คัดค้าน? เฉินตันเหยียนกับฮ่องเต้ต่างผงะเล็กน้อย
เฉินตันเหยียนเรียกขานเสียงเบา “ตันจู อย่าแทรก”
ฮ่องเต้รู้สึกรำคาญ เขาแอบส่งเสียงไม่พอใจ เขารู้อยู่แล้วว่าเฉินตันจูอดทนไม่พูดไม่ได้
“เจ้าคัดค้านเรื่องใด” ฮ่องเต้เอ่ยถาม
“หม่อมฉันคัดค้านการพระราชทานแต่งตั้งพี่สาวหม่อมฉันเพคะ” เฉินตันจูพูด “ฝ่าบาทควรพระราชทานแต่งตั้งหม่อมฉันมากกว่าเพคะ”
เอ๊ะ? นางก็ต้องการขอพระราชทานแต่งตั้ง แน่นอน มันเป็นเรื่องที่เฉินตันจูสามารถทำได้ ดังนั้นนางหมายความว่าพี่สาวได้รับการแต่งตั้ง นางเองก็ต้องได้รับการแต่งตั้งหรือ?
ฮ่องเต้ส่งเสียงหัวเราะ มองเฉินตันจู “เฉินตันจู พวกเจ้าพี่น้องล้วนต้องการพระราชทานแต่งตั้ง เจ้าละโมบเหลือเกิน”
เฉินตันเหยียนเลิกคิ้วขึ้น “ตันจูอย่าได้พูดจาบังอาจ!”
เฉินตันจูจับมือของเฉินตันเหยียน “ท่านพี่ ถึงแม้ข้าอยากจะอยู่ด้านหลังท่านพี่ตลอดไป ให้ท่านทำแทนข้าทุกอย่าง แต่ข้าโตแล้ว เรื่องบางเรื่องข้าย่อมต้องทำด้วยตนเอง”
“ตันจู…” เฉินตันเหยียนจับมือของเฉินตันจู แต่เฉินตันจูชักมือกลับอย่างรวดเร็ว ถวายบังคมต่อฮ่องเต้
“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ต้องการให้พระองค์พระราชทานให้หม่อมฉันทั้งสองคน หม่อมฉันหมายความว่าพี่สาวของหม่อมฉันมิอาจรับพระราชทานนี้ได้ คนที่มีสิทธิ์รับพระราชทานมีเพียงหม่อมฉันเพคะ”
หญิงสาวเพิ่งหายจากการป่วย ถึงแม้จะแต่งหน้า สวมชุดที่สดใส แต่ยังคงปิดบังความอ่อนเพลียไม่ได้ อันที่จริงหลังจากนางเดินเข้ามา ฮ่องเต้ก็ตกใจเล็กน้อย รู้สึกเหมือนไม่รู้จักอีกฝ่าย ถึงแม้ขันทีจิ้นจงบอกว่าเฉินตันจูแทบจะป่วยตาย แต่เมื่อได้เห็นกับตาในเวลานี้ เขาถึงได้มั่นใจว่าหญิงสาวเหมือนได้ตายไปครึ่งหนึ่งแล้ว
จากนั้นนางหลบอยู่ด้านหลังของเฉินตันเหยียนอย่างเชื่อฟังเสมอมา เหมือนกระต่ายขาวที่แสนเชื่อง
จนกระทั่งเวลานี้นางยืดหลังตรง เปิดปากพูด…อืม นางยังคงเป็นเฉินตันจู ฮ่องเต้คิดในใจ ไม่สนว่านางเกือบจะเสียชีวิตหรือไม่ แค่เพียงนางยังมีชีวิตอยู่ นางก็ยังคงเป็นเฉินตันจูที่คุ้นเคย
ฟังคำพูดนี้เถิด ภายใต้แผ่นดินนี้มีเพียงนางที่กล้าพูด
“เฉินตันจู” ฮ่องเต้ทำหน้าไม่พอใจ “เจ้าบังอาจนัก! เจ้ามีความดีความชอบอันใดต้องพระราชทานรางวัล”
เฉินตันจูพูด “หม่อมฉันมีความดีความชอบจากการสังหารหลี่เหลียงเพคะ”
ดี เริ่มพูดเหตุผลประหลาดอีกแล้ว ฮ่องเต้ตำหนิ “เจ้าสังหารผู้อื่นเป็นความดีความชอบหรือ!”
อาจเป็นเพราะเพิ่งหายจากการป่วย น้ำเสียงการพูดของเฉินตันจูแผ่วเบา ไม่ร้องไห้เศร้าโศกเหมือนแต่ก่อน
“หม่อมฉันสังหารเขาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยเหลือกองกำลังทหารนับแสนในเมืองอู๋ให้หลุดพ้นจากสงคราม หลุดพ้นจากภัยน้ำหลาก ทำให้ฝ่าบาททรงหลีกเลี่ยงความรุนแรง ให้ฝ่าบาทได้ปกป้องพระบรมวงศานุวงศ์ไม่ให้ทำร้ายกันเอง ฝ่าบาทตรัสว่าหลี่เหลียงมีความดีความชอบ เช่นนั้นฝ่าบาทย่อมทรงตระหนักได้ว่าหลี่เหลียงจะกระทำการอันใดในการสร้างความดีความชอบ”
หญิงสาวเงยหน้ามองฮ่องเต้ นางไม่เคยพูดกับฮ่องเต้เช่นนี้มาก่อน แต่ละครั้งไม่ดุร้ายหยาบคายก็แสร้งทำตัวน่าสงสาร ฮ่องเต้รำคาญใจเมื่อเห็น แต่เวลานี้ดวงตาของนางสดใส น้ำเสียงอ่อนโยน แต่ฮ่องเต้ก็ไม่อยากมอง…เขาหลบสายตา
ใช่ เขารู้ว่าหลี่เหลียงต้องการทำสิ่งใด องค์รัชทายาทย่อมไม่ได้บอกเขา…องค์รัชทายาทก็อาจไม่รู้ สำหรับองค์รัชทายาทแล้ว เขาไม่สนใจว่าหลี่เหลียงจะช่วยราชสำนักกำราบเมืองอู๋อย่างไร สิ่งสำคัญคือสำเร็จก็พอ
เขาให้คนสืบว่าหลี่เหลียงทำสิ่งใดในกองทัพอู๋ ผูกใจกองกำลังได้อย่างไร วางแผนสังหารบุตรชายของเฉินเลี่ยหู่อย่างไร ครอบครองเขื่อนอย่างไร วางแผนขุดเขื่อนอย่างไร ทำให้เมืองอู๋เผชิญกับภัยพิบัติอย่างไร หลอกเอาป้ายคำสั่งจากมือของเฉินตันเหยียนและบุกโจมตีเมืองอู๋อย่างไร ประหารศีรษะของท่านอ๋องอู๋อย่างไร…
ช่างเป็นดาบที่ทั้งโหดเหี้ยมทั้งแหลมคม
หากดาบเล่มนี้ยังมีชีวิตอยู่ ไม่รู้จะเป็นอย่างไร ใช้ดีย่อมต้องใช้ดี...
สายตาของฮ่องเต้จับจ้องไปยังเฉินตันจู หญิงสาวผอมบางราวกับก้านหลิว แต่ก้านหลิวนี้สังหารดาบคมเล่มนั้นตายไป
ก้านหลิวไม่ได้บีบบังคับอีก ฮ่องเต้ไม่ตอบ นางก็ไม่ถาม
“ฝ่าบาท หม่อมฉันรู้ว่าคำขอนี้เป็นเรื่องยาก เนื่องจากหลี่เหลียงจงรักภักดีต่อฝ่าบาทและราชสำนักจริง ส่วนหม่อมฉันสังหารเขาไม่ได้ทำเพื่อฝ่าบาท” เฉินตันจูถอนหายใจเบาๆ หัวเราะเยาะตนเอง “หม่อมฉันไม่ได้จงรักภักดี หม่อมฉันมีเพียงความแค้นส่วนตัว แต่ฝ่าบาท…”
นางมองไปยังฮ่องเต้
“ตอนนั้นหม่อมฉันเข้าพบท่านแม่ทัพหน้ากากเหล็ก บอกกับเขาว่าสิ่งที่หลี่เหลียงสามารถทำเพื่อราชสำนักกับฝ่าบาท หม่อมฉันก็ทำได้”
อาจเป็นเพราะนึกถึงท่านแม่ทัพหน้ากากเหล็กนางพูดถึงตรงนี้ก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ ยิ้มพลางหลั่งน้ำตา
“ตอนนั้นท่านแม่ทัพตกใจหม่อมฉันมาก บอกว่าจะเป็นไปได้อย่างไร เจ้าเป็นบุตรสาวของเฉินเลี่ยหู่ เจ้าจะทรยศบิดาของเจ้า ท่านอ๋องของเจ้าได้อย่างไร หม่อมฉันบอกท่านแม่ทัพ เนื่องจากสถานการณ์บีบบังคับ เนื่องจากหม่อมฉันเชื่อว่าฝ่าบาทจะทำให้ต้าเซี่ยดีขึ้น”
ฮ่องเต้เงียบ มองดวงตาของหญิงสาวที่มีน้ำตาหลั่งไหลลงมา ก่อนจะเบนสายตาหนีอีกครั้ง
“ทรยศท่านพ่อ ถูกท่านพ่อขับไล่ออกจากตระกูล หม่อมฉันไม่กลัว ทรยศท่านอ๋อง ถูกคนบนแผ่นดินเย้ยหยัน หม่อมฉันไม่สนใจ หม่อมฉันไม่เคยคิดจะขอความดีความชอบ อีกทั้งไม่กล้าคิดว่าตนเองมีความดีความชอบ เพราะเรื่องที่หม่อมฉันทำล้วนทำเพื่อฝ่าบาท เนื่องจากมีฝ่าบาท จึงประสบความสำเร็จในเรื่องเหล่านี้ได้”
“หากไม่มีความเที่ยงธรรมของฝ่าบาท ความกล้าหาญในการเสด็จเข้าเมืองอู๋แต่เพียงผู้เดียว เรียกคืนพื้นแผ่นดินอู๋ การที่เหล่าราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับสงคราม ไม่ต้องพเนจรย่อมเป็นไปไม่ได้”
มาแล้ว…ฮ่องเต้คิดในใจ
เฉินตันจูราวกับรู้ความคิดของฮ่องเต้ นางคุกเข่าเดินหน้าขึ้นไป “ฝ่าบาท…หม่อมฉันไม่ได้เยินยอฝ่าบาท หากบอกว่าหม่อมฉันกำลังเยินยอฝ่าบาท เช่นนั้นคงเยินยอฝ่าบาทตั้งแต่ที่หม่อมฉันสังหารหลี่เหลียง หากทรงไม่เชื่อ พระองค์ถาม…”
พูดถึงตรงนี้ เสียงของนางก็ชะงักลง ท่านแม่ทัพหน้ากากเหล็กไม่อยู่แล้ว สีหน้าของนางเศร้าหมอง
ข้าไม่ต้องถามแม่ทัพหน้ากากเหล็ก นับตั้งแต่ที่เจ้าสังหารหลี่เหลียง แม่ทัพหน้ากากเหล็กก็พูดในที่สิ่งเจ้าพูดกับข้าแล้ว ฮ่องเต้คิดในใจ เวลานั้นเขาก็เยินยอเจ้าแล้ว เวลานีัก็ยังคงตักเตือนข้า
ครุ่นคิดถึงเจ้าเด็กคนนั้นที่ใช้ความดีความชอบในการเป็นแม่ทัพหน้ากากเหล็กขอร้องแทนเฉินตันจู สีหน้าของฮ่องเต้แย่ลงทันที
หลังจากเฉินตันจูเริ่มพูด เฉินตันเหยียนก็ไม่ได้พูดขัดน้องสาวอีก เพียงแค่มองสีหน้าของฮ่องเต้อยู่ตลอด เวลานี้จึงพูดเสียงเบา “ตันจู อย่าได้พูดอีกเลย มีความดีความชอบก็คือมีความดีความชอบ ฝ่าบาทตรัสด้วยตนเอง ไม่ใช่เจ้าเป็นคนพูด”
เฉินตันจูหันกลับไป ราวกับตอนเด็กที่ถูกห้ามไม่ให้ไล่ตามหมาแมว พูดเสียงดัง “ไม่! ข้าไม่ต้องการความดีความชอบได้ ไม่ต้องการพระราชทานรางวัลได้ แต่หากหลี่เหลียงยังสามารถถูกพระราชทานรางวัลเพราะคิดว่าเขามีความดีความชอบ เหตุใดข้าจึงไม่ได้”
นางมองไปทางฮ่องเต้อีกครั้ง
“หากฝ่าบาทประกาศต่อคนทั่วแผ่นดินว่าหลี่เหลียงมีความดีความชอบ เช่นนั้นหม่อมฉันเฉินตันจูที่สังหารหลี่เหลียงก็คือคนผิด หม่อมฉันไม่เอาความดีความชอบได้ แต่หม่อมฉันกลายเป็นคนผิดไม่ได้”
“หม่อมฉันเฉินตันจูเคยทำเรื่องชั่วร้ายมากมาย เรื่องหลบหลู่ก็ดี ดูหมิ่นฝ่าบาทก็ดี รังแกราษฎรก็ดี ฝ่าบาทจะลงโทษหม่อมฉันอย่างไรก็ได้ ยกเว้นเรื่องสังหารหลี่เหลียง หม่อมฉันเฉินตันจูไม่ยอมรับผิด!”
ฮ่องเต้ที่เงียบอยู่พูดขึ้นอย่างเรียบเฉย “เฉินตันจู เจ้าต้องการสิ่งใด”
เฉินตันจูยืดตัวตรง “หม่อมฉันขอให้ฝ่าบาทถอนพระราชทานรางวัลให้ท่านพี่ ถอนพระราชทานให้บุตรของหลี่เหลียงเพคะ”
“จากนั้นเล่า?” ฮ่องเต้ถาม
เฉินตันจูพูด “จากนั้น ในเมื่อพูดถึงความดีความชอบในการเรียกคืนแผ่นดินอู๋ หม่อมฉันคนเดียวก็พอ” นางโน้มตัวถวายบังคม “ขอฝ่าบาทโปรดแต่งตั้งหม่อมฉันเป็นองค์หญิง”