ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 385 เขาเขียว (ต้น)

ตอนที่ 385 เขาเขียว (ต้น)

“​มี​อะไร​ไม่ดี​กัน​!​”​ ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​หนึ่ง​ใน​สาม​ของ​มรดกตกทอด​ถูกขาย​ไป​เป็น​ที่นา​ ​ที่​ใช้​สัก​การ​บูชา​ ​ส่วน​คดี​ที่​ฟ้องร้อง​ช่วง​สอง​สาม​วันที่​ผ่าน​มา​ ​รายได้​จาก​ส่วนกลาง​ลดลง​อย่างเห็นได้ชัด​ ​จึง​จำเป็นต้อง​ขาย​สมบัติ​อีก​ส่วนหนึ่ง​ไป​ ​พอ​ถึง​เวลา​ที่​แบ่ง​สมบัติ​ ​จวน​จง​ฉินปั​๋​วก​็​เหลือ​สมบัติ​เพียง​หนึ่ง​ใน​สาม​ส่วน​เท่านั้น​ ​ข้า​ก็​แค่​กลัว​ว่า​เขา​จะ​ลุกขึ้น​มา​แอบ​หัวเราะ​กลางดึก​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​เกิด​เหงื่อ​ตก​ขึ้น​มา

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ก็ได้​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​คดี​ที่​ฟ้องร้อง​ถูก​ปิด​ลง​ได้​อย่างนี้​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้วก็​ยัง​เป็น​หลาน​ถิง​ที่​ทุ่ม​แรงกาย​แรงใจ​ไป​ไม่น้อย​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่เข้าใจ​ใน​คำพูด

“​หลาน​ถิง​ฉลาด​หลักแหลม​ ​นิสัยใจคอ​ร่าเริง​แจ่มใส​ ​สามี​ให้การ​เคารพ​ ​แม่​สามี​รักใคร่​เอ็นดู​ ​ท้อง​แรก​ก็​เป็น​บุตรชาย​ ​ถือว่า​เป็น​ก้าว​แรก​ที่มั่น​คง​ใน​จวน​สกุล​เหลียง​”​ ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ยื่น​จาน​กระเบื้องเคลือบ​ลายทอง​ที่​ใส่​เม็ด​บัว​ที่​ปอก​เรียบร้อย​แล้ว​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​รสชาติ​หวาน​สดชื่น​ ​เจ้า​ลอง​ทาน​ดู​!​”

สือ​อี​เหนียง​ใช้​ไม้​จิ้ม​มาทาน​หนึ่ง​เม็ด​ ​“​หวาน​จริงๆ​ ​ด้วย​เจ้าค่ะ​!​”

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ชวน​คุย​ถึง​เรื่อง​เมื่อ​ครู่​ต่อ​ ​“​จวน​สกุล​กาน​เกิดเรื่อง​ขึ้น​เช่นนี้​ ​มี​เพียง​คน​สอง​คนที​่​ไม่​สามารถ​อยู่​อย่าง​ร่มเย็น​เป็นสุข​ได้​ ​หนึ่ง​คือ​เฉา​เอ๋อร​์​ ​แม้แต่​สินเดิม​ที่จะ​ใช้​ใน​งานแต่ง​ก็​เกรง​ว่า​คงจะ​มี​ไม่​พร้อม​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​ส่วน​อีก​คน​ก็​คือ​ท่านปั​๋ว​ ​ยิ่ง​ยื้อ​เวลา​นาน​วัน​เข้า​ ​คำครหา​นินทา​ก็​จะ​ยิ่ง​เพิ่มพูน​ ​กลายเป็น​คนที​่​ไร้​ซึ่ง​คุณธรรม​และ​ความสามารถ​ใน​สายตา​ผู้อื่น​โดยปริยาย​ ​อย่างไร​เสีย​พวกเขา​และ​หลาน​ถิ​งก​็​มีมา​รดา​เป็น​คนเดียว​กัน​ ​หลาน​ถิง​จึง​เป็น​คน​ไป​ขอร้อง​ให้​กง​กง​ช่วย​ออกหน้า​ ​ไหว้วาน​กับ​ทาง​ศาล​ต้า​หลี​่​ให้​ช่วย​เร่ง​คดี​ที่​ฟ้องร้อง​นี้​ให้​จบ​โดยเร็ว​วัน​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​เป็นห่วง​เฉา​เอ๋อร​์​ขึ้น​มา​ ​“​แล้ว​เรื่อง​สินเดิม​ของ​เฉา​เอ๋อร​์​…​”

“​ท่านปั​๋ว​พูด​เรื่อง​นี้​ต่อหน้า​หลาน​ถิง​ว่า​ผู้อื่น​จัดงาน​แต่ง​ให้​บุตรสาว​อย่างไร​ ​เขา​ก็​จะ​จัดงาน​แต่ง​ให้​น้องสาว​ของ​เขา​เช่นนั้น​”​ ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ปอก​เม็ด​บัว​ใหม่​อีก​จำนวน​หนึ่ง​ใส่​ลง​ไป​ใน​จาน​กระเบื้องเคลือบ​ลายทอง​ใบ​เดิม​ ​“​สินเดิม​หนึ่งร้อย​ยี่สิบ​สี่​ยก​ ​รับปาก​ว่า​จะ​ใส่​จน​เต็ม​ล้น​ ​ไม่​ให้​ทาง​จวน​สกุล​เจี่ยง​ได้​พูดถึง​ประเด็น​นี้​อย่างแน่นอน​”

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​ป้า​รับใช้​สอง​คน​ของ​จวน​สกุล​เจี่ยง​ ​“​…​ยังอยู่​ปรนนิบัติ​รับใช้​หรือไม่​”

“​ยังอยู่​!​”​ ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ขึ้น​พลาง​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ที่ผ่านมา​ข้า​เอาแต่​รู้สึก​ว่า​จิตใจ​ของ​เฉา​เอ๋อร​์​นั้น​อ่อนโยน​และ​นุ่มนวล​ ​หาก​เจอ​กับ​เรื่อง​เหล่านี้​จะ​ถูก​เอาเปรียบ​ได้​ ​แต่​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​ถึงแม้​คำพูด​และ​การกระทำ​ของ​นาง​จะ​ซื่อตรง​ ​แต่​จิตใจ​กลับ​กว้างขวาง​ ​คำพูด​ตรงไปตรงมา​และ​ทรงพลัง​ ​จน​ทำให้​ป้า​รับใช้​ทั้งสอง​ไม่กล้า​ที่จะ​ดูถูก​และ​ให้​ความเคารพ​นาง​กว่า​เมื่อก่อน​มาก​”​ ​พูด​จบ​ก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ทางบ้าน​แม่​สามี​ดูหมิ่นดูแคลน​ ​ส่วน​ทาง​จวน​สกุล​เดิม​ก็​ไร้​ซึ่ง​ที่พึ่ง​พิง​ ​หาก​ยัง​ไม่​เคารพ​ใน​ตัวเอง​ ​ถึง​เวลา​นั้น​คง​ไม่มี​แม้แต่​ที่​ยืน​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​สู้​ทำตัว​เอง​ให้​เป็น​คน​สุขุม​และ​เข้มงวด​ ​แย่งชิง​สิ่ง​ที่​เรียกว่า​ ​‘​ความเคารพ​’​ ​มา​ให้​ตัวเอง​ ​ยังดี​กว่า​การ​ที่​ถูก​ลดขั้น​ลง​แล้วยัง​มา​ให้​ผู้อื่น​ดูถูก​อีก​”

สือ​อี​เหนียง​เงียบงัน​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ

ยัง​ไม่ทัน​จะ​แต่งงาน​เข้า​เรือน​ ​วัน​เวลา​ที่จะ​มาถึง​ก็​ไร้​ซึ่ง​ความหวัง​ใดๆ​ ​เสีย​แล้ว​…​ราวกับ​ดอกไม้​ที่​ยัง​ไม่ทัน​จะ​เบ่งบาน​ก็​เหี่ยวเฉา

บรรยากาศ​ใน​เรือน​เต็มไปด้วย​ความรู้สึก​เศร้าสลด​ใจ

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ก็​รีบ​เปลี่ยน​เรื่อง​คุย​ ​ถามถึง​เรื่อง​แต่งงาน​ออกเรือน​ของ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ขึ้น​มา​ ​“​…​ได้ยิน​มา​ว่า​สินเดิม​ยก​ที่หนึ่ง​ถูก​ส่ง​มาถึง​ถนน​ตง​ต้า​แล้ว​ ​ส่วน​สินเดิม​ยก​สุดท้าย​ยัง​ไม่ได้​ออกจาก​เรือน​”

“​ข้า​เอง​ก็ได้​ยิน​มา​เหมือนกัน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​เสียง​ฆ้อง​และ​กลอง​ที่​ดัง​ไป​ทั่ว​ของ​จวน​สกุล​หลิน​ใน​วันนั้น​ ​ใบหน้า​ก็​ปรากฏ​รอยยิ้ม​ขึ้น​มา​ ​“​ข้า​ไม่ได้​ไป​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​คน​ไป​ส่ง​เจ้าสาว​ ​ข้า​ตั้งใจ​ส่ง​ป้า​ซ่ง​ติดตาม​ไป​ปรนนิบัติ​รับใช้​นาง​โดยเฉพาะ​ ​ไปดู​ฉาก​บรรยากาศ​ตอน​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​แต่งงาน​ว่า​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​ถึง​ตอนที่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​เรา​แต่งงาน​ออกเรือน​ ​จะ​ได้​จัด​ให้​ใกล้เคียง​กัน​ถึง​จะ​ดี​”

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​เป็นคุณ​หนู​ของ​ขุนนาง​ใน​ราชสำนัก​ทั้งคู่​ ​อีกทั้ง​ยัง​แต่ง​ไป​ที่​ซัง​โจว​เหมือน​ๆ​ ​กัน​ ​สินเดิม​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จึง​ไม่จำเป็น​ต้อง​มากกว่า​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​แต่​ก็​ไม่​ควร​น้อยกว่า​เช่นกัน​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็ได้​ถาม​ต่อไป​ว่า​ ​“​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เป็น​คน​เตรียม​เช่นเคย​หรือ​”

“​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​นาง​ให้ความสำคัญ​และ​เอาใจใส่​เป็นอย่างมาก​ ​ของ​ที่จะ​ต้องเต​รี​ยม​ข้า​เห็น​นาง​เลือก​ของ​ใหม่เอี่ยม​อย่างดี​ทีละ​ชิ้น​ทีละ​อัน​ ​เงิน​ที่​ท่าน​โหว​ให้​ไป​สอง​หมื่น​ตำลึง​เกรง​ว่า​คงจะ​ใช้​ไป​กว่า​ครึ่ง​แล้ว​ ​แต่​สินเดิม​ยัง​ได้​แค่​ครึ่ง​เดียว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​จบ​ก็​ยก​น้ำแกง​ซวน​เหมย​ขึ้น​มา​จิบ​ ​“​อีก​สอง​สาม​วัน​ข้าว​่า​จะ​เรียก​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มา​ลอง​คำนวณ​บัญชี​ ​ดู​ว่า​สามารถ​ให้ท่าน​โหว​นำ​เงิน​ส่วนตัว​มาช​่ว​ยสั​กหน​่อย​ได้​หรือไม่​”

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​ทันที​ ​“​เจ้า​นี่​ดีจริง​เชียว​ ​พูด​เรื่อง​คนอื่น​ใช้​เงิน​ขึ้น​มา​ ​ไม่​ปวดใจ​บ้าง​เลย​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​หาเงิน​มาก​็​เพื่อที่จะ​ใช้​ ​เหมือน​ดัง​คำ​ที่ว่า​ ​‘​หาก​ลูกหลาน​ประสบผลสำเร็จ​ ​เก็บเงิน​ทอง​ไว้​จะ​มีประโยชน์​อัน​ใด​ ​และ​หาก​ลูกหลาน​ไม่​ประสบผลสำเร็จ​ ​เก็บเงิน​ทอง​ไว้​ก็​ไร้​ซึ่ง​ประโยชน์​’​ ​โดยเฉพาะ​การ​ทิ้ง​เงินก้อน​โต​ไว้​จะ​กลายเป็น​ผลร้าย​มากกว่า​ผลดี​ ​สู้​นำ​เงิน​มา​จับจ่ายใช้สอย​ให้​หมด​ตั้งแต่แรก​เสีย​ยังดี​กว่า​ ​พึ่ง​ใน​ความสามารถ​ของ​ตนเอง​ ​อย่างไร​เสีย​ก็​มั่นคง​กว่า​คนที​่​ตระกูล​ที่​ร่ำรวย​และ​ปูพื้น​ให้​หมด​ทุกอย่าง​”

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้ว​อด​ไม่ได้​ที่จะ​คิด​ตาม

“​ไม่เลว​ทีเดียว​”​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ ​“​เจ้า​ดู​อย่าง​จวน​สกุล​กาน​ ​เมื่อก่อน​เคย​เป็นหนึ่ง​ใน​บรรพบุรุษ​ผู้ก่อตั้ง​รกราก​ ​หลาย​ต่อ​หลาย​ตระกูล​พากัน​สำนึก​ใน​บุญคุณ​อัน​ใหญ่หลวง​ ​ไม่เคย​เลย​ที่จะ​พบ​เจอ​กับ​อุปสรรค​ที่​ไม่คาดฝัน​ ​แต่​เจ้า​ดู​อย่าง​ทุกวันนี้​ ​เกรง​ว่า​เทียบ​สกุล​เวย​หย่วน​โหว​ยัง​ไม่ได้​เสียด​้วย​ซ้ำ​”

ตอนนั้น​จวน​สกุล​เวย​หย่วน​โหว​และ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​เคย​ถูก​ปลด​อำนาจ​ตำแหน่ง​เหมือน​ๆ​ ​กัน​ ​แต่​จวน​สกุล​สวี​ยังดี​ที่​มี​ฮองเฮา​และ​มี​แม่ทัพ​ใหญ่​เช่น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​และ​สิ่ง​ที่​จวน​สกุล​หลิน​พึ่งพา​ได้​มี​แค่​การค้าขาย​ที่​ส่งต่อ​จาก​รุ่น​สู่​รุ่น​เท่านั้น​ ​แต่​สามารถ​ประคอง​ตระกูล​ที่​ตกอับ​ให้​กลับมา​เป็นหนึ่ง​ใน​ตระกูล​ที่​มั่งคั่ง​ของ​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ได้

เมื่อ​พูด​จบ​ก็​นึกถึง​ตอนที่​ตน​ได้รับ​ร้านค้า​ส่วนหนึ่ง​จาก​สกุล​กาน​ ​ดังนั้น​จึง​ได้​ตัดบท​สนทนา​เรื่อง​นี้​ไป​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​ถาม​เรื่อง​งาน​วันเกิด​สือ​อี​เหนียง​ขึ้น​มา​ ​“​วันเกิด​ปีนี​้​ของ​เจ้า​ไม่​สามารถ​เชิญ​แขก​มางาน​เลี้ยง​ได้​ ​คงจะ​ไม่ได้​เงียบเหงา​เกินไป​ใช่​หรือไม่​”

“​ก็​ไม่​ถึงขั้น​เงียบเหงา​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​อวี​้​เกอ​ให้​คน​นำ​พัด​พับ​ที่​เขา​วาดลวดลาย​เอง​กับ​มือ​กลับมา​ให้​ข้า​หนึ่ง​เล่ม​ ​ส่วน​จุน​เกอ​ก็​ทำ​ขลุ่ย​ไม้​ไผ่​ให้​ข้า​หนึ่ง​เลา​ ​เจี​้ย​เกอ​ก็ได้​ให้​ลูกกวาด​ผลึก​แก้ว​ที่​เขา​ชอบ​ทาน​มาก​ที่สุด​ให้​ข้า​หนึ่ง​กระปุก​ ​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็ได้​ทำ​รองเท้า​ให้​ข้า​หนึ่ง​คู่​ ​จากนั้น​ทุกคน​ก็​ทาน​บะหมี่​อายุ​ยืน​ด้วยกัน​อย่าง​มีความสุข​ ​ครึกครื้น​เป็นอย่างมาก​”

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​แอบ​รู้สึก​อิจฉา​ขึ้น​มา​เสีย​ไม่ได้

นาง​ไม่มี​ลูกหลาน​ ​จึง​ชอบ​เด็ก​ๆ​ ​เป็น​ชีวิตจิตใจ

“​เจี​้ย​เกอ​รู้จัก​ให้​ของ​กับ​เจ้า​แล้ว​หรือ​”

“​เจ้าค่ะ​ ​เป็น​ของ​ที่​ไท่ฮู​หยิน​ให้​เขา​อีกที​ ​เขา​เอง​ยัง​เสียดาย​และ​ไม่กล้า​ทาน​เสียด​้วย​ซ้ำ​!​”

“​วันหลัง​เจ้า​มาหา​ข้า​ ​ก็​พามา​ด้วย​ ​ให้​ข้า​ดู​เสียหน่อย​”​ ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​หน้าตา​น่ารักน่าชัง​เสีย​ไม่มี​!​”

“​เด็ก​ๆ​ ​หน้าตา​น่ารักน่าชัง​กัน​ทุกคน​…​”

ทั้งสอง​พูดคุย​ถึง​เรื่อง​เด็ก​กัน​อย่าง​ถูกคอ​ ​ปา​ไป​ครึ่ง​ค่อนวัน​เห็นจะ​ได้​ ​จน​สาวใช้​เข้ามา​ถาม​ว่า​จะ​ให้​ตั้งโต๊ะ​อาหาร​ที่ไหน​ ​ทั้งสอง​จึง​ค่อย​หยุด​บทสนทนา​นั้น​ไป​ ​แล้วจึง​พากัน​ไป​ทานข้าว

พึ่ง​จะ​ทาน​เสร็จ​ ​กานฮู​หยิน​ก็​มาหา​พอดี

สือ​อี​เหนียง​อยู่​ดื่ม​น้ำชา​เป็นเพื่อน​เท่านั้น

แต่​ดูเหมือนว่า​กานฮู​หยิน​มีธุระ​จะ​พูด​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ขอตัว​ไป​ที่​ห้อง​ชำระ​แทน

แต่​เพราะ​เรือน​ของ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ค่อนข้าง​เล็ก​ ​และ​บรรยากาศ​ใน​เรือน​ก็​ค่อนข้าง​เงียบ​ ​บางอย่าง​ที่​ไม่​ควร​ฟัง​ก็​ดัน​ได้ยิน​เสีย​ทุก​ถ้อย​ทุก​คำ

“​หลาย​วันก่อน​ชุลมุน​วุ่นวาย​ไป​หมด​”​ ​กานฮู​หยิน​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ค่อนข้าง​เคารพนับถือ​ ​“​ก็​เลย​ไม่ได้​มาก​ล่า​วทัก​ทาย​ท่าน​ ​ก่อนหน้านี้​ติดขัด​ไป​เสีย​ทุกอย่าง​ ​ตอนนี้​ทุกอย่าง​เข้าที่​เข้า​ทาง​แล้ว​ ​กฎเกณฑ์​เดิม​ก็​ต้อง​ร่าง​ใหม่​จน​หมด​ ​เจตนา​ของ​ท่านปั​๋​วก​็​คือ​อยาก​ให้​ข้า​พา​เด็ก​ๆ​ ​มาน​้​อม​ทักทาย​ท่าน​เช้า​ค่ำ​ของ​ทุกๆ​ ​วัน​ด้วย​ความกตัญญู​ถึง​จะ​ถูก​”

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​ค่อนข้าง​รู้สึก​ประหลาดใจ​เป็นอย่างมาก​ ​นาง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้วจึง​ค่อย​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทำ​ถึงขนาด​นั้น​ ​ข้า​เอง​ก็​เป็น​เพียง​หญิง​หม้าย​ ​ธรรมดา​เรียบง่าย​ก็​พอแล้ว​”

“​จะ​พูด​แบบนี้​ก็​ไม่ได้​”​ ​ท่าที​ของ​กานฮู​หยิน​ดู​แน่วแน่​เป็นอย่างมาก​ ​“​ไม่ว่า​อย่างไร​ ​ท่าน​ก็​ถือว่า​เป็นมา​รดา​ของ​พวก​ข้า​”

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​ไม่กล้า​รับปาก​เข้าไป​ใหญ่

กานฮู​หยิน​จึง​รู้สึก​ร้อนใจ​ขึ้น​มา​ ​ก็​เลย​พูด​ออก​ไป​ว่า​ ​“​พวกเรา​ที่​เป็น​พ่อแม่​ ​ควร​เป็น​แบบอย่าง​ให้​กับ​เหล่า​บรรดา​สตรี​ถึง​จะ​ถูก​”

กาน​ไท่ฮู​หยิน​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ​ ​นาง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​แล้วจึง​ค่อย​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​เข้ามา​ทักทาย​ข้า​ใน​วันที่​หนึ่ง​และ​วันที่​สิบห้า​ของ​ทุกๆ​ ​เดือน​ก็​พอ​!​ ​รอ​ให้​ผ่าน​ช่วง​ไว้ทุกข์​สาม​ปี​ไป​แล้วก็​ค่อย​มา​ว่า​กัน​อีกที​”

กานฮู​หยิน​จึง​ค่อย​ถอน​ลมหายใจ​ออกมา​อย่าง​โล่งอก​ ​พูดคุย​กับ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ทักทาย​สือ​อี​เหนียง​แล้วจึง​ขอตัว​ลาก​ลับ

กาน​ไท่ฮู​หยิน​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูด​ประชด​เบา​ๆ​ ​กับ​ตัวเอง​ว่า​ ​“​ถือว่า​ข้า​ยัง​มีประโยชน์​นิดๆ​ ​หน่อย​ๆ​!​”

สือ​อี​เหนียง​กลับ​รู้สึก​ปวดใจ​ขึ้น​มา​ ​จึง​ทำได้​แค่​ปลอบใจ​นาง​ไป​ว่า​ ​“​ไม่ว่า​จะ​เป็น​เจตนา​แบบ​ไหน​ ​แต่​การ​ที่​พวกเขา​ให้​ความเคารพ​ท่าน​เป็น​ผู้อาวุโส​ ​ท่าน​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​คิดเล็กคิดน้อย​กับ​พวกเขา​จน​เกินไป​ ​หาก​พอใจ​ก็​อนุญาต​ให้​พวกเขา​มาคา​รวะ​ทักทาย​ ​แต่​หาก​ไม่​ชอบใจ​ก็​ปฏิเสธ​ไป​ว่า​ไม่​ค่อย​สบาย​!​”

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​นี่​คง​เป็น​ลูกไม้​ที่​แม่​สามี​ของ​เจ้า​ใช้​เป็นประจำ​กระมัง​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้ว​แน่นอน​ว่านาง​ไม่​สะดวก​ที่จะ​ออก​ความคิดเห็น​อยู่​แล้ว​ ​จึง​แค่​เม้มปาก​ยิ้ม​ตอบ​เท่านั้น

กาน​ไท่ฮู​หยิน​พึ่ง​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​จู่ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​มาหา​ตน​ ​จึง​รีบ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​ดู​สีหน้าท่าทาง​ของ​เจ้า​สบายดี​ ​เข้า​เรือน​มา​ข้า​ก็​เอาแต่​ชวน​เจ้า​คุย​ไม่​หยุด​ ​แล้ว​เหตุใด​จู่ๆ​ ​เจ้า​ถึง​มาหา​ข้า​ที่​เรือน​โดยที่​ไม่​บอก​ไม่​กล่าว​เช่นนี้​เล่า​”

ตาม​หลัก​แล้ว​ก่อนที่จะ​ไป​เยี่ยมเยียน​เรือน​ของ​ใคร​ก็​จะ​ต้อง​ให้​ป้า​รับใช้​มาแจ้ง​ก่อนเพื่อนัด​แนะ​เวลา​ ​เพื่อ​ที่​อีก​ฝ่าย​จะ​ได้​เตรียมตัว​จัดแจง​เวลา​ได้​ถูก​ ​และ​เพื่อ​ป้องกัน​เหตุการณ์​ที่​เจ้าบ้าน​ไม่​สะดวก​รับแขก​หรือไม่​อยู่​ที่​เรือน

“​ข้า​เพียงแค่​ต้องการ​หลบ​คน​เท่านั้น​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ออกมา​ตามตรง​ ​“​จู่ๆ​ ​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​ก็ได้​ส่ง​คน​มาแจ้ง​ว่า​จะ​มาหา​ ​ข้า​ไม่​อยาก​เจอ​นาง​ ​ก็​เลย​มาหา​ท่าน​แทน​”

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ​ ​จากนั้น​ก็​เริ่ม​เป็นกังวล​ใจ​ขึ้น​มา

“​แต่​นี่​ก็​ไม่ใช่​วิธี​ที่​ดี​เสียหน่อย​!​”​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ ​“​ในเมื่อ​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​อยาก​จะ​เจอ​เจ้า​ ​ครั้งนี้​ไม่ได้​เจอ​ ​คราวหน้า​ก็​ต้อง​มา​ใหม่​อีก​แน่นอน​ ​อีก​อย่าง​เจ้า​และ​นาง​ก็​เป็น​โหวฮู​หยิน​สกุล​เดียวกัน​ ​เป็น​พระ​ญาติ​ของ​เชื้อพระวงศ์​ทั้งคู่​ ​ถึงแม้ว่า​ก่อนหน้านี้​พวก​เจ้า​ทั้งสอง​จะ​ไม่ได้​ไปมาหาสู่​กัน​เท่าไร​นัก​ ​แต่​ตอนนี้​หยาง​อี๋​เหนียง​และ​เจ้า​มี​ความเกี่ยวข้องกัน​ ​นาง​มา​เยี่ยม​หา​เจ้า​ ​ก็​เป็นการ​มา​เยี่ยมเยียน​ปกติ​ทั่วไป​ที่ฮู​หยิน​ของ​เหล่า​ขุนนาง​ใน​ราชสำนัก​ทำ​กัน​ ​เป็นการ​มา​เยี่ยมเยียน​เพราะ​หยาง​อี๋​เหนียง​ก็​ว่า​ได้​ ​เจ้า​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ฟัง​สิ่ง​ที่นาง​จะ​พูด​ก็​รีบ​หนี​ออกมา​เช่นนี้​ ​ดู​จิตใจ​ออกจะ​คับแคบ​ไป​หน่อย​ ​หาก​ข่าวลือ​ถูก​แพร่งพราย​ออก​ไป​ว่า​เจ้า​กำลัง​มีปากเสียง​กัน​กับ​อนุภรรยา​ ​ให้​คนอื่น​เข้าใจผิด​ว่า​เจ้า​ไร้​ซึ่ง​ความใจกว้าง​ของ​ผู้​เป็น​ภรรยา​เอก​ ​เช่นนั้น​ก็​เท่ากับ​ว่า​เสียมา​กก​ว่า​ได้​ ​ข้าว​่า​เจ้า​ควร​เจอ​กับ​นาง​ก่อน​ดีกว่า​กระมัง​ ​อย่างน้อย​ก็​ลอง​ฟัง​สิ่ง​ที่นาง​จะ​พูด​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​”

“​ที่​พี่​หญิง​พูด​มานั​้​นข​้า​เข้าใจ​ดี​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​อย่าง​เข้าใจ​ว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​ใช่​ว่า​จะ​ไม่เคย​พิจารณา​ ​แต่​ที่​ข้า​ทำ​เช่นนี้​ก็​เพื่อ​จะ​แสดง​ให้​ทุกคน​เห็น​ถึง​เจตนา​ของ​ข้า​”​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​สุขุม​และ​จริงจัง​ ​“​‘​เป็น​ญาติ​กับ​จวน​สกุล​หยาง​โดยชอบธรรม​’​ ​ถึงแม้ว่า​คำพูด​นี้​องค์​หญิงฝู​เฉิง​จะ​เป็น​คนพูด​ ​แต่​คน​จวน​สกุล​หยาง​จะ​คิด​อย่างไร​ ​และ​คนอื่นๆ​ ​จะ​คิด​อย่างไร​ ​ก็​ถือเป็น​เรื่อง​ที่​ควรจะ​ปรึกษาหารือ​ ​แต่​หาก​จะ​ให้​ข้า​ไป​เจอ​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​โดยที่​ยัง​ไม่เข้าใจ​เรื่อง​ใดๆ​ ​ทั้งสิ้น​ ​ก็​อาจจะ​ถูก​คนที​่​คิด​ไม่ดี​ฉวยโอกาส​นี้​ไป​แพร่ข่าว​ว่า​ข้า​ไปมาหาสู่​กับ​ทาง​จวน​สกุล​หยาง​เพราะ​จะ​เป็น​ญาติ​กับ​จวน​สกุล​หยาง​ ​ข้า​จะ​กลายเป็น​คน​เช่นไร​ใน​สายตา​ของ​ผู้อื่น​ ​และ​จวน​สกุล​หลัว​ของ​ข้า​จะ​กลายเป็น​เช่นไร​”​ ​เมื่อ​พูด​จนถึง​ตรงนี้​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​ก็​ท่วมท้น​ไป​ด้วย​อารมณ์​ที่​เดือดดาล

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง​แล้วก็​รู้สึก​ว่าที่​นาง​พูด​มานั​้​นมี​เหตุผล​ ​สีหน้า​ของ​นาง​พลัน​เคร่งขรึม​ขึ้น​มา​ ​“​แต่​หาก​เกิด​ผิดใจ​กับ​ทาง​จวน​สกุล​หยาง​เพราะ​เรื่อง​นี้​เข้า​…​”

“​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ข้า​ก็​ไม่เห็นด้วย​อย่างเด็ดขาด​เจ้าค่ะ​”​ ​แววตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​เต็มไปด้วย​ความแน่วแน่

ก็​จริง​ ​หากว่า​ไปมาหาสู่​และ​คลุกคลี​ไป​เป็น​ญาติ​กับ​อนุ​ ​ก็​เท่ากับ​ว่า​ตน​ได้​สละสิทธิ์​อำนาจ​การ​เป็น​ภรรยา​เอก​โดยปริยาย

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ ​และ​ไม่ได้​โน้มน้าว​นาง​ต่อ​ ​หันไป​สั่ง​กับ​สาวใช้​น้อย​ให้​นำ​ผ้าเช็ดหน้า​ธูปหอม​วาง​ลง​ข้างๆ​ ​หมอนอิง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​มัน​เป็น​กลิ่น​ดอกมะลิ​ ​เจ้า​พัก​ช่วง​บ่าย​สักครู่​ ​แล้ว​ค่อย​ไป​คิดถึง​เรื่อง​วุ่นวาย​เหล่านั้น​อีกที​ก็​ยัง​ไม่​สาย​!​”

สือ​อี​เหนียง​ตั้งใจ​ว่า​จะ​กลับ​ไป​ตอนดึก​หน่อย​อยู่​แล้ว​ ​จึง​ไม่ได้​เกรงใจ​แต่อย่างใด​ ​นาง​นอน​พัก​บน​เตียง​เตา​ทั้ง​บ่าย​ ​ตก​เย็น​ก็​พากั​นคุย​เรื่อง​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​ของ​ตน​กับ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​…​ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่ได้​กำไร​มากมาย​เท่าไร​นัก​ ​แต่​ถือว่า​ได้​ประกาศ​ร้าน​ไป​ใน​ตัว​ ​ขุนนาง​ใน​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ที่​รู้​ว่า​พวกเรา​เป็น​คน​ปัก​สัญลักษณ์​มงคล​ให้​กับ​ใน​วัง​ก็​มีมาก​ ​จึง​ตามมา​ให้​ที่​ร้าน​ช่วย​ปัก​เย็บ​และ​ซ่อมแซม​เสื้อผ้าอาภรณ์​”

“​ดีจริง​!​”​ ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ ​“​มี​การค้าขาย​ใหม่​ ​ก็​เท่ากับ​มี​รายรับ​เพิ่มขึ้น​!​”

“​ข้า​เอง​ก็​คิด​เช่นนี้​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​ดังนั้น​ข้า​จึง​ให้​อาจารย์​เจี่ยน​เป็น​ผู้ตัดสินใจ​เอง​ ​หากว่า​ราคา​สมเหตุสมผล​ ​รับ​มาก​็​ไม่ได้​ถือว่า​เสียหาย​อะไร​”

ทั้งสอง​คุย​เรื่อยเปื่อย​อยู่​พัก​หนึ่ง​ ​หลังจากที่​สือ​อี​เหนียง​ทานอาหาร​ค่ำ​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้วจึง​ค่อย​เดินทาง​กลับ​จวน

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท