ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – Side Story < Love Historiette > 2-10

Side Story < Love Historiette > 2-10

อีอูยอนที่กินข้าวเสร็จตั้งแต่แรกแล้วหันไปเท้าคางและมองตรงที่ชเวอินซอบอยู่

“ก็น่าจะให้เขาถ่ายรูปไปสักรูปสิ ไม่ใช่เรื่องที่ขอให้ใช้แรงขนาดนั้นซะหน่อย”

อีอูยอนถามว่า “ทำไมล่ะครับ”

“ทำไมน่ะเหรอ ก็เขามีเด็กอยู่ด้วยน่ะสิ”

“หัวหน้าทีมครับ”

อีอูยอนยิ้มโชว์ฟันที่เรียงตัวสวย

‘…ฉันเกลียดเวลาที่หมอนั่นยิ้มแบบนั้นมากเลย’

กรรมการผู้จัดการคิมที่มาส์กหน้าพร้อมกับดูโทรทัศน์ไปด้วยเอ่ยแบบนั้นอย่างกะทันหัน โฆษณากาแฟของอีอูยอนกำลังฉายอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์

‘ฟันที่เรียงตัวสวยมากกับรูปปากที่ยิ้มมันสมบูรณ์แบบมาก จนน่าขนลุก’

‘…นั่นน่ะสิครับ’

เขานึกถึงความทรงจำที่ตอบรับด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย อีอูยอนพูดต่อพร้อมกับฉีกยิ้มที่สมบูรณ์แบบนั่น

“ไม่ใช่ว่าผมชอบผู้หญิงหรอกนะครับ แต่ผมเกลียดผู้หญิงที่ชอบผมมากกว่าครับ”

“…”

“แล้วจะเป็นไปได้เหรอครับที่ผมจะชอบผู้ชาย”

หัวหน้าทีมชาตั้งใจจะถามว่า …แล้วชเวอินซอบที่นายชอบเป็นอะไรกันแน่ล่ะ แล้วก็ปิดปากสนิท

“แต่ยังไงเขาก็เป็นเด็กเล็กๆ นะ ไอ้นี่หนิ”

หัวหน้าทีมชาใจอ่อนกับเด็กและสัตว์เป็นพิเศษบ่นพึมพำ อีอูยอนหัวเราะดังฮ่าๆ เบาๆ

“เพราะผมไม่เลือกชอบอายุที่เฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษไงครับ”

“…นายก็แค่ไม่ชอบคนเลยนั่นแหละ”

“เป็นไปได้เหรอครับ”

สายตาของอีอูยอนที่พูดแบบนั้นยังจ้องอินซอบอยู่เหมือนเดิม พออินซอบที่กำลังคุยโทรศัพท์สบตากับอีอูยอน เขาก็ตื่นตระหนกจนทำตัวไม่ถูก และรีบก้มหัวขอโทษ

“ฮ่าๆๆๆ”

อีอูยอนหัวเราะเสียงดัง ราวกับรู้สึกมีความสุขจริงๆ

“…อ่า แม่ง จะทำให้เป็นบ้าจริงๆ สินะ”

อีอูยอนใช้มือปิดปากพลางพึมพำ

“เหลือเวลาอีกเท่าไรกว่าการถ่ายทำจะเริ่มครับ”

“หือ? อ๋อ เหลืออีกสามถึงสี่ชั่วโมงน่ะ…อย่าคิดอะไรที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เลย นี่เป็นวันแรกนะ”

“ผมคิดอะไรเหรอครับถึงพูดแบบนั้น”

อีอูยอนเท้าคางและยิ้มตาหยีพลางเอ่ยตอบ หัวหน้าทีมชาที่ฟังเรื่องที่ต่ำช้าและหยาบคายเป็นอย่างมากจากอีอูยอนอยู่เมื่อสักครู่นี้ก็พูดอย่างกลัดกลุ้มใจ

“นี่เป็นบทที่คุณอินซอบเลือก เพราะฉะนั้นห้ามทำให้เสียและได้โปรดทำให้ดีหน่อยเถอะ”

บทที่อีอูยอนได้รับคราวนี้เป็นบทของศัลยแพทย์อัจฉริยะที่แสดงความรู้สึกไม่เก่ง ตอนที่ได้ฟังเรื่องเล่า หัวหน้าทีมชาก็คิดว่า ถ้ามีจิตสำนึกก็ไม่ควรเล่นบทนี้หรือเปล่า เพราะเขารู้สึกว่าการที่คนแบบนั้นถือมีดผ่าตัดไว้ในมือช่างสวนทางกับจริยธรรมและกฎหมาย แม้บทจะดีจนยอมรับไว้ แต่กรรมการผู้จัดการคิมเองก็ไม่เต็มใจเล็กน้อยด้วยเหตุผลเดียวกัน แต่อีอูยอนกลับบอกว่าจะเล่นเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เหตุผลก็คือเพราะอินซอบแนะนำ

“ฮ่าฮ่า อย่าห่วงไปเลยครับ เพราะผมแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ดี”

อีอูยอนที่พูดแบบนั้นลุกขึ้นหลังจากตักข้าวในถ้วยข้าวของอินซอบออกมาเล็กน้อยและใส่ในหม้อเคลือบดินเผาสีดำของตัวเอง

“จะไปไหน”

“ผมมีเรื่องที่ต้องทำแป๊บหนึ่งน่ะครับ”

“จิ๊ อย่านะ เขากำลังคุยกับครอบครัวที่ไม่ได้คุยกันนานแล้วอยู่”

หัวหน้าทีมชารู้ได้ในทันทีว่าเรื่องที่จะทำคืออะไร เขาเดาะลิ้นพลางพูด

“ตั้งสิบเจ็บนาทีก็ควรจะเสร็จแล้วสิครับ จะคุยอะไรอีกล่ะครับ”

นายจับเวลาเรื่องนั้นด้วยเหรอ เฮ้อ น่ารังเกียจชะมัด

ในขณะที่หัวหน้าทีมชาถอนหายใจ อีอูยอนก็หยิบผ้าพันคอและเดินไปหาอินซอบที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ด้านนอก จากนั้นก็พันผ้าพันคอรวดเดียวให้ห่อใบหน้าของอินซอบไว้ พออินซอบที่การมองเห็นถูกปิดกั้นอย่างคาดไม่ถึงพยายามแกะผ้าพันคอออกอย่างตื่นตระหนก อีอูยอนก็จับปลายผ้าพันคอไว้ไม่ยอมปล่อย อีอูยอนที่สบตากับอินซอบที่ยื่นหน้าออกมานอกผ้าพันคอได้อย่างยากลำบากหัวเราะ

…ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมฉันต้องมาเห็นภาพนั้นด้วย

หัวหน้าทีมชากินข้าวใส่ซุปที่เย็นหมดแล้วอย่างมูมมาม

“ขอโทษครับ ผมคุยโทรศัพท์นานไปหน่อย”

อินซอบที่คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามและเอ่ยขอโทษ

“ไม่หรอก ไม่เป็นไร คุยโทรศัพท์กับน้องชายเหรอ”

“ครับ น้องชายคนที่สองน่ะครับ แอรอน”

“อ๋อ แอรอน อ๋อ ใช่แล้ว”

ช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกถึงความไม่เข้ากันทุกครั้งที่รู้ความจริงว่าอินซอบเป็นคนอเมริกาแบบนี้อยู่บ่อยๆ

“คุยโทรศัพท์กับพวกน้องๆ บ่อยไหม”

“ไม่บ่อยครับ คุยเป็นกันบ้างเป็นบางครั้งน่ะครับ”

อินซอบยิ้มอย่างเขินอายและพูดเสริม

“ช่วงนี้แอรอนคิดหนักเรื่องคนรักน่ะครับ น่ารักใช่ไหมล่ะครับ”

“ฮ่าๆๆ น้องชายที่ตัวโตคนนั้นน่ะเหรอ”

หัวหน้าทีมชานึกถึงรูปที่เคยเห็นในอดีตและหัวเราะเจื่อนๆ

“โตแค่ตัวเท่านั้นแหละครับ แต่ก็เหลือเชื่อมากเลยนะครับที่เด็กแบบนั้นนอนไม่หลับเพราะมีความรัก”

มีเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเยอะเลยล่ะ อย่างแรกเลยคือการที่ไอ้คนที่อยู่ข้างๆ นายมีคนรักน่ะ ถูกรายงานในแวดวงวิชาการได้เลยนะ ฉันควรจะหยุดพูด

หัวหน้าทีมชาเคี้ยวกิมจิอย่างรุนแรง และทำมือสั่งให้อินซอบรีบกิน

“โอ๊ะ…”

อินซอบหยิบช้อนขึ้นมาและเบิกตาโตราวกับตกใจ

“ทำไมเหรอ”

“ผมประหลาดใจที่น้ำซุปไม่เย็นเลยสักนิดน่ะครับ จะทานแล้วนะครับ”

“นั่น…”

“ครับ?”

“…ไม่มีอะไร รีบกินเถอะ”

หัวหน้าทีมชาส่ายหน้า เขาไม่จำเป็นต้องช่วยยืนยันความรักที่อีอูยอนแสดงให้เห็นอย่างเปิดเผย

พอกินไปได้สักพัก เด็กที่วิ่งมาจากทางโน้นก็เสียหลักและล้มมาทางที่อินซอบอยู่ อินซอบรีบลุกขึ้นเพื่อช่วยจับเด็ก แต่ก็ล้มก้นกระแทกพื้นไปด้วย

“คุณอินซอบ เป็นอะไรไหม”

หัวหน้าทีมชารีบลุกขึ้นพลางเอ่ยถาม

“ผมไม่เป็นไรครับ บาดเจ็บหรือเปล่า”

อินซอบมองเด็กที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเองและเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน เด็กที่ตกใจอ้ำอึ้งก่อนจะรีบหนีไป

“ดูเหมือนจะไม่เป็นไรนะครับ”

อินซอบหัวเราะเบาๆ และนั่งลงกับที่อีกครั้ง

“ไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม”

“ครับ แต่เกือบจะเป็นเรื่องใหญ่แล้วล่ะครับ ถ้าโดนของร้อนๆ หกใส่ก็อาจจะบาดเจ็บได้”

ตอนนั้นเองหัวหน้าทีมชาถึงได้รู้เหตุผลที่อินซอบฝืนตัวลุกออกไปรับเด็ก

เพราะเป็นคนจิตใจดีแบบนั้น…เลยรับไอ้เวรอย่างอีอูยอนได้สินะ

“ยังไงก็ระวังตัวด้วย ถ้าหัวไปกระแทกที่ไหนแล้วความจำเสื่อม…”

…นายจะถูกขังไว้

“ความจำเสื่อมเหรอครับ”

อินซอบถามซ้ำด้วยความตกใจเพราะคำพูดที่กะทันหัน

‘ผมจะพาคุณอินซอบที่ความจำเสื่อมไปที่ที่ไม่มีใครอยู่ แล้วก็หลอกว่าตัวเองเป็นน้องชายแท้ๆ จากนั้น’ หัวหน้าทีมชานึกถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อไปและตัวสั่น

“มะ ไม่มีอะไรหรอก เพราะมันจะเป็นเรื่องใหญ่น่ะ ฮ่าฮ่า ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้อาการความจำเสื่อมเป็นที่นิยมน่ะ ยังไงก็ระวังตัวไว้เถอะ”

“ครับ เข้าใจแล้วครับ”

ในขณะที่อินซอบกำลังครุ่นคิดอยู่ว่ามีช่วงที่ความจำเสื่อมเป็นที่นิยมด้วยเหรอ เด็กชายก็เดินเข้ามาหาอินซอบอย่างประหม่า

“รีบขอบคุณพี่เขาเร็ว”

ผู้หญิงที่ดูเหมือนจะเป็นแม่ตบหลังเด็กเบาๆ เด็กชายจึงยื่นลูกอมที่อยู่ในมือให้อินซอบและรีบวิ่งไปหาแม่

“ขอบคุณนะ จะกินให้อร่อยเลย”

“ขอโทษนะคะ ลูกของฉันคงจะก่อเรื่องขึ้นในระหว่างที่ฉันละสายตาไปแป๊บหนึ่งเมื่อสักครู่นี้สินะคะ”

“ไม่ครับ ไม่เป็นไรครับ”

“ลูกควรจะขอบคุณสิจ๊ะ”

“ขอบคุณคับ”

พอเด็กชายขอบคุณด้วยน้ำเสียงที่เขินอาย อินซอบก็ยิ้มกว้างให้

“ดูเหมือนจะชอบเด็กนะ”

“ครับ”

อินซอบตอบอย่างไม่ลังเล

“ก็พวกเขาน่ารักนี่ครับ”

อินซอบตอบพร้อมกับโบกมือให้เด็กชายที่โบกมือให้ตัวเองจากไกลๆ พอนึกถึงไอ้คนที่เหมือนปีศาจที่เกลียดทุกคนโดยไม่แบ่งแยกกับอคติเรื่องเพศและวัยแล้ว หัวหน้าทีมชาก็เจ็บบริเวณขอบตา

…ควรจะรีบคบคนดีๆ ได้แล้ว

“นี่ คุณอินซอบ จะแต่งงานเมื่อไรเหรอ”

อินซอบที่กำลังตักข้าวใส่ซุปเข้าปากสำลักเบาๆ

“ค่อยๆ กิน เอ้า นี่ น้ำ”

“…ขอบคุณครับ”

อินซอบดื่มน้ำและลงมือกินข้าวอีกครั้งโดยไม่พูดอะไร ใบหน้าของเขาแดงและแดงไปจนถึงต้นคอ

“ไม่ได้คิดเรื่องแต่งงานไว้เหรอ”

“…ผะ ผมยังไม่เคยคิดเลยครับ”

“แม้การที่ตาลุงที่อายุเยอะและหย่ามาแล้วพูดเรื่องแบบนี้จะน่าหัวเราะไปสักหน่อย แต่การแต่งงานก็ไม่แย่นะ ถึงจะดูเหมือนเป็นเรื่องในโลกอื่นเพราะคุณอินซอบตอนนี้อายุยังน้อยก็เถอะ”

“…เอ่อ ครับ…ฮ่าฮ่า”

“บอกว่าชอบเด็กนี่ ถ้าเป็นคุณอินซอบละก็ คงจะเลี้ยงได้ดีมากแน่ๆ การมีลูกและได้ดูเขาเติบโตน่ะดีมากเลยนะ มันไม่สำคัญหรอกว่าจะมีคนรักยังไง แต่การแต่งงานน่ะต้องคบกับคนดีๆ ก่อนแล้วค่อยแต่งนะ คนดีๆ น่ะ”

“…ครับ ขอบคุณที่แนะนำครับ”

อินซอบตอบโดยไม่เงยหน้า

“ถูกปากไหมครับ”

อีอูยอนที่กลับมาเมื่อไรไม่รู้นั่งลงข้างๆ อินซอบพลางเอ่ยถาม

“ครับ อร่อยครับ”

“ดีครับ กินอันนี้เป็นของหวานนะครับ”

อีอูยอนวางถุงกระดาษเล็กๆ ลงบนโต๊ะ

“ขนมลูกวอลนัต[1]เหรอ ฉันขออันหนึ่งสิ”

หัวหน้าทีมชาที่ชอบของหวานยื่นมือมา อินซอบรีบหยิบขนมลูกวอลนัตออกมาจากถุงและยื่นให้หัวหน้าทีมชา

“แปลกเนอะ ปกติไม่ได้นึกถึงเลย แต่ถ้ามาจุดพักรถก็จะอยากกินเจ้านี่”

“กินเยอะๆ เลยครับ”

อินซอบเอียงถุงขนมลูกวอลนัตไปทางหัวหน้าทีมชาและยิ้ม

“ขอบใจ ต่างกับใครบางคนที่ไม่ชวนกินสักครั้งเลยนะ”

“แหม หัวหน้าทีมชาก็ขอให้กรรมการผู้จัดการคิมซื้อให้ได้นี่ครับ”

อีอูยอนตอบโต้อย่างหน้าด้านหน้าทนโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนเลยสักนิด หัวหน้าทีมชาหัวเราะเยาะและเคี้ยวขนมลูกวอลนัตอย่างรุนแรง

“ว่าแต่กำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอครับ”

“หือ? เรื่องอะไรล่ะ”

หัวหน้าทีมชาถามกลับ

“ก่อนที่ผมจะมาน่ะครับ ที่คุยกันสองคน ผมเห็นว่าคุณอินซอบหน้าแดงและทำอะไรไม่ถูก”

“มะ ไม่มีอะไรครับ ไม่ได้คุยเรื่องสำคัญอะไรหรอกครับ”

อินซอบรีบกุเรื่องขึ้นมา

“อ๋อ อย่างนั้นเหรอครับ ไม่ได้คุยเรื่องสำคัญอะไร คนที่จิตใจดีต้องคบกับคนที่จิตใจดีด้วยกันถึงจะแต่งงานและมีความสุข เรื่องอะไรทำนองนี้น่ะครับ”

อีอูยอนส่งเสียงในลำคอและยกมุมปากขึ้นยิ้มให้กับเรื่องที่มีความหมายแอบแฝง

“อ๋อ เพราะอย่างนั้นกรรมการผู้จัดการคิม…”

พออีอูยอนพูดอย่างกำกวม หัวหน้าทีมชาที่ไม่สามารถเอาชนะความอยากรู้อยากเห็นของคนที่จะทำให้ตายได้ก็ถามว่า “อะไร”

“ถึงได้จัดการเรื่องผู้หญิงที่คบมาทั้งหมดและมาคบกับหัวหน้าทีมชาสินะครับ”

“ว่าไงนะ”

“ก็พวกคุณเป็นคนจิตใจดีทั้งคู่นี้ครับ ใช่ไหมครับ คุณอินซอบ”

“อ๋อ ครับ ทั้งสองคนเป็นคนดีครับ”

อินซอบที่ไม่เข้าใจบริบทของบทสนทนาดีรีบตอบ อีอูยอนจึงพูดว่า “ถึงจะสายไปมาก แต่ก็โชคดีนะครับที่มีความสุข” และแจกรอยยิ้มคนดีให้

‘ฉันเอาชนะหมอนั่นด้วยคำพูดไม่ได้เลยไอ้บ้านั่นไปเรียนภาษาเกาหลีมาจากไหนกันแน่ โอ๊ย ให้ตายเถอะ’

คำพูดที่กรรมการผู้จัดการคิมพูดไปเคี้ยวปลาหมึกไปตอนที่ดื่มเหล้าด้วยกันปรากฏในหัว หัวหน้าทีมชากัดฟันกรอด

ใจจริงเขาอยากใช้หม้อเคลือบดินเผาฟาดหัวหมอนั่นสักครั้ง…

วินาทีนั้นเขาก็สบตากับอีอูยอนที่กำลังยิ้ม หัวหน้าทีมชาจึงรีบหันหน้าหนี แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถเอาชนะหมอนั่นด้วยคำพูดได้

“ว่าแต่คุณอินซอบจะแต่งงานเหรอครับ”

อินซอบที่สำลักเพราะคำถามที่กะทันหันเริ่มไอด้วยใบหน้าที่แดงซ่าน อีอูยอนจึงอุทานและยื่นน้ำให้

“ดื่มนะครับ”

“เอ่อ…ครับ ขอบ…”

อินซอบรีบดื่มน้ำ หลังจากการไอเบาลงแล้ว อินซอบก็ทำสีหน้าที่บอกว่าหมายความว่าอะไรกันแน่

“เห็นบอกว่าต้องคบกับคนที่จิตใจดีด้วยกันนี่ครับ คุณอินซอบจิตใจดีนี่น่า”

“…ไม่ดีครับ”

อินซอบตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบา

“ดีครับ”

“…”

เป็นลักษณะการพูดที่เหมือนจะถามว่าทำไมถึงจิตใจดีกันล่ะ

“เพราะแบบนั้นเลยจะคบกับคนที่จิตใจดีเหรอครับ มีคนที่จิตใจดีอยู่ในใจแล้วเหรอครับ”

“มะ ไม่มีครับ คนแบบนั้นน่ะ”

อีอูยอนแกล้งเตะขาของอินซอบใต้โต๊ะ ราวกับสั่งให้ระบุถึงตัวเอง

“ไม่มีเหรอครับ สักคนก็ไม่มีเหรอครับ”

“…”

อินซอบไม่สามารถพูดว่าคุณก็จิตใจดีได้ และได้แต่ลูบแก้วน้ำ

“คุณไม่มีคนที่จิตใจดีอยู่ในใจเลย ทำยังไงดีล่ะครับ งั้นคุณคงต้องคบคนไม่ดีและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแล้วล่ะ”

“…”

“…”

ทั้งสองคนลืมคำที่จะพูดไปหมด

ถ้าขาดความมีเหตุผลอย่างรุนแรงขนาดนั้นก็สมควรจะโดนฟ้องแล้วนะ

ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังเอะอะจากตรงประตูทางเข้า จากนั้นผู้หญิงที่สวมแว่นกันแดดก็ทำเป็นรู้จักและเดินมาทางนี้

[1] ขนมลูกวอลนัต เป็นคุกกี้ชนิดหนึ่งของเกาหลี มีลักษณะคล้ายลูกวอลนัต ตัวแป้งทำมาจากวอลนัตผสมกับแป้ง และสอดไส้ด้วยถั่วแดงบด

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท