ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 410 ไม่หยุดหย่อน(กลาง)

ตอนที่ 410 ไม่หยุดหย่อน(กลาง)

สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ก็​เงียบ​ไป​พักใหญ่​ ​เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​ก็​ปรึกษา​กับ​เขา​ว่า​ ​“​ศาล​บรรพชน​อยู่​ห่าง​จาก​เรือน​ของ​เรา​ไป​ประมาณ​สอง​สาม​หลัง​ ​ต่อให้​มีเสียง​ดัง​ ​แต่​เมื่อมา​ถึงที่​นี่​ก็​คง​เป็น​เพียง​เสียง​เบา​ๆ​ ​เท่านั้น​ ​หาก​ท่าน​แม่​ไม่​วางใจ​จริงๆ​ ​เช่นนั้น​ฝาก​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​ให้​ช่วย​ทำพิธี​สวด​บท​ขอขมา​กรรม​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​สัก​สอง​สาม​วันดี​หรือไม่​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ข้าว​่า​มาทำ​พิธี​ใน​จวน​ทั้ง​เจ็ด​วันดี​กว่า​ ​ถึงอย่างไร​เสียนี​่​ก็​ไม่ใช่​พิธี​ที่​ต้อง​ทำ​วันเว้นวัน​หรือ​ทำ​ตลอดทั้ง​เดือน​”

สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

หยวน​เหนียง​เสียชีวิต​ในขณะที่​ผู้อาวุโส​ใน​เรือน​ยังอยู่​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​ไม่​ควร​จัด​พิธี​เซ่นไหว้​ใหญ่โต​ ​ต่อให้​ขอให้​วัด​ฉือ​หยวน​ช่วย​ทำพิธี​ ​ก็​ทำพิธี​ไม่​เกิน​เจ็ด​วัน​ ​ทั้ง​ของเซ่น​ไหว้​และ​โต๊ะ​พิธี​ต่าง​ก็​มี​ข้อจำกัด​ ​หาก​อยาก​จะ​จัด​อย่างยิ่ง​ใหญ่​ก็​ต้องหา​ข้ออ้าง​ ​แต่​ปีนี​้​ครบ​ปี​ที่​ห้า​ที่​หยวน​เหนียง​จากไป​จึง​ไม่ใช่​การ​จัด​วันเว้นวัน​หรือ​จัด​ทั้ง​เดือน​ ​จะ​หา​ข้ออ้าง​สัก​ข้อ​ก็​ไม่มี

“​ทาง​ด้าน​ท่าน​แม่​ ​ฝาก​ท่าน​โหว​ช่วย​พูด​ให้​ด้วย​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เอ่ย​ขอร้อง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​จุน​เกอ​เอง​ก็​โต​แล้ว​ ​เมื่อถึง​เวลา​ก็​สามารถ​เป็น​ประธาน​ใน​พิธี​เซ่นไหว้​ได้​แล้ว​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​ไม่​กี่​วัน​ต่อมา​เถาฮ​วาที​่​ทำงาน​อยู่​ที่​ศาล​บรรพชน​ ​เป็น​น้องสาว​ของ​เว​่ย​จื่อ​สาวใช้​ใหญ่​ข้าง​กาย​ไท่ฮู​หยิน​ก็​วิ่ง​มาบ​อก​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“​ทำพิธี​ใน​จวน​เจ็ด​วัน​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​ตอนที่​สวี​ซื่อ​จุน​มาคา​รวะ​ ​นาง​ก็​ช่วย​เขา​จัด​เครื่องแต่งกาย​พลาง​เอ่ย​กำชับ​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่​สามารถ​ไปร​่วม​พิธี​ครบรอบ​วัน​จากไป​ของ​มารดา​เจ้า​ได้​ ​เจ้า​นำ​เรื่อง​นี้​ไป​บอกอา​จารย์​จ้าว​ ​ถาม​อาจารย์​จ้าว​ว่า​ต้องการ​ให้​ผู้ดูแล​ของ​ศาล​บรรพชน​มาบ​อก​เจ้า​เกี่ยวกับ​พิธี​เซ่นไหว้​หรือไม่​ ​หาก​อาจารย์​จ้าว​ให้​เจ้า​ไปหา​ผู้ดูแล​ศาล​บรรพชน​ ​เจ้า​ก็​อย่า​ได้​เอะอะ​ส่งเสียง​ดัง​ให้​ใคร​รู้​ ​ให้​มาบ​อก​ข้า​แล้ว​ข้า​จะ​ช่วย​เจ้า​หา​เอง​”

สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​พยักหน้า​ ​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​สุขภาพ​ของ​ท่าน​เป็น​อย่างไรบ้าง​ขอรับ​”​ ​ท่าทาง​กังวล​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ตบ​บ่า​สวี​ซื่อ​จุน​เบา​ๆ​ ​แล้ว​กระซิบ​ว่า​ ​“​เดิมที​ข้า​นับวัน​เวลา​ดู​คาด​ว่า​ควรจะ​ดีขึ้น​แล้ว​ ​แต่​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​จะ​ยังคง​เหนื่อยล้า​เช่นนี้​”​ ​พูด​อย่าง​จนปัญญา

หู่​พั่ว​ได้ยิน​ก็​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​ว่า​เชิญ​หมอ​หลวง​หลิว​มาตร​วจ​ดูดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​หาก​เขา​มาก​็​เพียงแต่​ให้​ข้า​ทาน​ยา​เท่านั้น​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ส่ายหน้า​ ​พลัน​นึกถึง​อี๋​เหนียง​ห้า​ที่อยู่​ไกล​ถึง​อวี​๋​หัง​ ​“​…​หาก​อยู่​ข้าง​กาย​ก็​คงดี​ ​ข้า​ได้ยิน​นาง​บอกว่า​บุตรสาว​จะ​เหมือน​แม่​ ​หรือว่า​ตอนที่​นาง​ตั้งครรภ์​ข้า​ก็​เป็น​เช่นนี้​เหมือนกัน​ ​แต่ว่า​ตอนที่​อี๋​เหนียง​ตั้งครรภ์​คุณชาย​เจ็ด​ดูเหมือนว่า​จะ​ไม่มี​อาการ​อะไร​เลย​”

หู่​พั่ว​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ตอนนั้น​นาย​หญิง​ใหญ่​ยังอยู่​ ​ต่อให้​ไม่สบาย​ ​เกรง​ว่า​ก็​คง​ไม่กล้า​แสดงออก​มาก​ระ​มัง​เจ้า​คะ​”

สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ก็​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​ทำให้​นาง​อยากรู้​มากขึ้น​กว่า​เดิม​ ​บอก​ให้​หู่​พั่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​จัดเตรียม​หมึก​และ​พู่กัน​ ​เตรียม​จะ​เขียนจดหมาย​ไป​ยัง​อวี​๋​หัง

เมื่อถึง​เวลา​ทานอาหาร​เย็น​ ​ใน​วัง​ก็​มี​ข่าว​แพร่​ออกมา​ว่า​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​คลอด​บุตรสาว​แล้ว

นี่​นับเป็น​หลาน​คน​แรก​ของ​ฮ่องเต้

หาก​เป็น​ครอบครัว​ของ​คนธรรมดา​ทั่วไป​ ​นี่​ถือว่า​เป็นเรื่อง​ที่​น่ายินดี​เป็นอย่างมาก​ ​เพียงแต่ว่า​นี่​เป็น​ครอบครัว​เชื้อพระวงศ์​ ​ความ​น่ายินดี​จึง​ลดน้อยลง​ไป​หลาย​ส่วน

“​…​จะ​ดีกว่า​นี้​หาก​ฮองเฮา​ให้กำเนิด​องค์​ชาย​”​ ​เมื่อ​โจวฮู​หยิน​มา​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​ดวงตา​ของ​นาง​บวม​แดง​เล็กน้อย​ ​“​แต่กลับ​ให้กำเนิด​องค์​หญิง​ที่​ผิวพรรณ​งดงาม​ราวกับ​หยก​ ​ครั้งนี้​ไท่​จื่อ​เฟย​เอง​ก็​ให้กำเนิด​บุตรสาว​ ​แม้ว่า​ฮ่องเต้​จะ​ทรง​ยินดี​ ​แต่​เกรง​ว่า​คงจะ​ไม่ได้​มากมาย​”

สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​หู่​พั่ว​นำ​ผ้า​ชุบ​น้ำเย็น​บิด​หมาดๆ​ ​มา​ให้​โจวฮู​หยิน​ประคบ​เบ้าตา​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ยิ่ง​เป็น​เช่นนี้​ ​เวลานี้​ท่าน​ยิ่ง​ต้อง​ดีใจ​จึง​จะ​ถูก​”​ ​โจวฮู​หยิน​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​น้ำตา​คลอ​ ​“​เหตุใด​ข้า​จะ​ไม่รู้​เล่า​ ​เพียงแต่​เมื่อ​คิดถึง​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​พวกเรา​ ​ตอนที่​ยัง​ไม่ได้​อภิเษก​นั้น​มีชีวิต​ที่​สุขสงบ​ราบรื่น​ใน​จวน​ ​ขนาด​เป็น​อีสุกอีใส​แต่​ก็​ยัง​สดใส​ร่าเริง​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​จู่ๆ​ ​ก็​ถูก​แต่งตั้ง​ให้​เป็นไท​่​จื่อ​เฟย​ ​หลังจากนั้น​ก็​ไม่มีวัน​ไหน​ที่​ผ่าน​ไป​อย่างสงบ​สุข​แม้แต่​วัน​เดียว​ ​หรือ​จะ​เป็น​ดั่ง​คำ​ที่ว่า​ ​‘​ลำบาก​ก่อน​สบาย​ทีหลัง​’​ ​กระมัง​”

“​ใคร​เป็น​คนพูด​กัน​เล่า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ชีวิต​คนเรา​จะ​อยู่​โดย​ปราศจาก​อุปสรรค​ได้​อย่างไร​…​”

“​นักพรต​ฉัง​ชุน​บอก​มา​”​ ​โจวฮู​หยิน​ถอนหายใจ​แล้ว​เอ่ย​ตัดบท​สนทนา​ของ​นาง​ ​“​ตอน​นาง​ยัง​เด็ก​ๆ​ ​มี​ครั้งหนึ่ง​ได้​บังเอิญ​พบ​กับ​นักพรต​ฉัง​ชุน​ ​นักพรต​ฉัง​ชุน​พูดตาม​ที่​ได้​เห็น​ลักษณะ​ใบหน้า​ของ​นาง​ ​ตอนนั้น​ยัง​บอกอี​กว่านา​งมี​ชะตากรรม​ของ​ดาวล้อมเดือน​ ​เดิมที​ข้า​ไม่เชื่อ​ ​ตอนนี้​มา​ลอง​คิดดู​ก็​พอ​มี​ความจริง​อยู่​บ้าง​”

เป็น​นักพรต​ฉัง​ชุน​อีกแล้ว​!

สือ​อี​เหนียง​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​มี​เพียง​ต้อง​อ้างคำพูด​เมื่อ​ครู่​ของ​โจวฮู​หยิน​เท่านั้น​ที่จะ​สามารถ​โน้มน้าว​นาง​ได้​ ​“​ดาวล้อมเดือน​นั้น​เป็น​ชะตากรรม​อย่างไร​พี่​หญิง​ยัง​ไม่เข้าใจ​อีก​หรือ​ ​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​คาด​ว่า​คราวนี้​ก็​คงมี​แค่​เรื่อง​ตกใจ​แต่​ไม่​ถึงกับ​มี​อันตราย​ใด​”

สิ่ง​ที่​เรียกว่า​การ​ทำนาย​โชคชะตา​หรือ​ดูดวง​ ​บางครั้ง​ก็​เป็น​เพียง​การ​ปลอบใจ​ตัวเอง​เท่านั้น​ ​แต่​เป็น​เพราะ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​มีเรื่อง​เช่นนี้​พอดี​จึง​ทำให้​โจวฮู​หยิน​นึก​คำทำนาย​ใน​อดีต​ขึ้น​มา​ได้

“​เมื่อมี​โชคชะตา​ชีวิต​เช่นนี้​ก็​ต้อง​แบกรับ​ให้​ได้​”​ ​สีหน้า​ของ​โจวฮู​หยิน​เผย​ให้​เห็น​ความหดหู่​เล็กน้อย​ ​“​มีบาง​เรื่อง​ที่​เจ้า​ไม่รู้​ ​เหตุผล​ที่​อดีต​ฮ่องเต้​แต่งตั้ง​ให้​ฮ่องเต้​เป็น​รัชทายาท​ใน​ตอนนั้น​ ​นอกจาก​จะ​เป็น​เพราะ​นิสัย​และ​จิตใจ​อัน​สูงส่ง​แล้ว​ ​ก็​ใช่​ว่า​จะ​ไม่เกี่ยว​กับ​บุตร​ที่​ฮองเฮา​ให้กำเนิด​…​”

นี่​จึง​จะ​เป็นเรื่อง​ที่​โจวฮู​หยิน​กังวล​อยู่​กระมัง​!

เมื่อ​ส่ง​โจวฮู​หยิน​ไป​แล้วก็​ไป​พูดคุย​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​ ​“​โจวฮู​หยิน​คุย​เรื่อง​นี้​กับ​เจ้า​อย่างนั้น​หรือ​ ​แต่​เจ้า​นั้น​เป็น​ท่าน​อา​หญิง​ของ​พระ​โอรส​ของ​ฮองเฮา​เชียว​นะ​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ถือตัว​กับ​ตำแหน่ง​นั้น​ ​และ​ไม่ได้​คิด​ว่า​คำพูด​ของ​โจวฮู​หยิน​ผิดปกติ​อะไร​ ​ตอนนี้​นาง​มาคิด​ๆ​ ​ดูก​็​รู้สึก​ขบขัน​ ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​นั้น​เป็นเพราะว่า​ข้า​ไม่​ไป​ตัดสิน​ว่า​ใคร​ถูก​ใคร​ผิด​ ​รู้​ว่า​อะไร​ที่​ไม่​สอดคล้อง​จริยธรรม​นั้น​ไม่​สามารถ​พูด​ ​ไม่​สามารถ​มอง​ ​และ​ไม่​สามารถ​ทำได้​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หยอกล้อ​นาง​ทาง​สายตา​ ​“​อ้อ​!​”

ตน​เพิ่ง​บอกว่า​ไม่​ไป​ตัดสิน​ใคร​ ​แต่กลับ​นำ​เรื่อง​ที่​โจวฮู​หยิน​พูด​มา​เล่า​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง

สือ​อี​เหนียง​พลัน​หน้าแดง​ ​สีหน้า​ของ​นาง​กระอักกระอ่วน​เล็กน้อย

หรือว่า​ใน​จิตใต้สำนึก​ของ​ตัวเอง​เชื่อ​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​คนที​่​น่าเชื่อถือ​จึง​ได้​รู้สึก​วางใจ​?

เมื่อ​ความคิด​ผ่าน​เข้ามา​ใน​หัว​ ​นาง​ก็​รู้สึก​เหมือน​มี​คลื่น​ลูก​เล็ก​ๆ​ ​เกิดขึ้น​ใน​หัวใจ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​โอบกอด​นาง​เอาไว้

“​ระหว่าง​สามีภรรยา​ก็​ควร​มี​การปรึกษา​เรื่อง​ต่างๆ​ ​กัน​”​ ​เขา​ที่​จูบ​ที่​ไรผม​นาง​เบา​ๆ​ ​“​ต่อไป​ก็​ต้อง​เป็น​เช่นนี้​ ​เข้าใจ​หรือไม่​”

คำสั่ง​อัน​เคร่งครัด​ใน​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ทำเอา​หัวใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ยิ่ง​อลหม่าน​มากขึ้น​กว่า​เดิม

เมื่อ​อีก​คน​หนึ่ง​ยัง​ไม่ได้​รับคำ​ตอบ​ที่​คาดหวัง​ ​จึง​กระชับ​วง​แขน​กอด​คน​ตัวเล็ก​เอาไว้​แน่น​แล้ว​ขบ​ที่​ติ่งหู​อัน​อ่อนนุ่ม​เบา​ๆ​ ​กระซิบ​สั่ง​ด้วย​เสียง​เย้ายวน​ว่า​ ​“​ได้ยิน​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ใบหน้า​ร้อนผ่าว​ ​เพียง​เม้มปาก​แน่น​ไม่ได้​ตอบ​อะไร

“​ได้ยิน​หรือไม่​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ออกแรง​กัด​ที่​คอ​เรียว​ระหง​เบา​ๆ​ ​หนึ่ง​ที​ ​ทำเอา​นาง​รู้สึก​จั๊กจี้​จน​หลุด​หัวเราะ​ออกมา

ขณะที่​ทั้งสอง​คน​กำลัง​หยอกเย้า​กัน​ ​ก็ได้​ยิน​หู่​พั่ว​ตะโกน​มาจาก​หลัง​ม่าน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​”​ ​แล้ว​รายงาน​ว่า​ ​“​ชิว​อวี​่​กลับมา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

ชิว​อวี​่​คือ​คนที​่​หู่​พั่ว​ส่ง​ไป​ถาม​เรื่อง​ยันต์​แคล้วคลาด​ที่​วัด​ฉือ​หยวน

สือ​อี​เหนียง​รีบ​จัด​ชาย​เสื้อ​ ​แล้ว​ส่งสายตา​ดุ​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่านาง​หน้าแดง​เหมือน​พระอาทิตย์​ยาม​อัสดง​ ​ดวงตา​สี​ผล​ซิ่ง​คู่​นั้น​เปล่งประกาย​ ​เป็น​เสน่ห์​ที่​ทำให้​คน​หลงใหล​อย่าง​ไม่​สามารถ​อธิบาย​ได้​ ​ใจ​ก็​พลัน​เต้น​แรง​ ​จูบ​ไป​ที่​แก้ม​นาง​เบา​ๆ​ ​ก่อนที่จะ​ลุกขึ้น​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

สือ​อี​เหนียง​นำ​น้ำต้ม​ที่​เย็น​แล้ว​มาป​้​วน​ปาก​ ​เมื่อ​รู้สึก​ว่า​ใบหน้า​หาย​ร้อน​แล้วจึง​ได้​เรียก​ชิว​อวี​่​เข้ามา

“​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​บอกว่า​เมื่อ​ฉิน​อี๋​เหนียง​รู้​ว่าฮู​หยิน​ตั้งครรภ์​ก็​ตั้งใจ​มา​ขอ​ยันต์​แคล้วคลาด​ด้วย​ความจริงใจ​ ​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​ได้​ตั้งใจ​ทำ​ยันต์​เป็นพิเศษ​โดย​การ​ใช้​ชาด​แดง​วาด​ดอกบัว​ดอก​เล็ก​ๆ​ ​ที่​มุม​ยันต์​ ​แต่ว่า​ไม่จำเป็น​ต้อง​แขวน​ไว้หน้า​ประตู​ห้อง​ ​จะ​เก็บ​ไว้​ใน​ถุงเงิน​หรือว่า​วาง​ไว้​ใต้​หมอน​หรือว่า​จะ​วาง​ไว้หน้า​แท่นบูชา​พระโพธิสัตว์​ก็ได้​ทั้งนั้น​เจ้าค่ะ​”

ขณะที่​ชิว​อวี​่​กำลัง​พูด​หู่​พั่ว​ก็​ไป​นำ​ยันต์​ผืน​นั้น​มา​ ​ที่​มุม​มีด​อก​บัวดอก​เล็ก​ๆ​ ​ที่​วาด​ด้วย​ชาด​แดง​จริงๆ

ยันต์​แคล้วคลาด​ไม่ได้​มี​อะไร​ผิดปกติ​ ​ที่จริง​สือ​อี​เหนียง​นั้น​คิด​เอาไว้​อยู่​แล้ว​ ​แต่​สิ่ง​ที่​ประหลาดใจ​ก็​คือ​ความระมัดระวัง​ของ​ไต้​ซือ​จี้​หนิง

“​แล้ว​เหตุใด​ฉิน​อี๋​เหนียง​ถึง​บอก​ให้ฮู​หยิน​แขวน​ไว้หน้า​ประตู​ล่ะ​เจ้า​คะ​!​”​ ​หลังจาก​ชิว​อวี​่​ออก​ไป​ ​หู่​พั่ว​ก็​พลิก​ยันต์​ไปมา​ตรวจดู​ทั้งสอง​ด้าน​อย่างละเอียด

“​คง​อยาก​จะ​แสดง​ความตั้งใจ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​มิเช่นนั้น​ยันต์​แคล้วคลาด​ผืน​เล็ก​เช่นนี้​ถูก​เอาไว้​ใต้​หมอน​แล้ว​ใคร​จะ​รู้​ได้​เล่า​ว่านาง​เป็น​คน​ขอมา​”​ ​ยิ้ม​พลาง​กำชับ​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​บอกว่า​นาง​มา​ขอด​้วย​ความจริงใจ​ ​เช่นนั้น​ก็​นำ​ไป​บูชา​ไว้​ที่​ห้อง​พระ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เถิด​!​”

หู่​พั่ว​ยิ้ม​พลาง​ตอบรับ​แล้ว​ออก​ไป

จู่ๆ​ ​ไท่​จื่อ​เฟ​ยก​็​มี​รับสั่ง​ให้​สือ​อี​เหนียง​เข้า​วัง

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​อย่างมาก

คน​หนึ่ง​ก็​พึ่ง​จะ​ทำพิธี​สรง​สาม​ของ​บุตรสาว​ไป​ ​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​พึ่ง​ตั้งครรภ์​ได้​ไม่นาน​…​ล้วน​ไม่ใช่​เวลา​ที่​ดีสำ​หรับ​พบ​แขก

“​ไม่เป็นไร​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตบมือ​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​เรื่อง​ใน​วัง​ข้า​จะ​ไป​คุย​ให้​ ​ยกเว้น​เพียง​เข้าเฝ้า​ฝ่า​บาท​ ​ส่วน​คนอื่นๆ​ ​เจ้า​ไม่จำเป็น​ต้อง​คำนับ​”

“​หาก​ได้​พบ​กับ​ฮ่องเต้​ล่ะ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เอา​มือ​ลูบ​ท้อง​ตัวเอง​โดยไม่รู้ตัว

“​เจ้า​ไม่ได้​พบ​ฮ่องเต้​หรอก​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​เจ้าเล่ห์​ ​“​ข้า​ได้​ส่ง​ป้าย​หยก​ไป​ที่​กรมพระราชวัง​แล้ว​ว่า​ต้องการ​ขอ​เข้าเฝ้า​ฮ่องเต้​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ได้​วางใจ​แล้วไป​แต่งตัว​

โชคดี​ที่​เป็น​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​หาก​เป็น​ฤดูร้อน​คง​ต้อง​ร้อน​ตาย​อย่างแน่นอน

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​กับ​ไท่​จื่อ​ประทับ​อยู่​ที่​ตำหนัก​ใน​เป่ย​อู่​สั่ว​ ​ขันที​ได้​พานาง​เดิน​เข้ามา​ทาง​ประตู​เสิน​อู่​ ​ผ่าน​ประตู​เฉิง​กวง​ ​ผ่าน​ศาลาฝู​ปี้​จน​มาถึง​ตำหนัก​ ​ระหว่างทาง​ทุกคน​ที่​ได้​พบ​ต่าง​ก็​เป็น​ขันที​และ​นางใน​ระดับ​ล่าง​ ​อย่า​ว่าแต่​คำนับ​เลย​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทักทาย​เสียด​้วย​ซ้ำ

ตำหนัก​ไม่​ใหญ่​มาก​นัก​ตั้งอยู่​ทาง​ทิศเหนือ​หันหน้า​ไป​ทางทิศใต้​ ​ด้านใน​แบ่ง​เป็น​สองห้อง​ ​นอก​ห้อง​มี​ขันที​กับ​นางใน​ยืน​อยู่​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​ใน​ห้อง​ถูก​เก็บกวาด​อย่าง​สะอาดสะอ้าน​ ​ประดับ​ด้วย​ดอกไม้​ตามฤดูกาล​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​รู้​ล่วงหน้า​ก็​คง​ดู​ไม่​ออก​ว่านี​่​เป็น​สถานที่​ที่​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ใช้​อยู่ไฟ​หลัง​คลอดลูก

เมื่อ​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​คำนับ​นาง​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​กำลัง​พิง​หมอนอิง​ก็​รีบ​ให้​นางใน​ข้าง​กาย​ไป​พยุง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​หย่ง​ผิง​โหวฮู​หยิน​กำลัง​ตั้งครรภ์​อยู่​”

นางใน​ผู้​นั้น​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​หลัง​ตรง​ราวกับ​ต้น​หลิว​ยัง​ไม่ได้​มีท​่า​ที​เหมือน​คน​ตั้งครรภ์​ ​จึง​รู้​ว่า​อายุ​ครรภ์​ยังน้อย​ ​ไม่กล้า​ประมาท​ ​รีบ​เข้าไป​พยุง​นาง​ก่อนที่​นาง​จะ​ย่อเข่า​คำนับ

“ฮู​หยิน​อย่า​ได้​เกรงใจ​ข้า​เลย​”​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ให้​ขันที​นำ​เก้าอี้​จิ​่​นอู​้​มา​วาง​ข้าง​เตียง​ตัวเอง​ให้​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​ ​แล้ว​กำชับ​คนที​่​ปรนนิบัติ​ใน​ห้อง​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​ออก​ไป​ให้​หมด​!​ ​ข้ามี​เรื่อง​จะ​คุย​กับ​หย่ง​ผิง​โหวฮู​หยิน​”

ขันที​และ​นางใน​ตอบรับ​อย่าง​พร้อมเพรียง​ ​“​เพ​คะ​/​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​แล้ว​เดิน​เรียงแถว​ออก​ไป​ ​จากนั้น​น้ำตา​ของ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​เอ่อ​ไหล​ออกมา​ราวกับ​เม็ดฝน

“​อา​หญิง​สี่​ ​ข้า​เรียก​ท่าน​มา​เพราะ​มีเรื่อง​อยาก​คุย​กับ​ท่าน​”​

สือ​อี​เหนียง​รีบ​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​มาซั​บน​้ำ​ตา​ให้​นาง​ ​“​อย่า​ได้​ร้องไห้​เลย​ ​ตอนนี้​ท่าน​กำลัง​อยู่​ใน​ช่วง​อยู่ไฟ​!​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​พยักหน้า​ ​รับ​ผ้าเช็ดหน้า​มาซั​บน​้ำ​ตา​ ​“​ข้า​ก็​รู้​ ​แต่​ข้า​กลั้น​ไว้​ไม่อยู่​”

“​เช่นนั้น​ก็​ร้องไห้​ออกมา​ดัง​ๆ​ ​เถิด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ช่วย​นาง​จัด​ผ้าห่ม​ ​“​เพียงแต่​ท่าน​ต้อง​จำไว้​ว่า​เมื่อ​ร้อง​ไป​แล้ว​ ​ต่อไป​ห้าม​ร้องไห้​อีก​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ขอบตา​ก็​เริ่ม​แดง​ ​ซุก​หน้า​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ส่งเสียง​ร่ำไห้​เบา​ๆ​ ​อยู่​บน​ไหล่​ของ​นาง

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​เกร็ง​เล็กน้อย

ตน​เป็น​คน​มาส​อง​ภพ​ชาติ​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ใน​ชีวิต​ที่​มี​คนที​่​ใกล้ชิด​มา​พึ่งพา​ตน​ด้วย​ความ​ไว้ใจ​เช่นนี้

ผ่าน​ไป​พักใหญ่​ร่างกาย​ของ​นาง​จึง​ค่อยๆ​ ​ผ่อนคลาย​ลง​ ​ช่วย​ลูบ​หลัง​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เบา​ๆ​ ​เพื่อ​ปลอบโยน​นาง​ราวกับ​ปลอบ​เด็กน้อย​ก็​ไม่​ปาน

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท