รถม้าของเฉินตันจูใหญ่มาก ตัวรถกว้างขวาง ถึงแม้รีบร้อนในการเดินทาง แต่ยังคงพยายามสุดความสามารถให้ตนเองสบาย เมื่อกลับถึงเมืองหลวงยังมีสงครามต้องปะทะ นางไม่อาจประคองไว้แค่สติ แต่ประคองร่างกายไม่ได้
แต่เมื่อโจวเสวียนนั่งเข้ามา ตัวรถที่กว้างขวางจึงคับแคบขึ้นอย่างมาก อีกทั้งเขายังสวมชุดเกราะ
“ท่านออกไปขี่ม้าเถิด” เฉินตันจูพูด “ในนี้เบียดเกินไป”
โจวเสวียนไม่ยอมไป มองอาเถียนที่ถลึงตาอยู่ด้านข้าง “เจ้าออกไปนั่งด้านนอก”
อาเถียนไม่ยอมเช่นเดียวกัน
เฉินตันจูครุ่นคิด ก่อนจะให้อาเถียนออกไปนั่งกับจู๋หลินด้านนอกก่อน “ข้ามีเรื่องต้องคุยกับท่านโหว”
อาเถียนจึงเปิดม่านรถเดินออกไป
ภายในรถที่น้อยลงหนึ่งคนไม่ได้กว้างขวางขึ้นมากเท่าใดนัก เฉินตันจูพิงอยู่บนหมอน “ในเมื่อนั่งรถแล้ว ก็ถอดชุดเกราะนี้เสีย หนักแย่”
โจวเสวียนไม่ได้โต้แย้งนางเหมือนเคย เพียงแค่มองนางอย่างเย็นชา
เฉินตันจูถามกลั้วหัวเราะ “ท่านรับคำสั่งมาจับข้าหรือ”
อันที่จริงนางรู้ว่าเขาไม่ได้มาเพื่อจับนาง แต่หลังจากพูดประโยคนี้แล้ว โจวเสวียนกลับยังคงไม่มีปฏิกิริยา ยังคงจ้องมองนางอย่างเย็นชา
เฉินตันจูจึงกอดหมอนถอนหายใจ พูดด้วยสีหน้าจริงใจ “ข้ารู้ว่าเรื่องที่ข้าทำในครานี้อันตราย แต่คนอย่างพวกเรา เรื่องบางเรื่องไม่อาจเลือกได้ ท่านเองก็กำลังทำเรื่องอันตราย แต่ท่านก็ไม่ได้ล้มเลิก”
มองหญิงสาวสีหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษที่จมอยู่ในกองหมอนนุ่มกำลังพูดคุยกับตนเองเสียงเบา นับแต่รู้จักกันมา ครานี้เป็นคราที่นางยอมอ่อนข้อต่อตนเองมากที่สุดแล้ว โจวเสวียนเก็บสีหน้าเย็นชาลง “เหตุใดท่านจึงไม่บอกข้า เหตุใดท่านจึงลงมือเอง ข้าเคยบอกแล้ว ข้าจะหาวิธีฆ่านาง เฉินตันจู ท่านไม่เชื่อข้า?”
เฉินตันจูยิ้มอย่างระอา “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเชื่อหรือไม่ แต่มันเป็นเรื่องของข้า หากข้าบอกว่าเรื่องของท่าน ข้าจะเป็นคนลงมือ ท่านจะยอมหรือ”
โจวเสวียนยิ้มเย็น “ข้ายอม ข้าอยากให้มีคนลงมือแทนข้าด้วยซ้ำ”
เฉินตันจูสำลัก นางหัวเราะออกมา “แต่ข้าไม่ยอม”
รถม้าเคลื่อนตัวไปด้านหน้าช้าๆ ไม่มีแรงกระแทกเหมือนการเร่งเดินทางก่อนหน้านี้ เมื่อมีทหารของโจวเสวียน ย่อมไม่ต้องกังวลการถูกคนลอบสังหาร ดังนั้นจึงไม่ต้องเร่งรีบในการเดินทาง เดินทางช้าลงก็ดี ภายในเมืองหลวงย่อมไม่มีเรื่องดีรอคอยพวกเขาอยู่
ในที่สุดโจวเสวียนก็ถอดเกราะออก ภายในรถราวกับมีคนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน เฉินตันจูมองพลางพูด “ยังไม่สู้สวมใส่เอาไว้ ประหยัดพื้นที่”
โจวเสวียนไม่ได้สนใจ เอ่ยถาม “ท่านทำได้อย่างไร ท่านปะทะกับนางซึ่งหน้าหรือ”
เฉินตันจูได้ใจเล็กน้อย พูดเสียงต่ำ “ข้าบอกแค่ท่านนะ มันเป็นฝีมือเฉพาะตัวของข้า ผู้ใดดูถูกข้า ผู้ใด…”
เมื่อนางพูดถึงฝีมือเฉพาะตัว โจวเสวียนก็กระจ่างแล้ว “ใช้ยาพิษเหมือนสังหารหลี่เหลียงหรือ”
เฉินตันจูส่งเสียงไม่พอใจ “ไม่ใช่ทุกคนที่จะเก่งเหมือนข้า”
“เก่งอันใดกัน” โจวเสวียนพูด “การวางยาพิษ เพียงแค่อาศัยโอกาสที่อีกฝ่ายไม่ทันระวังไม่ใช่หรือ”
คนที่รู้จักเพียงแค่การใช้อาวุธสังหารคน เฉินตันจูเกียจคร้านที่จะพูดกับเขา โจวเสวียนไม่ได้พูดสิ่งใดอีก เขาเหม่อลอยเล็กน้อย ไม่รู้นึกถึงเรื่องใดขึ้นได้
“ท่านมาเองหรือ ฝ่าบาทไม่ได้ตรัสว่าจะลงโทษข้าหรือ?” เฉินตันจูถาม “ในเมืองหลวงเป็นอย่างไร”
โจวเสวียนดึงสติกลับมา พูดอย่างเย่อหยิ่ง “ไม่ต้องกังวล กลับถึงเมืองหลวงมีข้า ข้าจะขอร้องต่อฝ่าบาท แม้จะลงโทษท่าน ท่านก็ไม่ต้องรับทุกข์”
เฉินตันจูพูดด้วยรอยยิ้ม “ขอบใจท่านโหวมาก แต่ว่าข้าก็ไม่ได้กังวล ข้าไม่คิดจะเข้าเมืองหลวง ข้าจะเดินทางไปค่ายทหาร ไปหาแม่ทัพหน้ากากเหล็ก”
หลังจากพูดจบ นางไม่เห็นสีหน้าเย้ยหยันหรือได้ยินคำพูดโต้แย้งของโจวเสวียน หากแต่อีกฝ่ายมองนางด้วยสีหน้าซับซ้อน
“มองอันใด มีสิ่งใดแปลกประหลาดหรือ” เฉินตันจูกอดหมอนเปลี่ยนเป็นท่าที่สบายขึ้น สีหน้าอารมณ์ดี “เดิมทีแม่ทัพหน้ากากเหล็กก็เป็นที่พึ่งอันดับหนึ่งของข้า ดูองครักษ์ของข้าด้านนอก พวกเขาล้วนเป็นองครักษ์ที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ท่านแม่ทัพ”
โจวเสวียนมองท่าทางได้ใจของหญิงสาว รู้สึกว่าคงจะเป็นการแสร้งทำออกมา เหมือนความยโสโอหังหรือร้องไห้อ่อนแอก่อนหน้านี้ที่ล้วนเป็นการแสร้งทำ แต่สิ่งที่น่าแปลกคือ ครานี้เขารู้สึกว่านางไม่ได้แสร้งทำ ราวกับได้ใจจริง? หรืออาจจะดีใจ?
เฉินตันจูมองโจวเสวียนเช่นเดียวกัน เห็นเขามองนางด้วยสีหน้าซับซ้อน ยังคงไม่ได้พูดเสียดสี
“เกิดเรื่องใดขึ้น” นางหุบยิ้มลง
โจวเสวียนพูด “แม่ทัพหน้ากากเหล็ก…ล้มป่วย”
ทันทีที่สิ้นเสียง เขาก็เห็นหญิงสาวที่จมอยู่ในกองหมอนนุ่มลุกพรวดขึ้นนั่ง ดวงตามองเขาด้วยความเหลือเชื่อ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความสงบ
“ป่วยหนักหรือ” นางถาม ไม่รอโจวเสวียนพูด นางตะโกนเสียงดังต่อด้านนอก “จู๋หลิน”
อาเถียนรีบเปิดม่านขึ้น จู๋หลินดึงบังเหียนม้าหันหน้ากลับมา
“เร่งความเร็ว” เฉินตันจูพูด “พวกเรารีบกลับเมืองหลวง”
จู๋หลินตอบรับ ในขณะที่จะสะบัดแส้ เฉินตันจูก็เรียกเขาอีกครั้ง “เจ้าให้คนไปถามสถานการณ์ของท่านแม่ทัพ”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของจู๋หลินเปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขาเดินทางมาเพราะได้รับข่าวจากหวังเจียน หวังเจียนไม่ได้พูดถึงเรื่องของท่านแม่ทัพ มอบหมายเฉินตันจูให้พวกเขา ก่อนจะจากไปอย่างรีบร้อน
ท่านแม่ทัพเกิดเรื่องแล้ว? ท่านแม่ทัพเกิดเรื่องอันใด?
จู๋หลินเกือบจะกระโดดลงรถ โชคดีที่เขายังจำได้ว่าเวลานี้ตนเองเป็นองครักษ์ของเฉินตันจู เขาเรียกคนผู้หนึ่งมา สั่งการให้เขารีบไป
องครักษ์นั้นจากไปอย่างรวดเร็วดุจสายลม เฉินตันจูมองไปทางนั้น สีหน้าที่ซีดเผือดราวกับยิ่งซีดมากขึ้น
โจวเสวียนมองท่าทางของนาง รู้สึกไม่สบายเล็กน้อย “ท่านเป็นกังวลเรื่องท่านแม่ทัพเพียงนี้หรือ”
ในนี้ไม่มีคนนอก ไม่ต้องเสแสร้ง
เฉินตันจูหันมาพูด “ข้าย่อมต้องกังวล ข้าเคยบอกแล้ว เขาเป็นที่พึ่งของข้า”
โจวเสวียนส่งเสียงไม่พอใจ “เหตุใดท่านจึงไม่ถามข้า”
นางเพียงแค่รู้สึกไม่สบายใจหากได้ยินคำตอบจากการถามผู้อื่น นางเพียงแค่ต้องการให้คนของจู๋หลินสืบข่าว ข่าวนั้นถึงจะทำให้นางสบายใจได้ เฉินตันจูพูด “ท่านไม่พูดตามตรง ท่านไม่พูด ข้าย่อมรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ดี ข้าไม่อยากถามแล้วทำให้ตนเองกังวลใจ”
เช่นนี้หรือ โจวเสวียนพึงพอใจ ไม่ได้หยอกล้ออีก เขาบอกเฉินตันจู “ท่านแม่ทัพป่วยหนักมาก ฝ่าบาทประทับอยู่ในค่ายทหารสองวัน จนบัดนี้ยังไม่หายดี”
ฮ่องเต้เสด็จไปเองแล้วหรือ เฉินตันจูจับหมอนนุ่มไว้แน่น ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ไม่เป็นอันใด รอข้าไปดู ฝีมือข้าดีมาก ย่อมต้องมีวิธีรักษา”
โจวเสวียนหัวเราะ เห็นได้ชัดว่าต้องการเยาะเย้ยนาง แต่เมือเห็นสีหน้าซีดเซียวของหญิงสาว สุดท้ายเขาก็กลืนกลับเข้าไปด้วยความสงสาร เพียงแต่พูด “ถึงแม้ฝ่าบาทไม่ได้ส่งข้ามา แต่ฝ่าบาทย่อมต้องส่งคนมาจับท่านอย่างแน่นอน ข้าไปสืบก่อน เก็บกวาดทางให้ท่านอยู่ด้านหน้า”
ถึงแม้นางจะยโสโอหังมาตลอดทาง แต่เมื่อเข้าไปในเมืองหลวงที่อยู่ภายใต้บารมีของฮ่องเต้ นางไม่อาจทำตามใจตนเองได้
เฉินตันจูรู้ดีแก่ใจ เวลานี้คนที่กล้าช่วยเหลือนางภายใต้บารมีของฮ่องเต้คงมีเพียงโจวเสวียน นางกล่าวขอบคุณโจวเสวียนด้วยความซาบซึ้ง
โจวเสวียนไม่รู้สึกดีใจต่อคำขอบคุณของนางนัก เขาอดทนแล้วอดทนเล่า แต่ยังคงส่งเสียงไม่พอใจออกมา “ดังนั้นท่านรีบร้อนอันใด ที่พึ่งอย่างแม่ทัพหน้ากากเหล็กไม่จำเป็นต้องมี ท่านยังมีข้า”
เฉินตันจูหน้าบึ้งในทันที “มีที่พึ่งมากขึ้นย่อมเป็นเรื่องดี...ท่านจะไปช่วยสืบให้ข้าไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงไม่ลงไปอีก”
โจวเสวียนส่งเสียงไม่พอใจ ลุกขึ้นเดินไปยังประตูรถ เปิดม่านขึ้น
“เกราะของท่าน” เฉินตันจูเตือนเมื่อเห็นกองชุดเกราะที่ราวกับเนินเขาด้านข้าง
โจวเสวียนทิ้งคำพูดที่ขุ่นเคืองเอาไว้ “เสร็จแล้วข้าจะเข้ามานั่งรถอีกครั้ง!”
อย่าคิดจะไล่เขาไป!