รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 393 อสูรฟ้าชิงหนิว อดีตหนึ่งในสิบอสูรร้ายบรรพกาล!

บทที่ 393 อสูรฟ้าชิงหนิว อดีตหนึ่งในสิบอสูรร้ายบรรพกาล!

บทที่ 393 อสูรฟ้าชิงหนิว อดีตหนึ่งในสิบอสูรร้ายบรรพกาล!

“เจ้าจำผิดคนแล้ว”

หลิงอินยิ้มแต่ไม่ยอมรับ “นางคือเสี่ยวหยา แต่ไม่ใช่เสี่ยวหยาผู้นั้น คนที่สิ้นชีพไปตั้งแต่สมัยโบราณ วิญญาณและร่างกายต่างถูกทำลายสิ้นจะฟื้นคืนชีพได้อย่างไร? เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว…”

นางจะยอมรับได้อย่างไร

แม้ว่านางจะเชื่อใจจ้าวหุบเขา แต่เรื่องบางอย่างก็ไม่สามารถพูดให้ใครฟังได้

“คงจะเป็นเช่นนั้น”

จ้าวหุบเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มแล้วกล่าวออกมา “เป็นข้าที่คิดมากเกินไป”

คิดดูดี ๆ แล้ว เรื่องนี้จะเป็นไปได้อย่างไร!

คืนชีพผู้ที่ตายไปแล้วในสมัยโบราณกลับคืนมา ช่างเป็นการท้าทายฟ้าสวรรค์มากแค่ไหนกัน?

แม้กระทั่งเซียนเองก็ไม่สามารถทำได้!

ถึงหลิงอินจะสามารถออกจากทะเลต้องห้ามโดยไร้รอยขีดข่วน แต่นางก็คิดภาพที่หลิงอินคืนชีพคนตายตั้งแต่สมัยโบราณได้ มันเป็นเรื่องเหลวไหลที่เพ้อฝันจนเกินไป

บางทีเสี่ยวหยาผู้นี้อาจแค่ดูเหมือนกับเสี่ยวหยาในสมัยโบราณ…

นางคิดขึ้นมาในใจ

“ข้ามาเพื่อถามเจ้าหนึ่งคำถาม ยังคงมีเผ่าอสูรฟ้าชิงหนิว*[1] อยู่บนโลกนี้หรือไม่?”

หลิงอินไม่ต้องการสนทนาเรื่องเสี่ยวหยาไปมากกว่านี้ จึงเปิดปากถามขึ้นมา

เผ่าอสูรฟ้าชิงหนิว

เป็นเผ่าอสูรร้ายที่ทรงพลังอย่างยิ่ง มีชื่อเสียงมากในสมัยโบราณกาล สายเลือดนับได้ว่าสูงส่ง เทียบเท่าหรือกระทั่งเหนือกว่าหุบเขาคงหลิงอยู่หนึ่งขั้น

ทว่าบรรพชนของพวกเขารุ่งโรจน์ยิ่งกว่านั้น

สมัยโบราณกาล บรรพชนของเผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวถูกระบุเอาไว้สั้น ๆ ว่าเคยเป็นหนึ่งในสิบอสูรร้ายบรรพกาล

ทว่าน่าเสียดาย ท้ายที่สุดแล้ว บรรพชนของพวกเขาก็ล้มเหลวในการรั้งอยู่ในตำแหน่งสิบอสูรร้ายบรรพกาล ถูกเผ่าโหว*[2] ที่มาทีหลังแทนที่และดึงลงจากตำแหน่งสิบอสูรร้ายบรรพกาล

ยามที่อยู่บนเขาหยงหมิง หลิงอินเห็นเผ่าพันธุ์โบราณจำนวนมาก แต่กลับไม่เห็นสมาชิกจากเผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวสักตัว

หรือว่าเผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวจะสูญสิ้นไปแล้ว?

เผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวนั้นพิเศษเป็นอย่างยิ่ง หากสูญสิ้นไปก็นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายไม่น้อย

ตอนที่คิดจะตามหาวัวนม นางก็นึกถึงเผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวขึ้นมาเป็นอันดับแรก

เผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!

“เผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวหรือ พวกเขายังอยู่”

จ้าวหุบเขากล่าว “สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนกำลังใกล้เข้ามา กองกำลังทั้งหมดล้วนเคลื่อนไหว แต่ก็มีข้อยกเว้น เช่นเผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเนื่องจากมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นกับเผ่า”

“เรื่องใหญ่? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หลิงอินถาม

จ้าวหุบเขากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “เรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นคือ อสูรฟ้าชิงหนิวตนหนึ่งกำลังให้กำเนิดทายาท!”

ยิ่งสายเลือดแข็งแกร่งมากเท่าใดก็ยิ่งยากแก่การให้กำเนิดทายาท เผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวเองก็ไม่ได้มีสมาชิกใหม่มาเป็นเวลานานมากแล้ว

หลังจากเผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวให้กำเนิดทายาทขึ้นมา สมาชิกทุกตัวในเผ่าก็ล้วนแต่ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก พวกเขาปกป้องมารดาและลูกชิงหนิวทุกวันโดยไม่มีการผละจาก

เนื่องด้วยเหตุนี้ อสูรฟ้าชิงหนิวจึงไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหว

“หืม!?”

หลิงอินชะงักไปครู่หนึ่ง ทว่าหลังจากนั้นก็หัวเราะออกมา

จะบังเอิญขนาดนี้เชียวหรือ?

นางกำลังมองหาวัวนม บังเอิญกับที่อสูรฟ้าชิงหนิวเพิ่งจะให้กำเนิดลูกขึ้นมาในเวลานี้

แม่วัวจะมีน้ำนมหลังจากคลอดลูกแล้วเท่านั้น

เดิมทีแม้จะสามารถตามหาอสูรฟ้าชิงหนิวได้แล้ว แต่นางยังคงกังวลว่าอสูรฟ้าชิงหนิวจะไม่มีน้ำนม

ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะเรียบร้อยดี!

เดี๋ยวก่อน…

จะสามารถเกิดความบังเอิญเช่นนี้ได้ด้วยหรือ?

มันจะเป็นเรื่องบังเอิญได้อย่างไร เกรงว่าเรื่องราวทั้งหมดคงจะอยู่ในการคาดการณ์ของท่านเซียนแล้ว!

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ท่านเซียนเพิ่งจะกล่าวว่าไม่มีนมวัวในเวลานี้

‘ดูเหมือนไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ต้องไปที่เผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวสักครา!’

ดวงตาของนางเปล่งประกาย ขณะเอ่ยขึ้นมาในใจ

“เผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวเองก็อยู่ในแดนฮวงหรือ? เจ้าช่วยบอกตำแหน่งให้ข้าทราบได้หรือไม่?”

หลิงอินถามจ้าวหุบเขา

“แม่นางหลิงอินต้องการจะไปเผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวอย่างนั้นหรือ?”

จ้าวหุบเขาเอ่ย “แน่นอนว่าข้าย่อมสามารถบอกท่านได้ ทั้งยังสามารถพาแม่นางหลิงอินไปที่นั่นได้ แต่ข้าไม่แนะนำให้ท่านไปที่นั่นในตอนนี้!”

นางกล่าวต่อ “ช่วงเวลาให้นมเป็นช่วงที่ตึงเครียดที่สุดสำหรับเผ่าอสูรฟ้าชิงหนิว พวกมันจะปิดผนึกพื้นที่ในเผ่าทั้งหมด ห้ามไม่ให้สิ่งมีชีวิตอื่นเข้าใกล้ หากพวกเราไปที่นั่นในยามนั้นพอดีเกรงว่านอกจากจะไม่สามารถเข้าไปได้แล้ว ยังอาจถูกมองว่าเป็นศัตรูและถูกโจมตีได้”

สายเลือดของอสูรฟ้าชิงหนิวไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง ภายในน้ำนมประกอบด้วยแก่นแท้ของพลังชีวิต ล้ำค่าจนไม่อาจประเมินได้

เมื่อใดก็ตามที่อสูรฟ้าชิงหนิวเข้าสู่ช่วงให้นม ก็จะมีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากมายเกิดความคิดต้องการจะได้รับน้ำนมมา

มีหลายคนไปที่เผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวเพื่อขอน้ำนมอย่างเปิดเผย บางคนก็คิดเสี่ยง แอบลอบเข้าไปในพื้นที่ของเผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวหวังขโมยนม

แต่ไม่มีผู้ใดเคยทำสำเร็จ

เผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวไม่เคยปล่อยให้น้ำนมหลุดรอดออกจากเผ่าไปแม้สักหยด!

เผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวเคยลงมือต่อสู้ครั้งใหญ่ในช่วงที่ให้นมมาแล้ว ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใด ๆ เข้าใกล้เผ่าพวกเขาล้วนถูกโจมตีและขับไล่ออกไป

ดังนั้นจ้าวหุบเขาจึงไม่แนะนำให้หลิงอินไปในตอนนี้

ตอนนี้เผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวนั้นอยู่ในช่วงอ่อนไหว หากใครสร้างปัญหาสักนิดก็จะถือว่าเป็นศัตรูแล้วโจมตีในทันที

หลิงอินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ต้องไปตอนนี้เท่านั้น ช่วงอื่นไม่ได้”

เร็วเกินไปก็ไม่มีน้ำนม ช้าเกินไปก็ไม่มีน้ำนม

มีเพียงช่วงนี้เท่านั้นจึงจะมีน้ำนมปริมาณมาก

“หือ? แม่นางหลิงอินเองก็ต้องการน้ำนมหรอกหรือ?”

หลังจากได้ยินหลิงอินพูดเช่นนั้น จ้าวหุบเขาก็เข้าใจได้ในทันที เห็นได้ชัดว่าหลิงอินต้องการน้ำนมจากเผ่าอสูรฟ้าชิงหนิว

หลิงอินไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด นางพยักหน้าแล้วพูดออกมา “อืม ข้าต้องการไปที่นั่นเพราะน้ำนม”

“เกรงว่าท่านอาจไม่สามารถได้รับมันมา”

จ้าวหุบเขายิ้มเจื่อน “แม้กระทั่งเผ่าโหวที่เป็นหนึ่งในสิบอสูรร้ายบรรพกาลก็ยังเคยมีความคิดที่จะได้รับน้ำนมจากเผ่าอสูรฟ้าชิงหนิว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เผ่าอสูรฟ้าชิงหนิวให้ความสำคัญกับน้ำนมมากจนไม่อาจทนส่งมันออกไปนอกเผ่าได้”

“ไม่เป็นไร ข้าคิดว่าพวกเขาจะต้องตอบตกลง”

หลิงอินยิ้ม นางมีความมั่นใจอย่างน้อยก็เก้าในสิบส่วน

“ตกลง เช่นนั้นข้าจะนำทางให้แม่นางหลิงอิน”

จ้าวหุบเขากล่าว

นางลืมไปได้อย่างไรว่าหลิงอินไม่ใช่คนธรรมดา กระทั่งทะเลต้องห้ามยังสามารถกลับออกมาได้โดยไร้รอยขีดข่วน สถานที่แห่งนั้นเลวร้ายเสียยิ่งกว่าสิบอสูรร้ายบรรพกาล

สิบอสูรร้ายบรรพกาลในยามนั้นก็ไม่กล้าเข้าใกล้เก้าแดนต้องห้าม!

หลิงอินนับได้ว่าแข็งแกร่งกว่าสิบอสูรร้ายบรรพกาลเป็นอย่างมาก!

“เช่นนั้นต้องรบกวนจ้าวหุบเขาแล้ว” หลิงอินกล่าว

“ไม่รบกวน ไม่รบกวน แม่นางหลินอินอย่าได้เกรงใจเกินไป!”

จ้าวหุบเขาตอบกลับ หลังจากนั้นก็ออกเดินทางพร้อมกับหลิงอินและเสี่ยวหยา มุ่งตรงไปสู่เผ่าอสูรฟ้าชิงหนิว

ณ แดนหยิน จวินโจว

ภายในสถานศึกษา

ปู่ของไป๋อวี่เฟยได้มาถึงแล้ว

เขารีบตรงเข้าไปหาไป๋อวี่เฟย ทว่าไป๋อวี่เฟยก็ยังคงดูล่องลอย ปราศจากสีหน้าใด ๆ เขาถามอะไรไปก็ไม่ตอบสนอง

“ดูสิ่งที่เจ้าทำลงไปเสียสิ! ตอนนี้เสี่ยวเฟยกลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว!? ข้าก็นึกว่าเจ้าสามารถไว้ใจได้จึงตกลงให้เสี่ยวเฟยมากับเจ้า สุดท้าย เจ้ากลับทำให้ข้าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งไม่สามารถพึ่งพาได้แม้แต่น้อย ปล่อยให้เสี่ยวเฟยไปเชิญเซี่ยเหยียนผู้นั้นเข้าร่วมสถานศึกษาด้วยตนเอง จนทำให้เสี่ยวเฟยกลายเป็นเช่นนี้ ทั้งยังเกือบจะสิ้นชีพแล้ว!”

ปู่ของไป๋อวี่เฟยตวาดใส่ลุงหมิงด้วยความเกรี้ยวกราด

[1] ชิงหนิว เป็นสัตว์โบราณของจีน มีรูปร่างคล้ายตระกูลวัว กระทิง ควาย แต่ไม่ใช่วัว ( 牛)

[2] โหว (犼) เป็นหนึ่งในสัตว์อสูรของตำนานจีน เล่าขานกันว่า เป็นหนึ่งในโอรสของราชันมังกร

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท