ฮ่องเต้นำองค์รัชทายาทกลับมายังตำหนักใหญ่ นำถุงแห่งโชคในมือสองใบแสดงให้ทุกคนดู
“เขาตัดสินใจขอถุงแห่งโชคให้องค์ชายห้าและองค์ชายหกเอง” ฮ่องเต้พูด เหลือบมององค์รัชทายาท “เจ้าเป็นคนดี คิดว่าผู้เป็นบิดาอย่างข้าลืมบุตรสองคนนี้อย่างนั้นหรือ”
องค์รัชทายาทก้มหน้ารับผิด
ผู้คนรอบด้านต่างฟังเข้าใจ พวกเขาต่างออกมาเกลี้ยกล่อม
“องค์รัชทายาทมีเจตนาดี”
“ฝ่าบาททรงระงับความโกรธ”
“ถือว่าองค์ชายห้ากับองค์ชายหกร่วมเฉลิมฉลองกับท่านอ๋องทั้งสาม”
พระสงฆ์ก็ออกมาพูด “มันเป็นการตัดสินใจของอาจารย์ฮุ้ยจื้อ อาศัยเรื่องมงคลของท่านอ๋องทั้งสามขอพร ให้องค์ชายห้าปรับปรุงตัวในเร็ววัน ให้องค์ชายหกหายดีในเร็ววัน”
ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน ฮ่องเต้ไม่โกรธเคืองกับองค์รัชทายาทอีก
“เรื่องมงคลเพียงนี้ อาจารย์ฮุ้ยจื้อหวังให้คนจำนวนมากล้วนสามารถร่วมฉลองกับฝ่าบาทและท่านอ๋อง” พระสงฆ์พูดอีกครั้ง ก่อนจะถวายกล่องในมือ ดังนั้นจึงส่งถุงแห่งโชคมาหกสิบหกใบ โปรดให้ฝ่าบาทพระราชทานให้แก่แขกในวันนี้”
ฮ่องเต้หัวเราะร่า มองทุกคนในตำหนัก “แขกทางนี้ร่วมฉลองกับเหล่าท่านอ๋องแล้ว วันนี้ยังมีแขกสตรี” ฮ่องเต้เรียกขันทีจิ้นจงที่ยืนอยู่ด้านข้าง “นำถุงแห่งโชคเหล่านี้ส่งไปให้ทางสวนดอกไม้ ให้พระสนมเสียนมอบให้เหล่าแขกสตรี”
เหล่าแขกชายที่อยู่ในตำหนักต่างเผยสีหน้ากระจ่าง วันนี้เรื่องสำคัญที่สุดในงานเลี้ยงจะมีผลสรุปแล้ว รอดูว่าผู้ใดจะได้ถุงแห่งโชคสำหรับพระชายาเท่านั้น
…
“จะรู้ได้อย่างไรว่าถุงที่ได้รับเป็นถุงแห่งโชคของพระชายา” นั่งอยู่ภายใต้ราวดอกไม้ เฉินตันจูถามอย่างสงสัย “ถุงแห่งโชคมากมายเพียงนั้น คงไม่อาจให้เหนียงเหนียง หรือท่านอ๋องท่านใดกำหนดคนส่งเองใช่หรือไม่”
แล้วถุงแห่งโชคนี้จะมีประโยชน์อันใด เป็นการกระทำที่เสียเปล่า
ฉู่อวี๋หยงยิ้ม “พุทธธรรมอย่างไรเล่า”
“ถุงแห่งโชคมีพุทธธรรม?” เฉินตันจูถาม “ผู้ใดได้รับพุทธธรรมย่อมเป็นพระชายา?”
ฉู่อวิ๋นหยงพูด “เดาถูกครึ่งหนึ่ง ภายในถุงแห่งโชคบางส่วนมีพุทธธรรม แต่มีเพียงสามใบ…”
เฉินตันจูหัวเราะออกมา นางเข้าใจแล้ว “…พุทธธรรมสามใบที่เหมือนกับของเหล่าท่านอ๋อง ดังนั้นมันคือลิขิตจากสวรรค์!”
ถึงแม้ผู้ที่จะได้รับถุงแห่งโชคที่มีพุทธธรรมนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว
ฉู่อวี๋หยงอมยิ้มชื่นชม “คุณหนูตันจูฉลาดเสียจริง”
ฉลาดอันใดกัน เหตุใดจึงชมนางอยู่ตลอดเวลา ทำดีหวังผล อืม แต่ทำให้คนอารมณ์ดีไม่น้อย เฉินตันจูหัวเราะ ลูบปลายจมูก “อย่างนั้นองค์รัชทายาทจะให้หม่อมฉันหยิบได้ถุงแห่งโชคที่มีพุทธธรรมเหมือนขององค์ชายห้า”
ฮ่องเต้ไม่ได้มีความคิดเลือกพระชายาให้องค์ชายห้า เดิมที่ไม่ได้เตรียมการถุงแห่งโชคขององค์ชายห้า องค์รัชทายาทใช้ความห่วงใยองค์ชายห้าเป็นข้ออ้าง ขอพุทธธรรมให้องค์ชายห้า ก่อนจะให้เฉินตันจูหยิบใบเดียวกับองค์ชายห้า ทำให้ฮ่องเต้หวั่นไหว ทำให้ทุกคนได้เห็น จากนั้นองค์รัชทายาทหรือคนที่องค์รัชทายาทจัดเตรียมไว้ร้องขอ ถึงแม้ไม่ใช่การอภิเษกที่เหมาะสม แต่…
“เดิมทีฝ่าบาทก็ไม่ชอบหม่อมฉันอยู่แล้ว” เฉินตันจูลูบปลายจมูกพลางพึมพำ “แทบอยากจะหาข้ออ้างขังหม่อมฉันเอาไว้ หากให้หม่อมฉันแต่งงานกับองค์ชายห้า คงได้ขังหม่อมฉันเอาไว้ได้พอดี”
ได้ยินเสียงพึมพำบ่นถึงฮ่องเต้ของหญิงสาว ฉู่อวี๋หยงหัวเราะ “ก็ไม่แน่ ฝ่าบาทไม่ได้รำคาญเจ้าเพียงนั้น”
เฉินตันจูเบ้ปาก มองใบหน้ายิ้มของชายหนุ่ม นางรีบนั่งตัวตรง…เหตุใดนางจึงพูดความในใจออกมาได้ มันเป็นการดูหมิ่นฝ่าบาทอย่างมาก
“ท่านดู” นางก้มหน้าถอนหายใจอย่างละอาย “หม่อมฉันพูดจาไร้การยับยั้งชั่งใจเพียงนี้ มักจะทำให้ฝ่าบาทโกรธ ฝ่าบาทไม่ถือสาหม่อมฉันเพราะฝ่าบาทใจกว้าง แต่หม่อมฉันรู้ หม่อมฉันมีความผิดร้ายแรง คนจำนวนมากล้วนอยากขังหม่อมฉันเอาไว้ ครานี้แผนการขององค์รัชทายาทสำเร็จ ทำให้พวกเขาได้โอกาส ย่อมต้องบีบบังคับฝ่าบาท เฮ้อ ฝ่าบาทก็ยากที่จะคัดค้าน…”
ฉู่อวี๋หยงยิ้มเล็กน้อย หญิงสาวผู้นี้กำลังแสร้งทำตัวน่าสงสารอีกครั้ง จึงปลอบนาง “เจ้ากังวลมากไปแล้ว ฝ่าบาทมีเพียงจะทำตามเจตนาของราษฎร ไม่มีทางเป็นเพราะยากที่จะคัดค้านราษฎร…”
เฉินตันจูตอบรับ มองไปทางด้านนอกผ่านราวดอกไม้ แสงอาทิตย์ทำให้ใบหน้าของนางมืดบ้างสว่างบ้าง
เมื่อได้ยินข่าวนี้ นางพูดจาอย่างสบาย ราวกับไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย แต่ความเหนื่อยล้าที่ปรากฏเพียงชั่วครู่บนใบหน้ายังคงไม่อาจรอดพ้นสายตาของฉู่อวี๋หยง
ฉู่อวี๋หยงรู้สึกสงสาร หญิงสาวที่น่าสงสาร ไม่อาจผ่อนคลายได้แม้แต่วินาทีเดียว
“ข้าคิดว่า การกระทำขององค์รัชทายาทในครานี้ไม่ได้เพื่อให้เจ้าอภิเษกกับองค์ชายห้า” เขาพูดเสียงเบา “องค์รัชทายาทไม่เคยใส่ใจองค์ชายห้า ยิ่งไม่มีทางขอพรให้น้องชายเพียงเพราะระลึกถึง ธรรมชาติของมนุษย์ที่เขาว่านั้น เพียงเพื่อให้ฝ่าบาทเห็นเท่านั้น”
คำพูดนี้บังอาจเหลือเกิน! พวกเขาคุ้นเคยจนพูดเรื่องแบบนี้ได้แล้วหรือ
เฉินตันจูมองฉู่อวี๋หยงอย่างตกตะลึง
นางคิดว่าสิ่งที่นางพูดก็ใจกล้ามากแล้ว อาทิดูถูกองค์ชายห้า อาทิมีความแค้นกับองค์รัชทายาท อาทิท่าทีของฝ่าบาทที่มีต่อนาง ไม่คิดว่าองค์ชายคนเล็กที่ไม่เป็นที่รู้จักที่สุดตรงหน้านี้จะบังอาจวิจารณ์ความไร้เยื่อใยขององค์รัชทายาทอย่างตรงไปตรงมา
ภายในใจของเฉินตันจูรู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ไม่รู้สึกประหลาดมากนัก
เขานั่งอยู่ตรงหน้านาง ใบหน้ารูปงามขาวสะอาด ภายในอ้อมอกกองเต็มไปด้วยใบไม้ที่ขาดกองอยู่ ราวกับเทวดาที่ไม่รู้จักความทุกข์ของมนุษย์ แต่ก็ราวกับบุตรคนเล็กที่ไร้เดียงสา แต่รูปร่างของเขาดุจต้นสนต้นไผ่ การกระทำของเขา แม้แต่การประลองหญ้าก่อนหน้านี้ยังแสดงออกถึงความคล่องแคล่ว…
ราวกับทุกสิ่งบนโลกล้วนอยู่ในกำมือของเขา
อืม ถึงแม้จะมีความรู้สึกที่แปลกประหลาดอย่างมาก แต่เฉินตันจูสามารถมั่นใจได้อย่างหนึ่ง องค์ชายหกกับองค์รัชทายาทมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนัก
เมื่อดูจากเช่นนี้ อดีตชาติองค์รัชทายาทต้องการสังหารองค์ชายหกไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ดังนั้น ไม่ต้องให้นางตักเตือน องค์ชายหกก็มีความระแวงต่อองค์รัชทายาท อืม บอกแล้ว บุตรหลานในราชวงศ์แม้จะร่างกายอ่อนแอ แต่ความคิดของพวกเขาไม่ใช่
“ถูกต้อง” เฉินตันจูพยักหน้าอย่างเชื่องช้า พูดอย่างเปิดเผย “องค์ชายเห็นได้กระจ่าง คนอย่างองค์รัชทายาทไร้เยื่อใยระหว่างพี่น้อง”
ฉู่อวี๋หยงยิ้มให้นาง
“เหตุใดองค์รัชทายาทจึงทำเช่นนี้” เฉินตันจูขมวดคิ้ว “เพียงเพื่อให้ฝ่าบาทเห็นเยื่อใยระหว่างพี่น้องของเขา พร้อมทั้งทำให้หม่อมฉันสะอิดสะเอียนหรือ?”
ฉู่อวิ๋นหยงพูด “ไม่ เขาทำเพื่อท่านอ๋องฉี”
เฉินตันจูกระจ่างในทันที
“ก่อนหน้านี้ที่นางในทั้งสองพูด…” ฉู่อวี๋หยงชี้ไปด้านนอก “พวกเราอยู่ตรงนี้ยังได้ยิน ทั้งสวนดอกไม้คงแพร่สะพัดไปด้วยข่าวนี้แล้ว ท่านอ๋องฉีคงจะได้ยินในไม่ช้า เจ้าว่า หากเขารู้ เขาจะทำอย่างไร”
ฉู่ซิวหยงเขา เฉินตันจูกำมือเล็กน้อย รู้สึกเศร้าโศก ถึงแม้ตนเองจะแสดงท่าทีต่อเขาอย่างชัดเจนแล้ว ถึงแม้เขาจะรู้ว่าเป็นแผนการขององค์รัชทายาท แต่เขาย่อมจะยับยั้งการเกิดของเรื่องนี้…
งานเลี้ยงเลือกพระชายาถูกท่านอ๋องฉีก่อกวน
ถึงแม้ไม่รู้ว่าจะก่อกวนอย่างไร แต่ย่อมต้องทำให้เหล่าแขกเหรื่อตกตะลึง ทำให้ฮ่องเต้โกรธ
ฮ่องเต้ไม่ได้โปรดปรานท่านอ๋องฉีอย่างแท้จริง หากแต่เป็นการชดเชยเพราะความละอายใจ เวลานี้ฮ่องเต้ให้โอกาสท่านอ๋องฉีทำงาน สถาปนาตำแหน่งท่านอ๋องให้เขา ทำให้เขาสมศักดิ์ศรี สำหรับฮ่องเต้แล้ว ไม่ติดค้างสิ่งใดอีก หากทำให้ฮ่องเต้โกรธ ฮ่องเต้มีแต่จะเกิดความเกลียดต่อเขา
จากนั้นยิ่งเกลียดนางที่เป็นตัวต้นเหตุ
มันคือจุดประสงค์ขององค์รัชทายาท ธนูลูกเดียวยิงนกสามตัว
…
ขันทีจิ้นจงนำคนถือกล่องเดินออกไป ใบหน้าของฮ่องเต้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะมองท่านอ๋องทั้งสามด้านข้าง ท่านอ๋องฉีสีหน้าเหมือนเดิม ท่านอ๋องเยียนยิ้มอย่างกังวล ส่วนท่านอ๋องหลูนั่งไม่ติดแล้ว
ฮ่องเต้ถลึงตาใส่ท่านอ๋องหลู ท่านอ๋องหลูรีบหลบไปด้านหลัง
ช่างเถิด การอภิเษกเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต ฮ่องเต้ผ่อนคลายสีหน้า เอ่ย “พวกเจ้าก็ไปเถิด ไปให้เสด็จแม่ของพวกเจ้าดูถุงแห่งโชค พวกนางย่อมสงสัยว่าพวกเจ้าได้รับคำอวยพรใด”
เหล่าเสด็จแม่ไม่สงสัยเรื่องนี้ ฮ่องเต้ให้พวกเขาไปดูพระชายาที่กำลังจะเลือกออกมาด้วยตนเอง หญิงสาวที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขาเป็นอย่างไร ท่านอ๋องทั้งสามลุกขึ้นยืนตอบรับ รอยยิ้มบนใบหน้าของท่านอ๋องเยียนยิ่งกังวล ท่านอ๋องหลูตื่นเต้นจนเกือบจะเดินไปอยู่ด้านหน้าท่านอ๋องเยียน มีเพียงท่านอ๋องฉีที่สีหน้าเรียบเฉย เดินไปด้านหน้าด้วยรอยยิ้มจางๆ
ไม่ใช่หญิงสาวผู้นั้น ไม่ว่าคนใดสำหรับเขาล้วนเหมือนกัน