ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 374 อนุภรรยาคนใหม่(กลาง)

ตอนที่ 374 อนุภรรยาคนใหม่(กลาง)

ทันใดนั้น​ ​ภายใน​ห้อง​ก็​เงียบสงัด

สือ​อี​เหนียง​เงยหน้า​มอง​ปลาทอง​ที่ว่า​ยน​้ำ​ไปมา​ตรง​ขอบ​หน้าต่าง

นาง​แตะ​ตู้ปลา​เบา​ๆ

ปลาทอง​ว่าย​หนี​ออก​ไป​ด้วย​ความตกใจ​ ​จากนั้น​ก็​ว่าย​มารวม​ตัว​กัน​ ​เป่า​ฟองอากาศ​ใส่​นาง​ที่​กระจก

ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ ​นาง​พลัน​นึกถึง​หลัว​เจิ​้น​หง​ที่อยู่​อวี​๋​หัง​ที่​ห่างไกล

ครั้งแรก​ที่​ตน​กอด​เขา​ ​เขา​ก็​เป่า​ฟองอากาศ​ใส่​ตน​เช่นนี้

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​ตัดสินใจ​เขียนจดหมาย​ถามไถ่​อี๋​เหนียง​ห้า​และ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง

หู่​พั่ว​ย้าย​โคมไฟ​มา​ ​พับ​แขน​เสื้อ​ขึ้น​แล้ว​ช่วย​สือ​อี​เหนียง​ฝน​หมึก

หลังจาก​เขียนจดหมาย​เสร็จ​แล้ว​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​มา​พอดี

“​ทำความสะอาด​ห้อง​เรียบร้อย​แล้ว​!​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​ย่อเข่า​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​คิด​ว่า​ ​ท่าน​จะ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​หรือไม่​”

“​ไม่จำเป็น​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยื่น​จดหมาย​ให้​หู่​พั่ว​ ​บอก​ให้​นาง​หา​คน​ส่งจดหมาย​ออก​ไป​ ​“​ข้า​ไม่ได้​ออก​ไป​อยู่​แล้ว​ ​เช่นนี้​ก็​พอแล้ว​”

นาง​สวม​เสื้อผ้า​ฝ้าย​สีขาว​ธรรมดา​ ​สวม​กระโปรง​สีฟ้า​ ​ม้วน​ผม​เป็น​มวย​ ​ห้อย​หยก​ขาว​ดอก​กล้วยไม้​ไว้​ตรง​เอว​ ​ใน​ความเรียบง่าย​มี​ความสง่างาม​ ​เป็นการ​แต่งตัว​ที่​เหมาะกับ​ช่วง​ไว้ทุกข์​ของ​นาง​เป็นอย่างมาก

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ไม่​พูด​อะไร​อีก​ ​เหลือบมอง​นาฬิกาไขลาน​ใน​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันออก​ ​“​อีก​หนึ่ง​เค​่อ​เสลี่ยง​ก็​จะเข้า​ประตู​แล้ว​!​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ยืน

มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“​ท่าน​โหวก​ลับ​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​และ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ไป​ที่​ห้องโถง

สวี​ลิ่ง​อี๋​สวม​เสื้อผ้า​ไหม​สีฟ้า​ตัว​เดิมที​่​เขา​ชอบ​ใส่​ ​ ​ม้วน​ผม​ด้วย​ปิ่น​ไม้​ไผ่​ ​อก​ผ่าย​ไหล่​ผึ่ง​ ​ดวงตา​ที่​กลม​โต​เป็นประกาย​ ​อาจจะ​เป็นเพราะว่า​เขา​ดื่ม​สุรา​ ​หน้า​จึง​แดง​ ​สีหน้า​ก็​ไม่ได้​เคร​่ม​ขรึม​เหมือนปกติ​ ​ทำให้​เขา​ดู​เป็นมิตร​มากขึ้น​ไม่น้อย

พวก​นาง​เดิน​เข้าไป​คำนับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สือ​อี​เหนียง​เอ่ย​เตือน​เขา​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้าไป​เปลี่ยนเป็น​เสื้อผ้า​ไหม​สีฟ้า​ตัวใหม่​ ​ทำให้​เขา​ดู​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​ไม่น้อย​

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ชม​เขา​ ​“​ท่าน​โหว​แต่งตัว​เช่นนี้​ ​ดู​เด็ก​ลง​ไม่น้อย​เจ้าค่ะ​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เหลือบ​ไป​มอง​นาง​ช้าๆ

คำพูด​ของ​นาง​จึง​ติด​อยู่​ที่​ลำคอ​ ​พลัน​ทำ​สีหน้า​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

สาวใช้​ใน​ห้อง​ต่าง​พากั​นก​้​มห​น้า​ก้ม​ตาลง​ ​ทำท่า​ทีม​อง​ไม่เห็น​ ​แต่​มัน​กลับ​ทำให้​บรรยากาศ​อึดอัด​มากกว่า​เดิม

สือ​อี​เหนียง​ช่วย​กอบกู้​สถานการณ์​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​“​ชา​พร้อม​แล้ว​หรือยัง​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​“​เรียบร้อย​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​กลับมา​ยิ้ม​อีกครั้ง​ ​“​ถ้วย​ชากระ​เบื้อง​ลาย​กิ่งไม้​ ​ประเดี๋ยว​ชงชา​หลง​จิ​่ง​ชั้นดี​”

บรรยากาศ​ใน​ห้อง​ก็​ผ่อนคลาย​ลง​ ​มีบ​่า​วรับ​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“​ท่าน​โหว​ขอรับ​ ​เสลี่ยง​เข้า​ประตู​มา​แล้ว​ขอรับ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เจ้า​กลับ​เข้าไป​เถิด​!​”

ตอนที่​สือ​อี​เหนียง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ปรึกษา​กัน​เรื่อง​ดื่ม​ชาคา​รวะ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​อย่าง​ไม่สน​ใจ​ว่า​ ​“​เรื่อง​ไว้ทุกข์​ต้อง​มาก​่อน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​คิด​ว่า​เขา​จะ​ให้​มาดื​่ม​ชาคา​รวะ​ที่​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันตก

ทันทีที่​นาง​นั่งลง​ ​ก็​มีบ​่า​วรับ​ใช้​มารา​ยงา​นว​่า​ ​“​ท่าน​โหว​ขอรับ​ ​อี๋​เหนียง​คน​ใหม่​เข้า​ประตู​มา​แล้ว​ขอรับ​”

เสลี่ยง​ของ​คน​สกุล​หยาง​เข้ามา​ทาง​ประตู​หลัง​ ​จากนั้น​ก็​มา​หยุด​อยู่​ที่​หน้า​บันได​เรือน​หลัก​อย่างรวดเร็ว

ป้า​ตู้​และ​ป้า​ซ่ง​ประคอง​สตรีที​่​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​สีชมพู​เข้ามา​ที่​ห้องโถง​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยิ้มพราย​แล้ว​เดิน​ไป​เปิด​ผ้าคลุม​หน้า​ออก

บรรยากาศ​ใน​ห้อง​พลัน​เงียบสงัด​ ​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ก็​มีเสียง​หัวเราะ​ที่​ราวกับ​เสียง​ระฆัง​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ดัง​ขึ้น​มา​ ​“​ท่าน​โหว​เจ้า​คะ​ ​อี๋​เหนียง​ดื่ม​ชาคา​รวะ​ท่าน​เจ้าค่ะ​”

ลี่ว​์​อวิ​๋​นรี​บนำ​เบาะรองเข่า​ไป​ไว้​ข้างหน้า​หยาง​อี๋​เหนียง

หยาง​อี๋​เหนียง​ที่​ก้มหน้าก้มตา​อยู่​ตลอด​ก็​คุกเข่า​ลง​ ​รับ​ชา​ใน​มือ​ของ​ป้า​ซ่ง​มา​แล้ว​ยกขึ้น​เหนือศีรษะ

สวี​ลิ่ง​อี๋​รับ​ถ้วยชามา

หยาง​อี๋​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เงยหน้า​ขึ้น​มา​ ​ก็​พบ​เข้ากับ​ใบหน้า​ที่​ดู​อ่อนเยาว์​และ​หล่อเหลา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

นาง​ลอบ​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​รีบ​ก้มหน้า​ลง​อีกครั้ง​ ​แต่​หาง​ตากลับ​เหลือบมอง​ไป​อีก​ด้าน​อย่าง​ไม่ได้ตั้งใจ​ ​ตาม​กฎ​แล้ว​ควร​มีฮู​หยิน​สกุล​หลัว​ของ​หย่ง​ผิง​โหว​นั่ง​อยู่

แต่​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​กลับ​ไม่มีใคร​สัก​คน​ ​มี​เพียง​เบาะ​รอง​นั่ง​สีแดง​บน​เก้าอี้​ที่อยู่​ภายใต้​แสงไฟ​ ​ทำให้​มัน​สว่างไสว​ราวกับ​แสงอาทิตย์​ใน​ฤดูร้อน​

นาง​พลัน​ตกใจ

ป้า​ตู้​เข้ามา​พยุง​แขนนาง

ความคิด​ผุด​ขึ้น​มา​อย่างรวดเร็ว​ ​ทันใดนั้น​หยาง​อี๋​เหนียง​ก็​เข้าใจ​ทันที

คนใน​สกุล​เคย​บอก​ตน​ว่า​ ​สกุล​หลัว​ยังอยู่​ใน​ช่วง​ไว้ทุกข์​

คาด​ว่า​คงจะ​กลัว​ชนกั​บงา​นม​งคล​ ​ดังนั้น​จึง​เลือก​นั่ง​อยู่​อีก​ห้อง​หนึ่ง​กระมัง

นาง​ลุกขึ้น​ยืน​ ​ทันใดนั้น​ก็​มีเสียง​ที่​ฟัง​ดู​นุ่มนวล​และ​อ่อนโยน​แต่​น้ำเสียง​กลับ​เรียบ​เฉย​ของ​ชาย​คน​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​มา​ ​“​ดื่ม​ชาคา​รวะ​ที่นี่​เถิด​!​”

หยาง​อี๋​เหนียง​รู้สึก​ว่า​ป้า​ตู้​ที่​พยุง​ตัวเอง​ขึ้น​มา​หยุดชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง

สวี​ลิ่ง​อี๋​เหลือบมอง​ไป​ที่​ป้า​ตู้​ ​“ฮู​หยิน​ยังอยู่​ใน​ช่วง​ไว้ทุกข์​”

ดูเหมือนว่า​กำลัง​อธิบาย​ ​แต่​ก็​ดูเหมือนว่า​กำลัง​ออกคำสั่ง

ป้า​ตู้​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เงยหน้า​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋

เขา​นั่ง​อยู่​ที่นั่น​ด้วย​ท่าที​ที่​เคร่งขรึม​ ​สายตา​เย็นชา​ ​และ​ถ้วย​ชา​ที่​หยาง​อี๋​เหนียง​คารวะ​เขา​เมื่อ​ครู่​ก็​ถูก​เขา​วาง​ไว้​บน​โต๊ะ​ข้างๆ​ ​อย่าง​ไม่สน​ใจ

ป้า​ตู้​ตกอกตกใจ​ ​พลัน​ยืดตัว​ตรง​เงียบๆ​ ​จากนั้น​ก็​ก้มหน้า​แล้ว​เดิน​ไป​อยู่​ข้างๆ​ ​อย่างรวดเร็ว

ป้า​ซ่ง​ได้ยิน​แล้วก็​ตกใจ​เช่นกัน

มัน​ไม่​เหมือนกับ​ที่ฮู​หยิน​พูด​ไว้​ก่อนหน้านี้​ ​ดื่ม​ชาคา​รวะ​ที่นี่​?​ ​จะ​คารวะ​อย่างไร​กัน​…

แต่​ตอนนี้​ ​นาง​ไม่มี​สิทธิ์​สงสัย

ป้า​ซ่ง​หยุด​ความ​สับสน​ใน​ใจ​ของ​ตัวเอง​เอาไว้​ ​รีบ​ถือ​ถ้วย​ชา​ที่อยู่​บน​ถาด​ใน​มือ​ของ​สาวใช้​ที่​เตรียม​ไว้​ตั้ง​นาน​แล้ว​ยื่น​ให้​หยาง​อี๋​เหนียง​

หยาง​อี๋​เหนียง​รู้สึก​แปลก​ๆ​ ​ใน​ใจ​ ​แต่ว่า​ป้า​ซ่ง​ยื่น​ถ้วยชามา​ให้​แล้ว​ ​นาง​ไม่มีเวลา​มาคิ​ดอะ​ไร​ ​รับ​ถ้วยชามา​ ​ก้มหน้า​ลง​แล้ว​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​เหนือศีรษะ​

สวี​ลิ่ง​อี๋​เหลือบมอง​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​เก้าอี้​ไท่​ซือ

ทันใดนั้น​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​รู้สึก​เหมือน​กลิ้ง​อยู่​ใน​ลม​ฝน​พายุ​ ​ราวกับ​ถูก​ทรมาน​บน​กองไฟ​ที่​กำลัง​ใช้​หุง​อาหาร​ ​นาง​ยืน​อึ้ง​อยู่​ตรงนั้น

ให้​ตน​รับ​ถ้วย​ชา​!

แต่​ตน​เป็น​อนุภรรยา​!

สวี​ลิ่ง​อี๋​เหลือบมอง​นาง​อีกครั้ง​ด้วย​สายตา​ที่​เย็นชา

ฉับพลัน​ ​ราวกับ​ถูก​สาด​ด้วย​น้ำ​ที่​เย็นยะเยือก​ใน​ฤดูหนาว​ก็​ไม่​ปาน​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้สติ​กลับมา​

นาง​สูด​หายใจเข้า​ลึก​ๆ​ ​พยายาม​ฝืนยิ้ม​แล้ว​เดิน​เข้าไป​รับ​ถ้วยชามา​จาก​หยาง​อี๋​เหนียง

“​พี่​หญิง​หยาง​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​มี​ความเคารพ​และ​สนิทสนม​ ​“ฮู​หยิน​ของ​เรา​ยังอยู่​ใน​ช่วง​ไว้ทุกข์​”

คนใน​ห้อง​นี้​ ​ตน​ทำให้​ใคร​ไม่พอใจ​ไม่ได้​สัก​คน​ ​ดังนั้น​จึง​ต้อง​พูด​อย่าง​ให้เกียรติ

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เช่นนี้​ก็​ลุกขึ้น​ด้วย​สายตา​ที่​พอใจ​ ​“​เอาล่ะ​ ​ซุ่น​อ๋อง​และ​คนอื่นๆ​ ​ยังอยู่​ข้างนอก​ ​พวก​เจ้า​ดูแล​หญิง​หยาง​อี๋​เหนียง​ให้​ดี​ ​ข้า​ออก​ไป​ประเดี๋ยว​”​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ออก​ไป​จาก​ห้องโถง

บรรยากาศ​ใน​ห้อง​พลัน​ตก​อยู่​ใน​ความ​เงียบสงัด

“​เร็ว​เข้า​ ​ประคอง​อี๋​เหนียง​คน​ใหม่​เข้าไป​ใน​ห้อง​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​นึกถึง​ความ​เย็นชา​ใน​สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เมื่อ​ครู่​ ​นาง​ก็​รีบ​ยิ้มแย้ม​ ​“​ประเดี๋ยว​ท่าน​โหวก​ลับ​มา​แล้ว​จะ​ตำหนิ​ข้า​ ​ข้า​ไม่รับผิดชอบ​นะ​!​”

ป้า​ตู้​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​เข้าไป​ประคอง​หยาง​อี๋​เหนียง

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยื่น​ถ้วย​ชา​ให้​ลี่ว​์​อวิ​๋​นที​่​อยู่​ข้างๆ​ ​เดิน​เข้าไป​ชี้​ป้า​ตู้​ ​“​พี่​หญิง​หยาง​ ​นี่​คือ​ป้า​ตู้​ ​ป้า​รับใช้​คนสนิท​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​รับใช้​ไท่ฮู​หยิน​ของ​เรา​มาก​ว่า​สี่​สิบ​ปี​แล้ว​ ​แม้แต่​ท่าน​โหว​ของ​เรา​ยัง​ต้อง​เรียก​ท่าน​ป้าด​้วย​ความเคารพ​ ​’​“

หยาง​อี๋​เหนียง​เอง​ก็​เรียก​นาง​ว่า​ ​“​ป้า​ตู้​”​ ​อย่าง​รู้ความ​

ป้า​ตู้​ยิ้ม​แล้ว​พูด​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​“​อย่า​ฟัง​นาง​พูดเหลวไหล​เจ้าค่ะ​ ​คนรับใช้​อย่าง​เรา​ ​ท่าน​โหว​เรียก​เช่นนั้น​ก็เพราะว่า​ให้เกียรติ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ตัวเอง​มี​ความดี​ความชอบ​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​ชี้​ไป​ที่​ป้า​ซ่ง​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​นี่​คือ​ป้า​ซ่ง​ ​ป้า​รับใช้​คนสนิท​ของฮู​หยิน​ ​ต่อไป​ท่าน​ต้อง​ไปมาหาสู่​กับ​นาง​”

หยาง​อี๋​เหนียง​ก็​รีบ​เรียก​นาง​ว่า​ ​“​ป้า​ซ่ง​”​ ​ด้วย​ความเคารพ

ป้า​ซ่ง​ยิ้ม​แล้ว​โบกมือ​ ​“​ไม่กล้า​ ​ไม่กล้า​เจ้าค่ะ​”

“​เอาล่ะ​ ​เอาล่ะ​ ​พูด​เรื่อง​พวก​นี้​ทำไม​กัน​!​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​ก็​ยื่นมือ​ออก​ไป​กอด​แขน​ข้าง​หนึ่ง​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​อย่าง​สนิม​สนม​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ด้วย​ความเป็นห่วง​ว่า​ ​“​วันนี้​ยุ่ง​ทั้งวัน​ใช่​หรือไม่​!​ ​ถือโอกาส​ตอนที่​ท่าน​โหว​ออก​ไป​ดื่ม​สุรา​ขอบคุณ​แขก​ที่มา​ร่วมงาน​ก็​พักผ่อน​สักหน่อย​เกิด​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​ประเดี๋ยว​ค่อย​ว่า​กัน​ ​มี​เวลา​อีก​ตั้ง​เยอะแยะ​!​”

หยาง​อี๋​เหนียง​เห็น​นาง​สวม​เครื่องประดับ​ปิ่น​ดอก​มรกต​บน​หัว​ ​สวม​ต่างหู​เพชรตาแมว​ ​อีกทั้ง​ยัง​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​ปัก​ฐาน​สีทอง​และ​รองเท้า​ปัก​ด้าย​สีทอง​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดคุย​กับ​ท่าน​ป้า​ผู้ดูแล​ ​แล้วยัง​แต่งตัว​หรูหรา​ขนาด​นี้​ ​บอกว่า​ตัวเอง​เป็น​อนุภรรยา​ ​แต่​เมื่อ​ครู่​ยัง​รับ​ถ้วย​ชาคา​รวะ​ของ​ตน​ ​ปาก​บอกว่า​ตน​เป็น​แขก​ ​แต่​พฤติกรรม​ของ​นาง​กลับ​ไม่ได้​ระมัดระวัง​อะไร​ขนาด​นั้น​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​จึง​ไม่แน่ใจ​ ​เหลือบ​ไป​มอง​ป้า​ซ่ง​แล้ว​พูด​ด้วย​ความลังเล​ ​“​ท่าน​นี้​คือ​…​”

“​ดู​ข้า​สิ​!​ ​มัว​แต่​พูดถึง​เรื่อง​ตัวเอง​”​ ​ป้า​ซ่ง​ยิ้ม​แล้ว​แนะนำ​นาง​ ​“​นี่​คือ​อี๋​เหนียง​ของ​เรา​ ​สกุล​เดิม​คือ​สกุล​เหวิน​เจ้าค่ะ​”

หยาง​อี๋​เหนียง​จึง​เรียก​ ​“​พี่​หญิง​”​ ​แล้ว​ย่อเข่า​คำนับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จับ​แขนนาง​ไม่​ปล่อย​ ​“​อย่า​ ​อย่า​ ​อย่า​ ​เจ้า​เป็น​คน​ของ​ไท​เฮา​ ​สถานะ​สูงส่ง​ ​จะ​ให้​เจ้า​คำนับ​ข้า​ได้​เช่นไร​”

ป้า​ตู้​ถือโอกาส​ปล่อยมือ​หยาง​อี๋​เหนียง

หยาง​อี๋​เหนียง​ฝืน​คำนับ​ ​“​พี่​หญิง​พูด​อะไร​กัน​เจ้า​คะ​ ​ในเมื่อ​แต่ง​เข้ามา​แล้ว​ ​ก็​เป็น​คน​ครอบครัว​เดียวกัน​ ​เรื่อง​ของ​เมื่อก่อน​ก็​คือ​เรื่อง​ของ​เมื่อก่อน​ ​เรื่อง​ของ​ตอนนี้​ก็​คือ​เรื่อง​ของ​ตอนนี้​ ​พี่​หญิง​แต่ง​เข้ามา​ก่อน​ข้า​ ​ข้า​ต้อง​คำนับ​พี่​หญิง​สิ​เจ้า​คะ​…​”

“​ไอ​๊​หยา​ ​พี่​หญิง​หยาง​ช่างพูด​เป็น​เสีย​จริงๆ​!​”​ ​นาง​เอ่ย​ชม​หยาง​อี๋​เหนียง​พลาง​ประคอง​นาง​เดิน​ออก​ไป​ข้างนอก

“​ท่าน​เรียก​ข้าว​่า​น้อง​หญิง​เถิด​…​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​พูด​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​เรื่อยๆ

สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ล้วน​เดินตาม​ไป​ ​ล้อมรอบ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​หยาง​อี๋​เหนียง​ไป​ที่​ลาน​เล็ก​ทาง​ทิศตะวันออก

ป้า​ตู้​และ​ป้า​ซ่ง​ขยิบตา​ให้​กัน

ทันใดนั้น​ใน​ห้อง​ก็​เงียบสงัด

ลี่ว​์​อวิ​๋น​ถือ​ถ้วย​ชา​ถ้วย​นั้น​เดิน​เข้ามา​อย่าง​มึนงง​ ​“​ป้า​ซ่ง​ ​ชา​ถ้วย​นี้​…​”

ป้า​ซ่ง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ป้า​ตู้​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​มัน​เย็น​แล้ว​ ​ก็​เท​ทิ้ง​เถิด​!​”

ลี่ว​์​อวิ​๋​นม​อง​ดู​ถ้วย​ชา​ที่​มี​ควัน​ร้อน​ลอย​ออกมา​ด้วย​สีหน้า​ที่​งงงวย

ป้า​ซ่ง​ยก​ยิ้ม​อย่าง​พอใจ​

ป้า​ตู้​เห็น​เช่นนี้​ก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​อี๋​เหนียง​คน​ใหม่​แต่ง​เข้ามา​แล้ว​ ​นี่​ก็​ดึก​มาก​แล้ว​ ​ข้า​ไป​บอกลาฮู​หยิน​แล้วก็​จะ​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ ​พรุ่งนี้​เช้า​ยัง​ต้อง​รับใช้​ไท่ฮู​หยิน​ตื่นนอน​!​”

“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ข้า​ก็​ไม่กล้า​รั้ง​เจ้า​ไว้​”​ ​ป้า​ซ่ง​พูด​ ​นาง​เดิน​ออก​ไป​เปิดม่าน​ด้วยตัวเอง​ ​“​วัน​ไหน​เจ้า​ไม่มี​อะไร​ทำ​ก็​ค่อย​มานั​่ง​เล่น​ที่​เรือน​เถิด​!​”

ป้า​ตู้​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​ ​ก้มหน้า​แล้ว​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง

“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​ย่อเข่า​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​อี๋​เหนียง​คน​ใหม่​ดื่ม​ชาคา​รวะ​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​ส่วน​ท่าน​โหว​ออก​ไป​ต้อนรับ​แขก​ข้างนอก​ ​ไม่ทราบ​ว่า​ท่าน​มี​อะไร​ให้​บ่าว​รับใช้​อีก​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​นั่ง​อยู่​ใน​ห้อง​ ​นาง​ได้ยิน​เสียง​ข้างนอก​อย่าง​แผ่วเบา​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความ​สับสน​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​ป้า​ตู้​จะ​มาบ​อก​ลา​ตัวเอง

อี๋​เหนียง​คน​ใหม่​ลงมา​จาก​เสลี่ยง​จะ​ต้อง​มี​คน​คอย​ประคอง​ ​เดิมที​่​นาง​อยาก​เชิญ​ป้า​สือ​ ​ท่าน​ป้า​คนสนิท​ของฮู​หยิน​ห้ามา​ ​แต่​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​ไม่​ค่อย​สบาย​พอดี​ ​นาง​ถึง​ได้​เชิญ​ป้า​ตู้​มา​แทน​

ไม่รู้​สถานการณ์​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​นาง​ก็​ไม่​ควร​ถาม​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ขอบคุณ​ป้า​ตู้​ ​บอก​ให้​หู่​พั่ว​หยิบ​ของขวัญ​ที่​เตรียม​ไว้​แล้ว​ออกมา​

ผ้า​ทอ​สอง​ผืน​ ​ผ้า​เก๋​อปู​้​เนื้อ​ละเอียด​สอง​ผืน​ ​ผ้าไหม​สอง​ผืน​ ​และ​ผ้าไหม​ขาว​สอง​ผืน​ ​ล้วนแต่​เป็น​ของ​ชั้นดี

“​ท่าน​ป้า​อย่า​ปฏิเสธ​เลย​ ​ถือว่า​เป็นการ​แสดงความยินดี​ให้ท่าน​โหว​ของ​เรา​”

ป้า​ตู้​ก็​ไม่ได้​ปฏิเสธ​ ​ยิ้ม​แล้ว​รับ​มัน​มา​ ​จากนั้น​ก็​เอ่ย​ขอตัว​ลา

สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​มืดมน​ลง​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​”

ใบหน้า​ของ​ป้า​ซ่ง​กลับ​มี​รอยยิ้ม​ที่เก็บ​เอาไว้​ไม่อยู่​ ​“​ท่าน​โหว​ไม่ได้​ให้​อี๋​เหนียง​คน​ใหม่​ดื่ม​ชาคา​รวะฮู​หยิน​เจ้าค่ะ​!​”

ไม่​ดื่ม​ชาคา​รวะ​?

หมายความว่า​อะไร

สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่​ป้า​ซ่ง​ด้วย​ความแปลกใจ

“​อนุภรรยา​แต่ง​เข้ามา​ ​หาก​ไม่​ดื่ม​ชาคา​รวะ​นาย​หญิง​ ​เช่นนั้น​ก็​ไม่​ถือว่า​เป็น​พิธี​”​ ​ป้า​ซ่ง​ยิ้ม​ ​“​หาก​ไม่​เป็น​พิธี​ ​จะ​ถือว่า​เป็น​อนุภรรยา​ของ​ท่าน​โหว​ได้​เช่นไร​เจ้า​คะ​!​ ​“

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท