ความเร็ว​เท่านั้น​ ​แต่งาน​ปัก​ที่​ดี​ไม่เคย​คำนึงถึง​ความเร็ว

อาจารย์​เจี่ย​นรู​้​จัก​นาง​ดี​ ​พอ​เห็น​นาง​นิ่งเงียบ​ไม่พูดไม่จา​ ​ก็​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​ว่า​ ​“​เจ้า​อย่า​เดา​มั่วซั่ว​ ​ข้า​จะ​บอก​ความจริง​กับ​เจ้า​เอง​ ​ข้า​ต้องการ​เปิดร้าน​เย็บ​ปัก​!​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​เอ่ย​เรียก​ ​“​อาจารย์​”

หอ​เซียน​หลิง​เชิญ​มา​หลายครั้ง​ ​พ่อค้า​ที่​ร่ำรวย​มากมาย​ใน​เจียง​หนา​นก​็​มา​เชิญ​ ​อาจารย์​เจี่ยน​ไม่เคย​ตอบ​ตกลง​ ​ทำไม​ตอนนี้​ถึง​คิด​จะ​เปิดร้าน​เย็บ​ปัก

อาจารย์​เจี่ยน​ชี้​ไป​ที่​ชิวจ​วี​๋​ที่​กำลัง​แยก​ด้าย​อยู่​ด้าน​ข้าง

“​เดิมที​ข้า​ตัว​คนเดียว​ ​กิน​อิ่ม​คนเดียว​เลย​ไม่ต้อง​เป็นกังวล​ ​ตอนนี้​ข้าง​กาย​ยัง​มี​ชิวจ​วี​๋​ ​คงจะ​ให้​นาง​เป็น​เหมือน​ข้า​ที่​ต้อง​เร่ร่อน​ไป​ทั่ว​ไม่ได้​หรอก​ ​จะ​ให้​นาง​เย็บ​ปัก​ไป​จน​แก่เฒ่า​ ​ตาพร่า​มัว​จน​ทำ​อะไร​ไม่ได้​แล้วไป​อาศัย​อยู่​ที่​บ้านพัก​คนพิการ​อย่างนั้น​หรือ​”

อาจารย์​เจี่ยน​เป็น​คนที​่​พึ่งพา​ตัวเอง​ได้​เสมอ​ ​นี่​เป็น​เหตุผล​ว่า​เหตุใด​หลังจากที่​ตน​มาถึง​เยี​่​ยน​จิง​จึง​ไม่​คิด​จะ​รับ​อาจารย์​เจี่ย​นมา​ทันที​ ​แต่​อย่างไรก็ตาม​การ​เปิดร้าน​เย็บ​ปัก​โดยเฉพาะ​ร้าน​เย็บ​ปัก​ที่​เปิด​โดย​สตรี​นั้น​นับว่า​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย

นาง​พึมพำ​ขึ้น​ว่า​ ​“​อาจารย์​เตรียม​จะ​เปิดร้าน​ที่ไหน​ ​หาก​ยัง​ไม่แน่ใจ​ ​ไม่​สู้​เปิด​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​ข้า​ก็​กำลัง​คิด​เช่นนั้น​”​ ​อาจารย์​เจี่ยน​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​ข้า​ไม่​เพียง​อยาก​เปิดร้าน​เย็บ​ปัก​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ ​ซ้ำ​ยัง​อยาก​ให้​เจ้า​มีส่วนร่วม​ด้วย​ ​เป็น​ผู้ถือหุ้น​รายใหญ่​ของ​พวกเรา​”

นี่แหละ​คือ​อาจารย์​เจี่ยน

เป็น​คน​ใจกว้าง

“​ดูเหมือนว่า​ท่าน​จะ​มี​ความคิด​นี้​มานาน​แล้ว​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เอา​มือ​เท้าคาง​ ​มอง​อาจารย์​เจี่ยน​ด้วย​ใบหน้า​เปื้อน​ยิ้ม

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท