รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 402 วัวกินหญ้า แต่ชิงหนิวอย่างพวกเรากินผัก!

บทที่ 402 วัวกินหญ้า แต่ชิงหนิวอย่างพวกเรากินผัก!

บทที่ 402 วัวกินหญ้า แต่ชิงหนิวอย่างพวกเรากินผัก!

“เลี้ยงดูให้เป็นทาส? พวกเจ้าคิดมากเกินไปแล้ว…”

หลิงอินกล่าว “ที่แห่งนั้นยอดเยี่ยมมาก ยอดเยี่ยมเกินกว่าที่พวกเจ้าจะจินตนาการได้ เมื่อไปถึงที่แห่งนั้นพวกเจ้าก็จะรู้ว่าข้าไม่ได้โกหก”

“ดีแค่ไหนก็ไม่ไป!”

ผู้อาวุโสสูงสุดชิงหนิวกล่าว

“จริงหรือ?”

หลิงอินส่งเสียงทอดถอนใจ “ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าก็จะไม่บังคับ เอาไปเพียงแค่น้ำนม”

หลังจากนั้นนางก็หยิบผักกาดขาวใบเรียงสวยงดงามออกมาพร้อมกล่าวรำพึง “น่าเสียดาย น่าเสียดาย พวกเจ้าจะสามารถกินของเหล่านี้ได้ทุกวันแท้ ๆ…”

ผักกาดขาว?

นี่กำลังดูถูกกันอย่างงั้นหรือ!

ชิงหนิวทั้งสองตนทำเสียงฮึดฮัดขึ้นจมูก

หลิงอินปฏิบัติกับพวกมันราวกับเป็นวัวทั่วไปอย่างงั้นหรือ!?

“อย่าดูถูกคน อ๊ะ ไม่สิ อย่าดูถูกชิงหนิวว่าเป็นวัวตัวหนึ่ง!”

ชิงหนิวผู้แข็งแกร่งพูดขึ้นมาอย่างทนไม่ได้ “พวกเราคือเผ่าอสูรฟ้าชิงหนิว บรรพชนเคยเป็นถึงหนึ่งในสิบอสูรร้ายบรรพกาล มีศักดิ์ศรีความภาคภูมิใจอยู่ในสายเลือดของพวกเรา! ถึงแม้เจ้าจะแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่อาจดูหมิ่นพวกเราเช่นนี้ได้!”

ทว่าทันทีที่มันพูดจบ ผู้อาวุโสสูงสุดเผ่าชิงหนิวก็เตะมันกระเด็นไปอีกด้านด้วยความตื่นเต้น

อะไรกันเนี่ย?

ชิงหนิวผู้แข็งแกร่งร้องขั้นมาในใจ

เตะมันทำไมกัน?

มันกล่าวสิ่งใดผิดหรือ?

ก็ไม่มีสิ่งใดผิดนิ!

มันกล่าวออกมาดีขนาดนี้ ชอบธรรมขนาดนี้ คำพูดยังเปี่ยมด้วยพลังขนาดนี้ คิดทบทวนอย่างไรก็ไม่รู้สึกว่ามีจุดผิดแม้แต่น้อย!

“จริงหรือ… สามารถกินของอย่างผักกาดขาวนี่ได้ทุกวันเลยหรือ!?”

ผู้อาวุโสสูงสุดเผ่าชิงหนิวกล่าวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นจนตัวสั่น

จำเป็นต้องแสดงออกขนาดนี้เชียวหรือ?

น่าอับอายขายหน้าเกินไปแล้ว!

ไม่เคยกินผักกาดขาวมาก่อนหรืออย่างไร?

อ่า… คิดดูแล้วพวกมันก็ยังไม่เคยกินผักกาดขาวจริง ๆ!

พวกมันล้วนกินแต่หญ้า!

ทว่าแม้จะไม่เคยกินผักกาดขาวก็ไม่จำเป็นต้องแสดงท่าทางเช่นนี้

ชิงหนิวผู้แข็งแกร่งรู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก ภายในใจสงสัยขึ้นมาว่าเกิดอะไรกับผู้อาวุโสสูงสุด? เพียงแค่ผักกาดขาวหนึ่งหัวจะต้องตื่นเต้นขนาดนี้เชียวหรือ?

แต่เมื่อมันมองดูผักกาดขาวในมือของหลิงอินอย่างละเอียด มันก็ต้องตกตะลึง กลายเป็นตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าผู้อาวุโสสูงสุดเผ่าชิงหนิว!

“นี่…นี่…นี่มัน!”

มันตกตะลึงจนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมา

ขุมปราณชีวิตที่บรรจุอยู่ด้านในผักกาดขาวยิ่งใหญ่มากล้นจนไม่อาจจินตนาการถึง

ภายในเผ่าของพวกมันเคยครอบครองโอสถมหาจักรพรรดิไว้ต้นหนึ่ง

แม้ว่าต้นโอสถมหาจักรพรรดิจะถูกใช้ไปนานแล้ว แต่พวกมันก็ยังเก็บรักษาเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งเอาไว้

ทว่าแม้โอสถมหาจักรพรรดิต้นนั้นจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์ก็ยังห่างไกลจากผักกาดขาวหัวนี้ไม่รู้เท่าใด เทียบกันแล้วขุมปราณชีวิตที่บรรจุอยู่ในผักกาดขาวมีมากมายกว่าโอสถมหาจักรพรรดิในสภาพสมบูรณ์หลายเท่า!

หากได้กินมันเข้าไปแล้วฝึกฝน จะมีชีวิตยืนยาวต่ออีกเจ็ดแปดชั่วอายุคนก็ยังไม่มีปัญหา!

“ไม่ได้มีเพียงแค่ผักกาดขาว ยังมีแครอท และก็ผักอื่น ๆ อีก”

หลิงอินยังหยิบผักออกมามากมาย

ผักเหล่านี้ท่านเซียนล้วนเป็นผู้ปลูกขึ้นมาด้วยตนเอง หลังจากนั้นก็ได้มอบผักจำนวนมากให้นางนำกลับไปกินที่บ้าน

เมื่อได้เห็นผักเหล่านี้แล้ว ชิงหนิวทั้งสองตนก็จับจ้องมองมาด้วยดวงตาร้อนแรงพอ ๆ กัน!

ผักเหล่านี้ เพียงชิ้นเดียวก็สามารถทำให้คนตื่นตะลึง ถึงกับอยู่เหนือกว่าโอสถมหาจักรพรรดิ นับเป็นโอสถล้ำค่าอย่างถึงที่สุดไร้สิ่งเทียบเคียงอย่างแน่นอน!

อีกด้านหนึ่ง มุมปากของจ้าวหุบเขามีน้ำสีใสไหลลงมา

นางไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าบนเสื้อบริเวณหน้าอกเปียกปอนไปด้วยน้ำตา สองตาเอาแต่จับจ้องไปทางผักในมือของหลิงอินด้วยประกายตาร้อนแรง

ในมือของหลิงอิน โอสถมหาจักรพรรดิกลายเป็นผักกาดขาวไปแล้วหรือ

เหตุใดจึงต้องเป็นผักกาดขาวด้วย…

ในใจของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกขมฝาด

โอสถมหาจักรพรรดิกลายเป็นผักกาดขาวไปแล้วจริง ๆ… ไม่สิ! ผักกาดขาวนี้ยอดเยี่ยมเสียยิ่งกว่าโอสถมหาจักรพรรดิเสียอีก!

นางอยากจะเอ่ยถามว่าแม่นางหลิงอินต้องการวัว อ๊ะ ไม่ใช่ ๆ ต้องการคนเพิ่มหรือไม่? ข้าคิดว่าตัวเองไม่แย่ไปกว่าพวกชิงหนิวเหล่านี้!

ถ้าหากเป็นไปได้ นางก็ยอมเป็นวัวเป็นม้าเหมือนกัน!

“เฮ้อ ช่วยไม่ได้ ข้าไม่ชอบบังคับผู้อื่นเสียด้วย กระทั่งชิงหนิวก็ไม่อยากจะบังคับ โดยเฉพาะเผ่าที่มีศักดิ์ศรีความภาคภูมิใจในอยู่ในสายเลือด”

หลิงอินส่ายหัว ก่อนจะเก็บผักเหล่านี้กลับไป “ในเมื่อพวกเจ้าไม่ชอบกินผักพวกนี้ละก็…”

“บังคับ? บังคับที่ไหนกัน? ผู้ใดบังคับ? แม่นาง ท่านอย่าได้เข้าใจสิ่งที่พวกเราพึ่งพูดผิดไป”

ผู้อาวุโสเชิงหนิวกล่าวออกมาอย่างหนักแน่ “ศักดิ์ศรีความภาคภูมิใจอยู่ในสายเลือดที่พวกเรากล่าวถึง เป็นเครื่องพิสูจน์ตนว่าแม่นางพาพวกเราไปด้วยย่อมคุ้มค่า!”

“พวกเราไม่ชอบกินผัก? จะเป็นเช่นนั้นไปได้อย่างไร!”

ชิงหนิวผู้แข็งแกร่งกล่าวออกมาด้วยความจริงจัง “พวกเราคืออสูรฟ้าชิงหนิว แตกต่างไปจากวัวทั่วไป วัวตัวอื่นล้วนกินหญ้า ทว่าพวกเราเติบโตมาโดยการกินผัก!”

เจ้าวัวนี้…!

เสี่ยวหยาถึงกลับร้องขึ้นมาในใจหลังจากได้ยินสิ่งที่ชิงหนิวทั้งสองตนกล่าวออกมาอย่างหนักแน่นและจริงจัง

ท่าทางของชิงหนิวทั้งสองตนแตกต่างจากก่อนหน้านี้ราวฟ้ากับเหว!

หลิงอินถึงกับแอบหัวเราะในใจ

นี่คือผลลัพธ์ที่นางคาดเอาไว้นานแล้ว

ผักเหล่านี้ล้วนแต่เหนือกว่าโอสถมหาจักรพรรดิ ผู้ใดจะสามารถต้านทานสิ่งล่อตาล่อใจเช่นนี้ได้?

ย่อมเป็นไปไม่ได้แน่นอน

“เช่นนั้นเอง ถ้าอย่างนั้น พวกเจ้าก็ไปเก็บของเตรียมตัวไปกับพวกข้าเถอะ”

หลิงอินพูดด้วยรอยยิ้ม

“ตกลง!”

ชิงหนิวผู้แข็งแกร่งฉีกยิ้มกว้างจนแทบจะถึงหู มันรีบวิ่งสี่เท้ากลับไปบอกข่าวดีให้ภรรยาและลูกของมัน

“อะไรนะ? เจ้าถึงกับขายพวกเราเพื่อแลกกับผัก?”

แม่ชิงหนิวได้ยินก็โกรธเป็นอย่างมาก ถึงกับใช้เท้าข้างหนึ่งเตะชิงหนิวผู้แข็งแกร่งร่วงลงไปบนพื้น

เล่นตลกอะไรอยู่!

ผักนี่มีอะไรดีกัน!

ยิ่งคิดมันก็ยิ่งโมโห รู้สึกว่าลูกเตะรอบก่อนหน้ายังไม่สาสม จึงกระโจนขึ้นไปบนตัวชิงหนิวผู้แข็งแกร่งแล้วกระทืบใบหน้ามันไม่หยุด

“อ๊า ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้วที่ไม่ได้บอกเจ้าให้ชัดเจน พวกมันไม่ใช่ผักธรรมดา ทั้งหมดล้วนอยู่เหนือยิ่งกว่าโอสถมหาจักรพรรดิ!”

ชิงหนิวผู้แข็งแกร่งรีบเอ่ยขึ้นมา ทั้งใบหน้าของมันบิดเบี้ยวจากการถูกกระทืบ

“อะไรนะ? ผักกาดขาวเป็นโอสถมหาจักรพรรดิ? เจ้ากำลังจะหลอกหลวงใครกัน!”

แม่ชิงหนิวได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งโมโหมากกว่าเดิม กระทืบเท้าลงมาหนักยิ่งขึ้นจนฟันของชิงหนิวผู้แข็งแกร่งกระเด็นออกมา

ชิงหนิวผู้แข็งแกร่งรู้สึกอัดอั้นตันใจมาก แล้วมันก็กล่าวออกมาอย่างรีบร้อน “สิ่งที่ข้าพูดล้วนเป็นความจริง ไม่เชื่อเจ้าก็ไปดูกับข้าได้เลย! ถ้าข้าหากโกหก เจ้าจะเตะข้าจนตายก็ได้!”

“หืม?”

แม่ชิงหนิวเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ยอมหยุดกระทืบ พร้อมพาลูกชิงหนิวเดินตามชิงหนิวผู้แข็งแกร่งไปหาพวกหลิงอิน

“คือ…รบกวนแม่นางหลิงอินนำผักเหล่านั้นออกมาให้ดูหน่อยเถิด”

ชิงหนิวผู้แข็งแกร่งเอ่ยออกมาด้วยความลำบากใจ

หลิงอินเพียงมองรอยกีบเท้าเต็มใบหน้าชิงหนิวผู้แข็งแกร่ง ประกอบกับคำพูดของอีกฝ่าย นางก็เข้าใจได้ในทันทีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

หญิงสาวจึงเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม “เพื่อความบริสุทธิ์ใจ ข้าจะมอบผักกาดขาวหนึ่งหัวให้พวกเจ้าก่อน”

พูดจบนางก็หยิบผักกาดขาวออกมาหนึ่งหัว แล้วมอบให้กับชิงหนิวผู้แข็งแกร่ง

“ดูสิ ข้าไม่ได้เอ่ยโป้ปด!”

ชิงหนิวผู้แข็งแกร่งพูดกับแม่ชิงหนิวด้วยความภาคภูมิใจ

“อ๊า ไม่ได้โกหกจริงด้วย!”

แม่วัวจับจ้องผักกาดขาว เพียงได้กลิ่นอายหอมหวนของมัน แก่นกำเนิดชีวิตในร่างก็เพิ่มขึ้น ผักกาดขาวหัวนี้นับเป็นยาล้ำค่าอย่างถึงที่สุดจริง ๆ!

หลังจากนั้นแม่ชิงหนิวก็รีบชิงผักกาดขาวจากชิงหนิวผู้แข็งแกร่งมาเก็บไว้

“ไม่ต้องทำเช่นนั้นหรอก หลังจากนี้พวกเจ้าก็สามารถกินมันได้ทุกวันแล้ว”

หลิงอินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เวลาไม่คอยท่า พวกเรารีบไปกันเถอะ”

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน