ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 377 บุปผาหอมกรุ่น (กลาง)

ตอนที่ 377 บุปผาหอมกรุ่น (กลาง)

สือ​อี​เหนียง​ยื่น​แจกัน​ให้​หู่​พั่ว​ ​แล้ว​แนะนำ​หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รู้จัก​ ​“​นี่​คือ​หยาง​อี๋​เหนียง​!​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ้ม​แล้ว​คำนับ​นาง​ ​จากนั้น​ก็​ประคอง​แขน​สือ​อี​เหนียง​อย่างสนิทสนม

สวี​ซื่อ​จุน​จับมือ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​…​อาจารย์​จ้าว​บอกว่า​ให้​เรา​ไป​เช้า​หน่อย​ ​บอกว่า​วันนี้​จะ​สอน​พวกเรา​ทำ​ว่าว​ขอรับ​!​”

“​เช่นนั้น​พวก​เจ้า​รีบ​ไป​เถิด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ส่ง​พวกเขา​ออก​ไป​ที่​ประตู​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​เรา​ค่อย​ไป​เล่น​ว่าว​ที่​สวน​หลัง​จวน​กัน​”

สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​จับมือ​กัน​เดิน​ออก​ไป

ส่วน​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​ขอตัว​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ทาง​ตะวันออก​ ​สือ​อี​เหนียง​และ​คนอื่นๆ​ ​กลับ​ไป​นั่ง​ที่​ห้องโถง​ ​นาง​ถาม​หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​ว่า​ ​“​คุ้นชิน​แล้ว​หรือยัง​ ​มี​อะไร​ขาดแคลน​หรือไม่​”​

ทันทีที่​สือ​อี​เหนียง​เริ่ม​พูด​ ​หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​ด้วย​ความเคารพ​ ​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​รีบ​พูดว่า​ ​“​เรือน​ที่ฮู​หยิน​จัด​ไว้​ให้​ข้า​คล้าย​กับ​เรือน​ที่​จวน​ของ​ข้ามาก​เจ้าค่ะ​ ​แค่​เห็น​ก็​รู้สึก​อบอุ่นใจ​ ​ราวกับ​ได้​กลับ​จวนตัว​เอง​ ​ข้าวของ​ต่างๆ​ ​ก็​ครบครัน​กว่า​ที่​จวน​เสียอีก​ ​แค่​ราว​เเขวน​ผ้า​ก็​มีทั​้ง​ใหญ่​ ​กลาง​ ​เล็ก​ ​ที่​จวน​ของ​ข้ามี​แค่​ราว​เดียว​เอง​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดถึง​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​“​…​เป็นมิตร​ราวกับ​พี่​หญิง​ของ​ข้า​ ​ข้า​พึ่ง​จะ​แต่ง​เข้ามา​ยัง​ไม่รู้​อะไร​ ​โชคดี​ที่​มีนา​งคอย​แนะนำ​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​“​ไม่กล้า​ ​ไม่กล้า​ ​ไม่กล้า​แนะนำ​ ​แค่​ข้า​แต่ง​เข้ามา​ก่อน​ ​รู้​อะไร​เยอะ​กว่า​เจ้า​ ​เจ้า​ถาม​อะไร​ข้า​ก็​ตอบ​แค่นั้น​”

“​พี่​หญิง​เหวิน​ถ่อมตัว​เสีย​จริง​”​ ​หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​ชม​นาง​ด้วย​สีหน้า​ที่จริง​ใจ

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​พฤติกรรม​แปลก​ๆ​ ​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​วันนี้​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​หาก​เจ้า​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​ต่อไป​ก็​บอก​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เถิด​ ​ข้า​ยังอยู่​ใน​ช่วง​ไว้ทุกข์​จึง​ไม่​ค่อย​ออกมา​ข้างนอก​ ​เจ้า​พึ่ง​จะ​แต่ง​เข้ามา​ ​มี​คน​รู้ใจ​คอย​อยู่​ใกล้​ๆ​ ​ข้า​จะ​ได้​สบายใจ​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เห็น​นาง​ยิ้ม​อย่าง​อ่อนโยน​ ​อีกทั้ง​ดวงตา​ยัง​เป็นประกาย​แฝง​ความนัย​ ​ก็​ตกใจ

หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​ตอบรับ​อย่างนอบน้อม

สือ​อี​เหนียง​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​

บรรดา​อี๋​เหนียง​ต่าง​ก็​พากั​นขอ​ตัว​ออก​ไป

หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​จับมือ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ทันที​ ​“​พี่​หญิง​เหวิน​ ​ปกติ​เรา​ไม่ต้อง​รับใช้ฮู​หยิน​อาบน้ำ​ ​ทานข้าว​เช้า​หรอก​หรือ​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​รู้สึก​ว่า​แขน​ที่​ถูก​นาง​จับ​หนัก​ๆ​ ​จึง​ฝืนยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“ฮู​หยิน​เป็น​คนใจดี​ ​นาง​ไม่​ตั้ง​กฎเกณฑ์​และ​ไว้หน้า​เรา​”

ได้ยิน​เช่นนี้​ ​หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​ก็​ถอนหายใจ​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ก่อน​จะ​แต่ง​เข้ามา​ข้า​ยัง​กังวล​ ​ไม่​คิด​ว่า​จะ​เจอ​พี่​หญิง​ที่​เป็นมิตร​เช่นนี้​ ​แล้วยัง​เจอฮู​หยิน​ที่​ใจกว้าง​เช่นนี้​ ​ข้า​ช่าง​มี​วาสนา​เสีย​จริง​!​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยิ้ม​ ​ปฏิเสธ​คำเชิญ​ที่​หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​เชิญ​นาง​ไป​นั่ง​ที่​เรือน​และ​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง​ทันที​

“​ชิว​หง​”​ ​นาง​ล้ม​ตัว​นอนลง​บน​เตียง​เตา​โดยที่​ยัง​ไม่ได้​ถอด​รองเท้า​ ​“​ต้อง​คิด​หาวิ​ธี​ให้​เร็ว​ที่สุด​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​ไม่ช้าก็เร็ว​ ​เรา​จะเข้า​ไป​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​แน่นอน​!​”

ชิว​หง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​อี๋​เหนียง​กลัว​อะไร​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​บอกว่า​ตอนนี้​ท่าน​โหว​และฮู​หยิน​คิด​เหมือนกัน​ไม่ใช่​หรือ​ ​เมื่อก่อน​ท่าน​ยัง​กังวล​ว่า​ประจบฮู​หยิน​คน​ก่อน​แล้ว​จะ​ทำให้​ท่าน​โหว​ไม่พอใจ​ ​ประจบ​ท่าน​โหวก​็​จะ​ทำให้ฮู​หยิน​คน​ก่อน​ไม่พอใจ​ ​แต่​ตอนนี้​ประจบ​แค่ฮู​หยิน​คนเดียว​ก็​พอแล้ว​ ​ง่าย​กว่า​เมื่อก่อน​ตั้ง​เยอะ​”​ ​นาง​พูด​พร้อมกับ​ถอด​รองเท้า​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​“​หรือว่า​มัน​ยาก​กว่า​เมื่อก่อน​เจ้า​คะ​”

“​เจ้า​ไม่เข้าใจ​!​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ขึ้นไป​บน​เตียง​เตา​ ​“​ข้า​เห็น​ว่า​หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​คน​นั้น​หน้าตา​ดี​ ​แล้วยัง​มี​ความอดทน​ ​ไม่ใช่​คนธรรมดา​ ​ข้า​กลัว​ว่า​ถึง​ตอนนั้น​…​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​พูด​เบา​ลง

“​กลัว​ว่า​ถึง​ตอนนั้น​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​ชิว​หงอยา​กรู​้​อยาก​เห็น​ ​นาง​ช่วย​จัด​ผ้าห่ม​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​แล้ว​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูดว่า​ ​“​ท่าน​กลัว​ว่าฮู​หยิน​จะ​สู้​หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​ไม่ได้​?​ ​แต่​ถึงแม้ว่า​จะ​สู้​ไม่ได้​ ฮู​หยิน​ก็​เป็น​ภรรยา​เอก​ ​เช่นไร​ท่าน​โหวก​็​ต้อง​ให้เกียรติฮู​หยิน​อยู่​แล้ว​ ​บ่าว​คิด​ว่าฮู​หยิน​ดี​กับ​คน​รอบข้าง​ ​เหมือน​ตง​ชิง​ ​ปินจ​วี​๋​ ​พวก​นาง​รับใช้ฮู​หยิน​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ฮู​หยิน​ก็​ดูแล​พวก​นาง​มาต​ลอด​ ​หาก​เรา​ช่วยฮู​หยิน​ ​ถึง​ตอนนั้นฮู​หยิน​ก็​คง​ไม่มีทาง​ทิ้ง​เรา​เจ้าค่ะ​ ​ไม่เช่นนั้น​ก็​เหมือน​ตอนที่ฮู​หยิน​คน​ก่อน​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​ไม่ได้​รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​ท่าน​โหว​แค่นั้น​ ​แล้ว​อีก​อย่าง​ ​ถึงแม้ว่า​เรา​ไม่​ช่วยฮู​หยิน​…​”​ ​นาง​หยุด​พูด​ ​แล้ว​กลืน​ประโยค​ที่ว่า​ ​‘​ท่าน​โหวก​็​ไม่​โปรดปราน​เรา​อยู่ดี​’​ ​ลง​ไป​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​หากฮู​หยิน​อยาก​ให้​พวกเรา​ช่วย​ ​พวกเรา​จะ​ไม่​ช่วย​นาง​ได้​หรือ​”​ ​แล้วก็​นึกถึง​เรื่อง​ที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ให้ความสำคัญ​อยู่​ใน​ใจ​ ​“​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ต่อไป​คุณหนู​ใหญ่​ยัง​ต้อง​พึ่งพาฮู​หยิน​อีก​เยอะ​นะ​เจ้า​คะ​!​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ขมวดคิ้ว​แน่น​ ​“​ให้​ข้า​คิดดู​ก่อน​…​”

ชิว​หง​ไม่กล้า​รบกวน​นาง​ ​จึง​เดิน​ออก​ไป​เงียบๆ

*****

หลังจาก​ส่ง​อี๋​เหนียง​สามสี​่​คน​ออก​ไป​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไปหา​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​กำลัง​ปัก​ผ้า​อยู่​ที่​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันออก​ก่อน​ ​จากนั้น​ก็​เข้าไป​ใน​ห้อง​ข้างใน

สวี​ลิ่ง​อี๋​นอนหลับ​อยู่

สือ​อี​เหนียง​ช่วย​จัด​หมอน​ให้​เขา

สวี​ลิ่ง​อี๋​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความึ​นงง​ ​จากนั้น​ก็​พลิกตัว​แล้ว​หลับ​ไป

สือ​อี​เหนียง​ห่ม​ผ้า​ให้​เขา​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ข้างนอก​อย่างเงียบเชียบ​ ​บอก​ให้​จู๋​เซียง​ทำ​เกี๊ยว​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ทานข้าว​เช้า​ที่​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันตก​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยัง​ไม่​ตื่น​ ​จึง​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ก่อน​

เมื่อ​รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดื่ม​สุรา​จน​เมามาย​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​บ่น​ขึ้น​ ​“​ต่อไป​เจ้า​ต้อง​เกลี้ยกล่อม​เขา​ ​อย่า​ตามใจเขา​มาก​นัก​”

“​ก็​แค่นาน​ๆ​ ​ที​เท่านั้น​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​แอบ​ดีใจ​ที่​ตัวเอง​ไม่ได้​พูดถึง​เรื่อง​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​เชิญ​หมอ​หลวง​มา​ ​“​ท่าน​โหว​เป็น​คน​มี​ความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​”

ลูกสะใภ้​ไม่สน​ใจ​ ​แม่​สามี​ก็​กังวล​ ​แต่​หาก​ลูกสะใภ้​ควบคุม​บุตรชาย​มากเกินไป​ ​แม่​สามี​ยิ่ง​กังวล​มากขึ้น​ไป​อีก

ไท่ฮู​หยิน​ไม่​พูด​อะไร​อีก​ ​นาง​เร่ง​สือ​อี​เหนียง​ให้​กลับ​เรือน​ ​“​…​กลับ​ไปดู​แลคุณ​ชาย​สี่​เถิด​!​”

สือ​อี​เหนียง​ขอตัว​ลา​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง​

หมอ​หลวง​มาถึง​แล้ว

เขา​จับชีพจร​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จ่าย​ยา​แล้วก็​แนะนำ​ว่า​ ​“​…​ทาง​ที่​ดี​ควร​ทำเป็น​ยาเม็ด​ ​ดื่ม​สุรา​แล้ว​รู้สึก​ไม่สบาย​ก็​ทาน​สัก​สอง​เม็ด​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​คิด​ว่าความ​คิด​นี้​ไม่เลว​ ​จึง​บอก​ให้​หลิน​ปัว​นำ​ใบสั่งยา​ไป​ทำ​ยา​เป็น​ยาเม็ด

หาก​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​ตอนนี้​ก็​ไม่​กลัว​แล้ว​!

สือ​อี​เหนียง​เดิน​ออกมา​จาก​ม่าน​กัน​ลม​ ​นาง​ไม่พอใจ​แต่​ก็​ไม่​พูด​อะไร​ ​จากนั้น​ก็​ริน​ชา​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่นอน​อยู่​บน​เตียง

มีบ​่า​วรับ​ใช้​วิ่ง​เข้ามา​รายงาน​ ​“​ซุ่น​อ๋อง​มา​ขอรับ​!​”

สือ​อี​เหนียง​ลุก​ออก​ไป​ข้างนอก

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​พูดว่า​ ​“​ไม่ใช่​คนนอก​อะไร​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​ออก​ไป​หรอก​!​”​ ​ตอนแรก​เขา​เริ่ม​พูด​อย่าง​ลังเล​ ​แต่​ยิ่ง​พูด​กลับ​ยิ่ง​หนักแน่น​ ​“​เรา​โตมา​ด้วยกัน​!​”

เจอ​กับ​สหาย​ที่​โตมา​ด้วยกัน​ของ​เขา​!

ใน​ความคิด​ของ​นาง​ ​ทำ​เช่นนี้​หมายถึง​การยอ​มรับ​ใน​ตัวนาง​ ​แล้ว​ใน​ความคิด​ของ​เขา​มัน​คือ​อะไร​กัน

สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​สายตา​ที่​คลุมเครือ

*****

มองผ่าน​หน้าต่าง​กระจกใส​ ​สามารถ​มองเห็น​ใบไม้​สีเหลือง​บน​กิ่งไม้​ได้​อย่างชัดเจน

หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​ใบหน้า​ที่​สง่างาม​ก็​สดใส​ขึ้น​ไม่น้อย

“​คุณหนู​เจ้า​คะ​!​”​ ​ป้า​หยาง​ถือ​ถาด​น้ำชา​แกะสลัก​ลาย​ดอก​ไป่​เหอ​เดิน​เข้ามา​ ​“​ชา​ปี้​หลัว​ชุน​ชั้นดี​เจ้าค่ะ​”​ ​พูด​ด้วย​ท่าที​ชอบ​อก​ชอบใจ

“​เปลี่ยนเป็น​เรียก​ข้าว​่า​อี๋​เหนียง​เถิด​!​”​ ​หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​มองดู​ป้า​รับใช้​คนสนิท​ของ​ตัวเอง​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​ ​“​ต่อไป​ก็​ต้อง​เรียก​อี๋​เหนียง​ ​ไม่ต้อง​เรียกว่า​คุณหนู​อีกต่อไป​”

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ป้า​หยาง​ตอบรับ​อย่าง​เชื่อฟัง​ ​แต่​ก้มหน้า​วาง​ถ้วย​ชาล​งบน​โต๊ะ​เตียง​เตา​ด้วย​สีหน้า​เสียใจ​

“​เสียใจ​อะไร​”​ ​หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​ยิ้ม​รับ​ถ้วยชามา​ ​“​ข้า​เป็น​คนเลื​อก​เดิน​ถนน​เส้น​นี้​เอง​ ​ถึงแม้​จะ​ยากลำบาก​แค่ไหน​ ​ก็​โทษ​ใคร​ไม่ได้​ทั้งนั้น​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​เจ้า​ดู​ข้า​ตอนนี้​สิ​ ​อยู่​ใน​เรือน​ที่​กว้างขวาง​ ​สวม​ชุด​ผ้าไหม​เช่นนี้​ ​ที่​เรือน​ยัง​มี​คน​คอย​ดูแล​ ​ยัง​มี​อะไร​ไม่พอใจ​อีก​!​”​ ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ประชดประชัน

“​คุณหนู​!​”​ ​ป้า​หยาง​นึกถึง​การ​ต้อนรับ​ของ​สกุล​สวี​ ​ก็​พลัน​น้ำตา​คลอ​ ​“​ต้องโทษ​คุณนาย​ใหญ่​…​”

“​อย่า​พูด​เช่นนี้​อีก​”​ ​หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​ยื่น​ให้​ป้า​หยาง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ความในใจ​ด้วย​เสียง​เบา​ ​“​นาง​แค่​รัก​บุตรชาย​มากกว่า​ ​ข้า​เอง​ก็​รู้​ ​ภรรยา​สืบทอด​ที่​เป็น​บุตรี​ของ​อนุภรรยา​อย่าง​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่กลับ​สามารถ​ได้รับ​ความเคารพ​จาก​บรรดา​คุณชาย​น้อย​และ​คุณหนู​ ​นาง​ไม่มีทาง​เป็น​แค่​คน​อ่อนโยน​และ​ใจดี​แน่นอน​ ​แต่​เรื่อง​มาถึง​ขั้น​นี้​แล้วก็​ต้อง​ดู​ต่อไป​เรื่อยๆ​ ​หรือว่า​มัน​ยัง​จะ​อันตราย​กว่า​แต่ง​เข้าไป​ใน​พระราชวัง​อีก​เช่นนั้น​หรือ​…​”

*****

ซุ่น​อ๋อง​เป็น​ชาย​ร่าง​อ้วนท้วม​ที่​สะอาดสะอ้าน​ ​ตอนที่​เขา​เดิน​เข้ามา​ก็​เห็น​พุง​ที่​ถูก​ห่อ​ด้วย​ผ้าไหม​สีม่วง​แดง​อย่าง​แน่นหนา​ ​จากนั้น​ก็​เห็น​ใบหน้า​ที่​กลม​ราวกับ​พระจันทร์เต็มดวง​ของ​เขา

สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​ยิ้ม​ขึ้น​อย่าง​แผ่วเบา

นาง​เคย​เห็น​พระ​ชายา​ของ​ซุ่น​อ๋อง​ที่​พิธี​ใน​พระราชวัง​จาก​ไกลๆ​ ​สอง​สาม​ครั้ง​ ​หาก​เปรียบ​ว่า​ซุ่น​อ๋อง​เป็น​ซาลาเปา​ไส้​หมู​ ​เช่นนั้น​พระ​ชายา​ของ​ซุ่น​อ๋อง​ก็​คือ​ตะเกียบ​…

ทันทีที่​ซุ่น​อ๋อง​เห็น​สาวงาม​คน​หนึ่ง​อยู่​ใน​ห้อง​ก็​ตกตะลึง

“​นี่​คือ​หลัว​สือ​อี​เหนียง​ ​ภรรยา​ของ​ข้า​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​อย่าง​เรียบง่าย

“​อ๋อ​!​”​ ​ซุ่น​อ๋อง​เข้าใจ​ในทันที​ ​“​ที่แท้​ก็​คือฮู​หยิน​นี่เอง​!​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ย่อเข่า​คำนับ​ ​บอก​ให้​สาวใช้​ยก​เก้าอี้​มา​วาง​ไว้​ข้าง​เตียง​ ​พร้อมทั้ง​ยก​ชา​และ​ของว่าง​เข้ามา

ซุ่น​อ๋อง​หมุนตัว​ที่​อ้วนท้วม​ของ​เขา​ ​หย่อน​กาย​นั่งลง​บน​เก้าอี้​อย่าง​เชื่องช้า​ ​จากนั้น​ก็​หรี่​ตาลง​แล้ว​เอ่ย​ทักทาย​สือ​อี​เหนียง​ ​“​…​หีบ​สมบัติ​ครั้งก่อน​ที่​เจ้า​ให้​ข้า​ทำ​ ​ใช้​ดี​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​พลัน​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​

ตั้งแต่​ลาก​รู​บิค​กลายพันธุ์​ชิ้น​นั้น​จาก​กรมพระราชวัง​กลับมา​ ​นาง​ก็​นำ​มัน​ไป​วาง​ไว้​ใน​ส่วน​ที่​ลึก​ที่สุด​ของ​ห้องเก็บของ​ ​คิด​แล้วก็​เหงื่อ​ตก​ขึ้น​มา

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่าง​นาง​อึดอัด​ ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่านาง​ไม่เคย​นำ​ของ​ชิ้น​นั้น​ออกมา​ใช้​ ​แล้วยัง​เป็น​ของ​ที่​เขา​ไม่เคย​เห็น​มาก​่อน​ ​นาง​น่าจะ​เห็น​มาจาก​หนังสือ​โบราณ​อะไร​สัก​อย่าง​ ​จากนั้น​เขา​ก็​คิด​ว่า​ส่ง​ไป​ให้​คน​ทำให้​แต่กลับ​ใช้งาน​ไม่ได้​เลย​แม้แต่น้อย

“​ก็​แค่​ให้​เจ้า​ช่วย​ทำ​หีบ​สมบัติ​”​ ​เขา​หัวเราะ​แล้ว​หยอกล้อ​ซุ่น​อ๋อง​ ​“​เจ้า​กลับมา​ขอ​ความดี​ความชอบ​!​”

“​ไม่ใช่​ ​ไม่ใช่​!​”​ ​ซุ่น​อ๋อง​หัวเราะ​ ​“​ข้า​ไม่ได้​หมายถึง​เช่นนั้น​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​ ​“ฮู​หยิน​ ​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​เจ้า​เปิดร้าน​เย็บปักถักร้อย​ ​อีก​สอง​เดือน​ก็​จะ​เทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​แล้ว​ ​ใน​พระราชวัง​ยัง​ต้อง​เพิ่ม​ผ้า​ปัก​ลาย​ ​เพราะว่า​มี​จำนวน​น้อย​ ​อีกทั้ง​ราคา​ที่​กรมพระราชวัง​เสนอ​ก็​ไม่​สูง​ ​จึง​ยัง​หาร​้าน​เย็บปักถักร้อย​ที่​เหมาะสม​ไม่​เจอ​ ​ข้า​กำลัง​คิด​ว่า​จะ​เพิ่ม​เงินดี​หรือไม่​ ​แล้ว​ค่อย​หาร​้าน​เย็บปักถักร้อย​ ​หากฮู​หยิน​สนใจ​ ​สามารถ​ส่ง​เถ้าแก่​ไปหา​ข้า​ที่​กรมพระราชวัง​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​

นาง​ครุ่นคิด​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ขอบพระคุณ​ท่าน​อ๋อง​เจ้าค่ะ​ ​แต่ว่า​ร้าน​มงคลสมรส​ของ​ข้ามี​ช่าง​ปัก​แค่​สี่​ห้า​คน​ ​แล้ว​ผ้า​ปัก​ลาย​ก็​ยัง​ต้อง​พิถีพิถัน​เป็นอย่างมาก​ ​หาก​ข้า​ตอบ​ตกลง​ส่ง​ๆ​ ​แล้ว​ช่าง​ปัก​ทำ​ออกมา​ไม่ดี​ ​ถึง​ตอนนั้น​ไม่มี​งาน​ส่ง​ให้ท่าน​ทำให้เกิด​ความผิดพลาด​ ​อาจจะ​ทำให้​ท่าน​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​ ​ไม่​สู้​ให้​ข้า​ไป​ปรึกษา​กับ​ช่าง​ปัก​และ​อาจารย์​เจี่ย​นที​่​ร้าน​เสียก่อน​ ​แล้ว​ค่อย​ส่ง​เถ้าแก่​ไปหา​ท่าน​ ​ท่าน​คิดเห็น​เช่นไร​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​พูด​อย่างจริงใจ

ซุ่น​อ๋อง​ตกตะลึง​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​หัวเราะ​แล้ว​เหลือบมอง​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก้มหน้าก้มตา​จิบ​ชา

“ฮู​หยิน​พูด​ถูก​”​ ​ซุ่น​อ๋อง​พูด​ด้วย​ท่าที​พอใจ​ ​ยิ้ม​หน้าบาน​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​รอ​จดหมาย​จาก​เจ้า​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​เหลือบมอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​อีกครั้ง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท