ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 367 เรื่องตลก(ต้น)

ตอนที่ 367 เรื่องตลก(ต้น)

ฝั่ง​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ครื้นเครง​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็ได้​รับ​ข่าว​แล้ว​เช่นกัน

“​เร็ว​เข้า​ ​ไป​บอกอี​๋​เจิน​เร็ว​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​สั่ง​เว​่ย​จื่อ​ให้​ไป​บอกข่าว​ ​“​บอก​นาง​ว่า​ ​คุณชาย​น้อย​สอบผ่าน​ระดับ​มณฑล​แล้ว​”

เว​่ย​จื่อ​ย่อเข่า​คำนับ​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​เรือน​เสา​หวา​อย่าง​มีความสุข

ฮู​หยิน​สอง​กำลัง​เขียนหนังสือ​อยู่​ที่​โต๊ะ​ ​ได้ยิน​ข่าว​ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​สอบผ่าน​ระดับ​มณฑล​แล้ว​นาง​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มาด​้วย​ใบหน้า​ที่​มี​รอยยิ้ม​จางๆ​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​เจี​๋ย​เซียง​เก็บ​ข้าวของ​ ​“​…​เรา​ไป​ที่​เรือน​ไท่ฮู​หยิน​กัน​เถิด​”

เจี​๋ย​เซียง​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​กับฮู​หยิน​สอง

เดิน​เข้า​ประตู​มาก​็​เห็น​หู่​พั่ว​ ​สาวใช้​คนสนิท​ของ​สือ​อี​เหนียง​ยืน​อยู่​ใต้​ชายคา

“ฮู​หยิน​สี่​มาตั​้ง​นาน​แล้ว​?​”​ ​เจี​๋ย​เซียง​พูด​พึมพำ​เบา​ๆ​ ​ก็​เห็น​หู่​พั่ว​เดิน​เข้ามา​ย่อเข่า​คำนับฮู​หยิน​สอง​ด้วย​ความเคารพ​ ​“ฮู​หยิน​สอง​เจ้า​คะ​!​”

ฮู​หยิน​สอง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​แล้ว​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้องโถง

มีเสียง​หัวเราะ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ดัง​ออกมา​จาก​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันตก​ ​“​…​ทำตาม​ที่​เจ้า​บอก​ ​ทำตาม​ที่​เจ้า​บอก​”

ไม่รู้​ว่า​คราวนี้​สือ​อี​เหนียง​เสนอ​ความคิดเห็น​อะไร​อีก​ ​ทำเอา​ไท่ฮู​หยิน​มีความสุข​ขนาด​นี้

ฮู​หยิน​สอง​เลิก​คิ้ว

สาวใช้​ที่​ยืน​อยู่​หน้า​ม่าน​ก็​เปิดม่าน​ขึ้น​พร้อมกับ​รายงาน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​สอง​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

ฮู​หยิน​สอง​เดิน​เข้ามา

ไท่ฮู​หยิน​และ​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​อยู่​ข้าง​กัน​บน​เตียง​เตา​อย่างสนิทสนม​ ​เมื่อ​เห็นฮู​หยิน​สอง​เข้ามา​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​รีบ​กวักมือ​เรียก​นาง​ ​“​อวี​้​เกอ​ของ​เรา​อยู่​อันดับ​เก้า​ ​สอบ​ได้​อันดับ​เก้า​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​ท่าที​ที่​มีความสุข

ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​เข้าไป​คำนับ​ ​“​อวี​้​เกอ​ได้​ไป​เจอ​กับ​อาจารย์​ที่​มี​ความสามารถ​จริงๆ​ ​เสีย​แล้ว​ ​เขา​ไป​เล่อ​อาน​แค่​สี่​ห้า​เดือน​เอง​เจ้าค่ะ​!​”

“​ใช่​แล้ว​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พยักหน้า​ ​“​โชคดี​ที่​มี​อาจารย์​เจียง​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​สือ​อี​เหนียง​บอกว่า​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​สอบผ่าน​แค่​ระดับ​มณฑล​ ​ ​แต่​มัน​คือ​ก้าว​แรก​ของ​การ​เดินทาง​ ​เป็นเรื่อง​ที่​ควรจะ​เฉลิมฉลอง​ ​แต่​หาก​จัดงาน​ใหญ่​เกินไป​ ​ต่อไป​อวี​้​เกอ​ยัง​ต้อง​สอบ​จู่​เห​ริน​และ​บัณฑิต​ชั้นสูง​ ​กลัว​ว่า​เขา​จะ​กดดัน​และ​กังวล​มากเกินไป​ ​อีก​ไม่​กี่​วัน​ก็​ถึง​วันที่​สาม​เดือน​สาม​แล้ว​ ​ไม่​สู้​เชิญ​ญาติสนิท​มิตรสหาย​มาที​่​จวน​ ​ไม่ต้อง​บอกว่า​เรื่อง​อะไร​ ​คนที​่​รู้​ก็​คงจะ​รู้อยู่​แล้ว​ ​คนที​่​ไม่รู้​ก็​ไม่ต้อง​บอก​ ​เจ้า​คิด​เช่นไร​บ้าง​”

ตอนที่ฮู​หยิน​สอง​เดิน​เข้ามา​ที่​ประตู​นาง​ได้ยิน​ไท่ฮู​หยิน​พูดว่า​ ​“​ทำตาม​ที่​เจ้า​บอก​”​ ​นาง​จะ​ไม่รู้​เจตนา​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ได้​อย่างไร​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ความคิด​ของ​น้อง​สะใภ้​สี่​ข้า​ก็​คิด​ว่า​ดีเจ​้า​ค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ว่า​พวก​นาง​สอง​คนพูด​เหมือนกัน​ ​ก็ดี​ใจ​ ​จากนั้น​ก็​ไล่​รายชื่อ​คนที​่​จะ​เชิญ​มาร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ให้ฮู​หยิน​สอง​และ​สือ​อี​เหนียง​ฟัง

ยัง​ไม่​ถึง​ยาม​บ่าย​ ​ทุกคน​ใน​จวน​ต่าง​ก็​รู้กัน​หมด​แล้ว

ฉิน​อี๋​เหนียง​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ใหม่​ ​ล้างหน้าล้างตา​ ​จุด​ธูป​ให้พระ​โพธิสัตว์​สาม​ดอก​ด้วย​ความเคารพ​ ​เอาแต่​สวดมนต์​อยู่​ตั้ง​นาน​ ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ได้ยิน​แค่​คำ​ว่า​ ​“​ขอให้​ทุกอย่าง​ราบรื่น​ไป​ด้วยดี​”​ ​“​ขอให้​ทุกอย่าง​กลับมา​ดี​เหมือนเดิม​”​ ​นาง​รู้​ว่า​ฉิน​อี๋​เหนียง​กำลัง​ขอให้​พระโพธิสัตว์​ปกป้อง​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​นึกถึง​สอง​สาม​คืน​มานี​้​ฉิน​อี๋​เหนียง​นอน​ไม่​ค่อย​หลับ​ ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​แอบ​ยิ้มอยู่​ข้างๆ​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​ชงชา​เข้ามา​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​กำลัง​ไหว้พระ​โพธิสัตว์​เสร็จ​แล้ว​ลุกขึ้น​ยืน​พอดี

ชุ่ย​เอ๋อร​์​รีบ​วาง​ถ้วย​ชาล​งบน​โต๊ะ​บน​เตียง​เตา​ ​แล้ว​เดิน​เข้าไป​ประคอง​ฉิน​อี๋​เหนียง

“​อี๋​เหนียง​เจ้า​คะ​ ​ได้ยิน​มา​ว่าฮู​หยิน​บอก​ให้​โรง​ครัว​เพิ่ม​อาหาร​ ​แล้วยัง​ส่ง​คน​ไป​นำ​เหรียญ​ออกมา​ให้​เป็น​รางวัล​เจ้าค่ะ​!​”

ฉิน​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​แต่​ใบหน้า​กลับ​ไม่ได้​มีความสุข​มาก​นัก

ชุ่ย​เอ๋อร​์​ตกใจ​ ​จากนั้น​นาง​ก็​เอ่ย​เรียก​ ​“​อี๋​เหนียง​เจ้า​คะ​”

ฉิน​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​ก็​ถอนหายใจ​ ​“​กลัว​ว่า​เขา​จะ​สอบ​ไม่​ผ่าน​แล้ว​ทำให้​ท่าน​โหว​ไม่พอใจ​ ​แต่​ก็​กลัว​ว่า​เขา​จะ​สอบผ่าน​….​แล้ว​ต้อง​กลับ​ไป​เล่อ​อาน​!​”​ ​พูด​พร้อมกับ​เดิน​ไป​นั่ง​ที่​เตียง​เตา

ชุ่ย​เอ๋อร​์​รีบ​ย่อ​ตัว​ลง​ถอด​รองเท้า​ให้​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​นึกถึง​เรื่อง​ที่​เหวิน​จู๋​บอกว่า​ไม่ว่า​จะ​สอบผ่าน​หรือไม่ก็​จะ​กลับ​ไป​เล่อ​อาน​อยู่ดี​ ​นาง​ลังเล​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ใกล้​จะ​ถึง​วันที่​สาม​เดือน​สาม​แล้ว​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​ต้อง​รอ​ให้​ถึง​วันที่​สาม​เดือน​สาม​ก่อน​แล้ว​ค่อย​กลับ​เจ้าค่ะ​”​ ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ไม่​มั่นใจ

“​ล้วน​ขึ้นอยู่กับ​ท่าน​โหว​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ขมวดคิ้ว​ ​ทำท่า​เป็นกังวล​ ​“​ต้องหา​วิธี​ให้​คุณชาย​น้อย​สอง​อยู่​ที่​จวน​นาน​สักหน่อย​!​”

ชุ่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พยักหน้า

ไม่ว่า​เล่อ​อาน​จะ​ดี​แค่ไหน​ ​แต่​มัน​ก็​เป็นพื้น​ที่​ชนบท​ ​จะ​เทียบ​กับ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ใจ​เยี​่​ยน​จิง​ได้​อย่างไร​…

“​ต้อง​คิด​หาวิ​ธี​ให้​คุณชาย​น้อย​สอง​อยู่​ที่​จวน​นาน​สักหน่อย​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​ช่วย​คิด​หาวิ​ธี​ ​“​หลังจาก​วันที่​สาม​เดือน​สาม​…​ก็​คือ​เทศกาล​เช็ง​เม้ง​”​ ​พูด​จบ​สายตา​ของ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ก็​เป็นประกาย​ขึ้น​มา​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​สอบผ่าน​ระดับ​มณฑล​ ​เป็นเรื่อง​ที่​น่ายินดี​เรื่อง​หนึ่ง​ ​ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​ไปรา​ยงา​นบร​รพ​บุรุษ​ไม่ใช่​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​ใช่​สิ​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็ได้​สติก​ลับ​มา​ ​“​ทำไม​ข้า​ถึง​คิดไม่ถึง​กัน​ ​หลังจาก​วันที่​สาม​เดือน​สาม​คือ​เทศกาล​เช็ง​เม้ง​ ​หลังจาก​เทศกาล​เช็ง​เม้ง​ก็​เป็น​วันเกิด​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ล้วนแต่​เป็นเรื่อง​ที่​ต้อง​แสดง​ความกตัญญู​!​”

ชุ่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​ตา​เป็น​พระจันทร์​ครึ่ง​เสี้ยว

ภายใน​ห้อง​หนังสือ​ที่​เรือน​เสา​หวา​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่​ฉิน​อี๋​เหนียง​กำลัง​คิดถึง​กลับ​ยืน​อยู่​ต่อหน้าฮู​หยิน​สอง​ด้วย​ความเคารพ

“​ไม่รู้​ว่า​มี​กี่​คนที​่​เป็นได้​แค่​บัณฑิต​รุ่นเยาว์​ตลอดชีวิต​”​ ฮู​หยิน​สอง​จิบ​ชา​ ​“​เส้นทาง​ของ​เจ้า​ยัง​อีก​ยาว​ไกล​ ​อย่า​เย่อหยิ่ง​เพียง​เพราะ​ก้าว​เล็ก​ๆ​ ​ก้าว​นี้​ ​เวลา​ทุก​นาที​มีค่า​ ​เจ้า​ต้อง​อย่า​ทำผิด​ต่อ​ช่วงเวลา​ที่​ดี​เช่นนี้​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​หลังจาก​วันที่​สาม​เดือน​สาม​เจ้า​ก็​เดินทาง​กลับ​เล่อ​อาน​เถิด​ ​อาจารย์​เจียง​เป็น​คน​มี​ความสามารถ​ ​เจ้า​ต้อง​รู้จัก​รักษา​โอกาส​นี้​เอาไว้​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​โค้ง​คำนับ​แล้ว​ตอบรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​แต่กลับ​มีสี​หน้า​แปลกใจ​ ​“​เดิมที​ข้า​คิด​ว่า​ประกาศ​รายชื่อ​แล้วก็​จะ​กลับ​เล่อ​อาน​ทันที​…​ ​“

ฮู​หยิน​สอง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ชื่นชม​ ​นาง​อธิบาย​ว่า​ ​“​นี่​คือ​เจตนา​ของ​ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​ ​บอกว่า​เจ้า​สอบผ่าน​แล้ว​ ​อยาก​จะ​ฉลอง​ให้​กับ​เจ้า​ ​แต่​ก็​กลัว​ว่า​เจ้า​จะ​กังวล​ ​จึง​อยาก​ถือโอกาส​วันที่​สาม​เดือน​สาม​คึกคัก​กัน​สักหน่อย​”​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เรียบ​นิ่ง​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่ได้​คัดค้าน​เรื่อง​นี้

เมื่อ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​มีสี​หน้า​ดีใจ​ ​“​เช่นนั้น​หลังจาก​วันที่​สาม​เดือน​สาม​ข้า​ค่อย​กลับ​ไป​ขอรับ​”

ฮู​หยิน​สอง​พูด​ ​“​อืม​”​ ​เบา​ๆ​ ​หยิบ​กล่อง​สีดำ​เล็ก​ๆ​ ​บน​โต๊ะ​ยื่น​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​จานรอง​หมึก​นี้​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​เจ้า​นำไปใช้​เถิด​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา

สวี​ซื่อ​อวี​้​รับ​จานรอง​หมึก​มาด​้ว​ยส​อง​มือ​ ​แล้ว​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา

เมื่อ​กลับมา​ที่​เรือน​ก็​เห็น​กระดาษ​เติง​ซิน​และ​จาก​ฝน​หมึก​สี่เหลี่ยม​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​หนังสือ

เหวิน​จู๋​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​กระดาษ​เฉิง​ซิน​คือ​ของฮู​หยิน​ ส​่​วจาก​ฝน​หมึก​คือ​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เจ้าค่ะ​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​พยักหน้า​ ​นำ​จานรอง​หมึก​ที่ฮู​หยิน​สอง​มอบให้​วาง​ไว้​ข้างๆ​ ​“​เก็บ​ไว้​เถิด​ ​เรา​จะ​ออกเดินทาง​หลังจาก​วันที่​สาม​เดือน​สาม​”

เหวิน​จู๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ

สวี​ซื่อ​อวี​้​นั่งลง​บน​โต๊ะ​หนังสือ​ ​“​ท่าน​แม่​อยาก​จะ​จัดงาน​เลี้ยง​ฉลอง​ให้​ข้า​ใน​วันที่​สาม​เดือน​สาม​!​”

*****

“​ก็​แค่​สอบผ่าน​ระดับ​มณฑล​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ไม่เห็นด้วย​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​ช่างมัน​เถิด​!​ ​ให้​เขา​กลับ​ไป​เล่อ​อาน​เร็ว​หน่อย​ ​จะ​ได้​เริ่ม​เรียน​เร็ว​หน่อย​”

“​เรื่อง​เรียน​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​ทำสำเร็จ​ได้​ใน​ชั่ว​ข้ามคืน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​ก็​แค่​ช้า​ไป​เพียง​ไม่​กี่​วัน​เอง​เจ้าค่ะ​”

ขณะที่​นาง​กำลัง​พูด​ ​ก็​มีเสียง​ขลุ่ย​ไม้​ไผ่​ดัง​ออกมา​จาก​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันออก

สวี​ลิ่ง​อี๋​ขมวดคิ้ว​ ​“​เขา​จะ​เป่า​อีก​นาน​แค่ไหน​”

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยกำ​ลัง​ฝึก​เป่าขลุ่ย​ไม้​ไผ่​อยู่​ที่​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันออก

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​มองดู​นาฬิกาไขลาน​ ​“​ยัง​จะ​เป่า​อีก​หนึ่ง​เค​่อ​เจ้าค่ะ​!​”

ในขณะที่​นาง​พูด​ ​ก็​มีเสียง​ ​ปี่​ ​ปี่​ ​ดัง​ออกมา​จาก​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันออก​อีกครั้ง

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดไม่ออก

สือ​อี​เหนียง​ก็​แสร้งทำ​เป็น​ไม่เห็น​ ​จากนั้น​ก็​พูดถึง​เรื่อง​งานเลี้ยง​กับ​เขา​ราวกับ​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​ ​“​ฝั่ง​ของ​เจียงฮู​หยิน​ ​เกรง​ว่า​คง​ต้อง​เชิญ​!​”

มีเสียง​ ​ปี่​ ​ปี่​ ​ดัง​ขึ้น​มา​อีกครั้ง

“​แน่นอน​อยู่​แล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยายาม​ไม่สน​ใจเสียง​นั้น​ให้​มาก​ที่สุด​ ​“​อวี​้​เกอ​สอบผ่าน​ครั้งนี้​ ​อาจารย์​เจียง​ก็​มี​ความดี​ความชอบ​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​เรา​ก็​ต้อง​แสดง​ความ​ขอบคุณ​พวกเขา​”

ทันทีที่​เขา​พูด​จบ​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​ก้มหน้า​เดิน​เข้ามา

เขา​คำนับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ใบหน้า​ที่​บูดบึ้ง​

“​เป็น​อะไร​ไป​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ลุกขึ้น​เดิน​ไปหา​เขา​ ​นาง​นั่งยองๆ​ ​แล้ว​ลูบ​หัว​เขา​เบา​ๆ

“​เป่า​ไม่​เป็น​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​้​มห​น้า​ลง​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เป่า​ไม่มี​เสียง​ขอรับ​!​”

“​ดีมาก​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​อุ้ม​เขา​ ​“​ตอนที่​ท่าน​แม่​อายุ​เท่า​เจ้า​ ​ยัง​เป่า​ไม่​ออก​เลย​แม้แต่​เสียง​เดียว​ ​จนถึง​ตอนนี้​ก็​ยัง​เป่าขลุ่ย​ไม่​เป็น​เลย​!​”

“​จริง​หรือ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เงยหน้า​ขึ้น​ ​ดวงตา​สดใส​ราวกับ​ดวงดาว

“​จริง​สิ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ครุ่นคิด​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​หาก​ข้า​เป่า​เป็น​แล้ว​ข้า​จะ​สอน​ท่าน​แม่​เอง​ขอรับ​”

“​ได้​เลย​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​ความดีใจ​ ​“​ถ้าอย่างนั้น​ข้า​จะ​รอ​ให้​เจี​้ย​เกอ​สอน​เป่าขลุ่ย​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพ​ยัก​หน้า​อย่างจริงจัง

สือ​อี​เหนียง​อุ้ม​เขา​ส่ง​ให้​สะใภ้​หนาน​หย่ง​ ​“​ไป​ล้างมือ​ล้างหน้า​ ​ประเดี๋ยว​เรา​ไป​ทานข้าว​เย็น​ที่​เรือน​ของ​ท่าน​ย่า​กัน​”

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอ​อก​ไป​กับ​สะใภ้​หนาน​หย่ง​อย่าง​รู้ความ

สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูดว่า​ ​“​เจ้า​จะ​โกหก​ลูก​ไม่ได้​ ​เขา​คิด​จริง​”

หมายถึง​เรื่อง​ที่จะ​เรียน​เป่าขลุ่ย​ไม้​ไผ่​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ใช่​หรือไม่​!

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​ไม่ได้​โกหก​เขา​ ​หาก​มี​วันนั้น​จริงๆ​ ​ข้า​จะ​ให้​เขา​สอน​จริงๆ​ ​เจ้าค่ะ​!​”

เช่นนั้น​ศักดิ์ศรี​ของ​ความ​เป็น​ท่าน​แม่​อยู่​ที่ไหน

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ยิ้มแย้มแจ่มใส​ ​เขา​ทำท่า​ที​ไม่เห็นด้วย​แล้ว​ครุ่นคิด​ ​คิด​ว่า​เจี​้ย​เกอ​ยัง​เด็ก​ ​บางที​ถึง​ตอนนั้น​แล้ว​เขา​อาจจะ​ลืม​เรื่อง​นี้​ไป​แล้วก็​ได้​ ​จึง​ไม่​พูด​อะไร​

หลิน​ปัว​มา​ขอ​พบ

“​ท่าน​โหว​ ​เฮ่อ​กง​กง​มา​ขอรับ​”

เฮ่อ​กง​กง​คือ​ขันที​คนสนิท​ของ​ฮ่องเต้​ ​แล้วยัง​เป็น​หัวหน้า​ขันที​ใน​พระตำหนัก​เฉียน​ชิง​ ​มาที​่​นี่​ตอนนี้​ ​ไม่รู้​ว่า​มีเรื่อง​อัน​ใด​!

สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​อย่าง​ไม่สบายใจ

แต่​สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​เรียบ​เฉย​ ​“​สวม​ชุด​เครื่องแบบ​หรือ​ชุดลำลอง​?​”

“​ชุด​เครื่องแบบ​ขอรับ​”​ ​หลิน​ปัว​พูด​ด้วย​สายตา​ที่​สับสน​ ​“​แต่​ท่าที​ดูเหมือน​จะ​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​อะไร​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​แล้ว​บอก​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ข้า​ออก​ไปดู​ประเดี๋ยวเดียว​”​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ออก​ไป​ยัง​ห้อง​หนังสือ​ลาน​ข้างนอก

สือ​อี​เหนียง​อุ้ม​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แล้ว​เล่านิทาน​ใน​หนังสือ​ ​‘​คัมภีร์​สาม​อักษร​’​ ​ให้​เขา​ฟัง​สอง​สาม​เรื่อง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​กลับมา​พอดี

“​เปลี่ยน​ชุด​ราชสำนัก​ให้​ข้า​ ​ข้า​จะเข้า​ไป​พระราชวัง​”

สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​สะใภ้​หนาน​หย่ง​พาส​วี​ซื่อ​เจี​้ย​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​จากนั้น​ก็​บอก​สาวใช้​ไป​หยิบ​ชุด​ราชสำนัก​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มาสวม​ให้​เขา​

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​ ​“​เจ้า​ช่าง​ใจเย็น​!​”

สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ผูก​ผ้า​ตรง​เอว​ให้​เขา​ ​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​ ​“​ท่าน​โหว​ยัง​ไม่​ใจร้อน​ ​ข้ามี​อะไร​ต้องใจ​ร้อน​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​ ​จากนั้น​เขา​ก็​หัวเราะ​ออกมา

สือ​อี​เหนียง​จัด​เสื้อผ้า​ให้​เขา​ ​รับ​หมวก​เหลียง​กวน​จาก​สาวใช้​มาสวม​ให้

“​ไท​เฮา​ร้องไห้​อยู่​ที่​พระตำหนัก​เฟิ​่ง​เซียน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก้มหัว​ลง​ให้​นาง​สวม​หมวก​เหลียง​กวน​ให้​ตัวเอง​ ​“​ฮ่องเต้​เรียก​ข้า​เข้า​วัง​ไป​เกลี้ยกล่อม​ไท​เฮา​”

สือ​อี​เหนียง​เบิกตา​กว้าง​ ​“​เรียก​ท่าน​ไป​ ​ไม่​สู้​เรียก​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​หรือ​โซ่ว​ชังปั​๋ว​ไป​เสีย​ยัง​จะ​ดีกว่า​ ​พวกเขา​เป็น​พี่น้อง​กัน​!​”

“​ฮ่องเต้​ก็​เรียก​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​และ​โซ่ว​ชังปั​๋ว​เข้าไป​ใน​วัง​ด้วย​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​อย่าง​เรียบ​เฉย​ ​“​ดังนั้น​ข้า​จึง​ส่ง​คน​ไปรา​ยงา​นองค​์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​ ​เรื่องส่วนตัว​ของ​ฮ่องเต้​ ​ก็​ต้อง​ให้​วงศ์สกุล​ของ​ฮ่องเต้​เป็น​คน​จัดการ​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​“​ท่าน​โหว​ช่าง​เจ้าเล่ห์​เสีย​จริง​ ​ตัวเอง​ไม่​อยาก​เข้าไป​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​ ​แต่​ก็​กลัว​ว่า​ฮ่องเต้​จะ​คัดค้าน​สกุล​หยาง​ไม่ได้​ ​จึง​ผลัก​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​ออก​ไป​เป็น​โล่​กัน​ธนู​ ​ระวัง​นาง​จะ​กลับมา​คิดบัญชี​กับ​ท่าน​นะ​เจ้า​คะ​”

“​เช่นนั้น​ก็​ต้อง​ให้​พวกเขา​มี​เวลา​มาคิ​ดบัญ​ชี​กับ​ข้า​เสียก่อน​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จับ​แก้ม​นาง​อย่างสนิทสนม​ ​จากนั้น​ก็​หัวเราะ​แล้ว​หันหลัง​เดิน​ออก​ไป

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท