ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 370 แต่งงาน (ต้น)

ตอนที่ 370 แต่งงาน (ต้น)

สือ​อี​เหนียง​สำรวจ​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตั้งแต่​หัว​จรด​เท้า​

เขา​ยังคง​สวม​ชุด​ราชสำนัก​สีแดง​ที่​สวม​เข้า​พระราชวัง​เมื่อวาน​นี้​ ​แต่​เครื่องประดับ​สีทอง​บน​หมวก​เหลียง​กวน​ที่​ส่อง​ประกาย​ระยิบระยับ​กลับ​ดู​เยือกเย็น​ ​ทำให้​เขา​ที่​เดิมที​ก็​ดู​เย็นชา​อยู่​แล้ว​ดู​เคร่งขรึม​มากขึ้น​กว่า​เดิม​ ​มองไม่เห็น​ความแตกต่าง​จาก​ปกติ​ ​แต่ว่า​เขา​นอนค้าง​แรม​ใน​พระราชวัง​ทั้งคืน​ ​คง​ต้อง​มี​อะไร​บางอย่าง​แปลก​ไป​ใช่​หรือไม่

“​ท่าน​โหว​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ลังเล​ ​“​ท่าน​เป็น​อะไร​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​สวม​เสื้อคลุม​สีขาว​ ​กระโปรง​ผ้า​ทอ​สีฟ้า​ปัก​ลาย​ดอก​เหมย​สีขาว​ ​ม้วน​ผม​เป็น​มวย​ธรรมดา​ ​ไม่ได้​สวม​เครื่องประดับ​อะไร​ ​ไม่ได้​แต่งหน้า​ ​แววตา​สดใส​ ​สีหน้า​นิ่ง​สงบ​ ​ท่าทาง​ดู​เป็นมิตร

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​ผิดปกติ

สือ​อี​เหนียง​ชอบ​จัด​ดอกไม้​ต้นไม้​พวก​นั้น​ ​แล้วยัง​ชอบ​แต่งตัว​ ​แต่ง​ห้อง​ ​อีกทั้ง​ยัง​เชี่ยวชาญ​ใน​เรื่อง​นี้​ ​สิ่งของ​ที่​เหมือนกัน​ ​แต่​เมื่อ​ผ่านมือ​ของ​นาง​แล้ว​ ​กลับ​เผย​ให้​เห็น​ความแตกต่าง​ที่​ไม่​เหมือน​คนอื่น​ ​ทำให้​คนที​่​พบเห็น​มีความสุข​ ​ไม่​เหมือนกับ​วันนี้​ ​นาง​ไม่ได้​สวม​เครื่องประดับ​ชิ้น​เล็ก​ๆ​ ​เพื่อให้​การ​แต่งตัว​ของ​ตัวเอง​ดู​เรียบง่าย​ ​แล้วก็​ไม่ได้​จับคู่​สีสัน​ของ​เสื้อผ้า​ ​แต่กลับ​แต่งตัว​อย่าง​ธรรมดา​ ​ทำให้​ขาด​ความงดงาม​ต่าง​จาก​ปกติ

ถึงแม้ว่า​จะ​ผ่าน​ช่วง​ที่​พวกเขา​พึ่ง​จะ​แต่งงาน​กัน​มานาน​แล้ว​ ​แต่​นาง​ก็​ยัง​แต่งตัว​อย่างพิถีพิถัน​ ​ตื่นขึ้น​มาตอน​เช้า​ ​ยัง​ต้อง​เลือก​ต่างหู​ดอก​ติง​เซียง​สีม่วง​อ่อนมา​ใส่​ให้​ดู​มีชีวิตชีวา​ ​ทำให้​ผู้คน​ที่​เห็น​อารมณ์ดี​ขึ้น​ตาม​ไป​ด้วย

วันนี้​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​นาง​ดูใจ​ลอย​!

ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​สายตา​ของ​เขา​ก็​มี​ความแปลกใจ

เมื่อวาน​ตอนที่​เข้าไป​ใน​พระราชวัง​ยังดี​ๆ​ ​อยู่​เลย​ ​แต่​มา​วันนี้​กลับ​เปลี่ยนไป​จาก​เดิม​…

หัวใจ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เต้น​ระรัว​ ​สายตา​ของ​เขา​มี​รอยยิ้ม​ที่​แผ่วเบา​ ​ทำให้​สีหน้า​ของ​เขา​ดู​ไม่​ค่อย​เคร่งขรึม​แล้ว

“​ข้า​สบายดี​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​ไป​ที่นาง​ ​“​พระราชกฤษฎีกา​ว่า​เช่นไร​บ้าง​”

แค่​ประโยค​เพียง​ประโยค​เดียว​ ​ก็​เปิดเผย​ข้อมูล​ทุกอย่าง​ออกมา

สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่​พูด​อะไร​เหลวไหล​ ​“​กำหนด​ฤกษ์​วัน​แต่งงาน​ใน​วันที่​สิบสอง​เดือน​สาม​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​ยก​แขน​ขึ้น​ ​บอก​ให้​นาง​รับใช้​เขา​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​“​จะ​ขัด​พระราชกฤษฎีกา​ไม่ได้​ ​เช่นนั้น​เจ้า​ก็​จัดการ​ให้​เรียบร้อย​เถิด​!​”

เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ไม่สน​ใจ

ทันใดนั้น​สือ​อี​เหนียง​พลัน​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ ​ใน​บรรดา​สตรี​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​นอกจาก​หยวน​เหนียง​ที่​เป็น​ภรรยา​เอก​ของ​เขา​แล้ว​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ถ​งอี​๋​เหนียง​และ​ชิว​หลัว​ที่​เสียชีวิต​ไป​แล้ว​ ​ล้วนแต่​เป็น​คนที​่​เขา​ไม่ได้​ต้องการ​ ​ส่วน​ตน​กับ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ก็​ยิ่ง​ช่วยไม่ได้​ ​ดังนั้น​ใน​คืน​วัน​แต่งงาน​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​หงุดหงิด​ ​แต่​เขา​ก็​พยายาม​ระงับอารมณ์​แย่​ๆ​ ​ของ​ตัวเอง​เอาไว้​…​ดูเหมือนว่า​เขา​จะ​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​พวก​นี้​สัก​เท่าไร

หรือว่า​ ​สำหรับ​เขา​แล้ว​เรื่อง​ใน​ราชสำนัก​ดู​น่าสนใจ​มากกว่า​?

คิดได้​เช่นนั้น​ ​นาง​ก็​แอบ​หัวเราะ

ไม่ต้อง​พูดถึง​บุตร​คนโต​สมัยโบราณ​ที่​ได้รับ​การศึกษา​ระบอบ​ศักดินา​อย่าง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​แม้แต่​ตน​ที่​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​ช่วงเวลา​ที่​มีวงศ์​ตระกูล​เป็น​รากเหง้า​มา​เป็นเวลา​หลาย​ปี​ ​แนวคิด​ของ​ตน​ยัง​เปลี่ยนไป​มาก​ ​หาก​ไม่มี​ตระกูล​คอย​ปกป้อง​ ​พึ่งพา​แค่​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​ตัวเอง​ ​ก็​แทบจะ​เป็นไปไม่ได้

สือ​อี​เหนียง​ช่วย​สวี​ลิ่ง​อี๋​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า

“​แต่ว่า​ข้า​ไม่เคย​เจอ​เรื่อง​เช่นนี้​มาก​่อน​”​ ​นาง​นึกถึง​ความเปลี่ยนแปลง​ของ​ตัวเอง​เมื่อ​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​ ​นึกถึง​ตอนที่​สือ​เหนียง​ลำบาก​ทุกคน​ก็​คอย​ยื่นมือ​ให้​ความช่วยเหลือ​ ​นึกถึง​ภาพ​บรรยากาศ​โกลาหล​ตอนที่​นาย​หญิง​ใหญ่​เสียชีวิต​ ​“​ท่าน​โหวต​้​อง​แนะนำ​ข้า​นะ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ส่ง​ชุด​ขุนนาง​ที่​ถอด​ออกมา​ให้​สาวใช้​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​อย่างไรก็ตาม​ ​สกุล​หยาง​ก็​เป็น​คน​ของ​ไท​เฮา​ ​ไม่รู้​ว่า​กฎ​เดิม​จะ​เหมาะสม​หรือไม่​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก้มหน้า​ลง​ ​สือ​อี​เหนียง​ถอด​ปิ่น​ปัก​หมวก​เหลียง​กวน​ออก​ให้​เขา

“​ถึง​ตอนนั้น​ต้อง​เชิญ​สำนัก​ดาราศาสตร์​มา​เลือก​ฤกษ์งาม​ยาม​ดี​หรือไม่​ ​งานเลี้ยง​ควร​มีโต​๊ะ​กี่​โต๊ะ​ ​ให้​นาง​อยู่​ที่​เรือน​ไหน​ถึง​จะ​ดี​”

สือ​อี​เหนียง​หันไป​บอก​สาวใช้​ให้​ยก​น้ำร้อน​เข้ามา​ ​สาวใช้​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​ถือ​ชุด​และ​หมวก​เหลียง​กวน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เก็บ​ลง​ใน​หีบ​อย่างระมัดระวัง

“​อนุภรรยา​คน​ใหม่​เข้า​จวน​มา​แล้ว​ ​ต้อง​ให้​ของขวัญ​อะไร​ ​แล้ว​ต้อง​เรียก​นาง​อย่างไร​ ​ข้า​ไม่รู้​อะไร​เลย​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อยๆ​ ​ม้วน​แขน​เสื้อ​ขึ้น​ ​มองดู​นาง​ค่อยๆ​ ​ขยับ​เข้ามา​ใกล้​ ​บน​หน้า​ยัง​มี​รอยยิ้ม​อัน​แผ่วเบา

ตอนที่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​จุน​เกอ​หมั้น​หมาย​ ​เขา​ไม่เคย​แนะนำ​ ​นาง​ยัง​จัดการ​ได้​อย่างเรียบร้อย​ ​ไม่มี​อะไร​ที่​ทำให้​คนอื่น​ต้อง​เป็นห่วง​ ​ทำไม​ครั้งนี้​ถึง​ต้อง​มี​คน​คอย​แนะนำ​ด้วย

คิดได้​เช่นนี้​ ​เขา​ก็​ค่อยๆ​ ​ยก​ยิ้ม​มุม​ปาก​อย่าง​มีความสุข​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ฮ่องเต้​ตรัส​ว่า​ ​ในเมื่อ​แต่ง​เข้ามา​ใน​จวน​ของ​เรา​แล้ว​ ​ก็​คือ​คน​ของ​เรา​ ​แค่​อย่า​ให้​เขา​กลายเป็น​คน​อกตัญญู​ก็​พอ​!​”

เป็น​อย่างที่​คิด​ไว้​จริงๆ​ ​นี่​คือ​ผลพวง​ของ​การประนีประนอม​หลังจาก​การต่อสู้​ทางการเมือง​!

คำพูด​ประโยค​นี้​ของ​ฮ่องเต้​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ต้อง​ต้อนรับ​หญิง​สกุล​หยาง​คน​นี้​อย่าง​มีมา​รยาท​

สือ​อี​เหนียง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​ไม่​ค่อย​มีความรู้​ ​เกรง​ว่า​คง​ต้อง​ถาม​ท่าน​แม่​ว่า​ควร​ทำ​เช่นไร​!​”

“​ได้​สิ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​คิ้ว​ที่​กำลัง​ขมวด​แล้ว​คลาย​ออก​อย่างรวดเร็ว​ของ​นาง​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​ต้อง​ปรึกษา​ท่าน​แม่​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​เสร็จ​แล้ว​เรา​ไปหา​ท่าน​แม่​กัน​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​นั่ง​บน​เตียง​เตา​แล้ว​ดื่ม​ชา​รอ

คงจะ​ต้อง​ตรวจดู​สมุดบัญชี​ ​ดู​ว่า​ตอนที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​แต่ง​เข้ามา​มี​กฎเกณฑ์​เช่นไร​ ​แล้วยัง​ต้อง​ถาม​ป้า​ซ่ง​ ​ดู​ว่าแต่​งอนุ​ภรรยา​มี​รายละเอียด​และ​ข้อห้าม​อะไร​บ้าง​ ​ถึง​ตอนนั้น​จะ​ได้​มี​ข้อมูล​…

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เดิน​ออกมา​จาก​ห้อง​ชำระ

สือ​อี​เหนียง​หยุด​คิด​ ​ช่วย​เขา​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​เป็น​เสื้อ​สีฟ้า​ธรรมดา​เหมือน​ทุกวัน​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​

ไท่ฮู​หยิน​ไม่ได้​อยู่​คนเดียว​ ฮู​หยิน​สอง​เอง​ก็​อยู่​ที่นั่น​ด้วย

การ​ที่​สกุล​หยาง​แต่ง​เข้ามา​นั้น​คือ​เรื่องใหญ่​สำหรับ​สกุล​สวี​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​แปลกใจ​ที่ฮู​หยิน​สอง​อยู่​ที่นี่​ ​เมื่อ​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​พวกเขา​สอง​คน​เดิน​เข้ามา​ ​ก็​บอก​ให้​สาวใช้​ยก​น้ำชา​เข้ามา​ ​จากนั้น​ก็​ไล่​สาวใช้​ใน​ห้อง​ออก​ไป​ ​“​นับ​เวลา​แล้ว​ ​หาก​เจ้า​ไม่​กลับมา​ตอนนี้​ ​ผ่าน​ไป​อีก​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ก็​คงจะ​กลับมา​แล้ว​!​”

โค้ง​คำนับ​เสร็จ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เดิน​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​ตรงข้าม​ไท่ฮู​หยิน​ ​ส่วนฮู​หยิน​สอง​และ​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ข้างๆ​

ไท่ฮู​หยิน​ถาม​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​“​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​”

“​ฮ่องเต้​ตรัส​ว่า​ไท​เฮา​ร่ำไห้​อยู่​ที่​พระตำหนัก​เฟิ​่ง​เซียน​ ​ให้​ข้า​เข้าไป​เกลี้ยกล่อม​นาง​ ​ข้า​จึง​ส่ง​คน​รีบ​ไปรา​ยงา​นองค​์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​ ​แล้ว​ตัวเอง​ค่อย​ตาม​ไป​ทีหลัง​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​ ​จากนั้น​ก็​เล่า​ว่า​ ​“​เมื่อ​ข้า​ไป​ถึง​ ​ซื่อ​เจิง​และ​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​ไป​ถึง​พระตำหนัก​เฟิ​่ง​เซียน​ก่อน​แล้ว​ ​ไม่​เพียงแค่​นั้น​ ​ไท​เฮา​และ​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​นั้น​อยู่​ด้วยกัน​แล้ว​ ​คน​หนึ่ง​คุกเข่า​อยู่​ทาง​ทิศตะวันออก​ของ​พระตำหนัก​เฟิ​่ง​เซียน​ ​อีก​คน​หนึ่ง​คุกเข่า​อยู่​ทาง​ทิศตะวันตก​ ​ร้องห่มร้องไห้​พูด​เรื่อง​ของ​ตัวเอง​ ​ไท​เฮา​บอกว่า​ไท่​จื่อ​เฟย​ไม่มี​ทายาท​ ​นาง​ละอายใจ​ต่อ​บรรพบุรุษ​ ​จะ​รับ​หญิงสาว​ที่​มี​ความสามารถ​มา​ให้​องค์​ไท่​จื่อ​ ​มองดู​เขา​แตก​กิ่งก้านสาขา​ ​สิ้นพระชนม์​ไป​แล้ว​จะ​ได้​มีหน้า​ไป​เจอ​กับ​ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​ ​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​กลับ​บอกว่า​ตัวเอง​ถูก​สั่งสอน​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ว่า​ทำ​อะไร​ก็​ให้​คิด​อย่าง​รอบคอบ​ ​ฮ่องเต้​คือ​ผู้ยิ่งใหญ่​ ​ตน​ซาบซึ้ง​เป็นอย่างมาก​ ​ดังนั้น​จึง​ยก​หลานสาว​คนโต​ของ​ตัวเอง​ให้​เป็น​พระ​ชายา​ของ​ไท่​จื่อ​ ​แล้วยัง​อบรม​บ่ม​สอน​นาง​อยู่​ตลอด​ว่า​ ​อย่า​ทำ​อะไร​เพื่อ​ประโยชน์ส่วนตัว​ ​อย่า​ใช้​ข้ออ้าง​ที่ว่า​แต่งงาน​ไม่​ถึง​สี่​เดือน​แล้วยัง​ไม่มี​ทายาท​ ​หา​คน​มารับ​ใช้​พระ​สวามี​ของ​ตัวเอง​เข้านอน​ ​อย่า​ประจบสอพลอ​ให้​ตัวเอง​เป็น​ที่​โปรดปราน​ ​อย่า​สร้าง​ความแตกต่าง​ระหว่าง​บุตร​ของ​พระ​ชายา​เอก​และ​บุตร​ของ​พระสนม​ ​ทำให้เกิด​ความแตกแยก​ ​กฎระเบียบ​เสียหาย​ ​ศีลธรรม​ตาลปัตร​ ​กลายเป็น​คนชั่ว​ของ​ตระกูล​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​ ​ไม่​สู้​ไม่มี​ทายาท​ตลอดชีวิต​ยัง​จะ​ดี​เสีย​กว่า​ ​บอก​ไท่​จื่อ​เฟย​ว่า​ต้อง​ตั้งใจ​เลี้ยงดู​ทายาท​ของ​ไท่​จื่อ​ ​ให้​เป็น​ราชวงศ์​ที่​มี​ความสามารถ​และ​ศีลธรรม​ ​ปกป้อง​ความเจริญรุ่งเรือง​ของ​ราชวงศ์​ต่อไป​…​”

เขา​ยัง​เล่า​ไม่ทัน​จบ​ ​สีหน้า​ของ​สตรีทั​้ง​สาม​คนใน​ห้อง​ก็​เปลี่ยนไป

ตอนนั้น​ไท​เฮา​ถูก​แต่งตั้ง​เป็น​ฮองเฮา​ก็เพราะว่า​ไม่มี​ทายาท​ ​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​พูด​เช่นนี้​ ​นาง​กำลัง​พูด​แทงใจดำ​ไท​เฮา

“ฝู​เฉิง​คน​นี้​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ถอนหายใจ​ ​“​แม้นาง​เป็น​น้องสาว​ของ​ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​ ​แต่​ก็​ทำเกินไป​!​”

“​ใช่​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ถอนหายใจ​ ​“​ไท​เฮา​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ชี้​ไป​ที่​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​แล้ว​เรียก​ ​’​เจ้า​ ​เจ้า​…​’​ ​จากนั้น​ก็​หมดสติ​ไป​”

ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​สอง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​ตกใจ​ ​พวก​นาง​สะดุ้ง​นั่ง​ตัวตรง​พร้อมกัน

“​โชคดี​ที่​หมอ​หลวง​หลิว​ของ​สำนัก​หมอ​หลวง​เฝ้า​อยู่​ที่​นอก​ตำหนัก​ตลอดเวลา​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​อย่าง​เอือมระอา​ ​“​วุ่นวาย​กัน​อยู่​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​ในที่สุด​ก็​ปลอดภัย​”

ถึงแม้​จะ​รู้​ว่า​เรื่อง​นี้​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ​แต่​คนใน​ห้อง​ก็​ยังคง​หวาดกลัว​

หาก​ไท​เฮา​สิ้นพระชนม์​เช่นนี้​ ​ไม่ต้อง​บอกว่า​ฮ่องเต้​จะ​ถูกตราหน้า​เป็น​ฮ่องเต้​สารเลว​ที่​ทรยศ​เสด็จ​แม่​ของ​ตัวเอง​ ​แม้แต่​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​โจว​ซื่อ​เจิง​ที่อยู่​ใน​เหตุการณ์​ก็​คง​หนี​ไม่​พ้น​!

“​แต่ว่า​ไท​เฮา​นั้น​ทรงพระ​ประชวร​จริงๆ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​“​ตื่นขึ้น​มายัง​พูดจา​ไม่​คล่อง​ ​จับมือ​ฮ่องเต้​ร้องไห้​อยู่​ตลอด​ ​ฮ่องเต้​จึง​ทน​ไม่ได้​ ​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​คุกเข่า​ร้องไห้​อยู่​ข้างๆ​ ​เหม่ย​เห​ริน​ผู้​เป็น​พระมารดา​ของ​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง​ที่​เคย​เลี้ยงดู​ฮ่องเต้​ก็​เข้ามา​”

ไท​เฮา​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ​จน​เกือบจะ​หายใจไม่ออก​อีกครั้ง​ ​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​เห็น​ว่า​มัน​ผิดปกติ​ ​จึง​ไม่กล้า​พูด​อะไร​ ​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​และ​โซ่ว​ชังปั​๋​วที​่​คุกเข่า​อยู่​ข้างนอก​ก็​ถือโอกาส​นี้​ร้องไห้​ออกมา​ ​ทันทีที่​ไท​เฮา​ได้ยิน​ก็​พยายาม​ลุกขึ้น​ไป​วัด​ไท่​เมี​่ยว​ ​ฮ่องเต้​ห้าม​ไม่ได้​ ​จึง​ขยิบตา​ให้​ข้า​ ​บอก​ให้​ข้า​ไป​พูด​เกลี้ยกล่อม​”

พูดถึง​ตรงนี้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ดู​เป็นกังวล​

“​แต่​ซื่อ​เจิง​กลับ​ไม่รู้​ความ​ ​เห็น​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​และ​โซ่ว​ชังปั​๋​วร​้​อง​ไห้​จน​ฮ่องเต้​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก​ ​จึง​เรียก​ข้า​เข้าไป​อีกครั้ง​ ​แล้วยัง​ร้องไห้​ไม่มี​น้ำตา​กับ​พวกเขา​ ​ร้องไห้​ไม่มี​น้ำตายัง​ไม่พอ​ ​แล้วยัง​กลบ​เสียง​ของ​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​และ​โซ่ว​ชังปั​๋ว​ ​ทำให้​ไท​เฮา​เสีย​พระทัย​ ​เกิด​อยาก​จะ​ฆ่าตัวตาย​ ​นาง​ลุกขึ้น​เอา​หัว​กระแทก​เตียง​โดย​ไม่​พูด​อะไร​สัก​คำ​…​”​ ​เขา​หยุด​พูด​แล้ว​เหลือบมอง​ที่​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สายตา​ที่​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​“​ฮ่องเต้​จึง​เบิกตา​ใส่​ข้า​ ​เสนอ​ว่า​จะ​แต่งตั้ง​บุตรสาว​สอง​คน​ของ​สกุล​หยาง​ให้​ข้า​และ​ซื่อ​เจิง​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เกือบจะ​หลุด​หัวเราะ​ออกมา

เดิมที​สวี​ลิ่ง​อี๋​อยาก​จะ​ยืมมือ​บุคคลที่สาม​ ​แต่​สุดท้าย​กลับเป็น​คนที​่​ซวย​เอง​

ฮ่องเต้​คงจะ​กริ้ว​ที่​เขา​เรียก​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​และ​โจว​ซื่อ​เจิง​มาด​้ว​ยก​ระ​มัง​!

“​ไท​เฮา​ไม่เห็นด้วย​ ​แต่​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​กลับ​บอกว่า​ดี​ ​บอกว่า​หาก​สกุล​หยาง​ยอม​มอบ​บุตรสาว​ให้​กับ​ซื่อ​เจิง​ ​นาง​ก็​จะ​ไปมาหาสู่​กับ​สกุล​หยาง​เหมือน​สกุล​ญาติ​ ​แล้ว​นำ​บรรพบุรุษ​ออกมา​เอ่ยอ้าง​สาบาน​ ​ฮ่องเต้​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ใช้​คำพูด​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​เกลี้ยกล่อม​ไท​เฮา​ ​บอกว่า​ไม่ยอม​ให้​บุตรสาว​สกุล​หยาง​ไปรับ​ใช้​ไท่​จื่อ​ ​ไม่ได้​หมายความว่า​จะ​ห่างเหิน​กับ​สกุล​หยาง​ ​แต่​เพราะว่า​ไท่​จื่อ​เป็น​องค์​ชาย​ของ​แว่นแคว้น​ ​พึ่ง​จะ​อภิเษกสมรส​ได้​ไม่​กี่​วัน​ก็​แต่งตั้ง​สนม​ ​ตุลาการ​คงจะ​ไม่พอใจ​ ​ถึง​ตอนนั้น​อาจจะ​ถูก​คนที​่​มี​เจตนา​ไม่ดี​ปลุกปั่น​ให้​สงสัย​ใน​ศีลธรรม​ของ​ไท่​จื่อ​ ​ทำให้​รากฐาน​ของ​แว่นแคว้น​สั่นคลอน​ ​สอง​คือ​กลัว​ว่า​คน​ข้างบน​ทำ​อะไร​ ​คน​ข้างล่าง​ก็​จะ​ทำตาม​ ​ทำให้​มัน​แย่​ลง​กว่า​เดิม​ ​แล้วยัง​พูด​กับ​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​และ​โซ่ว​ชังปั​๋​วว​่า​ ​ ​ตั้งแต่​ยกเลิก​คำสั่ง​ปิด​ทะเล​ ​หนิง​ปัว​ ​เฉวียน​โจว​และ​กว่าง​ตง​มักจะ​มี​โจร​ขึ้นฝั่ง​มาป​ล้น​สะ​ดม​ ​ขุนนาง​ใน​ราชสำนัก​ล้วนแต่​เสียใจ​และ​ไม่พอใจ​กับ​เรื่อง​นี้​ ​ราษฎร​เอง​ก็​ไม่พอใจ​กับ​เรื่อง​นี้​ ​ราชสำนัก​มีเรื่อง​มากมาย​ ​พวกเขา​คือ​สกุล​ของ​ไท​เฮา​ ​สกุล​สวี​ก็​คือ​สกุล​เดิม​ของ​ฮองเฮา​ ​ส่วน​ซื่อ​เจิง​คือ​บิดา​ของ​ไท่​จื่อ​เฟย​ ​ล้วนแต่​เป็น​เลือดเนื้อเชื้อไข​ของ​ฮ่องเต้​ ​ตอนนี้​ก็​ควรจะเป็น​น้ำหนึ่งใจเดียวกัน​ ​สามัคคี​กัน​ ​ฝ่าฟัน​อุปสรรค​ไป​ด้วยกัน​”

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เบิกตา​กว้าง

คิดไม่ถึง​ว่า​ฮ่องเต้​จะ​พูดเหลวไหล​ได้​มีสา​ระ​เช่นนี้​

ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา

“​ตอนแรก​ไท​เฮา​ยัง​ไม่เห็นด้วย​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​คงจะ​คิด​ว่า​คำพูด​ของ​ฮ่องเต้​เหลวไหล​เช่นกัน​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ผ่อนคลาย​ลง​ไม่น้อย​ ​“​แต่​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​และ​โซ่ว​ชังปั​๋ว​เห็น​ว่า​ฮ่องเต้​พูด​เช่นนี้​ ​พวกเขา​ทั้ง​หวาดกลัว​จิตใจ​ระส่ำ​ระ​ส่าย​ ​ฮ่องเต้​ทอดพระเนตร​แล้วจึง​ตรัส​ว่า​จะ​ประทาน​สมรส​พระราชทาน​ ​ไท​เฮา​จึง​ไม่​พูด​อะไร​อีก​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่เข้าใจ​ ​“​เช่นนั้น​ทำไม​มัน​ถึง​กลายเป็น​พระราชกฤษฎีกา​ของ​ไท​เฮา​ล่ะ​เจ้า​คะ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท