ท่านอ๋องทั้งสามเดินขึ้นหน้า พระสงฆ์นำถุงแห่งโชคสามใบที่มีลักษณะเหมือนกันถวายให้ทีละคน
“ขอบคุณท่านมหาราชครู” ทั้งสามกล่าวขอบคุณ
พระสงฆ์ถวายบังคมท่านอ๋องทั้งสามด้วยรอยยิ้ม จากนั้นถือกล่องถอยไปด้านข้าง
ฮ่องเต้ยกมือบอกท่านอ๋องทั้งสาม “เปิดดูว่าด้านในเขียนสิ่งใด”
ทั้งสามคนต่างเปิดถุงแห่งโชคของตนเอง หยิบกระดาษแผ่นเล็กออกมาจากภายใน ท่านอ๋องเยียนพูดก่อน “ของกระหม่อมเป็น เห็นพุทธะที่ไร้ขอบเขตในเม็ดฝุ่นอันเล็กน้อย”
ฮ่องเต้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ทุกคนที่นั่งกระจายกันอยู่ต่างถกเถียงเสียงเบา
“ซิวหยง ของเจ้าเล่า?” ฮ่องเต้ตรัสถาม
ฉู่ซิวหยงอ่านของตนเอง “ผู้มีสติปัญญาย่อมรู้ผิดชอบชั่วดี”
ฮ่องเต้พยักหน้าอีกครั้ง
ท่านอ๋องหลูไม่รอฮ่องเต้ถาม รีบพูดขึ้น “เสด็จพ่อ ของกระหม่อมเป็น ระวังย่อมรู้เห็น ดีเหมือนกันใช่หรือไม่”
ดีหรือไม่ดีเขาไม่รู้หรือ เพียงแค่เห็นก็รู้ว่าไม่ได้ตั้งใจศึกษา ฮ่องเต้ถลึงตามองเขา คนรอบด้านต่างเริ่มวิจารณ์พุทธธรรมของท่านอ๋องทั้งสาม ชื่นชมความลึกซึ้ง
“สิ่งนี้ไม่เลวเสียจริง พวกเราควรไปขอสักใบ”
“พุทธธรรมที่ท่านมหาราชครูเขียนเองขอได้ไม่ง่าย”
ภายในตำหนักคึกคักขึ้นมา สายตาของฮ่องเต้กวาดผ่าน เห็นองค์รัชทายาทเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ กำลังสนทนากับพระสงฆ์ท่านนั้น รับบางสิ่งมา สีหน้าขององค์รัชทายาทซับซ้อนเล็กน้อย…
“เกิดอันใดขึ้น” ฮ่องเต้ถาม “พวกเจ้าคุยเรื่องใดกัน”
เสียงของฮ่องเต้ลอยมา องค์รัชทายาทตกใจเล็กน้อย สายตาของทุกคนในตำหนักต่างหันมามองตาม มือของเขาที่ไขว้ไว้ด้านหลังอย่างเผลอตัว แต่ครู่ถัดมาก็ค่อยๆ ยื่นออกมา เขาเดินขึ้นหน้า ยกมือแสดงถุงแห่งโชคสองใบต่อหน้าทุกคน
องค์รัชทายาทก็มีหรือ ไม่ใช่ฉลองให้เพียงท่านอ๋องใหม่ทั้งสามหรือ ทุกคนต่างสงสัย
คิ้วของฮ่องเต้ขมวดเล็กน้อย กำลังจะพูดบางสิ่ง องค์รัชทายาทก็คุกเข่าลงก่อนแล้ว “เสด็จพ่อ กระหม่อมมีความผิด กระหม่อมบังอาจขอถุงแห่งโชคจากท่านมหาราชครูด้วยตนเอง”
ขอเองหรือ แต่ว่าก็สามารถเข้าใจได้ องค์รัชทายาทถูกแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาทตั้งแต่กำเนิด เวลานั้นราชสำนักไม่มั่นคง เหล่าท่านอ๋องต่างจ้องเขม็ง ฝ่าบาทไม่มีอารมณ์เฉลิมฉลองเหมือนเวลานี้ เกรงว่าจะทำให้ท่านอ๋องขุ่นเคือง ฮ่องเต้ย่อมมีการขอพรให้องค์รัชทายาท เพียงแต่ไม่ได้เปิดเผยเหมือนเวลานี้
องค์รัชทายาทอาจจะอิจฉาเหล่าพี่น้อง ดังนั้นจึงต้องการถุงแห่งโชคด้วย
สีหน้าของฮ่องเต้ผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ข้าไม่ได้คำนึงให้รอบคอบ ขอให้เจ้าด้วย เหล่าพี่น้องของเจ้าสถาปนาเป็นท่านอ๋อง เจ้าในฐานะพี่ชายย่อมควรเฉลิมฉลองด้วย เจ้าลุกขึ้นเถิด”
ท่านอ๋องเยียนรีบเดินเข้ามาพยุง แต่องค์รัชทายาทไม่ได้ลุกขึ้น ก้มหน้าพูด “กระหม่อมไม่ได้ขอให้ตนเอง หากแต่ขอให้น้องห้า…”
องค์ชายห้าหรือ บรรยากาศภายในตำหนักชะงัก สีหน้าของฮ่องเต้ดำทะมึน
“ฉู่จิ่นหยง” ฮ่องเต้ตวาด ต้องการพูดบางสิ่ง แต่สุดท้ายก็กลืนกลับไป เขาลุกขึ้นเดินไปอีกทาง “ตามข้ามา”
องค์รัชทายาทลุกขึ้นเดินตามฮ่องเต้เข้าห้องด้านข้าง ประตูปิดลงบดบังสายตาของทุกคน ถึงแม้ฮ่องเต้จะตำหนิองค์รัชทายาทก็ไม่อาจทำต่อหน้าทุกคน ผู้คนต่างมองหน้ากัน องค์รัชทายาทได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้อย่างมาก วางใจเถิด ไม่เป็นอันใดอย่างแน่นอน บรรยากาศภายในตำหนักผ่อนคลายลง
ฉู่ซิวหยงหลุบตาต่ำ มองพุทธธรรมในมือ ผู้มีสติปัญญาย่อมรู้ผิดชอบชั่วดี มุมปากของเขายิ้มบาง
“น้องสาม อย่างไรองค์รัชทายาทกับน้องห้าก็เป็นพี่น้องร่วมมารดา” ท่านอ๋องเยียนเกลี้ยกล่อมอยู่ด้านข้างเสียงเบา “เขาจะทำผิดร้ายแรงเพียงใด องค์รัชทายาทยังคงนึกถึงเจ้า เจ้าอย่าเสียใจมาก”
ฉู่ซิวหยงพยักหน้าให้เขา “ขอบคุณพี่สอง ข้าเข้าใจ”
ท่านอ๋องเยียนพึงพอใจต่อการกระทำในฐานะพี่ชายของตนเองอย่างมาก “เข้าใจก็ดี เข้าใจก็ดี”
ฉู่ซิวหยงเบนสายตากลับมา พับเก็บพุทธธรรมใส่เข้าไปในถุงแห่งโชค ถึงแม้จะเข้าใจ แต่คนยังคงจะระลึกถึง จะเสียใจ จะโมโห จะโกรธ จะแค้น องค์รัชทายาทเป็นคนมีอารมณ์ทั้งเจ็ด เขาฉู่ซิวหยงไม่ใช่คนหรือ
…
“ฉู่จิ่นหยง!” เมื่อไม่มีคนนอกอยู่ ฮ่องเต้ไม่ควบคุมอารมณ์อีก เขาตวาดเสียงดัง “วันนี้เป็นวันมงคลของน้องสามเจ้า! เหตุใดเจ้าจึงพูดถึงลูกทรพีนั้น!”
องค์รัชทายาทคุกเข่าหลั่งน้ำตา “เสด็จพ่อ กระหม่อมไม่ได้ต้องการพูดถึงน้องห้าในเวลานี้ กระหม่อมเพียงต้องการขอถุงแห่งโชคให้น้องห้า อีกทั้งไม่ได้ต้องการให้ท่านมหาราชครูส่งมาวันนี้…”
ฮ่องเต้ยิ่งโมโห “เจ้าโทษท่านมหาราชครูหรือ”
องค์รัชทายาทส่ายหน้า “กระหม่อมไม่ได้หมายความเช่นนั้น กระหม่อมแค่…” ในที่สุดเขาก็ไม่ได้พูดต่อ เพียงแต่โน้มตัว “กระหม่อมผิดไปแล้ว เสด็จพ่อโปรดลงโทษ”
เขาก้มหัวอยู่บนพื้น กราบอย่างหนักแน่น น้ำเสียงสะอื้น
เขาไม่แก้ตัว ฮ่องเต้ก็ด่าไม่ออก เขามองบุตรชายที่คุกเข่าร้องไห้อยู่บนพื้น ถอนหายใจอย่างระอา
อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ องค์ชายทั้งสามทั้งถูกสถาปนาเป็นท่านอ๋องทั้งถูกอวยพร องค์รัชทายาทจะไม่นึกถึงองค์ชายห้าได้อย่างไร อีกฝ่ายเป็นน้องร่วมมารดาของเขา ถึงแม้จะกระทำผิดอันมหันต์ ถึงแม้คนอื่นล้วนเป็นพี่น้องของเขาเหมือนกัน แต่แตกต่างก็คือแตกต่าง มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์
หากองค์รัชทายาททอดทิ้งพี่น้องร่วมมารดาด้วยเหตุนี้ ฮ่องเต้คงไม่มีสิ่งใดให้น่ายินดี หากแต่ต้องพิจารณาบุตรชายคนนี้ใหม่อีกครั้ง
แต่ธรรมชาติของมนุษย์ย่อมไม่อาจเกินเหตุ
“เจ้าต้องการทำสิ่งใด” ฮ่องเต้ทำหน้านิ่ง พูดเสียงเย็น “เจ้าต้องการให้เขาออกมา ถูกสถาปนาเป็นท่านอ๋องด้วยหรือ เจ้าล้มเลิกความคิดนี้เสีย ในสายตาของเจ้า เขาเป็นน้องชายของเจ้า แต่ในสายตาเขา ผู้อื่นไม่ใช่พี่น้องของเขา ข้าไม่มีบุตรชายเช่นนี้”
องค์รัชทายาทเงยหน้า พูดสะอึกสะอื้นทั้งน้ำตา “เสด็จพ่อ กระหม่อมไม่ต้องการสิ่งใดทั้งนั้น กระหม่อมเพียงแค่อยากมอบถุงแห่งโชคใบหนึ่งให้เขา ให้เขาตั้งใจปรับปรุงตัว เจตนาของกระหม่อมคือหลังจากผ่านวันนี้ไป กระหม่อมจะไปรับกับท่านมหาราชครู ไม่คิดว่าท่านมหาราชครูจะส่งมาด้วย...”
ฮ่องเต้มองเขาอยู่พักหนึ่ง สายตาตกอยู่บนมือเขา มือขององค์รัชทายาทกำถุงแห่งโชคแน่น
“เหตุใดจึงมีสองใบ” ฮ่องเต้ถาม ขอให้ฮองเฮาด้วยหรือ
องค์รัชทายาทหงายมือขึ้น ถุงแห่งโชคสองใบวางนอนอยู่บนฝ่ามือ “ใบหนึ่งกระหม่อมขอให้น้องห้า ส่วนอีกใบ ท่านมหาราชครูมอบให้น้องหกพ่ะย่ะค่ะ”
ใช่ นอกจากองค์ชายห้า ฮ่องเต้ยังมีบุตรชายอีกคนที่ยังไม่ถูกสถาปนาเป็นท่านอ๋อง ถูกขังไว้ในจวนอย่างโดดเดี่ยว ฮ่องเต้เงียบไปสักพัก
จากนั้นฮ่องเต้พูดอีกครั้ง “ท่านมหาราชครูให้พระสงฆ์รูปนั้นมอบให้เจ้าส่วนตัวใช่หรือไม่”
อันที่จริงองค์รัชทายาทไม่ได้ป่าวประกาศ ก่อนหน้านี้เขาตะโกนออกมา องค์รัชทายาทไม่กล้าและไม่อยากปิดบังเขา จึงเปิดเผยเรื่องนี้ อีกทั้ง…
“ในเมื่อท่านมหาราชครูมอบของอวี๋หยงให้เจ้าส่วนตัวแล้ว” สายตาของฮ่องเต้มองไปยังฝ่ามือขององค์รัชทายาท “เห็นได้ชัดว่าต้องการใช้ชื่อของเจ้ามอบให้ เหตุใดก่อนหน้านี้เจ้าจึงไม่บอกว่าขอให้พวกเขาทั้งสอง”
หากเป็นเช่นนี้ เขาย่อมเป็นพี่ชายที่แสนดี ระลึกถึงน้องชายสองคน ถึงแม้จะไม่เหมาะสมกับกาลเทศะ แต่ก็ไม่อาจตำหนิได้มาก
องค์รัชทายาทก้มหน้า “เสด็จพ่อ กระหม่อมไม่ได้ระลึกถึงน้องหก อีกทั้งไม่เคยคิดขอถุงแห่งโชคให้เขา กระหม่อมเป็นคนที่เห็นแก่ตัวและเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเอง ไม่คู่ควรกับการเป็นพี่ชายที่ดี ย่อมไม่อาจอ้างน้องหกหลอกลวงเสด็จพ่อ”
ฮ่องเต้มองเขา ส่งเสียงในลำคอ “เจ้าซื่อสัตย์ยิ่งนัก”
องค์รัชทายาทก้มหน้าไม่พูด
“เอาเถิด ลุกขึ้นเถิด” ฮ่องเต้พูด “ครานี้เจ้าคำนึงไม่รอบคอบ โชคดีที่ท่านมหาราชครูช่วยเจ้า”
องค์รัชทายาทเงยหน้าขึ้น สีหน้าละอายใจ ลังเลไม่ยอมขยับ “เสด็จพ่อ กระหม่อม…”
ฮ่องเต้พูดขัดเขา “มีสิ่งใดที่ทำผิดค่อยมายอมรับวันหลัง อย่าได้กีดขวางวันมงคลของพวกเขา”
องค์รัชทายาทรีบลุกขึ้นตอบรับ
ฮ่องเต้หยิบถุงแห่งโชคสองใบที่องค์รัชทายาทถืออยู่ไป ก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว องค์รัชทายาทยืดหลังตรงอยู่ด้านหลัง มองแผ่นหลังของฮ่องเต้ มุมปากมีรอยยิ้มเยาะเย้ยเผยขึ้น ก่อนจะหายลับไป จากนั้นจึงเดินตามออกไปทันที