ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 310 กระบี่สยบจักรพรรดิทั้งแปด โปรดชี้แนะข้า!

ตอนที่ 310 กระบี่สยบจักรพรรดิทั้งแปด โปรดชี้แนะข้า!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ในช่วงเวลาสั้น ๆ การต่อสู้ด้านบนยิ่งเดือดพล่านขึ้น

หนิงฝานยังคงต่อสู้แบบแปดต่อหนึ่ง เขาเปรียบกับมังกรคุ้มคลั่งที่กำลังเริงระบำในสรวงสวรรค์ เวลานี้เขาไม่ต่างจากเซียนกระบี่แท้จริงที่สามารถตัดขาดโลกทั้งใบ ชายหนุ่มปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดข่มเหงไปทุกหนแห่ง หนึ่งคนหนึ่งกระบี่บดขยี้จักรพรรดิทั้งแปดจนไม่อาจเงยหน้าสู้ฟ้าได้!

ระหว่างการต่อสู้ จักรพรรดิทั้งแปดเริ่มสั่นคลอน ในจิตใจลอบหวั่นไหวอย่างลับ ๆ

ความแข็งแกร่งของหนิงฝานเหนือความคาดหมายของพวกเขา และเวลานี้ทั้งหมดรู้สึกต่ำต้อยและอ่อนแอ

ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้มันจะเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับองค์ราชันเพียงผู้เดียวเท่านั้น

“เป็นไปได้หรือไม่ว่าหนิงฝานผู้นี้จะสามารถครองตำแหน่งองค์ราชันได้?”

“ดูเหมือนว่าพวกเราจะประเมินหนิงฝานต่ำไปเสียแล้ว!”

“ดูเหมือนว่าอวี่รั่วเสวียนจะกล่าวถูกต้อง!”

“เอาล่ะ เรามาดูกันเถิดว่าเขามีคุณสมบัติเพียงพอจะเอาชนะได้หรือไม่!”

“…”

จักรพรรดิทั้งแปดพูดคุยกันระหว่างต่อสู้ สายตาของทุกคนพลันแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

“ผนึกจักรพรรดิเหริน!”

ทันใดนั้น จักรพรรดิเหรินเป็นคนแรกที่เปิดปากคำรามกึกก้อง พลังงานอันน่าสะพรึงปกคลุมทั่วท้องฟ้า ร่างกายพุ่งทะยานราวกับคลื่นทะเลคลั่ง ก่อนจะควบแน่นเป็นผนึกโบราณอันน่าหวาดหวั่นที่ยิ่งใหญ่กว่าหนึ่งล้านฟุตทันที ผนึกจักรพรรดิเหรินเปล่งแสงสีทองสว่างไสวพร้อมปลดปล่อยพลังบ้าคลั่ง

“หนึ่งกระบี่พลิกสวรรค์!”

“เซียนจันทราจุติ!”

“กระจกสมบัติสวรรค์ลึกล้ำ!”

“จักรพรรดิปีศาจกลืนสวรรค์!”

“…”

ทันทีที่จักรพรรดิเหรินเปิดการโจมตี จักรพรรดิหนี่และคนอื่น ๆ ก็เปิดใช้งานสุดยอดพลังของตนด้วยเช่นกัน

ในชั่วพริบตา ปราณกระบี่ส่องสว่างทั่วท้องฟ้า เคลื่อนผ่านจันทราสุกสกาว กระจกส่องแสงสว่างเจิดจ้าสะท้อนโลกทั้งใบ และภาพจำแลงปีศาจของจักรพรรดิเยา… สิ่งต่าง ๆ ค่อย ๆ ปรากฏออกมาทีละอย่าง

ครืน!

ท้องฟ้า โลกา และห้วงอากาศทั้งหมดไม่อาจต้านทานพลังเหล่านี้ได้ ทั้งหมดเริ่มพังทลายลง ชัดเจนว่าพลังเหล่านี้ยิ่งใหญ่เกินควบคุม

“หนิงฝาน นี่คือสุดยอดพลังของพวกเราทั้งแปด หากเจ้าสามารถรับมือได้ จักรพรรดิทั้งหมด… จะยอมจำนน!”

ตู้ม!

เสียงคำรามลือลั่นจากจักรพรรดิเหรินดังขึ้น เขาผลักสุดยอดพลังออกไป เวลานี้ผนึกจักรพรรดิเหรินเปรียบดั่งภูเขาเซียนโบราณ นำพาพลังเซียนที่พร้อมบดขยี้โลกและสั่นสะเทือนห้วงความว่างเปล่าทั้งหมดเพื่อทำลายหนิงฝาน!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

จักรพรรดิเหริน จักรพรรดิหนี่ และคนอื่น ๆ ทั้งหมดระดมปล่อยพลังใส่หนิงฝาน พลังมหาศาลแทบจะฉีกโลกทั้งใบออกเป็นเสี่ยง ฉีกผ่านอากาศทั้งหมดพร้อมโจมตีชายหนุ่มไปพร้อมกับการทำลายโลกในคราวเดียว

“ดี!”

“แย่แล้ว!”

“จักรพรรดิหนิงจะสามารถปิดกั้นการโจมตีนั้นได้หรือไม่!?”

เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว ฝูงชนที่มองดูอยู่อดไม่ได้ที่จะสั่นเทาขึ้นมา

ในสายตาของพวกเขานั้น การโจมตีแต่ละครั้งของจักรพรรดิทั้งแปดล้วนน่าสะพรึงกลัว มันแทบจะทำลายล้างโลกในกระบวนท่าเดียว

“ฮ่าฮ่า! ก็แค่ของเล่นเด็กทั่วไป ข้าจะทำลายมันในกระบี่เดียว!”

ทว่าเวลานี้หนิงฝานกลับยกยิ้มเหยียดหยาม

ชิ้ง ชิ้ง!

ขณะที่ร่างกายสั่นสะท้าน พลังต้องห้ามมหาศาลหลั่งไหลเข้าสู่กระบี่ต้าหลัวในมือ ทันใดนั้นกระบี่ส่งเสียงประหลาด มันฉายแสงศักดิ์สิทธิ์แวววาวสมกับเป็นกระบี่เซียน!

“ตัด!”

หนิงฝานสับฟันกระบี่ออกไปโดยตรง

ฟิ้ว!

ด้วยกระบี่เล่มนี้ ท้องฟ้า แผ่นดิน และอากาศถูกตัดขาดเป็นสองส่วน พลังมหาศาลของกระบี่กวาดออกไปเป็นวงกว้าง

ตู้ม!

พริบตาเดียว กระบี่สับฟันจักรพรรดิทั้งแปด เสียงระเบิดดังกึกก้องทั่วท้องฟ้า เขย่าโลกาทั้งหมด ห้วงความว่างเปล่านับหมื่นลี้ถูกทำลายสิ้น

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ในช่วงเวลาถัดมา เสียงระเบิดดังขึ้นราวกับมีการจุดดอกไม้ไฟครั้งแล้วครั้งเล่า พลังโจมตีของจักรพรรดิทั้งแปดค่อย ๆ เลือนหายไปทีละคน แม้แต่ภาพจำแลงปีศาจของจักรพรรดิเยายังสูญสลาย กระจกส่องสะท้อนโลกาแตกออกเป็นเสี่ยง และจันทราเซียนก็ยังพังทลาย…

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

เมื่อพลังโจมตีสูญสลายไป จักรพรรดิทั้งหมดล้มลงพร้อมกระอักโลหิตคำใหญ่ออกมา

“อ๊าก!”

“ข้าป้องกันเอง!”

เวลานี้จักรพรรดิเหรินปลดปล่อยเสียงคำรามลือลั่น ก่อนจะผลักผนึกจักรพรรดิเหรินออกไปในแนวระนาบด้วยพละกำลังทั้งหมด แม้กระทั่งยอมเผาไหม้พลังต้นกำเนิดของตน เพื่อรักษาศักดิ์ศรีอันแข็งแกร่งของตนเอง เขายินยอมใช้ทุกสิ่งเพื่อขัดขวางหนิงฝาน!

“ไร้ประโยชน์!”

หนิงฝานแค่นเสียงเย้ยหยัน ก่อนจะขยับกระบี่ในมืออีกครั้ง

ตู้ม!!

ผนึกจักรพรรดิเหรินสูงกว่าแสนจั้งพังทลายลงทันที ก่อนจะเหลือเพียงลำแสงเซียนไร้ที่สิ้นสุดล่องลอยไปไกล

พรึ่บ!

จักรพรรดิเหรินกระเด็นออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ และไม่สามารถหยุดยั้งโลหิตที่หลั่งไหลออกจากปากได้!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ท้ายที่สุด ขณะที่ปราณกระบี่ของกระบี่กวาดไปทั่วทิศ จักรพรรดิทั้งแปดพ่ายแพ้พร้อมกระเด็นลอยกลับ โลหิตจักรพรรดิหลั่งไหลจนท่วมท้นอากาศทั้งหมด

ตู้ม!

เมื่อเห็นฉากอันน่าอัศจรรย์เหล่านี้ ราชวงศ์เซียนฮวงเทียนทั้งหมดตกอยู่ในความโกลาหลทันที

“สวรรค์! พ่ายแพ้! จักรพรรดิทั้งแปดพ่ายแพ้แล้ว!”

“กระบี่เดียวสยบแปดจักรพรรดิ! จักรพรรดิหนิงเป็นอมตะ!”

“ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าจักรพรรดิหนิงจะยึดครองบัลลังก์ได้?”

“วันนี้แม้ว่าจักรพรรดิหนิงจะไม่สามารถเอาชนะองค์ราชันได้ แต่เขาก็อยู่ภายใต้เพียงหนึ่ง และสูงกว่าหมื่นคนในราชวงศ์เซียนฮวงเทียน!”

“จักรพรรดิหนิงผู้นี้มีอายุเพียงหนึ่งพันปี แต่กลับมาถึงจุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีผู้ใดกระทำได้มาก่อน!”

“…”

ทุกคนจับจ้องหนิงฝานด้วยความตื่นตระหนก พร้อมกับเผยความชื่นชมอย่างไร้การควบคุม

“พวกเรา… พ่ายแพ้!”

เวลานี้ จักรพรรดิทั้งแปดที่นำโดยจักรพรรดิเหรินหยุดยืนนิ่ง พวกเขาไม่มีความละอายใจ ไม่ขุ่นเคือง เหลือเพียงรอยยิ้มบิดเบี้ยว เพราะไม่รู้ว่าจะวางตัวอย่างไรดี!

เดิมที พวกเขาคิดเพียงว่าหนิงฝานที่เพิ่งทะลวงสู่ขอบเขตจักรพรรดิเซียนจะมีพลังเพียงเล็กน้อย แต่เวลานี้อีกฝ่ายเอาชนะพวกเขาได้ด้วยความแข็งแกร่งของตนเอง!

“ดี!”

“การอุ่นเครื่องจบแล้ว และการต่อสู้ที่แท้จริงกำลังจะเริ่ม!”

โดยไม่สนใจความตื่นตระหนกของทุกคน หนิงฝานบิดกล้ามเนื้อไปมาก่อนจะหันมอง… องค์ราชัน!

เมื่อเห็นเช่นนั้น ฝูงชนเริ่มกลับมาพูดคุยกันอย่างออกรสอีกครั้ง

“เพ้ย! หนิงฝานคิดท้าทายองค์ราชัน!”

“ท้าทายราชัน! นี่เป็นครั้งแรกของราชวงศ์เซียนฮวงเทียน!”

“ข้าไม่มั่นใจว่าหนิงฝานจะสามารถประสบความสำเร็จได้หรือไม่!”

“ไม่น่าเป็นไปได้! ท้ายที่สุดแล้ว องค์ราชันนั้นคืออมตะแท้จริง!”

“ถูกต้อง! ไม่ว่าหนิงฝานจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่เขาเพิ่งทะลวงเข้าสู่ขอบเขตจักรพรรดิเซียน และเขาย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ขององค์ราชันแน่นอน!”

“…”

เวลานี้ องค์ราชันยกยิ้มจาง ใบหน้าสง่างามมองหนิงฝานพร้อมกล่าวคำ “หนิงฝาน… ข้าจะให้โอกาสเจ้าเพียงครั้งเดียวในการท้าทายราชัน แล้วแน่ใจหรือว่าเจ้าต้องการใช้มันวันนี้? ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าด้วยพรสวรรค์ของเจ้า หากยกระดับให้เทียบเท่ากับข้าเสียก่อน มันจะสำเร็จแน่นอน แต่เวลานี้ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะสามารถทำได้!”

เมื่อได้ยินแล้ว หนิงฝานก็เงียบไปชั่วขณะ

สิ่งที่องค์ราชันกล่าวนั้นย่อมถูกต้อง แต่เมื่อเขานึกถึงหลัวชิงเซียนที่หายไปกว่าสองพันปี เขาก็เผยสีหน้าเคร่งขรึมก่อนจะกล่าวตอบ “ท่านองค์ราชัน ข้ารอมานานมากพอแล้ว และข้าไม่อยากรออีกต่อไป… ดังนั้นวันนี้จึงสมควรมีการต่อสู้เพื่อแย่งชิงบัลลังก์!”

ต้องมั่นใจ!

ต้องทำให้สำเร็จ!

เพื่อหลัวชิงเซียน เขาจะไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับองค์ราชันก็ตาม!

“ดี!”

“ในเมื่อเจ้าตัดสินใจเช่นนั้น ข้าก็จะทำให้ความปรารถนาของเจ้าเป็นจริง!”

เมื่อเห็นสิ่งนี้ องค์ราชันพยักหน้าพร้อมทะยานลงจากท้องฟ้า “ข้าสัญญา… ตราบใดที่เจ้าสามารถเอาชนะข้าได้ ข้าจะบอกความหมายของบงกชเซียนเก้ากลีบต่อเจ้า และข้าจะมอบให้เจ้าเป็นองค์ราชันองค์ใหม่ของราชวงศ์เซียนฮวงเทียน!”

“ยินดีแล้ว!”

หนิงฝานไม่สนใจตำแหน่งองค์ราชัน แต่เขาต้องการรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับบงกชเซียนเก้ากลีบ!

ชิ้ง!

ลมหายใจถัดมา หนิงฝานขยับกระบี่ในมือก่อนจะปลดปล่อยเจตจำนงแห่งกระบี่ออกมาอย่างท่วมท้น

“องค์ราชัน โปรดชี้แนะข้าด้วยเถิด!”