ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 360 ร้านมงคลสมรส(ปลาย)

ตอนที่ 360 ร้านมงคลสมรส(ปลาย)

เคย​เกลียด​หรือไม่

ดูเหมือนว่า​ตน​จะ​ไม่เคย​คิด​เรื่อง​นี้​อย่างจริงจัง

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ไม่เคย​เกลียด​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ

“​จริงๆ​ ​แล้ว​ข้า​ไม่เคย​คิด​เรื่อง​นี้​”​ ​สายตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​นิ่ง​สงบ​ ​“​เพราะ​ข้า​รู้​ว่าการ​เกลียด​ไม่​สามารถ​เปลี่ยนแปลง​สภาวะ​ของ​ข้า​ได้​ ​แล้ว​ข้า​ยัง​มีเรื่อง​สำคัญ​ที่​ต้อง​ทำ​กว่า​การ​เกลียดชัง​คนอื่น​เจ้าค่ะ​”

นาง​ต้อง​ฝึก​เย็บปักถักร้อย​แล้ว​เข้าสู่​สังคม​ให้​เร็ว​ที่สุด​ ​นาง​ต้อง​พยายาม​แสดง​ความสำคัญ​ของ​ตัวเอง​ต่อหน้า​นาย​หญิง​ใหญ่​ ​นาง​ต้อง​คิด​หาวิ​ธีรั​กษา​สมดุล​รายจ่าย​ ​รักษา​คุณภาพชีวิต​ของ​ตัวเอง​เพื่อ​ไม่​ให้​อู่​เหนียง​และ​คนอื่นๆ​ ​เยาะเย้ย​…​ตน​ไม่มีเวลา​ไป​คิด​เรื่อง​พวก​นั้น​

นี่​อาจจะ​เป็น​สิ่ง​ที่​ผู้คน​มัก​พูดว่า​ ​‘​คนยากจน​ไม่มี​สิทธิ์​มานั​่ง​เสียใจ​!​’

สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​ใบหน้า​ที่​เบ่งบาน​ราวกับ​ดอกไม้​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​รู้สึก​เสียใจ​ขึ้น​มา​

นาง​และ​สือ​เหนียง​คือ​พี่น้อง​ที่​อายุ​ใกล้เคียง​กัน​มาก​ที่สุด​ ​เกิด​ที่ฝู​เจี​้​ยน​ด้วยกัน​ ​เติบโต​ที่​อวี​๋​หัง​ด้วยกัน​ ​และ​แต่งงาน​มา​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ด้วยกัน​ ​แต่​สือ​เหนียง​ยอม​ถูก​คนอื่น​มองว่า​เป็น​ลูก​อกตัญญู​ ​ทำให้​นาย​หญิง​ใหญ่​ที่นอน​ป่วย​อยู่​บน​เตียง​โมโห​ ​เพียง​เพราะว่า​สือ​เหนียง​เป็น​คน​เย็นชา​ตั้งแต่​เกิด​เช่นนั้น​หรือ

สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยื่นมือ​ออก​ไป​ลูบ​แก้ม​นาง​เบา​ๆ

ผิว​ที่อยู่​ใต้​นิ้ว​ของ​เขา​ ​บอบบาง​ราวกับ​กลีบดอก​กุหลาบ

เขา​นึกถึง​คืน​แรก​ที่​เดินทางออก​ไป​โจมตีเ​เคว​้น​เหมียว​เจียง​แต่กลับ​พ่ายแพ้​คืน​นั้น

แสง​ดวงจันทร์​ที่​สว่างไสว​สาดส่อง​ลง​บน​ผ้าห่ม​สีฟ้า​อย่าง​เย็นชา​ ​ส่องแสง​เป็นประกาย​ที่​มืดมน​ ​กด​ลง​บน​ตัว​เขา​ราวกับ​แอ่งน้ำ​ที่​แข็ง​เป็นน้ำ​แข็ง​ ​มัน​หนัก​จน​ทำให้​เขา​รู้สึก​แทบจะ​หายใจไม่ออก​ ​แต่​เมื่อ​ฟั่น​เหวย​กัง​ที่​ฮ่องเต้​ส่ง​มาป​กป​้​องค​วาม​ปลอดภัย​ของ​เขา​ถาม​เขา​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​สั่นเทา​ว่า​ ​‘​ท่าน​โหว​ ​ท่าน​กลัว​หรือไม่​ขอรับ​’​ ​มือ​ที่อยู่​ใต้​ผ้าห่ม​ของ​เขา​พลัน​กำหมัด​แน่น​ ​แต่​น้ำเสียง​ของ​เขา​กลับ​แผ่วเบา​ราวกับ​สายลม​และ​ก้อน​เมฆ​ ​‘​มี​เวลา​กลัว​ ​ไม่​สู้​คิด​ว่า​พรุ่งนี้​จะ​ทำ​เช่นไร​ดีกว่า​!​’

คำพูด​ดูก​ล้า​หาญ​ ​แต่​แท้จริง​แล้ว​ตน​กำลัง​หวาดกลัว​

ตอนนั้น​ตน​ลุกขึ้น​แต่งตัว​ ​บอก​ให้​ฟั่น​เหวย​กัง​เรียก​แม่ทัพ​ทั้งหมด​มาป​รึก​ษา​กลยุทธ์​รับมือ​…​บรรดา​แม่ทัพ​ถึง​ร่วม​ด้วย​ช่วยกัน​ ​การสู้​รบ​ที่เ​เคว​้น​เหมียว​เจียง​จึง​พลิกผัน​ไป​ใน​ทาง​ที่​ดีขึ้น​ ​ถึง​ได้​มี​ความสำเร็จ​ของ​ทุกวันนี้​

คำตอบ​ของ​พวกเขา​ ​ช่าง​คล้าย​กัน​เสีย​เหลือเกิน

หรือว่า​สือ​อี​เหนียง​ใน​ตอนนี้​ก็​เหมือนกับ​เขา​ใน​ตอนนั้น​ ​ใช่​ว่า​ไม่​กลัว​ ​ใช่​ว่า​ไม่​เสียใจ​ ​ใช่​ว่า​ไม่​ลังเล​ ​และ​ใช่​ว่า​ไม่เคย​คิด​ที่จะ​หันหลัง​กลับ​ ​แต่​แค่​รู้​ว่า​ตัวเอง​จะ​กลัว​ไม่ได้​ ​เสียใจ​ไม่ได้​ ​ลังเล​ไม่ได้​ ​และ​หันหลัง​กลับ​ไม่ได้​ ​ข้างหน้า​คือ​ภูเขา​ที่สูง​ชัน​ ​แต่​ข้างหลัง​คือ​หุบเขา​ลึก​ ​พวกเขา​ต้อง​ไม่​คิด​อะไร​ ​กัดฟัน​แล้ว​เดิน​ต่อไป​ข้างหน้า​เท่านั้น​

ตัว​เขา​ใน​วันนี้​ ​ไม่ได้​สัมผัส​กับ​ความรู้สึก​เสียใจ​ที่​ราวกับ​สายลม​เย็น​เช่นนั้น​มาตั​้ง​นาน​แล้ว​

แต่​สือ​อี​เหนียง​ที่พึ่ง​จะ​ทำพิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ไป​เมื่อ​ต้น​ฤดูร้อน​เล่า

นาง​จะ​เหมือน​เขา​ใน​ตอนนั้น​หรือไม่​ ​ที่​ถาม​ตัวเอง​ใน​ตอนกลางคืน​ว่า​ ​‘​หาก​เปลี่ยนเป็น​ท่าน​พ่อ​ ​เขา​จะ​ทำ​เช่นไร​’​ ​หรือ​ ​‘​หาก​พี่​สอง​เจอ​เรื่อง​เช่นนี้​ ​เขา​จะ​ทำ​เช่นไร​…​’

แล้ว​นาง​จะ​ถาม​ใคร​กัน

สวี​ลิ่ง​อี๋​นึกถึง​ท่าที​ตำหนิ​ที่​ไร้ค​วาม​ปรานี​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​ตอนที่​นาง​กลับ​สกุล​เดิม​ ​สายตา​ที่​พยายาม​หลบหน้า​นาง​ของ​อู่​เหนียง​ ​หัวใจ​ของ​เขา​ก็​ราวกับ​ถูก​เข็ม​ทิ่มแทง

บางสิ่ง​ที่​เขา​พยายาม​เก็บ​ไว้​ใน​ใจ​ก็​ผุด​ขึ้น​มา

นิ้ว​ของ​เขา​ร้อนรุ่ม​ราวกับ​ถูก​ไฟ​แผดเผา​ ​เขา​รีบ​ดึง​มือ​กลับมา

“​เงียบ​”​ ​เขามอง​หน้านาง​ ​“​เจ้า​ไม่​แข็งแรง​ตั้งแต่​เด็ก​?​ ​หรือว่า​หลังจาก​มาที​่​เยี​่​ยน​จิง​ร่างกาย​ก็​เริ่ม​แย่​ลง​?​”

วันนี้​สวี​ลิ่ง​อี๋​แปลก​ๆ

ตอนแรก​หยอกล้อ​นาง​ราวกับ​สหาย​เก่า​ที่​เชื่อใจ​นาง​ ​บอก​นาง​ว่า​อย่า​ทำให้​สือ​เหนียง​โมโห​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​ว่านาง​เคย​เกลียด​นาย​หญิง​ใหญ่​หรือไม่​ ​จากนั้น​ก็​ลูบ​หน้านา​งด​้ว​ยสาย​ตา​ที่รัก​ใคร่​เอ็นดู​ ​และ​สุดท้าย​ก็​ถามถึง​สุขภาพ​ของ​นาง​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง

สือ​อี​เหนียง​พลัน​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ช่วงนี้​ตัวเอง​ทาน​ยา​อยู่​ตลอด

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ตน​แต่งงาน​มาปี​กว่า​แล้ว​…​เขา​กำลัง​ถามถึง​เรื่อง​บุตร​ใช่​หรือไม่​!

สือ​อี​เหนียง​ก้มหน้า​ลง​ ​“​ข้า​เคย​ป่วย​ตอน​เด็ก​ ​รักษาตัว​อยู่​ครึ่ง​ปี​ ​แต่​หลังจาก​ดีขึ้น​แล้วก็​ไม่​ค่อย​ป่วย​เจ้าค่ะ​!​”

“​เป็นโรค​อะไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม

สือ​อี​เหนียง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​ทะเลาะ​กับ​พี่​หญิง​สิบ​ ​ฤดูหนาว​พื้น​ลื่น​ ​สุดท้าย​ไม่​ระวัง​จึง​ลื่นล้ม​หัว​กระแทก​กับ​เสา​ข้างทาง​เดิน​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​จน​ไม่​พูด​อะไร​อยู่นาน​

สกุล​หลัว​คือ​สกุล​ใหญ่​สกุล​โต​ใน​เจียง​หนาน​ ​ไม่ใช่​สกุล​ยากจน​อะไร​ ​คุณหนู​ใน​จวน​ทะเลาะ​กัน​ไม่มีใคร​เกลี้ยกล่อม​ ​แต่กลับ​ปล่อย​ให้​นาง​หัว​กระแทก​เสา​ ​สาวใช้​และ​ท่าน​ป้า​ของ​นาง​มัว​แต่​ทำ​อะไร​อยู่​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​มี​คน​ให้ท้าย​ ​จะ​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ขึ้น​ได้​อย่างไร​!

เขา​เม้มปาก​แน่น

จู่ๆ​ ​บรรยากาศ​ก็​เยือกเย็น​ลง

สือ​อี​เหนียง​เหงื่อ​ตก

เรื่อง​ที่​สือ​เหนียง​ทำ​ลง​ไป​มัน​น่า​ตกใจ​มาก​พอแล้ว​ ​ตอนนี้​เกรง​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​คงจะ​รู้สึก​ไม่​ชอบ​สือ​เหนียง​เข้าไป​อีก​ ​ถ้า​รู้​อย่างนี้​คงจะ​ไม่​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​เขา​ฟัง​

นาง​หัวเราะ​ขึ้น​มา​เพื่อ​ทำลาย​บรรยากาศ​อึมครึม​ ​“​โชคดี​ที่​มี​รอยแผล​ยาว​ไม่​ถึง​นิ้ว​ ​แล้วยัง​อยู่​ใน​เส้น​ผม​…​”

ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​พูด​ขัด​ว่า​ ​“​ให้​ข้า​ดู​หน่อย​!​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยื่นมือ​ออกมา​คลำ​หัว​ของ​นาง​ทันที

ที่แท้​ก็​จะ​ดูรอย​แผลเป็น​ของ​นาง​!

สือ​อี​เหนียง​เอียง​หัว​แล้ว​ชี้​ให้​เขา​ดู​อย่างใจ​กว้าง​ ​“​อยู่​ตรงนี้​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ลูบ​แผลเป็น​นั้น​เบา​ๆ​ ​นึกถึง​ความ​อันตราย​ใน​ตอนนั้น​ ​เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถาม​ว่า​ ​“​ตอนนั้น​เจ้า​กลัว​หรือไม่​”

กลัว​?

ต้อง​กลัว​อยู่​แล้ว​!

ลืมตา​ขึ้น​มาก​็​เห็น​ว่า​อยู่​ใน​โลก​ใบ​ใหม่​คนเดียว​ ​กลัว​ว่า​คนอื่น​จะ​มองออก​ ​กลัว​ว่า​ตัวเอง​จะ​มีพฤ​ติกร​รม​แปลก​ๆ​ ​ใน​สถานที่​ที่​ไม่​คุ้นเคย​และ​ถูก​คนอื่น​มองว่า​เป็นตัว​ประหลาด

ความรู้สึก​นั้น​ ​นาง​ไม่มีวัน​ลืม

ตอนนี้​คิด​เช่นนี้​ ​หัวใจ​ของ​นาง​ก็​รู้สึก​เยือกเย็น

“​จำ​ไม่ได้​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

บอกว่า​จะ​ลืม​ ​ก็​ต้อง​พยายาม​ลืม​ให้​ได้

“​ผ่าน​ไป​นาน​มาก​แล้ว​ ​ตอนนั้น​ข้า​ยัง​เด็ก​ ​จำ​ไม่​ค่อย​ได้​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​ช่วงเวลา​ที่​มีความสุข​เหล่านั้น​ ​“​จำได้​แค่​ว่า​ข้า​นอน​อยู่​บน​เตียง​คนเดียว​ตั้ง​นาน​ ​ทุกครั้งที่​นอนตะแคง​แล้ว​มองออก​ไป​ ​ก็​จะ​เห็น​ต้น​ดอก​จื่อ​เถิง​ที่​พัน​อยู่​บน​ต้นกล้วย​นอก​หน้าต่าง​ ​ออกดอก​สีม่วง​เล็ก​ๆ​ ​เมื่อ​ลม​พัดมา​ ​มัน​ก็​จะ​ส่งกลิ่น​หอม​อ่อน​ๆ​ ​ลอย​เข้ามา​ ​แต่​เมื่อ​เปิด​หน้าต่าง​ ​ก็​จะ​มี​แมลง​บิน​เข้ามา​ ​ต้อง​เปิด​หน้าต่าง​แค่​ตอน​พระอาทิตย์​ขึ้น​เท่านั้น​…​แสงแดด​ส่อง​เข้ามา​เป็น​ดวง​ ​ส่องแสง​ระยิบระยับ​อยู่​กลางอากาศ​ ​ส่อง​ตานิด​หน่อย​แต่​สวยงาม​มาก​เจ้าค่ะ​…​ฤดูใบไม้ผลิ​มีนก​นางแอ่น​สอง​ตัว​บิน​เข้ามา​ทำรัง​ใต้​ชายคา​…​ข้า​เฝ้าดู​พวก​มัน​ฟัก​นก​นางแอ่น​ตัว​น้อย​สี่​ตัว​ ​ตอน​หิว​พวก​มัน​จะ​อ้า​ปาก​ ​ยื่น​คอ​ออกมา​แล้ว​ร้อง​ ​ปากของ​พวก​มัน​เป็น​สีเหลือง​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​อย่าง​เงียบๆ​ ​สายตา​ของ​เขา​มี​ร่องรอย​ของ​ความสงสาร​ที่​แม้แต่​เขา​เอง​ก็​ไม่ทันสังเกต

เหมือน​ตอนที่​เขา​ป่วย​ ​มี​ผู้คน​มากมาย​มา​อยู่​รอบตัว​เขา​เสมอ​ ​เขา​แค่​คิด​ว่า​จะ​ไล่​คน​พวก​นั้น​ออก​ไป​เช่นไร​ ​ตัวเอง​จะ​ได้​นอนหลับ​พักผ่อน​สักที​ ​จะ​มี​เวลา​ไหน​ไป​สนใจ​ว่าน​อก​หน้าต่าง​ปลูก​ต้น​อะไร​ไว้​ ​ดอก​อะไร​กำลัง​เบ่งบาน

สังเกต​ละเอียด​ขนาด​นั้น​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ตอนนั้น​นาง​โดดเดี่ยว​มาก​เพียงใด

เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​โอบกอด​สือ​อี​เหนียง​จาก​ข้างหลัง

เอว​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ผอม​เพรียว​ราวกับ​ต้น​หลิว​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ

นาง​รูปร่าง​สูง​ปานกลาง​แต่​ลำตัว​เรียว​ยาว​ ​เอว​คอด​ ​กระดูก​เล็ก​ ​ทำให้​นาง​ดู​สง่างาม​และ​บอบบาง​เป็นพิเศษ​ ​และ​ดู​สูง​กว่า​ความจริง​ไม่น้อย​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ดูดี​ ​แต่กลับ​ยัง​ไม่​เหมาะ​ที่จะ​มีลูก

ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พลัน​ใจสั่น

เขา​ครุ่นคิด​ ​จากนั้น​ก็​กระซิบ​ที่​หู​นาง​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​มี​ระดู​ครั้งแรก​เมื่อไร​”

สือ​อี​เหนียง​ที่​กำลัง​พูด​อยู่​ ​ได้ยิน​เช่นนี้​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หยุด​พูด​ ​จากนั้น​ก็​หน้าแดง​ระเรื่อ​จนถึง​ใบ​หู

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม​เบา​ๆ​ ​อีกครั้ง​ ​“​เมื่อไร​”

“​หลังจาก​มาที​่​เยี​่​ยน​จิง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​ความ​เขินอาย

อวี​๋​หัง​อยู่​ไกล​จาก​เยี​่​ยน​จิง​หลาย​พัน​ลี้​ ​นายท่าน​ใหญ่​สกุล​หลัว​และ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​มาถึง​ก่อน​ ​จากนั้น​นาย​หญิง​ใหญ่​ก็​พา​อู่​เหนียง​ที่​อายุ​สิบ​แปด​ปี​ ​สือ​เหนียง​ที่​อายุ​สิบห้า​ปีกั​บสื​ออี​เหนียง​ที่​ระดู​ยัง​ไม่​มามา​ที่​เยี​่​ยน​จิง​…​ ​และ​สุดท้าย​คนที​่​ได้​แต่งงาน​กับ​ตัวเอง​ก็​คือ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​เฉลียวฉลาด​ขนาด​นี้​ ​นาง​เคย​คิด​หา​สาเหตุ​ของ​เรื่อง​นี้​หรือไม่

สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​ใบหน้า​ที่​แดง​ราวกับ​ดอกบัว​สีแดง​ของ​นาง​ ​ความเจ็บปวด​ใน​คืน​วัน​แต่งงาน​ ​ความสบายใจ​ของ​คำพูด​ที่​อ่อนโยน​ภายใต้​แสงไฟ​สลัว​ ​ความสุข​ตอนที่​เต้นรำ​กับ​จุน​เกอ​ ​ความอ่อนโยน​ตอนที่​สั่งสอน​เจี​้ย​เกอ​ ​ความเมตตา​ใจดี​ตอนที่​ต้อง​เผชิญ​กับ​บรรดา​อี๋​เหนียง​…​มัน​วนเวียน​อยู่​ใน​หัว​ของ​เขา​ราวกับ​ขบวนรถ​ม้า​

ตอนนั้น​ตัดสินใจ​แต่งงาน​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​ถึงแม้ว่า​หยวน​เหนียง​จะ​บอกว่า​สือ​อี​เหนียง​ยัง​เด็ก​ ​แล้ว​เขา​ก็​ยัง​ไม่​อยาก​มีบุ​ตร​ชาย​ภรรยา​เอก​คนที​่​สอง​เร็ว​ๆ​ ​นี้​ ​แต่​เขา​เปลี่ยน​ความตั้งใจ​เดิม​ไป​นาน​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ทำพิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ผ่าน​ไป​ตั้ง​สี่​เดือน​แล้ว​ ​แต่กลับ​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​เลย​…​หรือว่า​ยัง​มีเหตุผล​อื่น

เมื่อ​ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ใน​หัว​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​เปลี่ยนไป

และ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ได้​ถึง​ความ​เงียบ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มอง​เขา​ด้วย​ความ​งงงวย

ดวงตา​ที่​กลม​โต​แบ่ง​สีขาว​ดำ​อย่างชัดเจน​ ​สดใส​ราวกับ​สายน้ำ​จาก​ภูเขา​ ​จน​นาง​สามารถ​มองเห็น​ภาพสะท้อน​ของ​ตัวเอง

สวี​ลิ่ง​อี๋​หลบตา​สือ​อี​เหนียง

หาก​รู้​แล้ว​จะ​ทำไม​เล่า​ ​ด้าน​หนึ่ง​คือ​สกุล​เดิม​ ​อีก​ด้าน​หนึ่ง​คือ​สามี​ ​นี่​คือ​ตำแหน่ง​ที่​วางตัว​ยาก​ที่สุด​ใน​โลก​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​หลังจากที่​นาง​แต่ง​เข้ามา​ใน​จวน​สกุล​สวี​ ​ก็​เป็น​เหมือน​ที่นาง​พูด​ไว้​ ​เพราะ​นาง​รู้​ว่าความ​เกลียด​เปลี่ยนแปลง​สภาวะ​ของ​นาง​ไม่ได้​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​กระทำ​มากกว่า​คำพูด​ ​เพราะว่า​มีเรื่อง​ที่​สำคัญ​มากกว่า​ความเกลียด​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​อ่อนโยน​และ​ใจกว้าง​มาต​ลอด​…

เขา​แนบ​หน้า​ตัวเอง​ลง​บน​รอยแผล​เป็น​ที่​หัว​ของ​สือ​อี​เหนียง

ใน​ตอนนี้​ ​เขา​หวัง​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ไม่รู้

บางครั้ง​ ​การ​ไม่รู้​ก็​คือ​วาสนา​อย่างหนึ่ง

*****

ไม่​กี่​วัน​ต่อมา​ ​ท่าน​ป้า​ที่​สือ​อี​เหนียง​ส่ง​ไป​แอบ​ฟัง​ข่าว​ที่​สกุล​หวัง​ก็​กลับมา​รายงาน​ ​“​…​ว่าไม่ได้​นะ​เจ้า​คะ​ ​คุณหนู​สิบ​ของ​เรา​ช่าง​ไม่ธรรมดา​ ​เรียก​ท่านกั​๋​วก​งมา​สั่งสอน​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้ท่า​นกั​๋​วกง​เชิญ​คน​ของ​ท่านกั​๋​วกง​ผู้เฒ่า​กลับมา​ ​แล้วยัง​บอกว่า​ ​ให้ท่า​นกั​๋​วกง​จัดการ​เรื่อง​นี้​ให้​เรียบร้อย​ภายใน​สาม​วัน​ ​ท่านกั​๋​วกง​ยัง​เด็ก​ ​จะ​รู้​ได้​เช่นไร​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​กัน​ ​สาเหตุ​ที่​เรื่อง​ใน​จวน​ถูก​พ่อแม่​แท้ๆ​ ​ของ​ท่านกั​๋​วก​งควบ​คุม​ ​ก็เพราะว่า​ท่านกั​๋​วกง​เชื่อฟัง​พ่อแม่​ของ​ตัวเอง​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​ไม่มีทาง​สนใจ​คำพูด​ของ​คุณหนู​สิบ​ ​แต่​คุณหนู​สิบ​ของ​เรา​ก็​ไม่ธรรมดา​ ​นาง​พูด​ทันที​ว่า​ ​หาก​ไม่​ทำตาม​ที่นา​งบ​อก​ ​นาง​ก็​จะ​ไป​ฟ้องศาล​ต้า​หลี​่​ว่า​ท่านกั​๋​วกง​ทรยศ​ ​อกตัญญู​ ​เป็น​ลูกบุญธรรม​ของ​คนอื่น​แต่กลับ​ให้​บิดา​มารดา​ของ​ตัวเอง​มา​จัดการ​เรื่อง​ใน​จวน​ ​ไม่สน​ใจ​แม่​บุญธรรม​ของ​ตัวเอง​ ​มารดา​แท้ๆ​ ​ของ​ท่านกั​๋​วกง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พูด​อย่าง​ไม่​สะทกสะท้าน​ว่า​ ​สกุล​หลัว​เป็น​สกุล​ขุนนาง​ ​เป็น​สกุล​ใหญ่​สกุล​โต​ของ​เจียง​หนาน​ ​สกุล​สวี​ก็​เป็น​สกุล​ขุนนาง​ ​ใต้เท้า​อวี​๋​ก็​ทำงาน​อยู่​ที่​ราชสำนัก​ ​หาก​คุณนาย​ใหญ่​ไม่สน​ใจ​อะไร​ ​ก็​เชิญ​ไป​ฟ้อง​ได้​เลย​ ​สุดท้าย​ท่าน​คิด​ว่า​จบ​ลง​เช่นไร​เจ้า​คะ​”

นี่​เป็น​วิธี​ของ​นาง​เช่นนั้น​หรือ

จะ​ไป​ฟ้องศาล​ต้า​หลี​่​ว่า​ลูกบุญธรรม​ของ​ตัวเอง​ทรยศ​ ​อกตัญญู​?

สือ​อี​เหนียง​พูดไม่ออก

แต่​หู่​พั่ว​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​กลับ​รีบ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​เป็น​เช่นไร​หรือ​เจ้า​คะ​”

ท่าน​ป้า​คน​นั้น​ก็​พูด​อย่าง​ภาคภูมิ​ว่า​ ​“​สุดท้าย​คุณหนู​สิบ​ของ​เรา​ไม่​พูด​อะไร​ทั้งนั้น​ ​ไป​ศาล​ต้า​หลี​่​กับ​แม่นาง​จิน​เหลียน​ ​มารดา​ของ​ท่านกั​๋​วกง​เห็น​ว่า​มัน​ผิดปกติ​ ​จึง​ไปรับ​คุณหนู​สิบ​กลับมา​ด้วยตัวเอง​ ​แล้วก็​ทำตาม​ที่​คุณหนู​สิบ​บอก​ทุก​เรื่อง​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท