ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 384 บุปผาโบยบิน (ปลาย)

ตอนที่ 384 บุปผาโบยบิน (ปลาย)

หลังจากที่​ส่ง​เหล่า​บรรดา​อี๋​เหนียง​กลับ​ไป​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กุมขมับ

ไม่รู้​ว่า​เฉียว​เหลียน​ฝัง​กำลัง​คิด​จะ​ทำ​อะไร​ ​แต่​นาง​ทำ​เช่นนี้​ก็​พลอย​แต่​จะ​ทำให้​คน​รอบข้าง​เห็น​แล้วก็​รู้สึก​เหนื่อยหน่าย​ใจ​ไป​ตาม​ๆ​ ​กัน

ตอนบ่าย​หลังจากที่​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ทานอาหาร​เที่ยง​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​โจวฮู​หยิน​ก็ได้​มาหา

“​ข้า​รู้​ว่า​เจ้า​คงจะ​ไม่​ไป​ ​ดังนั้น​ข้า​ก็​เลย​มาหา​เจ้า​”​ ​นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​นั่งลง​บน​เตียง​เตา​ใหญ่​ข้างๆ​ ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​รับ​ถ้วย​น้ำชา​จาก​สาวใช้​มา​วาง​ลง​บน​โต๊ะ​ตรงหน้า​ของ​โจวฮู​หยิน​ ​“​ที่นั่น​คงจะ​คึกคัก​ไม่น้อย​!​”

โจวฮู​หยิน​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ทุกคน​ไป​พร้อมหน้าพร้อมตา​ ​ขาด​ก็​แต่​เจ้า​คนเดียว​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็ได้​หันไป​มอง​รอบ​ๆ​ ​ห้อง​ ​แล้วจึง​ถาม​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​แปลกใจ​ว่า​ ​“​เหตุใด​ถึง​ไม่เห็น​หยาง​อี๋​เหนียง​ที่​เพิ่ง​แต่ง​เข้ามา​ใหม่​เลย​”

“​นาง​อยู่​ที่​เรือน​ของ​นาง​เอง​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ ​“​ข้า​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ที่อยู่​ที่นี่​นาน​ที่สุด​เป็น​คนดู​แลนาง​ ​เพราะ​กลัว​ว่า​ข้า​ยัง​รู้จัก​กฎเกณฑ์​เก่าแก่​ของ​จวน​สกุล​สวี​ไม่ดี​พอ​”

โจวฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​เม้มปาก​ยิ้ม​ ​“​วิธี​นี้​ของ​เจ้า​ดีที​่​สุด​ ​เจ้า​เอง​ก็​จะ​ได้​ไม่ต้อง​ออกหน้า​เอง​ด้วย​”

สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​โจวฮู​หยิน​เข้าใจผิด​คิด​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ต้องการ​ยืมมือ​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ไป​จัดการ​กับ​หยาง​อี๋​หนี​ยง​ ​แต่​นี่​เป็นเรื่อง​ภายใน​ครอบครัว​ ​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทำให้​เป็นเรื่อง​โกลาหล​ใหญ่โต​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​รู้อยู่แก่ใจ​ดี​ ​นาง​จึง​เพียงแค่​ยิ้ม​ตอบ​ไป​เท่านั้น​ ​จากนั้น​ก็​ดัน​จาน​ที่​ใส่​ผล​ท้อ​พันธุ์​น้ำผึ้ง​ไป​ไว้​ตรง​ด้านหน้า​ของ​โจวฮู​หยิน​ ​“​เห็น​บอกว่า​ได้มา​จาก​อู๋​ซี​ ​พี่​หญิง​โจว​ลอง​ชิม​ดู​เจ้าค่ะ​”

โจวฮู​หยิน​ก็​หยิบ​ไม้​เล็ก​เรียว​แหลม​เสียบ​หนึ่ง​ชิ้น​มา​ลอง​ทาน​ ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​หยาง​อี๋​เหนียง​ของ​เจ้าหน้า​ตา​เป็น​อย่างไร​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​อย่างเป็นกลาง​และ​ตรงไปตรงมา​ว่า​ ​“​มีเสน่ห์​น่าหลงใหล​ ​งดงาม​เป็นอย่างมาก​”

โจวฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​รู้สึก​ว่า​บุคลิกภาพ​และ​หน้าตา​ของ​สตรี​สกุล​หยาง​นั้น​ปานกลาง​ไม่ได้​พิเศษ​อะไร​มากมาย​ ​และ​ข้า​ก็​ไม่เชื่อ​ว่า​จะ​เลือก​หา​คนที​่​โดดเด่น​เช่นนี้​มา​ได้​ ​คงจะ​ไม่ใช่​ญาติห่างๆ​ ​ที่​ต้องการ​จะ​ตะเกียกตะกาย​ปีนป่าย​ที่สูง​หรอก​กระมัง​”​ ​คำพูด​แฝง​ไป​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ประชดประชัน​เล็กน้อย​ ​แต่​มอง​จาก​ด้าน​ข้าง​แล้วก็​พิสูจน์​ให้​เห็น​ได้​ว่า​หยาง​อี๋​เหนียง​ของ​จวน​สกุล​โจว​มี​ใบหน้า​ที่​โดดเด่น​มากกว่า

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​เห็น​ว่า​เป็น​ญาติห่างๆ​ ​ไม่ใช่​สายเลือด​โดยตรง​มิใช่​หรือ​”

“​ใช้ได้​ทีเดียว​”​ ​โจวฮู​หยิน​เม้มปาก​ยิ้ม​ ​จากนั้น​ก็ได้​ทาน​ผล​ท้อ​พันธุ์​น้ำผึ้ง​เข้าไป​อีก​ชิ้น​ ​“​จริงๆ​ ​แล้ว​เจ้า​ไม่จำเป็น​ต้อง​หวาดระแวง​ขนาด​นั้น​!​”

สือ​อี​เหนียง​อึ้ง​ไป​เล็กน้อย

โจวฮู​หยิน​ก้มหน้าก้มตา​ทาน​ผล​ท้อ​พันธุ์​น้ำผึ้ง​ต่อ​อีก​หลาย​คำ​ ​และ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ

สือ​อี​เหนียง​จึง​ได้​เข้าใจ​ความหมาย​ที่นาง​จะ​สื่อ​ ​จากนั้น​ก็ได้​ให้​บ่าว​รับใช้​ที่​ปรนนิบัติ​ใน​ห้อง​ถอย​ออก​ไป​จน​หมด

โจวฮู​หยิน​จึง​ค่อยๆ​ ​หันมา​มอง​สือ​อี​เหนียง​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​แม้แต่​สามี​ของ​ข้า​ก็​ยัง​รู้​เลย​ว่า​แตะต้อง​หยาง​อี๋​เหนียง​ไม่ได้​ ​ก็​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​หยาง​อี๋​เหนียง​ของ​จวน​เจ้า​…​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่​อาจ​เก็บ​ซ่อน​สีหน้า​ที่​ประหลาดใจ​ของ​ตน

โจวฮู​หยิน​เห็น​แล้วก็​ปิดปาก​พร้อมกับ​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ

สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อนข้าง​ทำตัว​ไม่​ถูก​ขึ้น​มา

โจวฮู​หยิน​กลับ​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่จริง​จัง​ว่า​ ​“​คำพูด​บาง​คำพูด​ ​ข้า​ก็​พูด​ได้​แค่​กับ​เจ้า​คนเดียว​เท่านั้น​”​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​เผย​ให้​เห็น​สีหน้า​ที่​กังวลใจ​ ​“​หาก​ไท​เฮา​ยัง​ทรงอยู่​ ​เหล่า​บรรดา​นายท่าน​ทั้งหลาย​ก็​จะ​คิด​เพียงแค่​ว่า​ได้​สตรี​ผู้​นี้​มา​ได้​อย่างไร​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​มีประโยชน์​และ​สามารถ​ที่จะ​ช่วยเหลือ​ตน​ได้​ ​แต่​หาก​ไท​เฮา​ไม่อยู่​แล้ว​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​เป็น​วันที่​เรา​ต้อง​รวบรวม​จิตใจ​ลุกขึ้น​มา​จัดการ​กับ​พวก​นาง​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​คำพูด​ของ​โจวฮู​หยิน​มีเหตุผล

หาก​ไท​เฮา​ยัง​ทรงอยู่​ ​ทุกคน​ก็​จะ​มี​ความ​ยำเกรง​ต่อ​ไท​เฮา​ ​แม้ว่า​ทั้งสอง​ตระกูล​จะ​ไม่พอใจ​แค่ไหน​ ​แต่​ก็​ไม่​สามารถ​กระทำการ​ใดๆ​ ​ต่อ​หยาง​อี๋​เหนียง​ได้​ ​แต่​หาก​วันหนึ่ง​ที่​ไท​เฮา​ไม่อยู่​แล้ว​ ​กุหลาบ​ที่​ถูก​เด็ด​หนาม​แหลมคม​ออก​ไป​เช่น​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​จะ​เหยียบ​จะ​ย่ำ​แค่ไหน​ก็​ย่อม​ได้​ ​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​เหล่า​บุรุษ​มักจะ​เกิด​ความรู้สึก​สงสาร​และ​เห็นอกเห็นใจ​ ​จึง​กลายเป็น​โอกาส​ที่​ทำให้​หยาง​อี๋​เหนียง​ที่​เหมือนตาย​แล้ว​ได้​เกิด​ใหม่​ ​กลับมา​มีโอกาส​อีกครั้ง​…

โจวฮู​หยิน​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​จึง​ได้​เอ่ย​เตือน​นาง​ว่า​ ​“​แทนที่​เจ้า​จะ​คิด​หาวิ​ธี​ป้องกัน​สถานการณ์​ของ​ตอนนี้​ ​สู้​ไป​คิด​หาวิ​ธี​จัดการ​เหตุการณ์​หลังจากที่​ไท​เฮา​สวรรคต​แล้วยัง​ดี​เสีย​กว่า​!​”

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​อยากรู้​มาก​เช่นกัน​ ​ว่า​ถึง​เวลา​นั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​จัดการ​อย่างไร

จากนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​สั่ง​สาวใช้​น้อย​ให้​ไป​หั่น​ผล​ท้อ​พันธุ์​น้ำผึ้ง​มา​ใหม่​ด้วย​อาการ​ใจ​ไม่​ค่อย​อยู่​กับ​เนื้อ​กับ​ตัว

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ก็ได้​มาหา​พอดี

“​ว่า​แล้ว​เชียว​ ​ข้า​ก็​ว่า​ทำไม​ที่​งาน​ขาด​ไป​คน​หนึ่ง​ ​ก็​เลย​ทาย​ว่า​เจ้า​จะ​ต้อง​มาที​่​นี่​”​ ​นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ชี้​ไป​ยัง​โจวฮู​หยิน​ ​“​เหตุใด​ถึง​ไม่​เรียก​ข้า​สัก​คำ​!​”

“​เรา​สอง​คน​จะ​พูดคุย​ความลับ​กัน​ ​แล้ว​จะ​ให้​เรียก​เจ้า​มาทำ​ไม​”​ ​โจวฮู​หยิน​เอน​ตัว​พิง​กับ​หมอนอิง​ใบ​ใหญ่​ ​น้ำเสียง​เรียบ​เฉย​แต่​แฝง​ไป​ด้วย​ความ​สนิทสนม

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ไม่ได้​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ที่​สาวใช้​น้อย​เตรียม​มา​ให้​ ​แต่กลับ​ไป​นั่ง​เบียด​ข้างๆ​ ​โจวฮู​หยิน​แทน​แล้ว​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​หยอกล้อ​ว่า​ ​“​ข้า​ลืม​ไป​เสีย​สนิท​ ​ว่า​พวก​เจ้า​ทั้งสอง​เกี่ยวดอง​กัน​แล้ว​ ​ไม่​เหมือนเช่น​พวก​ข้า​!​”

โจวฮู​หยิน​ก็ได้​ถอนหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​ให้​บุตรสาว​ของ​เจ้า​แต่งงาน​มา​เป็น​สะใภ้​ของ​ข้า​ ​ก็​กลายเป็น​ว่า​เจ้า​กับ​สือ​อี​เหนียง​เกี่ยวดอง​กัน​แล้ว​ไม่ใช่​หรือ​”

“​เด็ก​กะโปโล​ของ​จวน​ข้า​ ​ขอ​แค่​เจ้า​พึงพอใจ​นาง​ก็​เป็น​พอ​”​ ​ทั้งสอง​พูดคุย​หยอกล้อ​และ​หัวเราะ​กัน​ไปมา​ ​บรรยากาศ​ใน​เรือน​จึง​ครึกครื้น​ขึ้น​มาทัน​ที

ทั้งคู่​พากั​นคุย​เล่น​จนถึง​ต้น​ยาม​โหย​่ว​ ​งานเลี้ยง​จะ​เริ่ม​ขึ้น​แล้วจึง​ค่อย​พากัน​เดินทาง​ไป

ฉิน​อี๋​เหนียง​ยังอยู่​ที่​เรือน​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง

“​…​น้อง​หญิง​ให้​ตัวอย่าง​ผ้า​ปัก​ลาย​ดอก​เป่า​เซียง​แบบ​ใหม่​กับ​ข้า​ด้วย​ได้​หรือไม่​”​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เกรงใจ​ ​“​ถึง​เวลา​นั้น​ข้า​จะ​ทำ​ถุงเท้า​ให้​คุณชาย​น้อย​ห้า​สัก​คู่​”

หยาง​อี๋​เหนียง​รับปาก​อย่างรวดเร็ว​ ​จากนั้น​นาง​ก็ได้​ไป​เปิด​กล่อง​หีบ​ออก​ ​หยิบ​ผ้า​ปัก​ลาย​ดอกไม้​ต่างๆ​ ​ออกมา​หนึ่ง​กอง​มอบให้​กับ​ฉิน​อี๋​เหนียง

“​งานเย็บปักถักร้อย​ของ​น้อง​หญิง​ฝึก​กับ​ใคร​มา​หรือ​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​เห็น​แล้วก็​แสดง​สีหน้า​ที่​แปลกใจ​ออกมา​ ​“​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​จะ​มี​ผ้า​ปัก​แบบ​ใหม่​เยอะ​ขนาด​นี้​ ​เป็นครั้งแรก​ที่​ข้า​เห็น​ลาย​ผ้า​ปัก​ที่มา​กมาย​ถึง​เพียงนี้​ ​แม้แต่​ของฮู​หยิน​เอง​เกรง​ว่า​ก็​ยัง​ไม่​มาก​เท่า​ของ​เจ้า​เสียด​้วย​ซ้ำ​”

“​พี่​หญิง​อย่า​พูด​เช่นนี้​เชียว​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ ​“​หาก​เรื่อง​นี้​แพร่งพราย​ออก​ไป​…​แม้ฮู​หยิน​จะ​เป็น​คนที​่​ใจกว้าง​ ​แต่​ก็​คง​ไม่​อาจ​เลี่ยง​การ​ใส่​สี​ตี​ไข่​จาก​ผู้อื่น​ได้​ ​จะ​พลอย​ทำให้​ทุกคน​ต่าง​ก็​ทุกข์ใจ​ไป​กัน​หมด​!​”

“​เป็น​ข้า​เอง​ที่​พูดจา​ผิด​ไป​!​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​ด้วย​สีหน้า​ที่​ใส​ซื่อ​ ​จากนั้น​ก็​เลือก​ลาย​ผ้า​ปัก​ไป​จำนวน​หนึ่ง​ ​“​ฝีมือ​การ​เย็บปักถักร้อย​ของ​ข้า​ไม่​ค่อย​ดี​เท่าไร​นัก​ ​ข้า​เลือก​ลาย​ปัก​ที่​ง่าย​ก่อน​แล้ว​ค่อย​มายื​มลาย​ปัก​แบบ​ยาก​อีกที​”​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​พร้อมกับ​ขอตัว​ลาก​ลับ

หยาง​อี๋​เหนียง​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​ตาม​ ​เดิน​ออก​ไป​ส่ง​ที่​หน้า​ประตู​ด้วยตัวเอง

“​ดูท่า​แล้ว​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ผู้​นี้​ถือว่า​เป็น​คนที​่​ไร้เดียงสา​และ​ตรงไปตรงมา​”​ ​ป้า​หยาง​กำลัง​เก็บ​ถ้วยชาม​ที่​ใช้​รับแขก​เมื่อครู่นี้

หยาง​อี๋​เหนียง​ไม่ได้​คิด​เช่นนั้น​ ​นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ไร้เดียงสา​และ​ตรงไปตรงมา​อย่างนั้น​หรือ​ ​ไร้เดียงสา​และ​ตรงไปตรงมา​แล้ว​จะ​สามารถ​ให้กำเนิด​บุตรชายคนโต​ของ​ตระกูล​ได้​อย่างไร​กัน​”

ป้า​หยาง​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ

หยาง​อี๋​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ท่าน​ช่วย​ข้า​นำ​ตัวอย่าง​ผ้า​ปัก​ลาย​ดอก​เป่า​เซียง​แบบ​ใหม่​ไป​ให้​เฉียว​อี๋​เหนียง​หน่อย​!​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​หัวเราะ​ออกมา​อย่าง​เยือกเย็น​ ​“​นาง​อยาก​จะ​เรียน​ปัก​ผ้า​กับ​ข้ามิ​ใช่​หรือ​ ​เช่นนั้น​ก็​เลือก​ไป​หลาย​ๆ​ ​ผืน​หน่อย​ ​ให้​นาง​ฝึก​ปัก​ผ้า​กับ​ข้า​จน​หนำใจ​”

ป้า​หยาง​ได้ยิน​แล้วก็​ขานรับ​และ​ไป​ทำตาม​คำสั่ง​ทันที

หยาง​อี๋​เหนียง​หันไป​จ้องมอง​ดอก​พุทธรักษา​สอง​ดอก​ที่​ยัง​ตูม​และ​กำลัง​รอ​เบ่งบาน​ที่​มุม​ห้อง​พร้อมกับ​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ

ต้นไม้ใบหญ้า​ของ​จวน​สกุล​สวี​เจริญเติบโต​งอกงาม​และ​เขียวชอุ่ม​ร่มรื่น​ ​เต็มไปด้วย​ตะไคร่น้ำ​ ​ที่​ห้อง​หน​่​วน​ฝัง​มีด​อก​ไม้​เบ่งบาน​ทั้ง​สี่​ฤดู​ ​หาก​เปรียบเทียบ​กัน​แล้ว​ ​ที่​จวน​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​ใหญ่โต​โอ่อ่า​กว่า​มาก​ ​แต่กลับ​ขาด​ซึ่ง​ความสำรวม​อัน​สงบเสงี่ยม​ของ​ขุนนาง​ผู้ดี​ไป

จากนั้น​ก็ได้​นึกถึง​ฉิน​อี๋​เหนียง​ขึ้น​มา​…​ได้ยิน​ว่านาง​ถูก​โปรดปราน​มาโดยตลอด​ ​เพียงแต่ว่า​ช่วง​ก่อนหน้านี้​เพราะ​เรื่อง​ของ​คุณชาย​น้อย​สอง​จึง​ทำให้​ท่าน​โหว​โกรธ​ขึ้น​มา​ ​จึง​ถูก​เพิกเฉย​และ​เย็นชา​ใส่​ ​เช่นนี้​ดูแล​้​วท​่าน​โหวก​็​คงจะ​เป็น​คนที​่​มั่นคง​ใน​ความรู้สึก​ ​เมื่อ​นึกถึง​จวน​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​ ​อนุภรรยา​ที่​มีอายุ​ยี่สิบ​ปี​ขึ้นไป​ก็​จะ​ต้อง​อยู่​เฝ้า​เรือน​ที่​โดดเดี่ยว​และ​อ้างว้าง​คนเดียว​…

เมื่อ​นึกถึง​เรื่อง​เหล่านี้​ขึ้น​มา​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ก็ได้​ไป​นำ​ถุงเท้า​ที่​ปัก​เสร็จ​แค่​ครึ่ง​เดียว​มาปั​กต​่อ

หากว่า​สามารถ​ทำ​ถุงเท้า​ที่​หรูหรา​และ​สวยงาม​มากกว่า​คู่​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ก็​จะ​สามารถ​มอบให้​กับ​สือ​อี​เหนียง​!

แต่​ฉิน​อี๋​เหนียง​กลับ​นำ​ลาย​ผ้า​ปัก​ตรง​ไป​ยัง​เรือน​ของ​คุณชาย​สาม

อี้​อี๋​เหนียง​ของ​คุณชาย​สาม​กำลัง​นั่ง​ปัก​ผ้า​อยู่​บน​เตียง​เตา​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ฉิน​อี๋​เหนียง​มาหา​ ​นาง​ก็ได้​เงยหน้า​ขึ้น​มา​พร้อมกับ​เชื้อเชิญ​ให้​ฉิน​อี๋​เหนียง​นั่ง​ ​“​เชิญ​เจ้า​นั่ง​เถิด​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็ได้​ปัก​ผ้า​ต่อ​จน​เส้นด้าย​เส้น​นั้น​หมด​ไป​ ​ถึง​ค่อย​เงยหน้า​ขึ้น​มา

“​เหลือ​แค่​แขน​เสื้อ​ข้างเดียว​ก็​จะ​เสร็จ​แล้ว​!​”​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​แผ่วเบา​ฟัง​ดู​ค่อนข้าง​หวาดระแวง​ ​ราวกับว่า​หาก​พูดเสี​ยง​ดัง​ไป​จะ​ทำให้​ผู้อื่น​ตกใจ​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​“ฮู​หยิน​สี่​เร่ง​เจ้า​แล้ว​หรือยัง​”

“​ก็​ไม่ได้​ถึงขั้น​เร่ง​หรอก​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​หันไป​ยก​กาน้ำ​ชาลาย​คราม​ขึ้น​มาริน​น้ำชา​สอง​ถ้วย​ ​ถ้วย​หนึ่ง​ริน​ให้​อี้​อี๋​เหนียง​ ​ส่วน​อีก​ถ้วย​ริน​ให้​ตนเอง​ ​ดูออก​ได้​อย่างชัดเจน​ว่าความ​สัมพันธ์​ของ​ทั้งคู่​นั้น​ไม่ธรรมดา​ ​“ฮู​หยิน​ก็​แค่​ต้องการ​ใช้​วิธี​นี้​เพื่อที่จะ​ขัง​ข้า​อยู่​แต่​ใน​เรือน​ ​คุณชาย​น้อย​ห้า​จำเป็นต้อง​รอ​ใส่​เสื้อผ้า​ที่​ข้า​เย็บ​หรือ​อย่างไร​กัน​”​ ​นาง​พูด​ขึ้น​พลาง​หยิบ​ผ้า​ปัก​ลาย​ดอก​เป่า​เซียง​ออกมา​จาก​แขน​เสื้อ​ ​“​เจ้า​เห็น​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​เป็น​คน​ออกแบบ​เอง​ ​เจ้า​ช่วย​ข้า​ดู​หน่อย​ ​ข้า​อยาก​จะ​ฝึก​ปัก​ลาย​นี้​”

“​ทำไม​หรือ​!​”​ ​อี้​อี๋​เหนียง​หยิบ​ผ้า​ปัก​ออกมา​ดู​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​ ​“​ลาย​ดอก​นี้​ค่อนข้าง​สลับซับซ้อน​ ​แต่​สี​ออกจะ​ฉูดฉาด​ไป​หน่อย​ ​หาก​ปัก​ลาย​ดอกไม้​เหล่านี้​ลง​บน​เสื้อ​และ​กระโปรง​ของฮู​หยิน​ ​ก็​จะ​เหมือน​การ​เติม​แต่ง​ลาย​บุปผา​ลง​บน​ผ้า​ดิ้น​ ​แต่​หากว่า​เรา​นำไปใช้​เอง​ล่ะ​ก็​…​”

ฉิน​อี๋​เหนียง​จึง​ได้​เล่า​เหตุการณ์​ที่เกิด​ขึ้น​ให้​อี้​อี๋​เหนียง​ฟัง​ ​“​…​ถึง​เวลา​นั้น​ข้า​ก็​จะ​เย็บปักถักร้อย​อยู่​แต่​ใน​เรือน​ ​จึง​มีเหตุผล​เพียงพอ​ที่จะ​ปฏิเสธ​เจอ​แขก​ที่มา​เยือน​ข้า​ ​และ​จึง​จะ​มี​ข้ออ้าง​ที่จะ​ไปมาหาสู่​กับ​หยาง​อี๋​เหนียง​อย่างไรเล่า​!​”

อี้​อี๋​เหนียง​จึง​ค่อย​เข้าใจ​ขึ้น​มา​ ​“​ดังนั้น​จึง​จะ​ต้องหา​เหตุผล​ที่จะ​อยู่​แต่​ใน​เรือน​ ​แม่เฒ่า​จู​ของ​สำนัก​ชี​บอก​แล้ว​ว่า​จะ​ต้อง​ท่อง​บท​สวด​เจ็ด​วัน​เจ็ด​รอบ​ร่วม​สี่​สิบ​เก้า​วัน​อย่างต่อเนื่อง​ถึง​จะ​ได้​ ​หาก​มี​การ​ขาดช่วง​ไป​ก็​จะ​ไม่​ศักดิ์สิทธิ์​ ​อีก​อย่าง​เรา​ไม่ได้​เป็น​คนที​่​จะ​สามารถ​ทำ​อะไร​ได้​อย่าง​อิสระ​ ​แล้ว​จะ​ท่อง​บท​สวด​เวลา​เดิม​ทุกๆ​ ​วัน​ได้​อย่างไร​กัน​ ​หาก​สามารถ​ใช้​เรื่อง​นี้​เป็น​ข้ออ้าง​ได้​ ​ดีกว่า​เหตุผล​อื่น​เป็น​ไหน​ๆ​ ​ส่วน​ทาง​ฝั่ง​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​พี่​หญิง​ฉิน​เอง​ก็​ควรจะ​สนิทสนม​ให้​น้อยลง​หน่อย​ ​จะ​ได้​ไม่ต้อง​ถูก​ผู้อื่น​เข้าใจผิด​เอา​”

“​ข้า​รู้​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​ก็​แค่​หา​แผน​สำรอง​กัน​ไว้​ก่อน​ก็​เท่านั้น​”​ ​พูด​จบ​ก็​แสดง​สีหน้า​ลังเลใจ​ออกมา​ ​“​แม่เฒ่า​จู​ของ​สำนัก​ชี​ผู้​นั้น​เชื่อถือได้​หรือไม่​”

“​เหตุใด​จะ​เชื่อถือ​ไม่ได้​เล่า​!​”​ ​อี้​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​ตอบกลับ​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ก่อนหน้านี้​ตอนที่​ข้า​ติดตามฮู​หยิน​สาม​อยู่​ที่​จวน​สกุล​เดิม​ ​คุณนาย​ห้า​สกุล​กาน​เอง​ก็​เชิญ​แม่เฒ่า​จู​สำนัก​ชีค​นนี​้​ ​ต่อมา​มารดา​ของฮู​หยิน​สาม​ก็ได้​เชิญ​แม่เฒ่า​จู​สำนัก​ชีค​นนี​้​…​มิเช่นนั้น​ข้า​จะ​รู้จัก​นาง​ได้​อย่างไร​กัน​!​ ​อีก​อย่าง​นาง​เก็บเงิน​เจ้า​ไป​ตั้ง​ห้า​ร้อย​ตำลึง​โดยที่​ไม่​เกรงใจ​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​”

ฉิน​อี๋​เหนียง​จึง​พยักหน้า​เห็นด้วย

ตกค่ำ​ขณะที่​กำลัง​ไป​คารวะ​สือ​อี​เหนียง​นั้น​ ​นาง​ก็ได้​นำ​แบบ​ผ้า​ปัก​ลาย​ดอกไม้​ลาย​นั้น​ออกมา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ดู​ ​“​…​ข้า​เอง​ก็​ไป​ขอตัว​อย่าง​ผ้า​ปัก​จาก​หยาง​อี๋​เหนียง​มาส​อง​แบบ​ ​จะ​ลอง​ปัก​ถุงเท้า​ให้​คุณชาย​น้อย​ห้า​ก่อน​สัก​คู่​ ​หากว่าฮู​หยิน​เห็น​ว่า​สวย​ ​ค่อย​ปัก​ให้ท่า​นอี​กคู​่​”

เฉียว​เหลียน​ฝัง​ได้ยิน​แล้ว​สีหน้า​ของ​นาง​เคร่งเครียด​ขึ้น​มาทัน​ที

สือ​อี​เหนียง​ได้​บอก​ปฏิเสธ​อย่าง​รักษา​น้ำใจ​ไป​ว่า​ ​“​…​คุณชาย​น้อย​ห้า​อายุ​ยังน้อย​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ยุ่งยาก​ขนาด​นี้​!​”

ขณะที่​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็ได้​กลับมา​ถึง​พอดี

พอ​รู้​ว่า​เป็น​ลาย​ผ้า​ปัก​แบบ​ใหม่​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​เขา​เอง​ก็​ไม่ได้​ปฏิเสธ​อะไร​ ​หยิบ​ผ้า​ปัก​มาดู​อยู่​ครู่หนึ่ง​จากนั้น​ก็​คืนให้​กับ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​แล้วจึง​หันไป​สั่ง​ให้​สือ​อี​เหนียง​มาช​่วย​ตน​เปลี่ยน​ชุด

เมื่อ​เหล่า​บรรดา​อี๋​เหนียง​เห็น​แล้วก็​พากัน​ถอย​ออก​ไป

ฉิน​อี๋​เหนียง​และ​เฉียว​อี๋​เหนียง​ต่าง​ก็​พากัน​เริ่ม​ฝึก​ปัก​ถุงเท้า​ลาย​ดอก​เป่า​เซียง

ชั่วเวลา​หนึ่ง​ ​จวน​สกุล​สวีต​่า​งก​็​พากั​นนิ​ยม​สวมใส่​ถุงเท้า​ลาย​ดอก​เป่า​เซียง​กัน​ถ้วนหน้า

แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ไม่ได้​สนใจ​เรื่อง​เหล่านี้​เท่าไร​นัก

ส่วน​ทาง​ฝั่ง​หลาน​ถิ​งก​็​มี​ข่าวดี​ว่านาง​ได้​ให้กำเนิด​บุตรชาย​หนึ่ง​คน​ ​สือ​อี​เหนียง​สั่ง​ช่าง​ตี​กำไลทอง​ส่ง​ไป​ให้​เนื่องใน​โอกาส​เด็กน้อย​ครบ​หนึ่ง​เดือน​โดยเฉพาะ​ ​วันที่​แปด​เดือน​สี่​ ​วัน​คล้าย​วัน​ประสูติ​ของ​พระพุทธเจ้า​ ​สือ​อี​เหนียง​ ฮู​หยิน​สอง​และฮู​หยิน​ห้า​ก็ได้​เป็นเพื่อน​ไท่ฮู​หยิน​กราบไหว้​ที่​วัด​เย​่า​หวัง​ ​จากนั้น​ก็​ค่อย​เริ่ม​จัดเตรียม​งาน​วันเกิด​ให้​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​แต่​เพราะ​สือ​อี​เหนียง​ยังอยู่​ใน​ช่วง​ไว้ทุกข์​ ​ภายใต้​ความมุ่งมั่น​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​จึง​เชื้อเชิญ​แค่​ญาติสนิท​มิตรสหาย​เท่านั้น​ ​จัด​โต๊ะ​กินเลี้ยง​ใน​สวนดอกไม้​เพียงแค่​สิบ​โต๊ะ​ ​ช่วง​บ่าย​ก็​มี​การแสดง​ร้องรำทำเพลง​อยู่​ครึ่ง​ค่อนวัน​ ​พอ​ถึง​ช่วง​กลางเดือน​ห้า​ ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็ได้แต่​งงา​นอ​อก​เรือน​ ​เมื่อถึง​กลางเดือน​หก​ ​การฟ้องร้อง​คดี​ของ​จวน​สกุล​กาน​ก็​สิ้นสุดลง​ในที่สุด​ ​พี่ใหญ่​ของ​หลาน​ถิ​งก​็​คือ​ผู้ปกครอง​จง​ฉินปั​๋ว​คน​ปัจจุบัน​ ​นอกจาก​ที่นา​ที่​ใช้​สัก​การ​บูชา​และ​บ้านเรือน​ที่​บรรพบุรุษ​ทิ้ง​ไว้​ให้​แล้ว​ ​ใน​ส่วน​อื่นๆ​ ​ก็​ถูก​แบ่ง​ตาม​สัดส่วน​ให้​ทุกคน​ใน​ตระกูล​อย่าง​เท่าเทียมกัน

บิดา​ของฮู​หยิน​สาม​บอกว่า​ตอนนั้น​ตื้นตันใจ​จน​น้ำตาไหล​ท่วม​ใบหน้า​ ​จึง​ได้​ตัดสินใจ​ซื้อ​เรือน​ใน​เมือง​และ​ย้าย​เข้าไป​อยู่​ทันที

“​…​ดังนั้น​ช่วง​หลาย​วันที่​ผ่าน​มานี​้​ใน​เรือน​ถึง​ได้​วุ่นวาย​ไป​หมด​ ​คน​หนึ่ง​โวยวาย​ว่า​ของ​หาย​หาไม่​เจอ​ ​ส่วน​อีก​คน​ก็​โวยวาย​ว่า​จะ​ไม่เอา​ของ​แล้ว​ ​แต่ละคน​กำลัง​วุ่นวาย​กับ​การ​ย้ายบ้าน​”​ ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ยก​น้ำแกง​ซวน​เหมย​มา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“​อาหาร​ที่​มีฤทธิ์​เย็น​เช่น​ถั่วเขียว​เจ้า​ควร​ทานให้​น้อย​หน่อย​จะ​ดีกว่า​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​นาง​เอน​ตัว​พิง​หมอนอิง​ที่​เย็บ​จาก​ผ้า​เก๋​อปู​้​เนื้อ​ละเอียด​บน​เตียง​หลัว​ฮั่น​พลาง​จิบ​น้ำแกง​ซวน​เหมย​อย่าง​ช้าๆ​ ​คุย​เรื่อง​ทั่วไป​กับ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​เรื่อง​การฟ้องร้อง​คดี​นี้​ ​จง​ฉินปั​๋ว​เอง​ก็​เหนื่อย​ไม่น้อย​ ​ตอนนี้​คดี​มี​การ​พิพากษา​ผ่อน​โทษ​…​เขา​ยัง​สบายดี​อยู่​หรือไม่​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท