ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 368 เรื่องตลก(กลาง)

ตอนที่ 368 เรื่องตลก(กลาง)

สือ​อี​เหนียง​แอบ​เล่า​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ฟัง​แล้วก็​ยิ้ม​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​สาวใช้​จัด​อาหาร

สวี​ซื่อ​อวี​้​รีบ​เข้ามา​ประคอง​ไท่ฮู​หยิน​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันออก

ไท่ฮู​หยิน​ถาม​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​วันที่​สาม​เดือน​สาม​ของ​ปีนี​้​จัดงาน​เลี้ยง​ขึ้น​เพื่อ​เจ้า​ ​เจ้า​มีส​หาย​ที่​อยาก​จะ​เชิญ​มา​หรือไม่​”

“​ไม่มี​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ้ม​ ​“​สหาย​ของ​หลาน​ล้วนแต่​อยู่​ที่​เล่อ​อาน​ขอรับ​”

ฮู​หยิน​ห้า​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​สอง​วันก่อน​หลานชาย​คนโต​ของ​จวน​เจิ​้น​หนาน​ยัง​มาช​วน​เจ้า​ไปเที่ยว​เล่น​อยู่​เลย​ ​เจ้า​ไม่​อยาก​เชิญ​เขา​หรือ​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เดิมที​อาจารย์​เจียง​บอกว่า​หาก​ข้า​สอบผ่าน​แล้วก็​ให้​กลับ​เล่อ​อาน​ ​จะ​ได้​ไม่​ทำให้​การเรียน​ล่าช้า​ ​แต่​ข้า​เลื่อน​วัน​เดินทาง​กลับ​เล่อ​อาน​ออก​ไป​แล้ว​ ​จะ​เสียการ​เรียน​ไม่ได้​ขอรับ​ ​สอง​สาม​วันนี้​จึง​ต้อง​อ่านหนังสือ​อยู่​ที่​จวน​ ​หาก​ตกลง​ออก​ไป​กับ​หลานชาย​คนโต​ของ​จวน​เจิ​้น​หนาน​ ​เกรง​ว่า​หลังจากนี้​เขา​คงจะ​เชิญ​อีก​บ่อยครั้ง​ ​แทนที่จะ​ใช้เวลา​กับ​เรื่อง​พวก​นี้​ ​ไม่​สู้​อ่านหนังสือ​ที่​จวน​สัก​สอง​สาม​หน้า​ดีกว่า​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​ท่าที​ที่​ไม่​อยาก​ไปมาหาสู่​กับ​ใคร

ฮู​หยิน​ห้า​ฟัง​แล้วก็​ตกใจ

สายตา​ของฮู​หยิน​สอง​มี​รอยยิ้ม​ที่​แผ่วเบา

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​ ​“​อวี​้​เกอ​ของ​เรา​พูด​มีเหตุผล​”

พูด​จบ​ ​ทุกคน​ก็​นั่งลง​ ​บรรดา​สาวใช้​ยก​อาหาร​เข้ามา​อย่าง​เบาไม้เบามือ

ทุกคน​ไม่​พูด​อะไร​อีก​ ​ต่าง​พากั​นก​้​มห​น้า​ทานข้าว​ ​ใน​ห้อง​มี​เพียง​เสียง​กระเบื้อง​กระทบ​กัน

หลังจาก​ทาน​เสร็จ​ ​ทุกคน​ก็​ย้าย​ไป​ดื่ม​ชา​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก

ใต้​ชายคา​มี​โคมไฟ​ม่าน​สีแดง​ห้อย​อยู่​ ​ส่อง​ประกาย​ลง​บน​ใบหน้า​ของ​ผู้คน​ทำให้​บรรยากาศ​ดู​มี​ความปิติยินดี

สวี​ซื่อ​อวี​้​เล่า​ถึง​เรื่องราว​ที่​เจอ​ระหว่างทาง​ ​ไท่ฮู​หยิน​และ​เด็ก​ๆ​ ​สอง​สาม​คนฟัง​อย่าง​เพลิดเพลิน​ ฮู​หยิน​สอง​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​เบา​ๆ​ ​นาง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ชวน​ทุกคน​ดื่ม​ชา​ ​ทาน​ของว่าง​และ​ผลไม้​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ฮู​หยิน​ห้า​เหม่อลอย​ ​นาง​ลูบ​หัว​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็นครั้งคราว​ ​ถาม​อาการ​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กับ​แม่นม​ ​เมื่อ​ครู่​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยัง​ไอค​่​อก​แค่ก​สอง​สาม​ที

ถึงแม้ว่า​ใน​ห้อง​จะ​มีเสียง​เอะอะโวยวาย​ ​แต่​มัน​กลับ​อบอุ่น​และ​ครึกครื้น

เมื่อ​เห็น​ว่า​ฟ้า​เริ่ม​มืด​ ฮู​หยิน​สอง​ก็​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา

ไท่ฮู​หยิน​บอก​ให้​สือ​อี​เหนียง​รับใช้​นาง​พักผ่อน​ ​ทุกคน​ต่าง​พากัน​แยกย้าย​กัน​ไป

“​เจ้า​ก็​ไป​พักผ่อน​เสียเถิด​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​เอ่ย​ปลอบ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ตอนที่​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​ยัง​เด็ก​นาง​เป็น​คน​ไม่ยอม​ใคร​ ​ตอนนี้​อายุ​มาก​แล้วก็​สุขุม​ขึ้น​ไม่น้อย​ ​แต่​หาก​ไท​เฮา​ทำ​อะไร​เกินไป​ ​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​คงจะ​ไม่มีทาง​ยอม​ ​คุณชาย​สี่​ก็​ไม่ใช่​คนซื่อ​บื้อ​ ​เรื่อง​พวก​นี้​เขา​ก็​พอ​รู้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ยัง​มี​ฮ่องเต้​อยู่​ ​เรื่องใหญ่​เช่นนี้​ฮ่องเต้​ย่อม​ไม่มีทาง​สับสน​”

เห็น​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยัง​ไม่​กลับมา​ ​กลัว​ว่านาง​จะ​เป็นห่วง​เขา​กระมัง​!

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​ ​ห่ม​ผ้า​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​เป่า​ตะเกียง​แปดเหลี่ยม​บน​หัว​เตียง​ ​ย้าย​โคมไฟ​รูปทรง​แตงโม​บน​โต๊ะ​เตียง​เตา​ลง​ไป​บน​โต๊ะ​ข้างล่าง​ ​เห็น​เว​่ย​จื่อ​อุ้ม​ที่นอน​เข้ามา​ ​นาง​ก็​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง

ลม​ใน​คืน​ต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​ยังคง​มี​ความ​หนาวเย็น​ของ​ฤดูหนาว​ ​พระจันทร์​เสี้ยว​บน​ท้องฟ้า​ ​ทำให้​จวน​หย่ง​ผิง​โหวดู​เงียบสงบ​ ​โคมไฟ​สีแดง​ที่​ห้อย​อยู่​ใต้​ชายคา​แกว่ง​ไปมา​ตาม​สายลม​ ​ราวกับ​เด็ก​ซุกซน​กำลัง​วิ่งไล่​กัน​ ​วิ่ง​ชนกัน​แล้วก็​วิ่ง​ออกจาก​กัน​ ​วิ่ง​ไป​วิ่ง​มา​อย่าง​มีความสุข

สือ​อี​เหนียง​กระชับ​เสื้อคลุม​ของ​ตัวเอง​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้องโถง

สาวใช้​เดิน​เข้ามา​รับใช้​นาง​ล้าง​ตัว​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​

สือ​อี​เหนียง​เปลี่ยนเป็น​ชุด​ธรรมดา​ ​เอน​ตัว​ลง​บน​หมอนอิง​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​แล้ว​ดื่ม​ชาด​อก​เบญจมาศ​อย่างสบายใจ​ ​คิด​ว่า​จะ​รอส​วีลิ​่​งอี​๋​กลับมา​ดี​หรือไม่​ ​ก็​มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“​พ่อบ้าน​ไป๋​มา​เจ้าค่ะ​!​”

เวลานี้​!​?

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​เข้าไป​ใน​พระราชวัง​…​ ​สีหน้า​ของ​นาง​มี​ความตกใจ​ที่​แม้แต่​ตัวเอง​ก็​ยัง​สังเกต​ไม่เห็น​ ​บอก​ให้​สาวใช้​เชิญ​พ่อบ้าน​ไป๋​เข้ามา​ ​จากนั้น​ก็​สวม​เสื้อคลุม​ไป​ที่​ห้องโถง

พ่อบ้าน​ไป๋​สีหน้า​ซีดเซียว​ ​รีบ​เดิน​เข้ามา​โค้ง​คำนับ​ ​“ฮู​หยิน​ขอรับ​ ​มีพ​ระ​ราช​กฤษฎีกา​จาก​ไท​เฮา​ขอรับ​!​”

สือ​อี​เหนียง​พลัน​รู้สึก​ไม่สบายใจ

“​ข้า​รู้​แล้ว​!​”

จากนั้น​ก็​บอก​ให้​สาวใช้​ไปรา​ยงาน​ไท่ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​สอง​และฮู​หยิน​ห้า​ ​ส่วนตัว​เอง​เรียก​หู่​พั่ว​เข้าไป​เปลี่ยน​ชุด​ใน​ห้อง​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

ใน​คืน​ที่​เงียบสงบ​ ​ประตู​หลัก​ของ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ค่อยๆ​ ​เปิด​ออก​ ​โคมไฟ​ใน​สวน​หลัง​จวน​ก็​สว่าง​ขึ้น​พร้อมกับ​ประตู​ที่​เปิด​ออก​ ​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​ทั้ง​จวน​ก็​จุดไฟ​สว่างไสว

ไท่ฮู​หยิน​พูด​ด้วย​สีหน้า​ที่​นิ่ง​สงบ​ ​“​คุณชาย​สี่​ยัง​ไม่​กลับมา​อีก​หรือ​”

“​ยัง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ ฮู​หยิน​สอง​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​เจ้าค่ะ​ ​หาก​เป็นเรื่อง​เกี่ยวกับ​ท่าน​โหว​ ​ ​จะ​ต้อง​เป็น​พระราช​โองการ​ไม่​ใช้​พระราชกฤษฎีกา​”

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​ ฮู​หยิน​ห้า​เดิน​มาป​ระ​คอง​ไท่ฮู​หยิน​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​ลาน​ข้างหน้า​ของ​ห้องรับแขก​เล็ก​ที่​เรือน​หลัก

คน​ประกาศ​พระราชกฤษฎีกา​คือ​หัวหน้า​ขันที​ของ​พระตำหนัก​ฉือ​หนิง​ ​เมื่อ​เห็น​บรรดา​สตรี​สกุล​สวี​ ​เขา​ก็​มีสี​หน้า​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​คำนับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​จากนั้น​ก็​เปิด​ผ้า​สีเหลือง​ที่​มี​ลวดลาย​หงส์​ออก

“​บุตรสาว​คนที​่​สาม​ของ​หยาง​จง​ลูกพี่ลูกน้อง​ของ​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​ ​ฝึกฝน​มารยาท​มาตั​้ง​แต่​เยาว์วัย​ ​กิริยาท่าทาง​เรียบร้อย​ ​เป็น​บุตรสาว​สกุล​ใหญ่​สกุล​โต​ที่​มีชื่อเสียง​ ​แต่งตั้ง​ให้​เป็น​อนุภรรยา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​หย่ง​ผิง​โหว​ ​วัน​มงคล​คือ​วันที่​สิบสอง​เดือน​สาม​”

ทันใดนั้น​บรรยากาศ​ก็​เงียบสงัด​ราวกับ​ก้อนหิน​ที่​จม​ลง​ไป​ใน​ทะเล

ขันที​คน​นั้น​จึง​กระแอม​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​เอ่ย​เรียก​ไท่ฮู​หยิน​ราวกับ​ขอความช่วยเหลือ

ไท่ฮู​หยิน​สีหน้า​ซีดเซียว​ ​คุกเข่า​อยู่​ตรงนั้น​อยู่​เป็นเวลา​นาน

ฮู​หยิน​ห้า​เห็น​เช่นนี้​ก็​ตกใจ​ ​รีบ​ลุกขึ้น​ไป​พยุง​ไท่ฮู​หยิน

แต่ฮู​หยิน​สอง​กลับ​มีสี​หน้า​เคร่งขรึม​

พระราชกฤษฎีกา​ออกมา​แล้ว​ ​หรือ​จะ​ไม่ยอมรับ​เช่นนั้น​หรือ​ ​แล้ว​อีก​อย่าง​ ​คุกเข่า​อยู่​เช่นนี้​ก็​แก้ไขปัญหา​ไม่ได้​!​ ​หาก​ไป​ถึง​หู​ของ​ไท​เฮา​ ​ยิ่ง​จะ​ทำให้​มีปัญหา​เพิ่ม​ไป​อีก

นาง​ยื่นมือ​ไป​จับ​สือ​อี​เหนียง

นี่​เป็นเรื่อง​ของ​ครอบครัว​คุณชาย​สี่​ ​นาง​ต้อง​เป็น​คนรับ​พระราชกฤษฎีกา​ ​ไท่ฮู​หยิน​จึง​จะ​ได้​สบายใจ

แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​เมื่อ​นาง​กำลัง​ยกมือ​ขึ้น​ ​สือ​อี​เหนียง​ที่​กำลัง​คุกเข่า​อยู่​ตรงหน้า​ก็​ยืน​ขึ้น​ใน​ทันใด

“​ลำบาก​กง​กง​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​รับพระ​ราช​กฤษฎีกา​มา​ ​จากนั้น​ก็​ขยิบตา​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​ที่​คุกเข่า​อยู่​นอก​ประตู​ ​“​ท่าน​โหว​ยังอยู่​ใน​พระราชวัง​ ​คุณชาย​ห้า​เอง​ก็​ไป​เข้าเวร​ ​คง​ต้อง​เชิญ​กง​กง​ไป​ดื่ม​ชา​ที่​ห้องโถง​รับแขก​ก่อน​เจ้าค่ะ​”

ขันที​คน​นั้น​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​ยื่น​พระราชกฤษฎีกา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ราวกับ​ทิ้ง​เผือก​ร้อน​ที่อยู่​ใน​มือ​ออก​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เข้าไป​คำนับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ ​ดึก​มาก​แล้ว​ ​ข้า​ขอตัว​กลับ​ไปรา​ยงา​นก​่อน​ ​วัน​อื่น​ค่อย​มาคา​รวะ​ไท่ฮู​หยิน​ก็แล้วกัน​”​ ​ไม่​รอ​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ตอบกลับ​ ​เขา​ก็​หันไป​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​หย่ง​ผิง​โหวฮู​หยิน​ ​ข้า​ต้อง​ขอตัว​ก่อน​”​ ​พูด​จบ​ก็​ขยิบตา​ให้​ขันที​ที่​ติดตาม​มา​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ออก​ไป​จาก​ลาน​

พ่อบ้าน​ไป๋​รีบ​เดิน​เข้ามา​ ​โค้ง​คำนับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​พร้อม​เขา​ ​แล้วก็​ยัด​ของ​อะไร​บางอย่าง​ให้

เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​ชื่อเสียง​ของ​สกุล​หยาง​หลังจากที่​ไท​เฮา​สิ้นพระชนม์​ ​ไท​เฮา​ไม่มีทาง​ยอม​ได้​ ​เรื่อง​นี้​สือ​อี​เหนียง​มี​วิธี​รับมือ​อยู่​แล้ว​ ​แต่​เรื่อง​ที่​ไม่รู้​มักจะ​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​หวาดกลัว​และ​วิตกกังวล​ ​ทันทีที่​นาง​ได้ยิน​พระราชกฤษฎีกา​ ​นาง​จึง​รู้สึก​สบายใจ​ราวกับ​รองเท้า​อีก​ข้าง​หนึ่ง​ตกลง​มา​แล้ว

นึกถึง​สีหน้า​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​หันไป​ประคอง​แขน​อีก​ข้าง​หนึ่ง​ของ​นาง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​กลับ​ไป​กับ​ท่าน​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​!​”

ไท่ฮู​หยิน​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​แน่น​แล้ว​พยักหน้า​เบา​ๆ

ฮู​หยิน​ห้า​ก็​ปล่อยมือ​ไท่ฮู​หยิน​ออก​อย่าง​รู้ความ​ ​จากนั้น​ก็​ถอย​มายื​นอยู​่​ข้างๆ​ ​อย่าง​เงียบๆ

ไท่ฮู​หยิน​เงยหน้า​ขึ้น​มองฮู​หยิน​สอง​และฮู​หยิน​ห้า​ ​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​“​พวก​เจ้า​กลับ​ไป​พักผ่อน​เถิด​!​ ​ไม่ต้อง​กลับ​ไป​ด้วยกัน​ก็ได้​!​”

พูด​อย่าง​ไม่ใส่ใจ

ฮู​หยิน​สอง​และฮู​หยิน​ห้า​ก้มหน้า​ลง​แล้ว​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​พร้อมกัน​ ​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​ ​มองดู​แผ่น​หลัง​ของ​ไท่ฮู​หยิน​และ​สือ​อี​เหนียง​ที่​ถูก​บรรดา​สาวใช้​และ​ท่าน​ป้า​ล้อมรอบ​เดิน​ออก​ไป​ ​จากนั้น​พวก​นาง​ก็​แยกย้าย​กัน

*****

สือ​อี​เหนียง​มองดู​สีหน้า​ที่​ลังเล​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​นาง​ไม่​อยาก​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ลำบากใจ​ ​จึง​รับ​น้ำชา​ใน​มือ​ของ​ป้า​ตู้​ยื่น​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ไม่ว่า​ฮ่องเต้​มี​เจตนา​เช่นไร​ ​ท่าน​โหว​คิด​เช่นไร​ ​แต่​ในเมื่อ​พระราชกฤษฎีกา​ของ​ไท​เฮา​ออกมา​แล้ว​ ​แน่นอน​ว่า​ไม่มีทาง​กลับคำ​ได้​เจ้าค่ะ​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​ศักดิ์ศรี​ของ​ราชวงศ์​อยู่​ที่ไหน​ ​ความยิ่งใหญ่​ของ​พวกเขา​อยู่​ที่ไหน​ ​ท่าน​แม่​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ไป​ ​ข้า​รู้ดี​ ​ข้า​จะ​ระมัดระวัง​ ​ไม่มีทาง​ปล่อย​ให้​คนนอก​หัวเราะเยาะ​สกุล​สวี​ของ​เรา​แน่นอน​”

ไท่ฮู​หยิน​รับ​ถ้วยชามา​วาง​ไว้​ข้างๆ​ ​ตัว​ ​สีหน้า​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​นาง​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​ถอนหายใจ​ ​“​เจ้า​เป็น​เด็กดี​ที่​รู้ความ​…​”​ ​จากนั้น​ก็​ไม่​พูด​อะไร​อีก​แม้แต่​คำ​เดียว​

“​ในเมื่อ​แต่งตั้ง​อนุภรรยา​ให้​ ​แล้วยัง​กำหนด​วัน​อย่างเร่งรีบ​เช่นนี้​ ​ยัง​มีเรื่อง​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ที่​ต้อง​จัดการ​ ​แล้ว​ข้า​ก็​พึ่ง​เคย​เจอ​เรื่อง​เช่นนี้​เป็นครั้งแรก​ ​ไม่รู้​ว่า​ต้อง​ทำ​อย่างไร​ ​เกรง​ว่า​คง​ต้อง​ขอ​คำแนะนำ​จาก​ท่าน​แม่​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​หยัด​กาย​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​รับใช้​ท่าน​พักผ่อน​ดีกว่า​!​”

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​ไป​พักผ่อน​เถิด​ ​ข้า​ดื่ม​ชา​ถ้วย​นี้​ก่อน​แล้ว​ค่อย​นอน​”

สำหรับ​สกุล​สวีที​่​ไม่​สามารถ​หลีกเลี่ยง​สกุล​หยาง​ได้​ ​การ​ที่​บุตรสาว​สกุล​หยาง​แต่ง​เข้ามา​ที่​จวน​ไม่ใช่​เรื่อง​น่า​เฉลิมฉลอง​อะไร​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ข่าว​มา​อย่างกะทันหัน​เช่นนี้​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ต้อง​ไตร่ตรอง​เรื่อง​ในอนาคต

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​บอก​ให้​ไท่ฮู​หยิน​นอน​พักผ่อน​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​ข้างนอก​กับ​ป้า​ตู้​

หู่​พั่ว​เห็น​นาง​มีสี​หน้า​เคร่งขรึม​ ​แล้วยัง​ทำ​สีหน้า​ครุ่นคิด​เป็นครั้งคราว​ ​นาง​จึง​ย่างเท้า​ก้าวเดิน​อย่างเงียบเชียบ​ ​พลาง​มอง​สาวใช้​และ​ท่าน​ป้า​ที่​ติดตาม​มาด​้ว​ยสาย​ตา​ที่​เฉียบแหลม​ ​กลัว​ว่า​พวก​นาง​จะ​ส่งเสียง​อะไร​รบกวน​สือ​อี​เหนียง​ใน​ตอนนี้​

พวก​นาง​เดินตาม​สือ​อี​เหนียง​อยู่​ข้างหลัง​อย่าง​เงียบๆ​ ​เดินผ่าน​ทางเดิน​ไป​ ​แล้ว​หยุด​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​ลาน

สือ​อี​เหนียง​ยืน​มอง​ลาน​กว้าง​ที่​จุดไฟ​สว่างไสว​อยู่​บน​ขั้นบันได​ ​นิ่งเงียบ​ไม่พูดไม่จา​อยู่นาน

ท่ามกลาง​ลาน​ที่​กว้างขวาง​ ​ได้ยิน​เพียง​เสียง​ลม​ที่​พัดผ่าน​ยอดไม้​

“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​!​ ​ทางเข้า​ลาน​เป็น​ช่องลม​ ​หาก​เป็นหวัด​ขึ้น​มา​จะ​ไม่ดี​เอา​นะ​เจ้า​คะ​ ​บางคน​ที่​คิด​ไม่ดี​อาจจะ​คิด​ว่า​ท่าน​โมโห​จน​ไม่สบาย​หรือ​แสร้งทำ​เป็น​ไม่สบาย​เอา​ได้​”​ ​หู่​พั่ว​ค่อยๆ​ ​เดิน​เข้ามา​เรียก​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​ให้​บ่าว​นำ​เสื้อคลุม​มา​ให้ท่าน​ดี​หรือไม่​”

เป็นการ​เตือน​นางอ้อม​ๆ​ ​ว่าที่​นี่​ลมแรง

สือ​อี​เหนียง​ตอบ​ ​“​อืม​”​ ​แล้วก็​พูดว่า​ ​“​ไม่ต้อง​ ​เรา​เข้าไป​ข้างใน​กัน​เถิด​!​”

หู่​พั่ว​ถอนหายใจ​อย่าง​โล่งอก

จากนั้น​ก็ได้​ยิน​สือ​อี​เหนียง​พูดว่า​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​ ​แต่ง​อนุภรรยา​คน​ใหม่​เข้ามา​ ​ควรจะ​ให้​นาง​อยู่​คนเดียว​หรือ​อยู่​กับ​พวกเรา​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​ ​นาง​คือ​คน​ของ​ไท​เฮา​ ​ไม่​เหมือน​อนุภรรยา​ทั่วไป​ ​ควรจะ​ให้​อยู่​คนเดียว​ได้​ ​หาก​เป็น​เช่นนั้น​ ​ก็​คง​ต้อง​อยู่​ที่​เรือน​ท่าเรือ​หลิว​ฟัง​ ​เรือน​จ้าว​จวง​ถัง​หรือว่า​เรือน​หน​่ง​เซียง​ทาง​ทิศตะวันตก​ของ​สวนดอกไม้​ ​เรือน​ท่าเรือ​หลิว​ฟัง​ใกล้​แม่น้ำ​ ​ไม่​ค่อย​ปลอดภัย​ ​เรือน​หน​่ง​เซียง​ก็​เรียบง่าย​เกินไป​ ​กลัว​จะ​มี​คน​บอกว่า​เรา​ต้อนรับ​นาง​ไม่ดี​…​แต่​หาก​มา​อยู่​กับ​เรา​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​กวาดตา​มองดู​ห้อง​รอบ​ๆ​ ​“​อย่างไร​ก็​เป็น​เพียง​อนุภรรยา​ ​คงอยู่​ลาน​ข้างหน้า​ไม่ได้​แน่นอน​ ​อยู่​ลาน​ข้างหลัง​?​ ​เช่นนั้น​พวก​เจ้า​จะ​ทำ​อย่างไร​ ​หาก​อยู่​ที่​ลาน​เล็ก​ทาง​ทิศตะวันออก​กับ​บรรดา​อี๋​เหนียง​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​อยู่​ที่​ลาน​แรก​ที่​หันหน้า​ไป​ทางทิศใต้​ ​หรือว่า​จะ​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​แบ่ง​ลาน​ให้​นาง​?​”​ ​พูด​พลาง​ถอนหายใจ​ ​“​ช่าง​เป็นเรื่อง​ที่​วุ่นวาย​เสีย​จริง​!​”

ฮู​หยิน​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​ ​ไม่​ส่ง​คน​ไป​สืบ​ข่าว​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ใน​พระราชวัง​ตอนนี้​?​ ​ท่าน​โหว​ปลอดภัย​หรือไม่​ ​แต่กลับ​มาสน​ใจ​เรื่อง​พวก​นี้​!

หู่​พั่ว​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เป็นห่วง​ ​นาง​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​จากนั้น​ก็​พูด​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เรื่อง​พวก​นี้​ ​ต้อง​ถาม​ท่าน​โหวก​่อน​เจ้าค่ะ​!​”

ดูเหมือนว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ไม่เข้าใจ​ว่านาง​หมายถึง​อะไร​ ​นาง​พยักหน้า​ ​“​รอท่าน​โหวก​ลับ​มา​แล้ว​ค่อย​ตัดสินใจ​ก็แล้วกัน​!​”​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท