หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting – บทที่ 1122 เดือนแยกกำลังจะแตกดับ!

บทที่ 1122 เดือนแยกกำลังจะแตกดับ!

เซี่ยไห่หยางมึนงงเล็กน้อย ครู่หนึ่งจึงยังไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ ด้านเฉินหานตอนนี้ก็ตกอยู่ในภวังค์ความคิด ขณะกำลังพิจารณาว่าควรจะใช้คำเรียกอย่างไรดีและทุกคนเริ่มจากไปไกลแล้วนั้น อวกาศทั้งสี่ทิศของสนามรบแห่งนี้ก็มีกลิ่นอายหลายสายมาเยือนทันที

การต่อสู้ระหว่างหวังเป่าเล่อและชงอี้จื่อนั้น ถ้าหากรบเร็วจบเร็วคงจะไม่ดึงดูดความสนใจ แต่การต่อสู้ระหว่างพวกเขากินเวลายืดเยื้อเล็กน้อย ขณะเดียวกัน กระบวนเวทเทพที่ใช้ออกมาในตอนท้ายก็ยังน่าสะพรึงเกินไป ดังนั้นจึงดึงดูดความสนใจของผู้เยี่ยมยุทธ์อาวุโสบางส่วนได้เป็นธรรมดา

แม้ว่าการลงมือของชงอี้จื่อจะมีการแทรกแซงเหตุต้นผลกรรมจากจื่อเยว่ แต่ก็ไม่อาจส่งผลต่อเหตุที่เกิดทั้งหมด ดังนั้นตอนนี้เมื่อกลิ่นอายเหล่านั้นตกลงมา ร่องรอยทั้งหมดบนสนามรบจึงถูกกลิ่นอายที่มาถึงเหล่านี้กวาดผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ระหว่างพวกเขาไม่ได้มีบทสนทนาอะไรกัน มีเพียงความตื่นตะลึงของกันและกันและความหวาดกลัวเมื่อมองไปยังทิศทางที่หวังเป่าเล่อจากไป!

สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวคือทวนกระแสเวลาอันแปลกประหลาดของหวังเป่าเล่อ ยิ่งกว่านั้นคือ…ดวงจิตที่มาจากส่วนลึกของจักรวาลราวกับไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้น!

นั่นเป็นการมีอยู่อันน่าสะพรึงที่สามารถทำให้ภาพฉายของระดับจักรวาลผู้หนึ่งเงียบงันไปแล้วไม่กล้าหันหน้ามา และการมีอยู่เช่นนี้…พวกเขาได้ยินจากคำพูดของหวังเป่าเล่อแล้ว นั่นคือพ่อตาของเขา…

ดังนั้นหลังจากเงียบงันไป ถึงแม้กลิ่นอายที่มาเยือนเหล่านี้จะจากไปทีละคนๆ แต่เรื่องเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างหวังเป่าเล่อและชงอี้จื่อก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

เป็นเพราะความสะเทือนฟ้าสะเทือนดินของการต่อสู้ ข่าวจึงแพร่กระจายอย่างรวดเร็วมาก เพียงเวลาเจ็ดแปดวัน ขณะที่หวังเป่าเล่อและคณะยังอยู่ระหว่างทางกลับดาราจักรไฟ ภายในจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้าย สำนักใหญ่และตระกูลระดับสูงแทบจะทั้งหมดก็ทราบข่าวนี้

ทันใดนั้น เสียงอุทานตกใจก็ดังขึ้นจากที่ต่างๆ ในจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้าย!

“เซียนเต๋าลำดับสองแห่งเต๋าเก้ารัฐ ชงอี้จื่อ พ่ายแพ้ให้หวังเป่าเล่อและถูกจับกุมหรือ!”

“หวังเป่าเล่อเลื่อนขั้นเป็นดารานิรันดร์หรือ!”

“ได้ยินว่าการต่อสู้ครั้งนี้ยังมีภาพฉายของระดับจักรวาลและพลังนอกจักรพิภพด้วย!”

ชื่อเสียงของหวังเป่าเล่อเดิมก็เป็นเพราะได้รับดาวเคราะห์เต๋าและเรื่องที่ดาวเคราะห์ชะตา เขาจึงได้รับความสนใจจากขั้วอำนาจมากมายในจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้าย เมื่อได้รับความสนใจแบบในปัจจุบันแล้วยังมาเกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก ดังนั้นไม่นานชื่อเสียงของเขาก็ระบือไปทั่วทั้งจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายแล้ว

ขณะเดียวกัน คณะหวังเป่าเล่อยังอยู่ระหว่างทางกลับดาราจักรไฟ เมื่อการต่อสู้ของเขากับชงอี้จื่อถูกพูดต่อไปเรื่อยๆ ชื่อเสียงเขาก็แพร่หลายยิ่งขึ้นไปอีก ถึงขั้นที่จักรพิภพศักดิ์สิทธิ์ไม่รู้สิ้นและจักรพิภพสำนักเสริมก็ยังรู้เรื่องกันแล้ว แต่ยังมีอีกเรื่องที่สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั้งจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้าย!

ปรมาจารย์แห่งไฟนั่งอยู่บนหลังของเทพวัว ได้เดินทางมาเยือนภายในประตูภูเขาเต๋าเก้ารัฐของสำนักอันดับหนึ่งแห่งเต๋าฝั่งซ้ายแล้ว!

ทันทีที่มาถึง ประโยคแรกที่เขาเอ่ยก็คือ…

“เต๋าเก้ารัฐ กล้ามาลงมือกับศิษย์ของข้า พวกเจ้า…รังแกกันมากเกินไปแล้ว!” หลังจากเอ่ยจบ เขาก็ระเบิดพลังฝึกปรือทั้งหมดออกมา ลงมือไปยังผู้อาวุโสสองสามคนของเต๋าเก้ารัฐด้วยท่าทางหยาบคายไร้เหตุผลและใช้วิธีการรุนแรงเอาแต่ใจทันที ใช้กำลังของคนคนเดียว แต่กลับสยบผู้อาวุโสทั้งสี่คนของเต๋าเก้ารัฐได้!

ผู้อาวุโสสี่คนนี้ล้วนเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ระดับจักรพิภพ แต่ด้วยน้ำมือของปรมาจารย์แห่งไฟ ทั้งสี่ต่างบาดเจ็บ พอร่วมมือกันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปรมาจารย์แห่งไฟ แค่ฝ่ามือเดียวของท่านเพลิงกัลป์ก็ทุบทำลายป้ายประตูภูเขาของเต๋าเก้ารัฐแล้ว!

เรื่องนี้สะเทือนไปทั่วทั้งแปดทิศ จนกระทั่งในที่สุดบรรพบุรุษระดับจักรวาลเพียงคนเดียวของเต๋าเก้ารัฐที่กักตนมาตลอดปีก็ปรากฏตัว ต้องใช้หนึ่งนิ้วชี้ลงไป ถึงพอจะบีบให้ปรมาจารย์แห่งไฟล่าถอยได้

แต่ขณะที่ถูกบีบให้ถอย ปรมาจารย์แห่งไฟที่อยู่บนฟ้าเหนือประตูภูเขาเต๋าเก้ารัฐก็มีเปลวเพลิงลุกโชนมหึมาไปทั่วร่าง พลังคำสาปปะทุออกมาในตอนนี้เอง แต่กลับไม่ได้มีความหวาดกลัวใดๆ เลย กลับกันยังคำรามด้วยความบ้าคลั่งเล็กน้อยออกมาอีก

“ผีเฒ่าเก้าเต๋า เจ้าลองชนนิ้วใส่ข้าอีกทีสิ!”

“คนอื่นกลัวเจ้า แต่ข้าไม่ เจ้าชนนิ้วใส่ข้าอีกสิ เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะสาปเจ้า คำสาปของข้าผู้เฒ่าอัดอั้นเอาไว้มาหลายพันปีแล้ว เจ้าอยากจะลองหรือไม่!”

เมื่อเผชิญหน้ากับความยโสโอหังของปรมาจารย์แห่งไฟ บรรบุรุษเต๋าเก้ารัฐผู้นั้นก็เงียบงัน แม้ว่าในใจจะแช่งด่าไปทั่ว แต่ก็อับจนปัญญาอย่างยิ่ง…หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เมื่อเจอกับคนบ้าที่มีพลังสามารถตกตายไปพร้อมกับตนได้เช่นนี้ก็คงจะรู้สึกปวดหัว

เป็นเพราะคำสาปของปรมาจารย์แห่งไฟมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นจริงๆ หากบีบคั้นเขาหนักเกินไปจนต้องใช้คำสาปออกมา…เกรงว่าจะเป็นหายนะที่ไม่เคยมีมาก่อนของเต๋าเก้ารัฐแน่ๆ

ดังนั้น สุดท้ายแล้ว…บรรพบุรุษท่านนี้ของเต๋าเก้ารัฐก็ไม่ได้ทำร้ายปรมาจารย์แห่งไฟเนื่องจากความหวาดหวั่น เพียงแต่บีบให้ล่าถอยเท่านั้น ถึงอย่างไรการระเบิดอารมณ์ครั้งนี้ของปรมาจารย์แห่งไฟก็มีเหตุผลอยู่ เป็นเพราะชงอี้จื่อจะลงมือสังหารศิษย์ของเขาก่อน ถึงแม้ตัวของชงอี้จื่อจะถูกหวังเป่าเล่อจับกุมไว้ แต่ในฐานะอาจารย์ ก็มีเหตุผลให้มาขอคำอธิบายเรื่องนี้ ไอลีนโนเวล

เรื่องนี้สั่นสะเทือนจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้าย ทำให้คนมากมายต่างรู้เรื่อง พร้อมกันนั้น พวกเขาต่างก็สัมผัสได้ถึงการเข้าข้างของปรมาจารย์แห่งไฟที่มีอยู่แต่ในตำนาน จึงจำเป็นต้องตัดความคิดทุกประการที่เกี่ยวกับศิษย์ของเขาหวังเป่าเล่อไปเสียครึ่งหนึ่ง ถึงอย่างไรหากแตะต้องหวังเป่าเล่อ ก็ต้องเตรียมตัวเผชิญหน้ากับการแก้แค้นของปรมาจารย์แห่งไฟที่บ้าคลั่งและสามารถลากระดับจักรวาลให้พังพินาศไปพร้อมกันได้

ขณะเดียวกัน ทางฝั่งเต๋าเก้ารัฐทำได้เพียงอดกลั้น จำต้องละทิ้งการไล่ตามวิญญาณเทพของเซียนเต๋าลำดับสองของตนกลับมา ทำให้ข้อพิพาทสุดท้ายของการต่อสู้ระหว่างหวังเป่าเล่อและชงอี้จื่อถูกระงับเอาไว้

ส่วนปรมาจารย์แห่งไฟ เมื่อเห็นด้วยแล้วก็เก็บพลังกลับ ไม่ได้พัวพันต่ออีก หลังจากเบ่งอำนาจเรียบร้อยก็จากไปทันที เพียงแต่…บางทีปีนี้คงเป็นปีที่มีเรื่องมากของทั้งจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้าย เพราะหลังจากหวังเป่าเล่อสยบชงอี้จื่อและปรมาจารย์แห่งไฟมาโวยวายอยู่ที่เต๋าเก้ารัฐ ไม่นานหลังจากนั้น…ก็เกิดเรื่องที่สามขึ้น

ความสะเทือนเลื่อนลั่นของเรื่องนี้เกินกว่าการต่อสู้ของหวังเป่าเล่อกับชงอี้จื่อ และเกินกว่าการโวยวายของปรมาจารย์แห่งไฟที่เต๋าเก้ารัฐเสียอีก ถึงขั้นที่ไม่ได้เกิดระลอกคลื่นเพียงแค่กับจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปยังตระกูลไม่รู้สิ้นที่สูงส่งที่สุด…ในจักรวาลแห่งนี้ด้วย!

เรื่องที่ว่านี้ก็คือ…เฉินชิงจื่อ คล้ายกำลังจะกลับมาจากสภาวะปิดผนึกแล้ว!

หลายปีก่อน จักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกแห่งตระกูลไม่รู้สิ้นได้วางแผนต่อต้านเฉินชิงจื่อ ใช้เตาหลอมแปดขามาเป็นตาวงแหวน รวบรวมพลังดาราจักรนับแสนมาเป็นวงแหวนปราณใหญ่ แล้วสยบเขาเอาไว้ข้างใน ต้องการจะสังหารเฉินชิงจื่อ

เรื่องนี้เกี่ยวพันกับความแค้นของคนสองคน ขณะเดียวกันเบื้องหลังก็ยังมีการสนับสนุนจากราชวงศ์ส่วนหนึ่งของตระกูลไม่รู้สิ้น แต่ถึงแม้จักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกจะเตรียมตัวมานานมาก ทว่าก็ยังคิดไม่ถึงว่าเฉินชิงจื่อจะระเบิดพลังออกมาในยามที่เสียเปรียบอย่างที่สุด เขารวบรวมเต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืดและเปลี่ยนร่างจนหลุดพ้นจากวงแหวนปราณ ยังไม่ทันได้จากไป วงแหวนปราณก็ย้อนกลับไปล้อมจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกกับแม่ทัพทหารสวรรค์จำนวนมากใต้บัญชาเอาไว้แทน

การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผู้ใต้บังคับบัญชาของจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกจำนวนมากก็หายตัวไปจากความทรงจำของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดทีละคนๆ นี่เป็นสัญญาณว่าพวกเขาถูกสำนักมืดทำลายแล้ว และเป็นเพราะเหตุนี้ ท่ามกลางความหวาดกลัวจึงทำให้ตระกูลไม่รู้สิ้น และสำนักแต่ละแห่งให้ความสนใจสูงสุดกับศึกเทพครั้งนี้ที่เกิดขึ้นยังบริเวณระหว่างจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้าย และจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์ไม่รู้สิ้น

แต่ในการพยากรณ์จากสำนักใหญ่เหล่านั้น และตระกูลไม่รู้สิ้นต่างก็บอกว่าศึกครั้งนี้อาจจะต้องใช้เวลาอีกพักหนึ่งถึงจะจบ อีกทั้งถึงอย่างไรจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกก็เป็นถึงระดับจักรวาล แม้ว่าจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่บางทีศึกครั้งนี้ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ดังนั้นพวกเขาจึงมีเวลาพอให้เตรียมตัว ตัดสิน และชั่งน้ำหนักว่าควรจะทำอย่างไร

แต่หลังจากที่ปรมาจารย์แห่งไฟมาโวยวายยังเต๋าเก้ารัฐ ภัยพิบัติก็เกิดขึ้นแล้ว

ภายในตระกูลไม่รู้สิ้น ตะเกียงเจ้าชะตาของจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกก็เริ่มริบหรี่และมีวี่แววจะดับลง และในความทรงจำของผู้คนมากมาย ภาพจำเกี่ยวกับจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกก็เริ่มจะสลายหายไปแล้ว!

ถึงแม้จะไม่ได้หายไปจนหมด แต่ทั้งหมดนี้ก็พอจะอธิบายได้แล้วว่าจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกนั้น…ตกอยู่ในสภาพที่ใกล้จะแตกดับ เมื่อเป็นเช่นนี้ แม้ตระกูลไม่รู้สิ้นจะยังเตรียมการได้ไม่เต็มที่ แม้ราชวงศ์หลายตระกูลจะยังมีเสียงค้านและยังไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ก็จำเป็นต้องรีบหาวิธีจัดการโดยเร็ว

ขณะเดียวกัน…สำนักและตระกูลระดับสูงทั้งหมดภายในจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นก็มุ่งความสนใจไปที่ศึกระหว่างเฉินชิงจื่อและเดือนแยก ไม่เพียงเท่านี้ ตระกูลและสำนักเหล่านี้ก็ยังส่งมหาศิษย์ของตนเคลื่อนพลไปยังขอบสนามรบพร้อมกัน

เพราะว่า…ทันทีที่จักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกแตกดับ ด้วยพลังฝึกตนอันกว้างใหญ่ไพศาลตลอดช่วงชีวิตของเขา จะทำให้หลังจากตายไป เขาก็จะระเบิดเจตจำนงเต๋าและกฎเกณฑ์ที่ยากจะจินตนาการออกมา แล้วยังมีปราณวิญญาณผันผวนที่น่าสะพรึงอีก

และเรื่องเหล่านี้…สำหรับผู้ฝึกตนแล้ว ล้วนเป็นโอกาสและโชค ยิ่งพรสวรรค์ดีเท่าไร ประโยชน์ที่จะได้รับก็ยิ่งมากเท่านั้น!

ขณะเดียวกันนอกจากจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกแล้ว เหล่าแม่ทัพสวรรค์ใต้บังคับบัญชาของเขาเหล่านั้นก็ยังเป็นของบำรุงที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ถึงแม้ตระกูลไม่รู้สิ้นจะไม่ยินดีกับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่สามารถทนต่อความโลภของสำนักใหญ่และตระกูลทั้งหมดได้

เมื่อเทียบกับสิ่งนี้แล้ว การต่อสู้ระหว่างหวังเป่าเล่อและชงอี้จื่อจึงไม่สลักสำคัญอะไรเลย ไม่มีใครพูดถึงมันอีกต่อไป ความสนใจทั้งหมดล้วนอยู่ที่…สมรภูมิศึกเทพของเฉินชิงจื่อและจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยก!

……………………

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

Status: Ongoing

เรื่อง : หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา (三寸人间)ผู้เขียน : เอ่อร์เกิน (耳根) ผู้แปล : Thunderbird Translators ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศ ปักเข้าใจกลาง ดวงอาทิตย์ ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนจำนวนมาก กระจัดกระจายไปทั่ว ทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก และก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัด พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ปราณวิญญาณ ‘หวังเป่าเล่อ’ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาใน สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความหน้าหนาหน้าทน ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตาย หากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท