ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 405 ข่าว(ปลาย)

ตอนที่ 405 ข่าว(ปลาย)

“​สือ​อี​เหนียง​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​ไม่สน​ใจ​สิ่งสกปรก​ที่อยู่​บน​พื้น​ ​นั่ง​ตรง​ขอบ​เตียง​แล้ว​คอย​ลูบ​หลัง​ให้​นาง​อย่างเบามือ

“ฮู​หยิน​!​”​ ​หู่​พั่ว​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​มีส​วีลิ​่​งอี​๋​คอย​ดูแล​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​ ​ตัวเอง​ก็​รีบ​วิ่ง​ไปริ​นน​้ำ​อุ่น​มา​

สือ​อี​เหนียง​อาเจียน​อาหาร​ที่​ทาน​ใน​ตอนเช้า​ออกมา​จน​หมด​จึง​ได้​รู้สึก​ดีขึ้น​มา​เล็กน้อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​รับ​ถ้วยชามา​จาก​หู่​พั่ว​แล้ว​เอา​มาป​้อน​สือ​อี​เหนียง​ ​“​มา​ ​ล้างปาก​สักหน่อย​”

มีสาว​ใช้​น้อย​ไหวพริบดี​รีบ​ยก​กระโถน​มา​ให้​ป้วน​ปาก

สือ​อี​เหนียง​หน้าแดง​ก่ำ

เป็น​อย่างนี้​ไป​ได้​อย่างไร​ ​ราวกับว่า​แทบจะ​ทน​ไม่ได้​เลย

นาง​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​ขอบคุณ​”​ ​แล้ว​รับ​ถ้วยชามา​ป้วน​ปาก​ ​เมื่อ​เห็น​หู่​พั่ว​พาสาว​ใช้​น้อย​มาทำ​ความสะอาด​สิ่ง​ที่​ตัวเอง​อาเจียน​ออกมา​ ​ก็​พูด​ด้วย​ความไม่สบายใจ​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​”​ ​รู้สึก​ว่า​สิ่ง​ที่​อาเจียน​ออกมา​มีกลิ่น​แรง​จน​ทำให้​นาง​รู้สึก​ไม่สบาย​ ​พยายาม​ฝืน​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​หลบ​ออก​ไป​ก่อน​เถิด​ ​”​ ​รู้สึก​สะอิดสะเอียน​ขึ้น​มา​ ​หมอบ​อยู่​ขอบ​เตียง​ท่าทาง​เหมือน​อยาก​จะ​อาเจียน​อีกครั้ง

“​สือ​อี​เหนียง​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​จน​หน้าซีด​ ​รีบ​กำชับ​หู่​พั่ว​ ​“​เร็ว​ ​ไปริน​ชาร้อน​มา​!​”

น้ำเสียง​ของ​เขา​ทุ้ม​ต่ำ​และ​เย็นชา​ ​ทำเอา​หู่​พั่ว​ตัวสั่น​ด้วย​ความหวาดกลัว​เล็กน้อย​ ​รีบ​รับคำ​แล้วไป​ริน​ชาร้อน​มา

“​สือ​อี​เหนียง​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เรียก​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​น้ำเสียง​อ่อนโยน​ ​ค่อยๆ​ ​พยุง​สือ​อี​เหนียง​ที่​หมอบ​อยู่​ขอบ​เตียง​มาก​อด​ไว้​ ​รับ​ถ้วย​ชา​จาก​หู่​พั่ว​มาชิ​มก​่อ​นที​่​จะ​ป้อน​สือ​อี​เหนียง​ ​“​มา​ ​ดื่ม​ชาร้อน​สักหน่อย​ ​ดื่ม​แล้ว​จะ​ทำให้​รู้สึก​ดีขึ้น​”

ชา​เถี​่​ยก​วน​อินที​่​หอม​เย้ายวน​มีกลิ่น​เจือจาง​กว่า​ปกติ​เล็กน้อย

สือ​อี​เหนียง​ซุก​ตัว​อยู่​ใน​อ้อมกอด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อย่าง​อ่อนแรง​ ​ไม่กล้า​ปฏิเสธ​ความหวังดี​ของ​เขา​จึง​จิบ​ไป​หนึ่ง​อึก​แล้ว​เบือนหน้า​หนี

“​ดื่ม​เถิด​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​เกลี้ยกล่อม​นาง​เบา​ๆ​ ​“​จิบ​อีก​สัก​อึก​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ต้อง​จิบ​ชา​อีก​หนึ่ง​อึก

ความ​สะอิดสะเอียน​เมื่อ​ครู่​ดูเหมือนว่า​จะ​กลับมา​อีกครั้ง

นาง​ขมวดคิ้ว​แล้ว​เบือนหน้า​หนี​อีกครั้ง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่กล้า​บังคับ​นาง​อีก​ ​จึง​ยื่น​ถ้วย​ชา​ส่ง​ให้​หู่​พั่ว​ที่​สีหน้า​ดู​เป็นกังวล​ ​จากนั้น​ก็​ลูบ​หน้าผาก​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​อดทน​หน่อย​ ​ข้า​ให้​คน​ไป​เชิญ​หมอ​หลวง​มา​แล้ว​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​เอา​มือ​ปิดปาก​สีหน้า​เหมือน​กำลัง​อดกลั้น​เอาไว้

สวี​ลิ่ง​อี๋​สีหน้า​เปลี่ยนไป

แต่ไหนแต่ไรมา​ ​สือ​อี​เหนียง​นั้น​เป็น​คน​ขี้เกรงใจ​และ​จัดการ​ทุกสิ่ง​ด้วยตัวเอง​มาโดยตลอด​ ​เวลา​เกิดเรื่อง​ก็​ชอบ​ทำ​เรื่องใหญ่​ให้​เป็นเรื่อง​เล็ก​ ​เมื่อ​เป็นเรื่อง​เล็ก​ก็​จะ​ไม่​ไปร​บก​วน​ผู้อื่น​ง่ายๆ​ ​ยาม​นี้​นาง​คงจะ​รู้สึก​อึดอัด​จน​แทบจะ​ทน​ไม่ได้​แล้ว​กระมัง​…

เมื่อ​ความคิด​ผ่าน​เข้ามา​ใน​หัว​ ​ใน​ใจ​ก็​เริ่ม​เจ็บปวด​ขึ้น​มา​เล็กน้อย

“​สือ​อี​เหนียง​ ​สือ​อี​เหนียง​”​ ​เขา​ลูบ​หลัง​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​ไม่สบาย​ตรงไหน​กัน​”​ ​จากนั้น​ก็​จูบ​แก้ม​นาง​เบา​ๆ​

การกระทำ​ที่​อ่อนโยน​ ​อ้อมกอด​ที่​แสน​อบอุ่น​ ​น้ำเสียง​ที่รัก​ใคร่​เอ็นดู​ ​ทำให้​หว่าง​คิ้ว​ของ​นาง​ค่อยๆ​ ​คลาย​ลง​ ​แต่​กลิ่น​แปลก​ๆ​ ​ที่อยู่​ปลายจมูก​คอย​เตือน​สือ​อี​เหนียง​ว่า​มีสิ​่ง​ที่นา​งอา​เจียน​ออกมา​อยู่​ที่​ข้าง​เตียง​ ​ทำให้​นาง​ขมวดคิ้ว​มุ่น​อีกครั้ง

สิ่ง​เหล่านี้​หลบ​ไม่​พ้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​คอย​สังเกต​อาการ​ของ​นาง​อย่างละเอียด

เขา​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​ถาม​นาง​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เป็น​เพราะ​กลิ่น​ใน​ห้อง​ไม่ดี​ใช่​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​เม้มปาก​ด้วย​ความอาย​เล็กน้อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ ​หยิก​จมูก​นาง​เบา​ๆ​ ​“​บิด​จน​จะ​เป็น​ขนม​เกลียว​อยู่​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​เอา​ผ้าห่ม​มา​ห่อ​นาง​แล้ว​อุ้ม​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​ ​“​ให้​พวก​นาง​เก็บกวาด​กัน​ก่อน​ ​พวกเรา​มา​อยู่​ที่นี่​สักครู่​หนึ่ง​”

สือ​อี​เหนียง​หน้าแดง​ก่ำ​ราวกับ​พระอาทิตย์​ยาม​อัสดง

หู่​พั่ว​เห็น​ดังนั้น​ก็​พาสาว​ใช้​น้อย​วิ่ง​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​ ​เมื่อ​พวกเขา​มาถึง​ ​โต๊ะ​ที่อยู่​บน​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​ได้​ถูก​ยก​ออก​ไป​แล้ว​ ​ปู​เบาะ​รอง​สีฟ้า​ลาย​ค้างคาว​ห้า​ตัว​ ​มี​หมอนอิง​สีดำ​วาง​อยู่​ ​ปู​ทับ​ด้วย​ผ้านวม​สีแดง​ลาย​นกยูง​ ​ชาม​และ​ถ้วย​ชาวา​งอยู​่​บน​โต๊ะ​ที่อยู่​ทาง​ด้าน​ตะวันออก​ของ​เตียง​เตา

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​วาง​สือ​อี​เหนียง​ลง​บน​เตียง​นั่ง​ ​แต่​อุ้ม​ไว้​นาง​แล้ว​ขึ้นไป​บน​เตียง​เตา

เมื่อ​หู่​พั่ว​เห็น​ดังนั้น​ก็​รีบ​คุกเข่า​ลง​ช่วย​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถอด​รองเท้า

ห้อง​นี้​เดิมที​เป็น​ห้อง​หนังสือ​เล็ก​ๆ​ ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​จะ​มาที​่​นี่​เพื่อ​อ่านหนังสือ​หรือ​ตรวจ​บัญชี​เป็นครั้งคราว​ ​ไม่​เหมือน​ห้อง​ด้านใน​และ​ห้อง​จัด​เลี้ยง​ที่​มักจะ​มีสาว​ใช้​น้อยมาก​มาย​คอย​ปรนนิบัติ​ ​เพราะเหตุนี้​อากาศ​จึง​ค่อนข้าง​ปลอดโปร่ง​ ​สือ​อี​เหนียง​สูด​ลมหายใจ​เข้า​ลึก​ๆ​ ​รู้สึก​สดชื่น​และ​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มาก​จึง​ค่อย​รู้สึก​เขินอาย​ขึ้น​มา​เล็กน้อย

“​ท่าน​โหว​”​ ​นาง​ดิ้น​เล็กน้อย​ ​“​ปล่อย​ข้า​ลง​เถิด​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่สน​ใจ​ ​“​หลับตา​ลง​สงบจิตสงบใจ​เถิด​ ​อีก​ประเดี๋ยว​หมอ​หลวง​ก็​จะ​มาถึง​แล้ว​”

เขา​ไม่​พูด​ก็ดี​ไป​ ​แต่​พอ​เขา​พูด​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​เหนื่อยใจ​ขึ้น​มา​ ​อ้อมแขน​ที่​แข็งแรง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำให้​นาง​รู้สึก​สงบ​เป็นพิเศษ​ ​สือ​อี​เหนียง​อด​หาว​ไม่ได้​ ​ใน​ใจ​ยังคง​นึกถึง​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ข้า​ยัง​ไม่ได้​ไป​คารวะ​ท่าน​แม่​เลย​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่านา​งดึ​งดัน​ ​จึง​จูบ​แก้ม​นาง​ด้วย​ความ​เอ็นดู​ ​“​รีบ​นอน​เถิด​!​ ​ทาง​ด้าน​ท่าน​แม่​ข้า​จะ​ไป​พูด​ให้​เอง​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​วางใจ​ ​มุด​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา​ ​ไม่นาน​ก็​หลับ​ไป​

ตอนนี้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถึง​ได้​สงบ​ลง​แล้ว​คิด​อย่างละเอียด​ ​ใน​ใจ​ทั้ง​ตกใจ​ทั้ง​มีความสุข​ ​ได้​แต่​รอ​ให้​หมอ​หลวง​หลิว​มา​เร็ว​ๆ​ ​แต่​ก็​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​หลาย​วัน​มานี​้​สภาพอากาศ​เดี๋ยว​ร้อน​เดี๋ยว​หนาว​ ​พอก​ลาง​คืน​ก็​ต่าง​คน​ต่าง​หันหลัง​ใส่​กัน​ ​บางที​อาจจะ​เป็นหวัด​ก็ได้​ ​ฉับพลัน​ก็​นึก​เสียใจ​ขึ้น​มา​อยู่​ไม่น้อย​ ​สือ​อี​เหนียง​อายุ​น้อยกว่า​ตน​สิบ​กว่า​ปี​ ​ถึงแม้ว่า​ปกติ​จะ​มีท​่า​ทาง​สุขุม​เรียบร้อย​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​คนอื่น​ ​แต่​ถึงอย่างไร​นาง​ก็​ยัง​เป็น​เด็กสาว​คน​หนึ่ง​ ​ลึก​ๆ​ ​แล้ว​นาง​มี​ความอ่อนแอ​แค่ไหน​ไม่มีใคร​เข้าใจ​ได้ดี​กว่า​เขา​ ​แต่ว่า​ตน​ก็​ยัง​ถือสา​นาง​ ​เสียที​ที่​ตัวเอง​อายุ​มากกว่า​นาง​…​อีก​อย่าง​คืน​นั้น​ก็​เป็น​เขา​ที่​ผิด​ ​สือ​อี​เหนียง​เป็น​คน​ขี้อาย​ ​อย่า​ว่าแต่​เข้าใกล้​เลย​ ​ขนาด​เพียงแค่​กอด​นาง​แน่น​ๆ​ ​ก็​ยัง​หน้าแดง​ก่ำ​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​วันนั้น​ก็​ถูก​เขา​แกล้ง​จน​ร้องไห้​…​เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​เขา​ก็​เอา​ใบหน้า​แนบ​ไป​กับ​ใบหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง

ตอนนี้​เกรง​ว่า​เจ้าตัว​เล็ก​คงจะ​ทั้ง​กังวล​ทั้ง​เขินอาย

หาก​รู้​ว่า​จะ​เป็น​เช่นนี้​ ​วันนั้น​ควรจะ​อ่อนโยน​กับ​นาง​มากกว่า​นี้​!

เขา​เอา​ความอับ​อาย​ที่​พูด​คำ​ว่า​ ​‘​ชอบ​’​ ​ออกมา​แล้ว​ทิ้ง​ไว้​ข้างหลัง​ไม่​ไป​นึกถึง​อีก​ ​จูบ​ที่​ไรผม​ของ​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​ราวกับว่า​เช่นนี้​จะ​สามารถ​ชดใช้​การ​ล้ำเส้น​ของ​ตัวเอง​ใน​วันนั้น​ได้​ ​ใน​ใจ​ได้​แต่​แอบ​หวัง​ว่า​อย่า​ให้​เป็น​เพราะ​เป็นไข้​เลย​ ​แม้แต่​ความหวัง​ว่า​จะ​เป็นการ​ตั้งครรภ์​ก็​ยัง​ลดน้อยลง

กำชับ​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ไม่สบาย​ ​ไม่​พบ​ใคร​ทั้งสิ้น​ ​ให้​ป้า​ซ่ง​ไปรา​ยงาน​ไท่ฮู​หยิน​ด้วย​”

หู่​พั่ว​ยินดี​เป็นอย่างมาก​ ​ย่อเข่า​รับคำ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​แล้ว​รีบ​ไป​จัดการ​ ​เมื่อ​กลับมา​รายงาน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ใน​ใจ​ก็​เกิด​ความคิด​ขึ้น​มา​จึง​รีบ​ไปหา​จู๋​เซียง

สือ​อี​เหนียง​ท่าทาง​สะ​ลึม​ละ​ลือ​ ​ไม่รู้​ว่า​หมอ​หลวง​หลิว​มาตอน​ไหน​และ​กลับ​ไป​ตอน​ไหน​ ​เมื่อ​ตื่นขึ้น​มาก​็​เห็น​ว่า​ใน​ห้อง​ได้​จุด​โคมไฟ​เอาไว้​แล้ว​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอน​ตัว​พิง​หมอนอิง​นั่ง​อ่านหนังสือ​อยู่​บน​เตียง​นั่ง

เมื่อ​รู้สึก​ถึง​การเคลื่อนไหว​ ​เขา​ก็​รีบ​มาดู​ ​“​ตื่น​แล้ว​หรือ​!​”

หรือ​อาจ​เป็น​เพราะ​แสงไฟ​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​สายตา​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​นาง​นั้น​ดู​อ่อนโยน​เป็นพิเศษ

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​คิดไม่ถึง​ว่า​ตัวเอง​จะ​หลับ​ไป​นาน​ขนาด​นี้​ ​ค่อยๆ​ ​พยุง​ตัว​ลุกขึ้น​นั่ง​ ​“​ตอนนี้​ยาม​ไหน​แล้ว​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ดึง​นาฬิกา​พก​ออกมา​ ​“​ต้น​ยามซ​วี​แล้ว​!​”

“​ข้า​หลับ​ไป​นาน​ขนาด​นั้น​เลย​หรือ​เจ้า​คะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​เป็นอย่างมาก

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​ลูบ​ศีรษะ​นาง​ ​ถาม​นาง​อย่าง​อ่อนโยน​ว่า​ ​“​หิว​หรือไม่​ ​อยาก​กิน​อะไร​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​อาหาร​ ​แต่​หาก​ไม่​ทานอาหาร​ก็​จะ​ทำให้​ร่างกาย​แย่​ลง

นาง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​“​ข้า​อยาก​ทาน​โจ๊ก​ข้าวฟ่าง​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตะโกนเรียก​สาวใช้​น้อย

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​เกียจคร้าน​ ​ไม่​อยาก​ลุก​ออกจาก​เตียง​ ​จึง​พิง​หมอนอิง​พูดคุย​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​หมอ​หลวง​ว่า​อย่างไรบ้าง​เจ้า​คะ​”

“​บอกว่า​อาจ​เป็น​เพราะ​เจ้า​เหนื่อย​เกินไป​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มีสาย​ตา​แปลก​ๆ​ ​“​บอกว่า​พอ​ผ่าน​ไป​อีก​สักหน่อย​จะ​มาตร​วจ​ชีพจร​ให้​เจ้า​อีกครั้ง​”

“​เขียน​ใบสั่งยา​แล้ว​หรือยัง​”

“​เขียน​แล้ว​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​นึก​ขึ้น​ได้​ว่านาง​เข้าใจ​ใบสั่งยา​ ​รู้จัก​ยาบาง​ชนิด​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ให้​ผู้ดูแล​เรือน​นอก​ไป​ช่วย​จัด​ยา​ให้​แล้ว​ ​พรุ่งนี้​จะ​เอา​มา​ให้​เจ้า​ดู​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​ถามถึง​รายการ​งานเลี้ยง​ใน​วันที่​สาม​เดือน​สาม​ว่า​ได้​ส่ง​ไป​ให้​ผู้ดูแล​จ้าว​แล้ว​หรือยัง​ ​ถาม​ว่า​ตัวเอง​ไม่ได้​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ไท่ฮู​หยิน​ว่า​อย่างไรบ้าง​ ​และ​ถาม​ว่า​พวก​เด็ก​ๆ​ ​สบายดี​หรือไม่

สวี​ลิ่ง​อี๋​เล่า​ถึง​สถานการณ์​ใน​จวน​ให้​ฟัง​ ​เมื่อ​สาวใช้​น้อย​ยก​โจ๊ก​ข้าวฟ่าง​เข้ามา​จึง​ได้​ลุกขึ้น​แล้ว​ยก​โต๊ะ​บน​เตียง​เตา​มา​ไว้​ตรงหน้า​นาง

เมื่อ​ถูก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดูแล​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​ไม่​ชิน​เป็นอย่างมาก​ ​โดยเฉพาะ​โจ๊ก​ข้าวฟ่าง​ ​ทาน​ไป​เพียง​สอง​คำ​ก็​ไม่​อยาก​ทาน​แล้ว

“​ไม่​อยาก​ทาน​ก็​ไม่ต้อง​ทาน​แล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​บังคับ​ ​ให้​สาวใช้​น้อย​เอา​ออก​ไป​ ​“​เจ้า​หลับ​มา​แล้ว​ทั้งวัน​ก็​ยาก​ที่จะ​อยาก​อาหาร​ ​รอ​ให้​อยาก​ทาน​เมื่อไร​ค่อย​ทาน​เถิด​!​”

แต่​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​หิว​ ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​เมื่อก่อน​มักจะ​กิน​เพียง​ผลไม้​ใน​ตอนเย็น​เพื่อ​รักษา​หุ่น​จึง​ให้​สาวใช้​ช่วย​ปอก​ผิง​กั่ว​ให้​หนึ่ง​ลูก​แต่​ก็​กิน​ไป​เพียงแค่​ครึ่ง​ลูก

หู่​พั่ว​ตัก​น้ำ​เข้ามา​ปรนนิบัติ​นาง​ล้างหน้าล้างตา

“​ไม่ต้อง​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ลง​จาก​เตียง​เตา​ ​“​ไป​ที่​ห้อง​ชำระ​ดีกว่า​!​”

หู่​พั่ว​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​เพื่อ​ขอความช่วยเหลือ

สวี​ลิ่ง​อี๋​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ให้​พวกเขา​ปรนนิบัติ​เจ้า​ล้างหน้าล้างตา​ที่นี่​เถิด​!​ ​วันนี้​เจ้า​ก็​ไม่ได้​ต้อง​ออก​ไป​ไหน​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ยุ่งยาก​เช่นนั้น​”

สือ​อี​เหนียง​ยัง​รู้สึก​อึดอัด​เล็กน้อย​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เปิดม่าน​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ ​หู่​พั่ว​นำ​ผ้า​ขาว​มา​วาง​บน​ไหล่​ของ​นาง​ ​เพียงแค่​นาง​ก้มหัว​ก็​สามารถ​ล้างหน้า​ได้​แล้ว

ทำ​ราวกับว่า​ป่วยหนัก​!

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ดังนั้น​ก็​แอบ​บ่น​อยู่​ใน​ใจ​ ​ใบหน้า​แข็งทื่อ​เล็กน้อย​ ​จู่ๆ​ ​ใจ​ก็​เต้น​แรง​ขึ้น​มา

หรือว่า​ตน​จะ​ป่วย​เป็นโรค​ที่​ไม่​สามารถ​รักษา​ได้

ดังนั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​ไม่​ให้​นาง​ดู​ใบสั่งยา​ ​หู่​พั่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​จึง​ได้​ปรนนิบัติ​ต่อนา​งอย​่าง​ระมัดระวัง​เช่นนี้

กว่า​จะ​ระงับ​ความตกใจ​ภายในใจ​ได้​นั้น​ไม่​ง่าย​เลย​ ​สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​สังเกต​อย่างละเอียด

ดูเหมือนว่า​หู่​พั่ว​กลัว​ว่านาง​จะ​เคลื่อนไหว​มากเกินไป​จึง​คอย​สังเกต​ท่าทาง​ของ​หู่​พั่ว​อยู่​เรื่อยๆ​ ​เวลา​นาง​จะ​ทำ​อะไร​หู่​พั่ว​ก็​จะ​รีบ​ทำแทน​นาง​ ​พอนาง​นั่งลง​อย่าง​เชื่อฟัง​ ​หู่​พั่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​ก็​จะ​มีท​่า​ทาง​ผ่อนคลาย

สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​ทำให้​พวก​นาง​ลำบากใจ​ ​จึง​นั่ง​อยู่​เฉยๆ​ ​ให้​พวก​นาง​จัดการ​ได้​ตามใจ​ต้องการ

หลังจาก​ล้างหน้าล้างตา​เสร็จ​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​คุณหนู​ใหญ่​ได้ยิน​ว่า​ท่าน​ไม่สบาย​ ​คุณหนู​ใหญ่​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​ ​และ​คุณชาย​น้อย​ห้า​จึง​ได้​ช่วยกัน​ทำ​ถุง​หอม​ดอก​กล้วยไม้​ ​แล้วยัง​บอกอี​กว่า​พอท​่าน​ดีขึ้น​เมื่อไร​ก็​จะ​มาคา​รวะ​ท่าน​เจ้าค่ะ​”

“​เอา​เข้ามา​เถิด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พิง​หมอนอิง​อย่าง​เกียจคร้าน

หู่​พั่ว​ช่วย​นาง​จัด​ผ้าห่ม​ไว้​เรียบร้อย​ ​หลังจากนั้น​ลี่ว​์​อวิ​๋​นก​็​รับ​ถุง​หอม​จาก​สาวใช้​น้อย​แล้ว​นำมา​ส่ง​ให้

สือ​อี​เหนียง​ลอง​ดม​ดู​ ​ฉับพลัน​ก็​รู้สึก​มวน​ท้อง​ ​จึง​หมอบ​อาเจียน​ผิง​กั่ว​ที่พึ่ง​ทาน​เข้าไป

ไม่รู้​ว่า​หู่​พั่ว​ไป​ยก​กะละมัง​สีฟ้า​มาจาก​ไหน​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​อาเจียน​ใส่​กะละมัง​อย่าง​พอดิบพอดี​ ​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​อาเจียน​เสร็จ​สาวใช้​น้อย​ก็​ยก​น้ำอุ่น​เข้ามา​ให้​บ้วนปาก​ ​ลี่ว​์​อวิ​๋น​เอา​บ๊วย​น้ำผึ้ง​มา​ให้​นาง​อม​ ​ทุกอย่าง​ถูก​จัดการ​อย่างเป็นระเบียบ

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​ทั้ง​ห้อง​เต็มไปด้วย​ใบหน้า​ที่​เปื้อน​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​ท่ามกลาง​แสงไฟ​จู่ๆ​ ​ก็​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​ระดู​ไม่​มานาน​แล้ว​…​ยกมือ​กุม​ท้อง​โดยไม่รู้ตัว

“​หู่​พั่ว​!​”​ ​นาง​มอง​หู่​พั่ว​ด้วย​ความ​สับสน​ ​อยาก​พูด​อะไร​บางอย่าง​แต่​ก็​หยุด​ไป

******

“​หาก​เป็น​เช่นนี้​ต้อง​รอ​จนถึง​เดือน​สาม​ถึง​จะ​ได้รับ​การ​ยืนยัน​อย่างนั้น​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​ป้า​ตู้​ช่วย​ไท่ฮู​หยิน​เอา​ปิ่นปักผม​ออก

“​แต่ว่า​ก็​ยัง​ตรวจ​ไม่​พบ​อะไร​”​ ​แววตา​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เผย​ให้​เห็น​รอยยิ้ม​สดใส​ร่าเริง​ ​“​ข้า​เรียก​ป้า​ซ่ง​มาถาม​ ​แปด​ถึง​เก้า​ใน​สิบ​ส่วน​เป็นไปได้​ว่า​กำลัง​ตั้งครรภ์​แล้ว​”

“​ขอแสดงความยินดี​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ด้วย​เจ้าค่ะ​”​ ​ป้า​ตู้​ยิ้ม​พลาง​ย่อเข่า​คำนับ​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​พยุง​นาง​ ​“​อย่า​พึ่ง​พูด​ออก​ไป​ ​เจ้า​สี่​กำลัง​ปิดบัง​อยู่​”

ป้า​ตู้​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​นิสัย​อย่าง​เขา​ ​หาก​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่มั่น​ใจ​จะ​ไม่​พูด​ออก​ไป​เด็ดขาด​”​ ​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พูด​อย่าง​มีความสุข​ว่า​ ​“​เรื่อง​เช่นนี้​เกรง​ว่า​แม้แต่​หมอ​หลวง​ก็​ยัง​ไม่เข้าใจ​เท่า​พวกเรา​แน่นอน​!​”

ป้า​ตู้​หัวเราะ​เสียงดัง​ลั่น

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท