ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 379 ปลายฤดูใบไม้ผลิ (ต้น)

ตอนที่ 379 ปลายฤดูใบไม้ผลิ (ต้น)

สือ​อี​เหนียง​ซุก​ตัว​อยู่​ใน​อ้อมกอด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​ก็​ยัง​เรียก​สติก​ลับ​คืน​มา​ไม่ได้

‘​ที่นี่​คือ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​เจ้า​เป็น​ภรรยา​ของ​ข้า​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ผู้​นี้​’

ใน​หู​ของ​นาง​ยังคง​ก้อง​ไป​ด้วย​คำพูด​ประโยค​นี้

เหตุการณ์​มากมาย​ที่​เคย​ถูก​ละเลย​และ​ไม่สน​ใจ​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ผู้คน​หรือ​สิ่งของ​ที่​ตน​นั้น​เลือก​ที่จะ​ลืม​ ​ทุกๆ​ ​อย่าง​ค่อยๆ​ ​หลั่งไหล​ออกมา​จาก​ห้วง​ความคิด​อย่าง​ช้าๆ

ใน​ใจ​ของ​นาง​เป็น​เหมือน​ดั่ง​น้ำ​ที่​กำลัง​เดือด​พล่าน​ ​ฟองอากาศ​ค่อยๆ​ ​ผุด​ขึ้น​มาจาก​น้ำ​ ​ไอ​ร้อนระอุ​ระเหย​ไป​ทั่ว​ ​ประเดี๋ยว​ก็​รู้สึก​เปรี้ยว​ ​ประเดี๋ยว​ก็​รู้สึก​ฝาด​ ​ประเดี๋ยว​ก็​รู้สึก​ขม​…​ผสม​ปนเป​ไป​หมด​ ​พลอย​ทำให้​นาง​ไม่​สามารถ​รับรู้​รสชาติ​ใดๆ​ ​ได้​เลย

เรื่อง​บาง​เรื่อง​ ​นาง​ก็​ไม่เคย​นึก​เลย​ว่า​จะ​ได้รับ​มัน​ ​และ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ ​นาง​ก็​ไม่เคย​คิด​เลย​ว่า​มัน​จะ​เกิดขึ้น

แต่​ทุกๆ​ ​สิ่ง​ทุกๆ​ ​อย่าง​กลับ​ดูเหมือนว่า​กำลัง​บ่งบอก​เป็น​เค้า​ลาง​อย่างไร​อย่างนั้น

ทำไม​ถึง​เป็น​เช่นนี้​นะ

นาง​ซบ​หน้า​ลง​บน​ไหล่​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จู่ๆ​ ​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​!

สวี​ลิ่ง​อี๋​เอื้อมมือ​ไป​สัมผัส​แผ่น​หลัง​ที่​สวม​ชุด​คลุม​ชั้นใน​อยู่​ ​ก็​รู้สึก​ได้​ว่า​มัน​ชุ่ม​ไป​ด้วย​เม็ด​เหงื่อ​บาง​ๆ

“​เป็น​อะไร​ไป​”​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ร่างกาย​ของ​นาง​ค่อนข้าง​เกร็ง​ ​เขา​จึง​ถาม​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ไม่สบาย​ตรงไหน​หรือเปล่า​”

ที่ผ่านมา​เขา​ไม่เคย​กล้า​ที่จะ​ทำ​อะไร​ตามอำเภอใจ​ขนาด​นี้

“​เปล่า​เจ้าค่ะ​ ​ไม่เป็นอะไร​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​จะ​ตอบ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อย่างไร​ดี​ ​เพราะ​ใน​หัว​ของ​นาง​กำลัง​สับสน​และ​มึนงง

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่เชื่อ

สือ​อี​เหนียง​เป็น​คนที​่​มีนิ​สัย​ใจคอ​โอนอ่อนผ่อนตาม​มาโดยตลอด​ ​บางครั้ง​ได้รับบาดเจ็บ​ก็​ยัง​ไม่​พูด​ออกมา​เสียด​้วย​ซ้ำ

เขา​จึง​สังเกต​นาง​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ยังคง​ปฏิเสธ​เหมือนเช่น​เคย​ ​“​ข้า​เพียงแค่​รู้สึก​ค่อนข้าง​เหนื่อย​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​จ้องมอง​ใบหน้า​ของ​นาง​ที่​เต็มไปด้วย​สีหน้า​ว้าวุ่น​ใจ

สือ​อี​เหนียง​รู้ดี​ว่า​ตน​นั้น​เป็น​อะไร​!

เหตุใด​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่รู้​ความคิด​ของ​นาง​เล่า​ ​ตั้งแต่​ออก​พระราชกฤษฎีกา​จนถึง​เรื่อง​หยาง​อี๋​เหนียง​แต่ง​เข้า​จวน​ ​ความกังวลใจ​ที่อยู่​ภายใต้​สีหน้า​ที่​สุขุม​และ​สงบเสงี่ยม​นั่น​ ​ความลังเล​และ​ความร้อน​ใจ​ ​เขา​เห็น​มัน​หมด​ทุกอย่าง​ ​แต่​เขา​ไม่มี​วิธี​ที่​ดีกว่า​นี้​อีกแล้ว​ ​พระราชกฤษฎีกา​ก็​รับ​มา​แล้ว​ ​วัน​แต่ง​ก็​ถูก​กำหนด​เป็น​ที่​เรียบร้อย​ ​เวลานี้​จะ​พูด​อะไร​ก็​สาย​เกินไป​เสีย​แล้ว​ ​จึง​ทำได้​เพียงแค่​ใช้​วิธี​นี้​ใน​การสื่อสาร​และ​อธิบาย​ความคิด​ของ​เขา

ยังดี​ที่​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​เป็น​หญิง​ที่รัก​ตัว​กลัว​ตาย​และ​ไม่ได้​เป็น​คน​หัวรั้น​อย่างไม่มีเหตุผล​ ​จึง​สามารถ​เข้าใจ​วัตถุประสงค์​และ​ความตั้งใจ​ของ​เขา​ได้​อย่างรวดเร็ว​!

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​อย่าง​ปลาบปลื้ม​ใจ​ ​จากนั้น​ก็​โน้มตัว​ไป​หอม​จอน​ผม​ของ​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​เบา​จน​ตัว​เขา​เอง​แทบจะ​รู้สึก​ไม่ได้​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​“​อยาก​ดื่ม​น้ำ​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​เหมือนกับ​ดอก​ดารารัตน์​ก็​ไม่​ปาน​ ​ที่​ดูเหมือน​สามารถ​ปลูก​ใน​หม้อดิน​ได้​ง่ายๆ​ ​แต่​ความเป็นจริง​กลับ​ต้อง​มีท​ราย​ที่​ดี​ ​น้ำ​ที่​ดี​ ​แสงแดด​ที่​ดี​และ​อากาศ​ที่​บริสุทธิ์​ ​ถึง​จะ​งดงาม​หวาน​หยดย้อย​ ​แต่​ครั้น​จะ​นำมา​ปลูก​กลับ​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​ง่าย​เลย

หลัง​เสร็จกิจ​แล้ว​ ​นาง​มักจะ​ชอบ​ดื่ม​น้ำอุ่น​เสมอ

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ตอบ​ ​หลังจากนั้น​ก็​รับ​น้ำ​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ริน​มา​ให้​ด้วย​อาการ​ใจลอย​ ​เมื่อ​ดื่ม​เสร็จ​ ​อารมณ์​จิตใจ​ของ​นาง​จึง​ค่อย​สงบ​ลง​บ้าง

หาก​เป็น​เช่นนี้​แล้ว​จะ​เป็น​อย่างไร​ต่อไป​เล่า​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​หาก​ไม่ได้​พูด​ออกมา​ให้​ชัดเจน​ ​ก็​จะ​ยัง​สามารถ​แสร้ง​เลอะเลือน​ต่อไป​ได้

แต่​สุดท้าย​ก็​เหมือนกับ​ตน​ไป​แอบดู​อะไร​ที่​ไม่​ควร​เห็น​เข้า​ ​หัวใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​สงบ​ดังเช่น​ที่ผ่านมา​อีกต่อไป​ ​การ​นั่ง​คร่อม​กึ่ง​คุกเข่า​อยู่​บน​ตัก​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อย่างนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เริ่ม​รู้สึก​ทำตัว​ไม่​ถูก​ขึ้น​มา

ใบหน้า​ของ​นาง​พลัน​แดงก่ำ​ ​“​พรุ่งนี้​ข้า​ยัง​ต้อง​ไป​ปรึกษาหารือ​กับ​อาจารย์​เจี่ยน​เรื่อง​ผ้า​ปัก​ ​ข้า​ขอตัว​เข้านอน​ก่อน​!​”

แต่กลับ​ถูก​แขน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กอดรัด​ไว้​แน่น​ ​“​เรา​มาคุ​ยกั​นก​่อน​!​”

คุย​กันท่า​นี้​…

สือ​อี​เหนียง​บิด​ตัวอย่าง​ไม่​ค่อย​สบาย​ตัว​เท่าไร​นัก

แต่กลับ​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​ได้​ปลดปล่อย​ความต้องการ​ไป​แล้ว​ใน​ตอนแรก​ ​เริ่ม​ตื่นตัว​ขึ้น​อีกครั้ง

สือ​อี​เหนียง​เอียงอาย​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​กำลัง​รู้สึก​แปลกใจ

ที่ผ่านมา​เขา​สามารถ​ควบคุมตัว​เอง​ได้​เสมอ

ไม่เคย​เลย​ที่จะ​ลังเล​แม้แต่​ครั้ง​เดียว

สือ​อี​เหนียง​อายุ​ยังน้อย​…​ก็​ไม่​ถือว่า​น้อย​แล้ว​นี่​นา​…​ปี​ที่ผ่านมา​ก็​เข้า​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​…​เด็กสาว​ที่​อายุ​รุ่นราวคราวเดียวกัน​กับ​นาง​ ​ส่วนใหญ่​กลายเป็น​แม่​คน​ไป​หมด​แล้ว​…

ยิ่ง​เมื่อ​เขา​นึกถึง​ตอนที่​สือ​อี​เหนียง​ที่​กำลัง​เบ่งบาน​อย่าง​งดงาม​ภายใต้​ร่างกาย​ของ​เขา​ราวกับ​ดอกไม้​ก็​ไม่​ปาน​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​ทำตาม​สัญชาตญาณ​ของ​ตน​อีกครั้ง​ ​กระซิบ​ข้าง​หู​เรียก​นาง​อย่าง​แผ่วเบา​ว่า​ ​“​มั่ว​เหยี​ยน​…​”

*****

ป้า​ซ่ง​กำลัง​สั่ง​ให้​สาวใช้​น้อย​ปู​ผ้าห่ม​และ​ที่นอน​สะอาด​ผืน​ใหม่​ลง​บน​เตียง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​แต่​ก็​ไม่​ละทิ้ง​ความ​เคร่งขรึม​อย่างเช่น​เคย​ ​สือ​อี​เหนียง​หันมา​คุย​กับ​หู่​พั่ว​ที่มา​ช่วย​ปรนนิบัติ​สือ​อี​เหนียง​ล้างหน้า​เปลี่ยน​ชุด​ ​ไม่ได้​สนใจ​ความเคลื่อนไหว​ใน​ห้อง​ ​“​…​เช่นนี้​ก็​หมายความว่า​เริ่ม​กิน​จุ​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​”

ปี​ที่แล้ว​ปินจ​วี​๋​ตั้งครรภ์​ ​บ้าน​สกุล​ว่าน​ดีอกดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​รีบ​รับ​ตัว​ปินจ​วี​๋​ไปดู​แล​ที่​ชนบท​ ​เพราะ​สาม​เดือน​แรก​ไม่​สะดวก​จะ​พบปะ​ผู้คน​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ให้​บ่าว​รับใช้​ส่ง​ของกิน​ไป​ให้​ปินจ​วี​๋​ทาน​แทน

“​ไม่ใช่​เพียงแค่​นั้น​นะ​เจ้า​คะ​”​ ​หู่​พั่ว​ช่วย​สือ​อี​เหนียง​ปักปิ่น​ทอง​และ​ที่​ทัด​ผม​ทรง​น้ำเต้า​หยก​เขียว​ ​“​เห็น​บอกว่า​ทานข้าว​ได้​วัน​ละ​สี่​มื้อ​ ​จึง​พลอย​ทำให้​แม่​สามี​ต้อง​ก่อไฟ​ตั้ง​วัน​ละ​สี่​รอบ​ ​เวลา​ที่​พี่เขย​ว่าน​ว่าง​จาก​งาน​ก็​มักจะ​กลับบ้าน​เสมอ​”​ ​ขณะที่​พูด​อยู่​นั้น​ ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​เป็นห่วง​ขึ้น​มา​ ​“​เกิด​เด็ก​ใน​ท้อง​เป็น​เด็กผู้หญิง​ขึ้น​มา​…​”

“​เจ้า​ลอง​นึกดู​ว่า​อักษร​ที่​แปล​ว่า​ ​‘​ดี​’​ ​มัน​เขียน​อย่างไร​ ​ส่วนประกอบ​ของ​อักษร​เริ่ม​จาก​คำ​ว่า​สตรี​ก่อน​แล้วจึง​ตามมา​ด้วย​คำ​ว่า​บุตรชาย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​คุย​เล่น​กับ​นาง​ ​“​ให้กำเนิด​บุตรสาว​ก่อน​ถือเป็น​เรื่อง​ที่​ดี.​..​”

สือ​อี​เหนียง​แอบ​หยอกล้อ​สำเนียง​ที่​ติดตลก​ของ​หู่​พั่ว​นิดหน่อย​ ​ดอก​ชากุ​หลาบ​สีแดง​สด​ที่ตั้ง​อยู่​บน​โต๊ะ​ริม​หน้าต่าง​ ​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ที่​กำลัง​วุ่นวาย​อยู่​กับ​การ​จัด​เตียง​ ​กลายเป็น​ฉาก​ที่​อบอุ่น​และ​เปี่ยมล้น​ไป​ด้วย​บรรยากาศ​ที่​มีชีวิตชีวา​ ​พลอย​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่พึ่ง​ฝึกฝน​หมัด​มวย​เสร็จ​และ​กำลังจะ​เดิน​เข้า​ประตู​หยุดชะงัก​ไป​ชั่วครู่

สือ​อี​เหนียง​อารมณ์ดี​ขึ้น​ ​บรรยากาศ​ใน​จวน​ก็​พลอยดี​ขึ้น​ตาม​ไป​ด้วย​…

สีหน้า​ของ​เขา​ปรากฏ​รอยยิ้ม​ที่​พึงพอใจ​ขึ้น​มา​ ​จากนั้น​ก็​สาวเท้า​ก้าว​ใหญ่​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​ชั้นใน

*****

“​พัก​ที่​เรือน​หลัก​อีกแล้ว​หรือ​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ที่พึ่ง​จะ​ตื่นนอน​จ้องมอง​ชิว​หง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ประหลาดใจ

ชิว​หง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​พร้อมกับ​ตอบกลับ​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​บ่าว​ยัง​เห็น​ป้า​ซ่ง​พาสาว​ใช้​น้อย​ที่​กำลัง​หอบ​เอา​ผ้า​ปู​และ​ผ้านวม​ออก​ไป​ที่​ห้อง​ซัก​แป้ง​ด้วยตัวเอง​เลย​เจ้าค่ะ​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้ยิน​แล้ว​สีหน้า​ก็​เริ่ม​ไม่ดี​เท่าไร​นัก

ชิว​หง​นึกถึง​เรื่อง​ที่​สือ​อี​เหนียง​มอบหมาย​หยาง​อี๋​เหนียง​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ดูแล​ ​จึง​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความกังวลใจ​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​…​เช่นนั้น​เรา​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​ดีเจ​้า​คะ​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​หันไป​ถลึงตา​ใส่​ชิว​หง​ ​“​หาก​ข้า​รู้​ ​ข้า​จะ​เป็น​อย่างที่​เป็นอยู่​ทุกวันนี้​หรือ​ ​แม้แต่​นอนหลับ​ก็​ยัง​หลับ​เคย​ไม่สนิท​”

นาง​พึ่ง​จะ​พูด​จบ​ ​อวี​้​เอ๋อร​์​ก็​วิ่ง​พรวดพราด​เข้ามา​ทันทีทันใด​ ​“​อี๋​เหนียง​ ​อี๋​เหนียง​ ​แย่​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​มาคา​รวะ​ท่าน​เจ้าค่ะ​!​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​ชิว​หง​หันมา​สบตา​กัน​โดยที่​ไม่ได้​นัดหมาย​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​เปลี่ยน​ชุด​ ​และ​ได้​หันไป​สั่ง​กับ​อวี​้​เอ๋อร​์​ว่า​ ​“​เชิญ​หยาง​อี๋​เหนียง​ไป​นั่ง​รอที​่​ห้องโถง​ก่อน​ ​ข้า​จะ​ออก​ไป​ประเดี๋ยวนี้​!​”

อวี​้​เอ๋อร​์​ขานรับ​ ​จากนั้น​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​หันไป​เร่ง​ชิว​หง​ว่า​ ​“​เร็ว​เข้า​ ​รีบ​ช่วย​ข้า​จัด​ทรงผม​ก่อน​”​ ​แล้วจึง​บ่น​ขึ้น​พึมพำ​ว่า​ ​“​ทำไม​ถึง​ไร้เดียงสา​ขนาด​นี้​ ​มา​จับจ้อง​อนุ​ที่​ไม่ได้​ถูก​โปรดปราน​แล้ว​เช่น​ข้า​ทำไม​กัน​”

*****

หาก​เปรียบเทียบ​ความ​เกียจคร้าน​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​กลับ​ตื่น​เช้า​กว่านา​งมาก​ ​เพราะ​มี​ความเคยชิน​จาก​การ​ที่นาง​เคย​เป็นสาว​ใช้​มาก​่อน

หลังจากที่​ล้างหน้าล้างตา​แต่งตัว​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​นาง​ก็ได้​ไป​จุด​ธูป​ต่อ​เบื้องหน้า​พระโพธิสัตว์​ก่อน​ ​จากนั้น​ก็​ค่อย​กลับ​ไป​นั่ง​ที่​ห้อง​ชั้นใน​ ​แล้วจึง​ค่อย​ทาน​ของว่าง​ที่​ชุ่ย​เอ๋อร​์​จัดเตรียม​ไว้​ให้

นี่​ก็​เป็นความ​เคยชิน​ที่​ติด​มาจาก​การ​ที่​เคย​เป็นสาว​ใช้​ ​เช้าตรู่​มาก​็​ต้อง​ไป​ปรนนิบัติ​ดูแล​ผู้อื่น​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​จะ​ถูก​ใช้​ให้​ไป​ทำ​อะไร​บ้าง​ ​จึง​ต้อง​ทาน​ของว่าง​ให้​อยู่ท้อง​ก่อน​ ​เวลา​ที่​ทานอาหาร​เช้า​ไม่ทัน​ก็​จะ​ได้​ไม่​หิว​จน​หน้ามืด

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​นี่​ก็​เป็น​สิ่ง​ที่​ปี้​อวี​้​เคย​สอน​นาง

เดิมที​ฉิน​อี๋​เหนียง​เป็น​คนที​่​ชอบ​ยิ้ม​บาง​ๆ​ ​ท่าที​ค่อนข้าง​เชื่องช้า

จากนั้น​ก็ได้​ลุกขึ้น​ไป​ล้าง​ไม้​ล้างมือ​ ​แล้วจึง​ไป​ยัง​ห้อง​หน​่​วน​ฝัง​ที่ตั้ง​แผ่น​ป้าย​บรรพบุรุษ​และ​ได้​จุด​ธูป​ไป​สาม​ดอก

เมื่อ​ออกมา​แล้ว​ ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ก็ได้​นำ​เหรียญทองแดง​ให้​สาวใช้​น้อย​ที่มา​แจ้ง​ข่าว​ไป​จำนวน​หนึ่ง​ ​รอ​ให้​สาวใช้​น้อย​กล่าว​ขอบคุณ​ด้วย​ความดี​อก​ดีใจ​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็ได้​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​ว่า​อย่างไรบ้าง​”

“​พัก​ที่​เรือน​หลัก​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​พลาง​สังเกต​สีหน้า​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง

สีหน้า​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​เปลี่ยนไป​ทันที​ตามที่​คิด​ไว้

นาง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็ได้​หมุนตัว​กลับ​ไป​ยัง​ห้อง​หน​่​วน​ฝัง

หลังจากที่​จุด​ธูป​สาม​ดอก​ไป​เรียบร้อย​แล้วก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​หา​คน​ส่งจดหมาย​ให้​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​ ​บอกว่า​ข้า​จะ​ทำพิธี​กรรม​ให้​คุณชาย​น้อย​เสียหน่อย​”

ชุ่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​แล้วก็​ค่อนข้าง​รู้สึก​แปลกใจ​ ​จึง​เตือน​นาง​ว่า​ ​“​อี๋​เหนียง​ ​ใกล้​จะ​ถึง​วัน​แปด​ค่ำ​เดือน​สี่​แล้ว​นะ​เจ้า​คะ​…​”

“​ให้​เจ้า​ไป​ ​เจ้า​แค่​ไป​ก็​พอ​!​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความหงุดหงิด​ ​“​เจ้า​กลายเป็น​คนพูดมาก​เช่นนี้​ตั้งแต่​เมื่อไร​กัน​!​”

แต่​แล้ว​จู่ๆ​ ​ลาน​สวน​ที่อยู่​ทาง​ด้านหน้า​ของ​นาง​ก็​มีเสียง​ของ​แตก​ดัง​ขึ้น​ ​แต่​เพราะ​ห่าง​เกินไป​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ฉิน​อี๋​เหนียง​หรือ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ต่าง​ก็​ไม่ได้​ยิน​กัน​ทั้งคู่

*****

หลัง​เวลาอาหาร​มื้อ​เช้า​ผ่าน​ไป​ ​อี๋​เหนียง​ทั้งหลาย​ก็​พากัน​เรียงแถว​เข้ามา​คารวะ​สือ​อี​เหนียง

คนที​่​เข้ามา​คน​แรก​คือ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ ​จากนั้น​ก็ตาม​มาด​้วย​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​และ​หยาง​อี๋​เหนียง

วันนี้​เฉียว​เหลียน​ฝัง​สวม​เสื้อ​อ่าว​ซ้อนทับ​ด้วย​เสื้อกั๊ก​ลาย​แจกัน​สีฟ้า​ ​จัด​ผม​ทรง​มวย​ตก​หลัง​ม้า​ ​ทัด​ผม​ด้วย​ดอก​แปะ​เจียก​สีทอง​ขนาด​เท่า​ถ้วย​สุรา​ ​ใน​มือ​ของ​นาง​ยัง​ถือ​ถาด​แก้ว​ไว้​ด้วย​ ​ใน​ถาด​มีด​อก​ไม้​สีแดง​สาม​ดอก​ ​ดอกไม้​สีชมพู​หนึ่ง​ดอก​และ​ดอกไม้​สีม่วง​อีก​หนึ่ง​ดอก

“​พี่​หญิง​”​ ​นาง​เดิน​เข้ามา​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​เพิ่งจะ​บาน​เมื่อเช้านี้​ ​ข้า​เลย​เลือก​ดอก​ที่​บาน​และ​สวย​ที่สุด​มา​จำนวน​หนึ่ง​ให้​พี่​หญิง​ทัด​ผม​”​ ​พูด​จบ​ก็​วาง​ถาด​แก้ว​ลง​บน​โต๊ะ​บน​เตียง​เตา

ตอนนี้​ไม่ใช่​ฤดู​ของ​ดอก​แปะ​เจียก​ ​แต่​จวน​สกุล​สวี​มี​ห้อง​หน​่​วน​ฝัง​ ​จึง​มักจะ​มีด​อก​ไม้​ที่​บาน​ก่อน​ฤดูกาล​ราว​หนึ่ง​ถึง​สอง​เดือน​อยู่​เสมอ

หลังจากที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​และ​หยาง​อี๋​เหนียง​ทำความเคารพ​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ก็​พากัน​แบ่งแยก​ซ้าย​ขวายืน​เรียง​กันตาม​ตำแหน่ง​ ​โดยเฉพาะ​หยาง​อี๋​เหนียง​ที่​ยืน​อยู่​หลัง​สุด​ ​นาง​ไม่​แม้แต่​จะ​เหลือบมอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​ตรงข้าม​กับ​สือ​อี​เหนียง​เสียด​้วย​ซ้ำ

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​หยิบ​ดอก​สีแดง​สด​ขึ้น​มา​หนึ่ง​ดอก

กลีบดอก​สลับซับซ้อน​ ​สี​ดอก​สดใส​สวยงาม​ ​“​งดงาม​มาก​”

เฉียว​เหลียน​ฝัง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ให้​ข้า​ช่วย​พี่​หญิง​ทัด​นะ​เจ้า​คะ​!​”

ปกติ​แล้ว​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ทัดดอกไม้​เป็นประจำ​ ​จึง​ปฏิเสธ​อย่าง​นุ่มนวล​ไป​ว่า​ ​“​รอ​ข้า​จัด​ผม​ทรง​มวย​ตก​หลัง​ม้า​แล้ว​ค่อย​ทัดดอกไม้​ก็​ยัง​ไม่​สาย​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​หันไป​สั่ง​กับ​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“​ให้​เหล่า​อี๋​เหนียง​แต่ละคน​เลือก​ดอก​ที่​ตัวเอง​ชอบ​ก็แล้วกัน​!​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​น้ำใจฮู​หยิน​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​…​ข้า​เอง​ก็​ขอ​อาศัย​บารมี​ด้วย​คน​ ​คน​ปกติ​ทั่วไป​อย่า​ว่าแต่​จะ​ทัด​ดอก​แปะ​เจียก​เลย​ ​แม้แต่​ดอกไม้​ที่​กลีบ​ร่วง​จน​เหลือ​แต่​ตอก​็​ยัง​ไม่ได้​เห็น​เสียด​้วย​ซ้ำ​!​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​เลือก​เอา​ดอก​สีชมพู​ทัด​ลง​บน​ผม

ฉิน​อี๋​เหนียง​เห็น​แล้วก็​เข้าไป​เลือก​ดอก​สีม่วง

ตอนนี้​ยัง​เหลือ​ดอก​สีแดง​สด​อีก​สอง​ดอก

หยาง​อี๋​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​หยิบ​มา​หนึ่ง​ดอก​ ​“​หาก​ไม่เคย​ได้​ฟัง​ที่ฮู​หยิน​พูด​ ​ข้า​ยัง​ไม่เคย​รู้มาก​่อน​เลย​ว่าการ​เลือก​ดอก​ทัด​ผม​ก็​ต้อง​พิถีพิถัน​เช่นกัน​ ​ยังดี​ที่​ข้า​ไม่ได้ผลี​ผลาม​ทัด​ผม​ซี้ซั้ว​ ​มิเช่นนั้น​เกรง​ว่า​คงจะ​แลดู​น่าขำ​ขัน​ไม่ใช่​น้อย​ ​ข้า​เคย​ได้ยิน​มา​ว่า​ดอก​โบตั๋น​เป็น​ราชา​แห่ง​หมู่​มวล​ดอกไม้​ ​ส่วน​ดอก​แปะ​เจียก​คือ​ผู้ดี​แห่ง​มวล​ดอกไม้​ ​อีกทั้ง​ยัง​เบ่งบาน​ใน​ฤดู​ที่​ดอก​เถาฮ​วา​และ​ดอก​อิง​เถา​บาน​ ​หาก​ไม่​ทัด​สัก​ดอก​ก็​คง​น่าเสียดาย​เกินไป​ ​แต่​ครั้น​จะ​ทัด​ก็​จะ​เป็นการ​เสียมารยาท​ต่อฮู​หยิน​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​สือ​อี​เหนียง​ ​“ฮู​หยิน​ ​หาก​ท่าน​เห็นด้วย​ ​ข้า​อยาก​จะ​มอบ​ดอกไม้​ดอก​นี้​ให้​กับ​คุณหนู​ใหญ่​ของ​เรา​เจ้าค่ะ​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​และ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​เมื่อ​ได้ยิน​แล้ว​ต่าง​ก็​พากั​นอึ​้ง​ไป​ชั่วขณะ​ ​แม้แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอง​ก็​ยัง​เงยหน้า​ขึ้น​มาม​อง​นาง​เสียด​้วย​ซ้ำ

สือ​อี​เหนียง​ยก​ฝา​ถ้วย​น้ำชา​ขึ้น​มา​จิบ​ไป​หนึ่ง​อึก​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ยาก​ยิ่งนัก​ที่จะ​ได้รับ​น้ำใจ​จาก​เจ้า​ ​เช่นนั้น​ก็​มอบให้​คุณหนู​ใหญ่​เถิด​”

หยาง​อี๋​เหนียง​ยิ้มพราย​พร้อมกับ​นำ​ดอกไม้​วาง​ลง​ไป​ใน​ถาด​แก้ว​ดังเดิม

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​และ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​เข้ามา​คารวะ​พอดี​ ​บรรยากาศ​ใน​เรือน​จึง​คึกคัก​ขึ้น​มา​ ​บทสนทนา​นี้​จึง​ถูก​ตัด​ไป​โดยปริยาย

รอก​ระ​ทั่ง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เข้ามา​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​ให้​เหล่า​บรรดา​อี๋​เหนียง​พากัน​แยกย้าย​กลับ​เรือน​ไป​ ​จากนั้น​ก็ได้​สั่ง​ให้​ลี่ว​์​อวิ​๋น​ให้​ไป​เชิญ​อาจารย์​เจี่ย​นมา​ร่วม​ทานอาหาร​เช้า​พร้อมกับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​เด็ก​ๆ​ ​แล้วจึง​ค่อย​พากัน​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​นั่ง​เขียนหนังสือ​อยู่​บน​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ ​เมื่อ​เห็น​ทุกคน​เข้ามา​ ​ก็​วาง​พู่กัน​ลง

สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​คารวะ​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้วก็​พากัน​ไป​เขย่ง​เท้า​ดูด​้วย​ความสงสัย​ ​จากนั้น​ก็​พากั​นอ​่า​นอั​กษร​ทีละ​คำ​ ​“​เก๋อ​จิน​ ​อวี​้​ป่าน​”​ ​ส่วน​อีก​คน​ก็​เบิกตา​กว้าง​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความตกใจ​ว่า​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​เขียนหนังสือ​เป็น​ด้วย​หรือ​ขอรับ​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​เสียงดัง​ด้วย​ความตลกขบขัน​ ​จากนั้น​ก็ได้​สั่ง​ให้​ป้า​ตู้​มอบ​กุ้ง​กรอบ​ให้​ทั้งคู่​คนละ​หนึ่ง​กล่อง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท