หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting – บทที่ 1149 กายเนื้อทะลวงขั้น!

บทที่ 1149 กายเนื้อทะลวงขั้น!

แต่ว่า…แม้เส้นไหมสีเขียวจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่กฎแตกกระจายในเตาหลอมนั้นหากไม่ดูดซับจนเสร็จสมบูรณ์ก็จะไม่สามารถก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนได้ และเมื่อไม่มีกระแสน้ำวน แรงดูดย่อมไม่เกิดขึ้น

หากไร้แรงดูด การดูดซับเส้นไหมสีเขียวพวกนี้ก็จะใช้เวลานานขึ้น หากเป็นเวลาอื่นคงไม่เป็นอะไร ทว่าตอนนี้หวังเป่าเล่อติดอยู่ในสถานที่ประหลาด อีกทั้งผู้ฝึกตนตระกูลหมื่นสำนักทุกคนต่างก็บ้าคลั่ง

นั่นทำให้ดวงตาหวังเป่าเล่อส่องประกายเย็นเยือก ร่างกะพริบหลบหนีพลังเทพจากทุกคนอีกรอบ การเร่งดูดซับกฎแตกกระจายในเตาหลอมทำให้ฝักกระบี่เจ้าชะตาในร่างเขายิ่งโปร่งใสขึ้นเรื่อยๆ

ทว่า ตอนนั้นเองเสียงแผ่วเบาของเด็กสาวก็ดังก้องในหูหวังเป่าเล่ออีกครั้ง

“ท่านอา ท่านมีเวลาเพียงหนึ่งก้านธูป…สู้ๆ นะ หลังจากหนึ่งก้านธูป การผจญภัยที่ถูกข้าควบคุมไว้นี้ก็จะกลายเป็นฟองอากาศและ…ดับสิ้นไป”

“ถึงตอนนั้นท่านก็จะดับสิ้นเช่นกัน” เด็กสาวพูดจบก็หัวเราะคิกคัก เสียงหัวเราะนั้นแผ่ซ่านไปทั้งจิตใจหวังเป่าเล่อกลายเป็นภัยคุกคามและส่งผลต่อสัญชาตญาณของเขา ทำให้หวังเป่าเล่อมีลางสังหรณ์ว่าหากทำลายสถานที่แห่งนี้ภายในเวลาหนึ่งก้านธูปไม่ได้จริงๆ เช่นนั้นแล้ว…เขาจะต้องเจอกับวิกฤตร้ายแรงเป็นแน่

“ลวงเทพหลอกวิญญาณ!” ดวงตาหวังเป่าเล่อฉายแสงเย็นวาบ ในใจสรุปตัวตนของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เขาไม่รู้ว่าเด็กสาวผู้นี้เป็นคนเดียวกับที่ตนเคยเจอที่สุสานดวงดาราหรือไม่

แต่ไม่ว่าอย่างไร คนแรกที่เขาตัดออกไปเลยคือจื่อเยว่!

แม้ต้นกำเนิดจื่อเยว่จะยิ่งใหญ่ แต่หวังเป่าเล่อไม่เชื่อว่าหากอีกฝ่ายจะมา ศิษย์พี่เฉินชิงจื่อของตนจะไม่ตรวจพบ ดังนั้นความเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายจะเป็นจื่อเยว่จึงมีน้อยมาก

ส่วนตะขาบสีโลหิต หวังเป่าเล่อก็คิดว่าอาจเป็นไปได้ ขณะที่ครุ่นคิดและดูดซับอยู่นั้น ผู้ฝึกตนรอบด้านก็บ้าคลั่งขึ้นอีก โดยเฉพาะหญิงสาวที่แปลงร่างเป็นมังกรเงินผู้นั้น นางโจมตีรุนแรงเกิดเป็นเส้นไหมสีเงินยาวพันธนาการหวังเป่าเล่ออย่างรวดเร็ว

ชายหนุ่มที่ใช้กระบี่โบราณห้าเล่มก็เช่นกัน วิธีโจมตีของเขาคือใช้กระบี่โบราณห้าเล่มพุ่งจากห้าทิศทางตัดผ่านช่องว่างเข้ามา และยังมีองค์ชายตระกูลไม่รู้สิ้นที่ถึงแม้การพันธนาการและเข่นฆ่าจะไม่เท่าสองคนก่อนหน้า แต่กลับโจมตีครอบคลุมทุกด้าน ฐานการฝึกฝนแข็งแกร่งจนเทียบได้กับครึ่งระดับจักรพิภพ

ดังนั้นทุกครั้งที่ทั้งสามโจมตีล้วนทำให้หวังเป่าเล่อต้องรีบถอยหนีไปอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ว่าไม่สามารถเข้าไปต่อสู้ได้ แต่ทันทีที่โต้ตอบและไม่อาจจัดการได้ในพริบตา การร่วมกันโจมตีจากดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักรหลายสิบคนโดยรอบจะทำให้หวังเป่าเล่อต่อต้านได้ยากอย่างยิ่ง!

“ยังมีอีกวิธีหนึ่ง ศิษย์พี่คงตรวจจับความผิดปกติได้จากสิ่งที่ข้าพูดเมื่อครู่…” หวังเป่าเล่อหรี่ตา ชั่วพริบตาที่ทั้งสามรวมพลังกันเพื่อสังหารเขา มือขวาก็พลันยกขึ้นผนึกมุทรา ทันใดนั้นแผนที่ดวงดาวด้านหลังก็แปลงกายเป็นเงาวัวศักดิ์สิทธิ์พุ่งไปข้างหน้า

ฉับพลันเกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนฟ้า ระลอกคลื่นรุนแรงแผ่กระจายไปทั่วบริเวณอย่างบ้าคลั่งราวกับจะพลิกภูเขาคว่ำมหาสมุทร ร่างของทุกคนกระเด็นออกมาและมีจำนวนไม่น้อยที่กระอักเลือด

แต่พลังที่หวังเป่าเล่อใช้ไปก็ไม่น้อยเช่นกัน สีหน้าเขาซีดเล็กน้อย ร่างพลันวาบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว การดูดซับกฎแตกกระจายยังไม่เสร็จสิ้น แต่เขากลับตัดขาดการเชื่อมต่อกับเตาหลอมไปเสียหนึ่งเตา และใส่พลังจิตทั้งหมดลงในเตาหลอมอีกเตาแทน เช่นนี้แรงดูดซับก็จะเพิ่มขึ้นในทันที และฝักกระบี่เจ้าชะตาที่เขากัดฟันใช้นั้นก็มีกฎแตกกระจายหลั่งไหลเข้าไปมากขึ้นในพริบตา

เขาสัมผัสได้ว่ากฎแตกกระจายในเตาหลอมใบนี้ถูกตนดูดซับไปครึ่งหนึ่งแล้ว และหากคิดจะดูดซับทั้งหมด เขาจำเป็นต้องใช้เวลาประมาณสามสิบลมหายใจ!

“สามสิบลมหายใจ!” เส้นเลือดปรากฏในดวงตาหวังเป่าเล่อ เมื่อเห็นทุกคนพุ่งเข้ามาโจมตีอีกครั้ง ด้านหลังหวังเป่าเล่อก็พลันปรากฏดวงเนตรปีศาจขนาดมหึมา ไอลีนโนเวล

“แข็งตัว!” หวังเป่าเล่อคำราม ฉับพลันดวงเนตรปีศาจด้านหลังก็ลืมตา เผยให้เห็นแสงลึกลับซึ่งกลายเป็นพลังอันน่าตกใจหยุดร่างทุกคนที่กำลังพุ่งเข้ามาทันที

ความเจ็บปวดทำให้สัมผัสสวรรค์หวังเป่าเล่อปรากฏ ซึ่งก็เป็นเพราะวิชาดวงเนตรปีศาจถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด อีกทั้งจำนวนผู้คนยังมากเกินไป เพราะความเจ็บปวดนี้ ดวงเนตรปีศาจด้านหลังจึงเกิดรอยร้าวราวกับกำลังจะทนไม่ไหว

ทว่า ตอนนี้หวังเป่าเล่อไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แทบจะในทันทีที่ทุกคนถูกแช่แข็ง ร่างของเขาพลันเกิดเงาทับซ้อน ดารานิรันดร์เต๋ามาตรฐานเก้าดวงจำแลงร่างแยกออกมาเก้าร่างด้วยวิชาร่างแยกสารัตถะ เหาะออกจากร่างจริง และสังหารทุกคนอย่างรวดเร็ว

ดาวพิเศษนับหมื่นบนแผนที่ดวงดาวต่างกลายเป็นร่างแยกพุ่งออกมาพร้อมเสียงคำราม แม้จะไม่ดีเท่าร่างแยกดารานิรันดร์เต๋ามาตรฐานและไม่ดีเท่าร่างจริงของหวังเป่าเล่อ แต่ทุกร่างล้วนมีพลังต่อสู้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังมีจำนวนไม่น้อย ต่อให้ไม่สามารถสยบทุกคนได้ แต่พวกมันก็มาล้อมรอบหวังเป่าเล่อเพื่อสร้างเป็นปราการถ่วงเวลาออกไปอีกหน่อย นั่นก็เพียงพอแล้ว

ดังนั้นทันทีที่เสียงคำรามจากผู้ฝึกตนตระกูลหมื่นสำนักดังขึ้นหลังจากหลุดพ้นจากการแข็งตัวของวิชาดวงเนตรปีศาจ การต่อสู้ครั้งใหญ่ก็ปะทุขึ้นทันที เสียงดังสะเทือนฟ้า หวังเป่าเล่อที่มีร่างแยกของตนล้อมไว้เพื่อถ่วงเวลาสำหรับดูดซับกฎแตกกระจายก็ได้ดูดซับไปมากกว่าเจ็ดส่วนแล้ว

ดวงตาทอประกายเย็นเยือกพร้อมกับจิตสังหารแรงกล้า แม้ทุกคนในที่แห่งนี้จะโจมตีเขาเพราะถูกครอบงำ แต่ตอนนี้จิตสังหารของหวังเป่าเล่อเองก็ปะทุรุนแรงเช่นกัน

เพราะเขาเห็นดารานิรันดร์เต๋ามาตรฐานเก้าดวงของตนกำลังถอยร่นไปเรื่อยๆ ตอนที่พยายามสกัดกั้นมหาศิษย์แห่งเต๋าที่แข็งแกร่งที่สุดสามคนนั้น อีกทั้งร่างแยกยังทยอยถูกฉีกเป็นชิ้นๆ แม้พวกมันจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ก็เห็นได้ชัดว่าที่ใจกลางดารานิรันดร์เต๋ามาตรฐานเกิดรอยร้าวแล้ว

หากมันระเบิด หวังเป่าเล่อต้องได้รับความเสียหายไม่น้อยเลยทีเดียว

ส่วนดาวพิเศษนับหมื่นก็แตกสลายไปไม่น้อยแล้วในขณะนี้ ผู้ฝึกตนตระกูลหมื่นสำนักเสียสติ ทุกครั้งที่พุ่งเข้ามาโจมตี พวกเขาจะระเบิดตนเองทำให้ร่างแยกของดาวพิเศษบางส่วนแตกสลาย

จิตสังหารในดวงตาหวังเป่าเล่อแรงกล้าขึ้นเรื่อยๆ ฝักกระบี่เจ้าชะตาในร่างกายราวกับสัมผัสได้ถึงอันตรายจึงรีบดูดกลืนเร็วขึ้น

แปดส่วน เก้าส่วน…

ขณะที่หวังเป่าเล่อดูดซับกฎแตกกระจายในเตาหลอมได้เก้าส่วนนั้นเอง เกราะป้องกันที่เกิดจากดาวพิเศษนับหมื่นของเขาก็ถูกผู้ฝึกตนตระกูลหมื่นสำนักเจ็ดแปดคนทำลายด้วยการระเบิดตัวเองพร้อมกันจนเกิดรูโหว่

หวังเป่าเล่อนิ่งเงียบ และท่องบทสวดแห่งเต๋าในใจ

พริบตาต่อมาผู้ฝึกตนตระกูลหมื่นสำนักสิบกว่าคนก็กรูเข้ามาทางรูโหว่พร้อมดวงตาแดงก่ำ ยามที่พวกเขากำลังเข้ามาใกล้ พลังของบทสวดแห่งเต๋าก็สำแดงฤทธิ์ก่อตัวเป็นพลังสยบ จนทั้งสิบกว่าคนที่พุ่งเข้ามาตัวสั่นเทิ้ม ผู้ฝึกตนตระกูลหมื่นสำนักข้างนอกก็เช่นกัน

ร่างแยกทั้งหมดฉวยโอกาสนี้ลุกฮือตอบโต้กลับทันที ขณะเดียวกันฝักกระบี่เจ้าชะตาในร่างหวังเป่าเล่อก็…ดูดซับกฎแตกกระจายอีกหนึ่งส่วนสุดท้ายในเตาหลอมจนเกลี้ยง!

แทบจะทันทีที่เขาดูดซับกฎแตกกระจายเสร็จสิ้น กระแสน้ำวนขนาดมหึมาพลันปรากฏขึ้นในเตาหลอมราวกับหลุมดำ แรงดูดมหาศาลพลันระเบิดขึ้นทำให้เส้นไหมสีเขียวหลายแสนเส้นที่รวมตัวกันอยู่รอบๆ พุ่งเข้ามาหาเขา

หนึ่งหมื่น สองหมื่น สามหมื่น…

เส้นไหมสีเขียวจำนวนมากพันเกี่ยวเข้าด้วยกันก่อนจะมาปรากฏตัวในเตาหลอม จากนั้นฝักกระบี่เจ้าชะตาในร่างหวังเป่าเล่อก็ดูดซับอย่างบ้าคลั่ง แล้วป้อนพลังกลับคืนให้กายเนื้อหวังเป่าเล่ออีกครั้ง

เมื่อพลังบทสวดแห่งเต๋าสลายไป หวังเป่าเล่อก็ดูดซับเส้นไหมสีเขียวไปแล้วกว่าแปดหมื่นเส้น ในที่สุดกายเนื้อของเขา…ก็ระเบิดและทะลวงเข้าสู่…ดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักร!

พลังกายเนื้อระดับดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักรนั้นน่าทึ่งอยู่แล้ว ทว่ากายเนื้อหวังเป่าเล่อได้รับพลังเสริมจากดาวหลายดวง การทะลวงขั้นของเขาจึงน่าตื่นตาตื่นใจ แม้แต่ดารานิรันดร์เต๋ามาตรฐานเก้าดวงก็ยังเปล่งประกาย ดาวพิเศษที่ยังไม่แตกสลายต่างส่องสว่างเจิดจ้า

ดาวพิเศษที่แตกสลายเป็นชิ้นๆ ไปแล้วต่างกลายเป็นจุดแสงลอยมารวมตัวกันราวกับจะถือกำเนิดเป็นดวงดาวอีกครั้ง

“ตอนนี้ตาข้าเอาคืนแล้ว” จิตสังหารในดวงตาหวังเป่าเล่อพลันปะทุ หลังจากกายเนื้อทะลวงขั้นพร้อมกับดูดซับเส้นไหมสีเขียวต่อ ร่างของเขาก็ลุกขึ้นจากการนั่งขัดสมาธิและก้าวออกไปด้วยความแข็งแกร่งอันไร้ขีดจำกัด!

จักรวาลใต้ฝ่าเท้าแตกกระจาย ความว่างเปล่ารอบกายบิดเบี้ยว หวังเป่าเล่อก้าวเพียงก้าวเดียวก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าผู้ฝึกตนตระกูลหมื่นสำนักสองคน มือทั้งสองกำหมัดแล้วชกออกไปพร้อมกัน!

…………………………………

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

Status: Ongoing

เรื่อง : หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา (三寸人间)ผู้เขียน : เอ่อร์เกิน (耳根) ผู้แปล : Thunderbird Translators ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศ ปักเข้าใจกลาง ดวงอาทิตย์ ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนจำนวนมาก กระจัดกระจายไปทั่ว ทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก และก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัด พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ปราณวิญญาณ ‘หวังเป่าเล่อ’ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาใน สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความหน้าหนาหน้าทน ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตาย หากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท