ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 387 เขาเขียว (ปลาย)

ตอนที่ 387 เขาเขียว (ปลาย)

สือ​อี​เหนียง​กุม​หน้าผาก​อย่าง​จนใจ

ใบหน้า​ของ​โจวฮู​หยิน​กลับ​เผย​รอยยิ้ม​เปล่งประกาย​ออกมา​ ​“​วันนี้​พวกเรา​ต้อง​ดื่ม​ด้วยกัน​สัก​จอก​สอง​จอก​แล้ว​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​เดิน​เข้า​ประตู​ฉุยฮ​วา​พร้อมกับ​นาง

“​องค์​หญิง​บอกว่า​ตอนนั้น​ไท​เฮา​กำลัง​ประทับ​ที่​ตำหนัก​เฟิ​่ง​เซียน​จึง​ไม่​สะดวก​จะ​รับสั่ง​”​ ​โจวฮู​หยิน​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ ​“​ตอนนี้​ทรง​ออกจาก​ตำหนัก​เฟิ​่ง​เซียน​แล้ว​ ​ถึงแม้ว่า​ไท​เฮา​จะ​มี​อะไร​ที่​ไม่​เหมาะ​ควร​ ​แล้ว​เกี่ยว​อะไร​กับ​พวกเรา​ ​เกี่ยว​อะไร​กับ​ฝ่า​บาท​เล่า​ ​ครั้น​หาก​จะ​บอกว่า​ไม่​กตัญญู​ ​นั่น​ก็​เป็น​เพราะ​คน​จวน​สกุล​หยาง​ไม่​กตัญญู​ ​รู้​ทั้ง​รู้​ว่า​ไท​เฮา​เป็น​คนที​่​พูดจา​อ่อนหวาน​ ​แต่กลับ​เลือก​พูดจา​ไม่น่าฟัง​ออกมา​ ​พลอย​ทำให้​คนฟัง​ฉุนเฉียว​”​ ​นาง​พูด​พลาง​หันไป​กะพริบตา​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ

โจวฮู​หยิน​จึง​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​จริง​สิ​ ​ตอนนั้น​เจ้า​พูด​กับ​คน​ตกอับ​นั่น​ว่า​อย่างไร​”

“​ข้า​พูด​กับ​ป้า​รับใช้​ที่มา​รายงาน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ ​“​บอก​แค่​ว่า​หาก​ไม่มี​ธุระ​อะไร​ที่​เร่งด่วน​และ​สำคัญ​ ​ข้า​จะ​ไป​ที่​จวน​จง​ฉินปั​๋ว​สักหน่อย​”

โจวฮู​หยิน​ก็ได้​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​เกรง​ว่านา​งคง​จะ​ไม่เข้าใจ​ใน​ความหมาย​ที่​เจ้า​ต้องการ​จะ​สื่อ​น่ะ​สิ​!​”

“​เช่นนั้น​ข้า​ก็​จนปัญญา​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​จากนั้น​ก็​มีบ​่า​วรับ​ใช้​ชาย​ที่​ติดตาม​รับใช้​โจวฮู​หยิน​วิ่ง​เข้ามา​พอดี​ ​“ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​ ​ข่าวดี​ ​มี​ข่าวดี​ขอรับ​!​”

บ่าว​รับใช้​ที่สามา​รถติด​ตาม​โจวฮู​หยิน​ออกมา​ข้างนอก​ได้​ล้วนแล้วแต่​เป็น​คนฉลาด​หัวไว​ทั้งนั้น​ ​แต่​มา​ลืม​เนื้อ​ลืมตัว​จน​เสียกิริยา​มารยาท​เช่นนี้​ ​ทำเอา​สือ​อี​เหนียง​และ​โจวฮู​หยิน​พากัน​ชะงัก​ฝีเท้า​ลง​ด้วย​ความแปลกใจ

บ่าว​รับใช้​ชาย​พูด​ขึ้นเสียง​ดัง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ดีอกดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​ไท่​จื่อ​เฟ​ยมี​ข่าวดี​แล้ว​ขอรับ​!​”

“​อะไร​นะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ดีใจ​อย่าง​ล้นพ้น​ ​“​เจ้า​ไป​ได้ยิน​จาก​ที่ไหน​มา​”

ร่างกาย​ของ​โจวฮู​หยิน​สั่นเทา​ไป​หมด​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​สาวใช้​เข้ามา​ประคอง​แขน​ของ​นาง​เอาไว้​ทัน​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ล้ม​ลง​กับ​ไป​กอง​พื้น​อย่างแน่นอน

“​ขันที​เน่ย​ซื่อ​ของ​ทาง​ไท่​จื่อ​เฟย​เป็น​คน​มาแจ้ง​ข่าวดี​ขอรับ​”​ ​บ่าว​รับใช้​ชาย​แสดงอาการ​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​องค์​หญิง​ได้​ส่งจดหมาย​มาแจ้ง​ข่าว​กับฮู​หยิน​ ​เพราะ​กลัว​ว่าฮู​หยิน​ทั้งสอง​จะ​เป็นห่วง​ไท่​จื่อ​เฟย​ขอรับ​”

โจวฮู​หยิน​จึง​ค่อย​ได้สติ​ขึ้น​มา​ ​จากนั้น​ก็​ชี้​ไป​ยัง​บ่าว​รับใช้​ชาย​คน​นั้น​พร้อมกับ​หันมา​สั่ง​คน​ข้าง​กาย​ว่า​ ​“​ให้รางวัล​…​ให้รางวัล​สิบ​ตำลึง​”

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​หันไป​สั่ง​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“​ให้รางวัล​สิบ​ตำลึง​”

พลอย​ทำให้​บ่าว​รับใช้​ชาย​คน​นั้น​ยิ้ม​จน​ตาหยี​เป็น​เส้นตรง​ ​เขา​ทั้ง​โค้ง​คารวะ​ทั้ง​คำนับ​แทบ​พื้น​ด้วย​ความดีใจ

โจวฮู​หยิน​มอง​เขา​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็ได้​หันไป​จูงมือ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เรา​รีบ​ไป​แจ้ง​ข่าว​นี้​ให้​กับ​ไท่ฮู​หยิน​กัน​ ​ให้​ผู้หลักผู้ใหญ่​ได้ดี​ใจ​ไป​กับ​เรา​ด้วย​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​มื้อ​ค่ำ​ข้า​ก็​ไม่​ทาน​แล้ว​ ​รีบ​กลับ​ไป​ถาม​รายละเอียด​ของ​สถานการณ์​ก่อน​”​ ​จากนั้น​ก็​หันกลับ​ไป​ถาม​บ่าว​รับใช้​ชาย​คน​นั้น​ว่า​ ​“​ขันที​เน่ย​ซื่อ​ของ​วัง​กลับ​ไป​แล้ว​หรือยัง​”​ ​นาง​ถาม​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​และ​คำพูด​ที่​แทบจะ​ไม่​เป็น​ภาษา​เพราะ​ดีใจ​จน​เกินไป

“​ตอนที่​บ่าว​ออกมา​ยังอยู่​ครับ​!​”​ ​บ่าว​รับใช้​ชาย​คน​นั้น​ตอบกลับ​ด้วย​ความ​นอบน้อม

โจวฮู​หยิน​รีบ​พยักหน้า​อย่างรวดเร็ว​ ​จากนั้น​ก็​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​พร้อม​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความรีบร้อน

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​ไป​จุด​ธูป​สาม​ดอก​หน้า​โต๊ะ​พระ

“​ตอนนี้​ข้า​หมด​กังวล​แล้ว​!​”

ไม่เพียงแต่​ไม่​รั้ง​โจวฮู​หยิน​ให้​อยู่​ต่อ​ ​แต่กลับ​เร่ง​ให้​นาง​รีบ​กลับ​ไป​ ​“​นาน​แค่ไหน​แล้ว​ ​สุขภาพ​ร่างกาย​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​อยาก​ทาน​อะไร​เป็นพิเศษ​หรือไม่​ ​ถาม​ได้ใจ​ความ​อย่างไร​ค่อย​มาแจ้ง​ข้า​อีกที​”

โจวฮู​หยิน​รีบ​พยักหน้า​ตอบ​ ​จากนั้น​ก็​ขอตัว​ลาก​ลับ​ไป​พร้อมกับ​สาวใช้​และ​บ่าว​รับใช้​ที่​ติดตาม​มา​เป็น​ขบวน​กลับ​จวน​ไป

เมื่อ​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​ไป​ถึง​เรือน​ ​ก็ได้​อุ้ม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​กำลัง​เล่น​หุ่นกระบอก​ไม้​แกะสลัก​ ​หัวเราะ​ด้วย​ความดีใจ​อยู่​บน​เตียง​เตา​ ​“​ราชนิกุล​กำลังจะ​มีทา​ยาท​เพิ่ม​มา​อีก​คน​แล้ว​!​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​กำลัง​เล่น​อย่างสนุกสนาน​ ​จู่ๆ​ ​ก็​ถูก​ขัดจังหวะ​ไป​ ​นาง​พยายาม​ดิ้น​ให้​หลุด​พลาง​ชี้​ไป​ยัง​หุ่นกระบอก​ไม้​แกะสลัก​ที่​ตก​อยู่​บน​เตียง​เตา​ด้วย​ความ​งอแง​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​รีบ​เข้าไป​ช่วย​เก็บ​หุ่นกระบอก​ไม้​แกะสลัก​ขึ้น​มา​พร้อมกับ​ยื่น​ให้​นาง​ ​นาง​จึง​กอด​หุ่นกระบอก​ไม้​แกะสลัก​ไว้​ใน​อ้อมอก​และ​ยอม​นั่ง​บน​ตัก​ของ​ไท่ฮู​หยิน​แต่​โดยดี

คนใน​จวน​ต่าง​ก็​พากั​นมา​แสดงความยินดี​กับ​ไท่ฮู​หยิน​กัน​ถ้วนหน้า

ไท่ฮู​หยิน​ดีอกดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​จึง​หันไป​สั่ง​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​มอบ​เงินก้อน​ให้​คนละ​หนึ่ง​ก้อน​เป็น​รางวัล​”

สือ​อี​เหนียง​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​ไป​จัดการ​ทันที​ ​ขากลับ​มาก​็​ได้ยิน​ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​สั่ง​กับ​ป้า​ตู้​ว่า​ ​“​…​เริ่ม​ทานอาหาร​เจตั​้ง​แต่​วันพรุ่งนี้​ก็แล้วกัน​”​ ​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​เคลื่อนไหว​ก็​รีบ​หันมา​ดู​ ​พอ​เห็น​ว่า​เป็น​สือ​อี​เหนียง​ ​ก็ได้​หยุด​บทสนทนา​นั้น​ลง​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​เปลี่ยนไป​คุย​เรื่อง​อื่น​แทน​ ​“​ทาง​ฝั่ง​อี๋​เจิน​และ​ตาน​หยาง​ ​เจ้า​ควร​ส่งข่าว​ไป​บอก​ด้วย​ถึง​จะ​ถูก​”

ไท่ฮู​หยิน​ไป​อธิษฐาน​ขอพร​ตั้งแต่​เมื่อไร​กัน

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​แสดงท่าที​ต้องการ​ที่จะ​ปิดบัง​ตน​ ​ทั้ง​ยัง​ดูเหมือน​จะ​สั่ง​ให้​บ่าว​รับใช้​ใน​เรือน​ระมัดระวัง​คำพูด​อีกด้วย​ ​นาง​จึง​ตัดสินใจ​ว่า​ไว้​ค่อย​ไป​ถาม​ป้า​ตู้​ดีกว่า​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​ให้​คน​ไป​แจ้ง​ข่าว​กับ​ทางโน้น​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ทาง​ฝั่ง​ท่าน​โหว​ข้า​เอง​ก็ได้​ให้​คน​ไป​แจ้ง​ข่าว​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​ขึ้น​ที่​มุม​ปาก​ ​ราวกับว่า​กำลังจะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​ ​แต่​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ไม่รู้​ว่า​ชนกั​บอะ​ไร​เข้า​ ​ได้ยิน​เพียง​เสียงร้อง​ไห้​ที่​ดังลั่น​เท่านั้น​ ​จึง​เพิ่ง​เห็น​ว่า​ของ​ชิ้น​เล็ก​ๆ​ ​ที่​เรียง​อยู่​บน​โต๊ะ​เตียง​เตา​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ตกลง​บน​พื้น​ทั้งหมด​ ​จึง​ทำให้​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ตกใจ​จน​ร้องไห้​เสียงดัง

สือ​อี​เหนียง​จึง​รีบ​เข้าไป​อุ้ม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​โอ๋​ๆ​ ​ไม่​ร้อง​นะ​คนดี​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ปลอบ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พร้อมกับ​ลูบ​หลัง​ของ​นาง​เบา​ๆ

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​แล้วก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้าของ​อย่าง​ข้า​ยัง​ไม่ทัน​จะ​ว่า​อะไร​ ​คน​ล้ม​โต๊ะ​กลับ​ร้องไห้​ไป​เสียก่อน​”

เมื่อ​บ่าว​รับใช้​ที่อยู่​ใน​ห้อง​ได้ยิน​แล้ว​ ​ก็​พากั​นรีบ​เข้าไป​เก็บ​ข้าวของ​ที่​เกลื่อน​เต็ม​พื้น

สวี​ลิ่ง​อี๋​มาถึง​พอดี

พอ​เข้ามา​ก็​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ปลอบโยน​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อยู่

นัยน์ตา​ที่​บริสุทธิ์​ ​สีหน้า​ที่​สงบสุขุม​ ​พลอย​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​นึกถึง​แสง​จันทรา​ใน​ค่ำคืน​ที่​เงียบสงัด

เขา​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​มา​ไว​จริง​เชียว​!​”

ห้วง​ความคิด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถูก​ขัดจังหวะ​ไป

เขา​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​ได้ยิน​ข่าวดี​เช่นนี้​ ​เวลา​เดินเหิน​ก็​ย่อม​เร็ว​กว่า​ปกติ​เป็นธรรมดา​ขอรับ​”

ต่อมา​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​เลิกเรียน​กลับมา​พอดี​ ฮู​หยิน​สอง​เอง​ก็​มาถึง​ด้วย​ ​บรรยากาศ​ใน​เรือน​จึง​เต็มไปด้วย​เสียง​สนทนา​และ​เสียงหัวเราะ​ ​หลังจากนั้น​ทุกคน​ก็ได้​ร่วม​รับประทาน​อาหาร​ด้วยกัน​อย่าง​มีความสุข

ขณะที่​กำลัง​เดิน​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​ได้​ซบ​หน้า​ลง​บน​ไหล่​ของ​สะใภ้​หนาน​หย่ง​และ​หลับ​คา​อ้อมกอด​ไป​แล้ว

เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​หันกลับ​ไป​มอง​ ​ก็​นึกถึง​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​ซุกซน​เหมือน​ลูก​ลิง​น้อย​ก็​ไม่​ปาน​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจี​้ย​เกอ​มีนิ​สัย​ที่​สุภาพ​และ​สงบเสงี่ยม​เหมือน​เด็กผู้หญิง​ ​ส่วน​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​นั้น​ซุกซน​ราวกับ​เด็กผู้ชาย​ก็​ไม่​ปาน​ ​นิสัย​ของ​ทั้งสอง​คนตรง​กัน​ข้าม​เลย​ก็​ว่า​ได้​”

ใน​หัว​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พลัน​ปรากฏ​ภาพ​ที่​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​เล่น​กับ​เด็ก​ๆ​ ​อย่างสนุกสนาน​ ​เมื่อ​นึกย้อน​กลับ​ไป​ ​นี่​ก็​กำลังจะ​ครบ​สอง​ปี​แล้ว​ ​แต่กลับ​ไม่มี​ข่าวดี​อะไร​เลย​ ​เขา​จึง​แอบ​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​หันมา​ยิ้ม​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง

เพียง​ไม่​กี่​วัน​ ​ทุกคน​ก็​ทราบ​ข่าว​เรื่อง​ไท่​จื่อ​เฟย​ตั้งครรภ์​กัน​ถ้วนหน้า​ ​โดยเฉพาะ​มิตรสหาย​ที่​สนิทสนม​กับ​ทาง​จวน​สกุล​สวี​เป็นพิเศษ​ ​ก็ได้​ส่ง​คน​มาถาม​ไถ่​ข่าวคราว​อย่างไม่ขาดสาย​ ​คำพูด​ประโยค​เดิม​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​ต้อง​พูด​ซ้ำๆ​ ​และ​ต้อง​พูด​ทุกวัน​ ​เวลานี้​เอง​ ​จู่ๆ​ ​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​ก็ได้​มา​เยี่ยมเยียน

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็ได้​ไปร​อพ​บนา​งอยู​่​ที่​ห้องโถง

เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​ยิ้ม​กว้าง​ ​แต่กลับ​ยาก​ที่จะ​ปกปิด​สีหน้า​ที่​เย่อหยิ่ง​เอาไว้​ได้

หลังจากที่​สาวใช้​ได้​ยก​น้ำชา​เข้ามา​ให้​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ต้องการ​จะ​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน

สือ​อี​เหนียง​จึง​ปฏิเสธ​อย่าง​สุภาพ​ไป​ว่า​ ​“​…​ช่วงนี้​อากาศ​ร้อน​เกินไป​ ​ไท่ฮู​หยิน​จึง​ไป​พักผ่อน​ที่​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ​ของ​สวนดอกไม้​หลัง​เรือน​ ​ช่วงนี้​ท่าน​แม่​ไม่​พบ​แม้กระทั่ง​ญาติสนิท​มิตรสหาย​ ​เจตนา​ดี​ของ​ท่าน​ข้า​รับ​ไว้​ด้วยใจ​แล้ว​ ​ตอนที่​ไป​คารวะ​นาง​ ​ข้า​จะ​เรียน​เรื่อง​นี้​ให้ท่าน​แม่​ทราบ​”

เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​รู้สึก​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก

นาง​นึกไม่ถึง​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ปฏิเสธ​ ​ที่​นึกไม่ถึง​ยิ่งไปกว่านั้น​ก็​คือ​สือ​อี​เหนียง​จะ​ปฏิเสธ​ด้วย​เหตุผล​ที่​มีน​้ำ​หนัก​เพียงพอ​และ​ฟัง​ดู​ทรงพลัง​เช่นนี้

หรือว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะ​มอบหมาย​สิทธิ์​และ​อำนาจ​ตัดสินใจ​ทุกอย่าง​ใน​จวน​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง​หมด​แล้ว

นาง​นึกถึง​ข่าวลือ​ที่​คนใน​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​เล่า​กัน​ว่า​ ​คนที​่​ไท่ฮู​หยิน​ของ​หย่ง​ผิง​โหว​ให้ความสำคัญ​ที่สุด​ก็​คือฮู​หยิน​สอง​ ​ส่วน​คนที​่​ชอบ​ที่สุด​ก็​คือฮู​หยิน​ห้า​ ​และ​คนที​่​ชื่นชม​และ​ตระหนักถึง​ที่สุด​ก็​คือ​สือ​อี​เหนียง

เมื่อ​คิด​เช่นนี้​แล้ว​ ​การ​ที่​สือ​อี​เหนียง​จะ​ได้รับ​ตำแหน่ง​เป็น​ผู้ดูแล​หลัก​ของ​จวน​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​แปลก​อะไร

ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​เช่นนี้​จริงๆ​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​จะ​ไม่​กำเริบเสิบสาน​เกินไป​หน่อย​หรือ​อย่างไร​กัน

สีหน้า​ของ​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​แฝง​ไป​ด้วย​อารมณ์​ขุ่นเคือง​ ​แต่​เมื่อ​นึกถึง​คำสั่ง​ที่​ท่าน​โหวกำ​ชับ​ไว้​ก่อนที่จะ​มา​ ​นึกถึง​เรื่องราว​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​จวน​องค์​หญิงฝู​เฉิง​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​…​นาง​จึง​ฝืนยิ้ม​ขึ้น​พร้อมกับ​เปลี่ยน​เรื่อง​สนทนา​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​เจ้า​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​ของ​สกุล​กาน​มา​ ​นาง​สบายดี​หรือไม่​ ​ข้า​ไม่ได้​เจอ​นาง​มาสัก​พักใหญ่​แล้ว​”

“​กาน​ไท่ฮู​หยิน​สบายดี​”​ ​สือ​อี​เหนียง​และ​นาง​พูดคุย​กัน​อยู่​ครึ่ง​ค่อนวัน​ ​แต่​แล้ว​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​ก็ได้​วกกลับ​มาที​่​เรื่อง​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​“​เหตุใด​จึง​ไม่เห็น​นาง​มาป​รน​นิ​บัติ​รับใช้​เจ้า​เลย​ ​ก่อนที่​นาง​จะ​มา​ข้า​เอง​ได้​กำชับ​นาง​เป็น​อย่างดี​แล้ว​ ​ว่า​จะ​ต้อง​ปรนนิบัติ​รับใช้ฮู​หยิน​เสมือน​ปรนนิบัติ​รับใช้​พี่​หญิง​ ​เคารพ​นอบน้อม​ ​ขยันหมั่นเพียร​ ​อย่า​เลินเล่อ​เพียง​เพราะ​ตน​เกิด​ใน​ตระกูล​หยาง​ ​จะ​พลอย​ทำให้ฮู​หยิน​ไม่​ชอบใจ​เอา​ได้​”​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​ฟัง​ดูเหมือน​กำลัง​หยั่งเชิง​ ​พูด​เป็นหลัก​เป็นการ​ถึง​สิ่ง​ที่​อนุ​พึง​ปฏิบัติ​ต่อ​ภรรยา​เอก

สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​ประหลาดใจ​ ​แต่​ก็​ยังคง​แสดง​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ไม่ได้​เผยอ​อก​มา​ ​นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​ชา​ช้าๆ​ ​ราวกับ​ใบไม้​ที่​กำลัง​ปลิว​ล่องลอย​อยู่​ใน​อากาศ​ก็​ไม่​ปาน​ ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​งาน​ตัก​น้ำ​ริน​น้ำชา​มีสาว​ใช้​ที่​ทำหน้าที่​เหล่านี้​อยู่​แล้ว​ ​ใน​จวน​มี​เด็ก​ๆ​ ​เยอะ​ ​เสื้อผ้า​ที่​ใส่​วันนี้​พรุ่งนี้​ก็​อาจจะ​คับ​ไป​แล้วก็​ได้​ ​อี๋​เหนียง​ทั้งหลาย​ล้วนแล้วแต่​ถูก​ผูกมัด​ด้วย​ความคิดเห็น​เก่าแก่​ทางโลกีย​์​ ​สู้​ให้​พวก​นาง​เย็บปักถักร้อย​อยู่​ใน​เรือน​ดีกว่า​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​มาป​รน​นิ​บัติ​รับใช้​เหมือนเช่น​สาวใช้​ใน​จวน​”

เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​แอบ​รู้สึก​แปลกใจ​ขึ้น​มา

โจวฮู​หยิน​ให้​หลานสาว​ของ​นาง​อีก​คน​ประกบ​ข้าง​กาย​เพื่อ​คอย​สอน​กฎเกณฑ์​และ​ขนบธรรมเนียม​ต่างๆ​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ทำ​ตรงกันข้าม​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​ร่าง​กฎเกณฑ์​ขึ้น​มา​ใหม่​ต่อหน้าฮู​หยิน​ ​ยังดี​ที่​พอ​จะ​ได้​เจอ​ท่าน​โหว​บ้าง​ ​วัน​ๆ​ ​เอาแต่​นั่ง​เย็บปักถักร้อย​อยู่​แต่​ใน​เรือน​ ​ยกเว้น​วันที่​ปรนนิบัติ​ท่าน​โหว​ ​นอกเหนือจากนี้​แล้วก็​ไม่มี​โอกาส​เจอ​หน้า​ท่าน​โหว​อีก​เลย

สือ​อี​เหนียง​ผู้​นี้​ ​ฉลาด​หลักแหลม​ไม่น้อย

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็ได้​หันมา​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​หลานสาว​ข้า​คน​นี้​ฝึกงาน​เย็บปักถักร้อย​มาจาก​อา​หญิง​ที่อยู่​ใน​วัง​ของ​นาง​ ​ฝีมือ​ก็​ถือว่า​พอ​ไป​วัด​ไป​วา​ ฮู​หยิน​อยาก​จะ​เย็บ​อะไร​แบบ​ไหน​ก็​แค่​สั่ง​กับ​นาง​ก็​พอ​”

ที่​สือ​อี​เหนียง​เริ่ม​แต่งตัว​ก็​เพราะ​เริ่ม​มีชื่อเสียง​ ​หาก​นาง​เปลี่ยนใจ​ให้​หยาง​อี๋​เหนียง​มาช​่วย​เย็บปักถักร้อย​ ​แล้ว​สามารถ​ต้องตา​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้า​ ​ก็​ถือว่า​ไม่เลว​ทีเดียว

“​มิน่าเล่า​ ​ข้า​ก็​ว่า​เหตุใด​หยาง​อี๋​เหนียง​ถึง​ได้​ปัก​ลาย​ดอก​เป่า​เซียง​ได้​ชำนาญ​เช่นนี้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​หาก​มีส่วน​ไหน​ที่​จำเป็นต้อง​ใช้​ ​ข้า​จะ​ต้อง​เรียก​ใช้​หยาง​อี๋​เหนียง​อย่างแน่นอน​”

เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​เห็น​ว่า​สีหน้า​ท่าที​และ​อากัปกิริยา​ของ​สือ​อี​เหนียง​สุขุม​และ​อ่อนโยน​ ​ใน​ใจ​ของ​นาง​ก็​รู้สึก​ดีขึ้น​มา​หน่อย​ ​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ที่​ข้ามา​ครั้งนี้​ก็​เพื่อ​จะ​มาดู​ว่า​หลานสาว​ของ​ข้า​ทำตัว​เหมาะสม​หรือไม่​ ​หาก​มีต​รง​ไหน​ที่นาง​ทำได้​ไม่เหมาะสม​ ฮู​หยิน​บอก​ข้ามา​ได้​เลย​ไม่ต้อง​เกรงใจ​ ​ข้า​จะ​ไป​สั่งสอน​นาง​เอง​!​”​ ​น้ำเสียง​ฟัง​ดู​ต้องการ​ที่จะ​ผูกมิตร

สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ได้​ในทันที

สิ่ง​ที่​จวน​สกุล​หยาง​ต้องการ​ก็​คือ​การ​สนับสนุน​จาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​หาก​สามารถ​มี​อนุ​ที่​ถูก​โปรดปราน​และ​รักใคร่​เอ็นดู​ก็​จะ​สามารถ​บรรลุเป้าหมาย​ได้​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​มา​ล่วงเกิน​ตน​เสียด​้วย​ซ้ำ

แต่​สิ่ง​ที่​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​พูด​มาทั​้ง​หมด​นั้น​ค่อนข้าง​ก้าวก่าย​จน​เกินไป

“​ขอบคุณฮู​หยิน​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​ข้า​จะ​กล้า​ให้ฮู​หยิน​มากัง​วล​ใจ​เรื่อง​ภายใน​จวน​ของ​ข้า​ได้​อย่างไร​กัน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ปฏิเสธ​คำ​ชี้แนะ​ของ​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​อย่าง​สุภาพ

สีหน้า​ของ​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​ไม่​ค่อย​ดี​เท่าไร​นัก

นาง​ทำดี​ไป​เสียร​อบ​ด้าน​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยัง​ไม่ได้​เปิดใจ​ตอบรับ​นาง​แต่อย่างใด​…​เวลา​นั้น​เอง​ ​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​ก็​ไม่​สามารถ​ที่จะ​ฝืน​ปั้นหน้า​ได้​อีกต่อไป​ ​นาง​จึง​หัวเราะ​ออกมา​ด้วย​ความ​เย้ยหยัน​พร้อมกับ​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ข้า​ก็​ขอตัว​ลาก่อน​ก็แล้วกัน​”​ ​พูด​ขึ้น​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​แล้วจึง​ค่อย​เดิน​จากไป

สือ​อี​เหนียง​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ ​จ้องมอง​แผ่น​หลัง​ของ​นาง​ด้วย​ความ​เงียบงัน​ ​หลังจากนั้น​ก็​หมุนตัว​กลับ​เข้าไป​ที่​เรือน​หลัก​ของ​ตน

ส่วน​ทาง​ป้า​หยาง​กำลัง​คุย​กับ​หยาง​อี๋​เหนียง​อยู่

“ฮู​หยิน​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​สีหน้า​ที่​ค่อนข้าง​กระวนกระวายใจ​ ​“​ท่าน​ลอง​ไปดู​เสียหน่อย​ว่า​ควร​ต้อง​ทำ​อย่างไร​ดี​ ​หากฮู​หยิน​รู้​ว่า​ตอนนี้​ท่าน​ยัง​…​”

“​จะ​เป็น​เดือด​เป็น​ร้อน​ไป​ทำไม​กัน​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​กำลัง​ก้มหน้าก้มตา​ปัก​ถุงเท้า​ลาย​ดอก​เป่า​เซียง​ ​นี่​เป็น​ถุงเท้า​คู่​ที่​สิบ​หก​แล้ว​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มี​แล้ว​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​มี​แล้ว​ ​สวี​ซื่อ​จุน​มี​แล้ว​ ​รวมไปถึง​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ต่าง​ก็​ล้วน​มี​หมด​แล้ว​ ​เหลือ​เพียงแค่​สือ​อี​เหนียง​คนเดียว​เท่านั้น​ที่​ยัง​ไม่มี​ ​“ฮู​หยิน​ไม่ยอม​ให้​ข้า​เจอ​หน้า​กับ​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​หรอก​”

ป้า​หยาง​รู้สึก​อึ้ง​เป็นอย่างมาก

หยาง​อี๋​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​มี​อนุ​ของ​ตระกูล​ไหน​ออก​ไป​ต้อนรับ​แขก​เอง​บ้าง​เล่า​”

“​แต่ว่า​…​”

“​ไม่มี​คำ​ว่า​ ​‘​แต่​’​ ​อะไร​ทั้งนั้น​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ ​“​นอก​เสีย​จาก​ว่าฮู​หยิน​จะ​ไม่​รักษา​ศักดิ์ศรี​ของ​ภรรยา​เอก​”

ป้า​หยาง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ

ตกค่ำ​ก็ได้​ไป​คารวะ​สือ​อี​เหนียง​ ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ยิ้ม​พร้อมกับ​หันมา​จ้องมอง​นาง​ ​“ฮู​หยิน​ ​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่าวั​นนี​้​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​มาหา​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่​ให้​น้อง​หญิง​หยาง​ไป​เข้าพบ​นาง​เสียหน่อย​เจ้า​คะ​ ​อย่างไร​เสียนา​งก​็​ถือว่า​เป็น​ญาติ​ของ​น้อง​หญิง​หยาง​นี่​นา​!​”​ ​พูด​ขึ้น​พลาง​เม้มปาก​ยิ้ม

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท